บทที่ 32 จัดการหยวนต้าซาน
“โฮ่ก!”
อสูรเสือหางเหล็กที่กำลังกัดกินหมาป่าเกราะดำก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเช่นเดียวกัน วินาทีที่เฉินหู่ปรากฏตัว กระโจนเข้าหา กรงเล็บดุร้าย
“รนหาที่ตาย!”
เฉินหู่สบถเสียงเยือกเย็น ถือหอกเหล็กด้านหลังไว้ในมือ ลำแสงแวววับทอประกาย หอกยาวกวัดแกว่งบนอากาศ เสียงดังขึ้น เสียบหัวของอสูรเสือหางเหล็กจนเป็นรู
เขาคือจอมยุทธ์ที่สามารถฆ่าอสูรกายระดับ2 สำหรับอสูรกายระดับ1 ย่อมสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย
ในสายตา เฉินหู่เองก็มองเห็นร่างไร้วิญญาณของหมาป่าเกราะดำ ก้าวเดินไป หลังจากตรวจสอบ ขมวดคิ้วเป็นปม กวาดตามองรอบๆ
“สามารถฆ่าหมาป่าเกราะดำด้วยตนเองตามลำพัง ดูท่าเจ้าเด็กนั่นจะฝีมือไม่เลว” ด้วยประสบการณ์ของเฉินู่ สามารถวิเคราะห์ได้ทันทีว่าหมาป่าเกราะดำตัวนี้ถูกคนฆ่า ไม่ใช่อสูรเสือหางเหล็ก
จากนั้นมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นอีก ป่าบริเวณโดยรอบ มีคนทยอยเดินออกมาห้าคน
“ลูกพี่!”
“ลูกพี่หู่!……”
ทั้งห้าคนเห็นเฉินลู่ จากสรรพนามที่ร้องเรียก หลัวซิวที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหนามใกล้ๆ คาดเดาได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นพวกเดียวกัน เฉินหู่คนนี้เป็นลูกพี่ของพวกเขา
รวมถึงเฉินหู่ มีทั้งหมดหกคน หยวนต้าซานคนเดยีวที่หลัวซิวรู้จัก ก็คือหนึ่งในนั้น
“หรือว่าเขาจะฆ่าฉัน?” หลัวซิวขมวดคิ้วครุ่นคิด เพราะถึงอย่างไรหวางหยุนและจางหุนที่เขาฆ่าคือคนของหยวนต้าซาน หรือว่าตอนอยู่ที่ที่พัก อีกฝ่ายจะจำตนได้
“ลูกพี่ เจ้าเด็กคนนั้นล่ะครับ?”
“พวกเราสะกดรอยตามมาตลอด มันน่าจะอยู่ใกล้ๆ แต่ทำไมถึงไม่เห็นแม้แต่เงา?”
“เพิ่งฆ่าหมาป่าเกราะดำไปตัวหนึ่ง มันต้องยังไปไหนได้ไม่ไกลแน่นอน!”
คนเหล่านี้สนทนากัน ภายใต้คำสั่งของเฉินหู่ หยวนต้าซานเดินไปเก็บหนังเสือและหางเหล็ก
“ทุกคน ได้เงินมาแล้วก็ต้องทำงานให้เรียบร้อย ในเมื่อพวกเราได้เงินแล้ว เจ้าเด็กนั่นก็ต้องตาย ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายกันไปตามหา ถ้าเห็นร่องรอยของเจ้าเด็กนั่น ฆ่าได้ก็ฆ่า ฆ่าไม่ได้ก็ส่งสัญญาณ คนที่อยู่ใกล้จะรีบไปสมทบ” เฉินหู่พูดเสียงเคร่งขรึม
“ครับ!” ทุกคนตอบรับ
“หยวนต้าซาน หลังจากนายตัดหนังเสือและหางเหล็กเสร็จแล้ว ก็รีบไปหาเจ้าเด็กนั่น ได้ยินไหม?”
“ครับ ลูกพี่หู่!”
จากบทสนทนาของคนกลุ่มนี้ หลัวซิวมั่นใจว่า คนที่จะฆ่าตนไม่ใช่หยวนต้าซาน แต่คือหัวหน้าของพวกเขาเฉินหู่
“จากที่เขาพูด เหมือนว่าจะมีคนจ้างพวกเขาให้มาฆ่าฉัน……” หลัวซิวหรี่ตาลง ถ้าจะบอกว่าคนที่มีความแค้นกับตนทั้งยังต้องการให้ตนตาย คนที่น่าสงสัยที่สุด น่าจะเป็นจางห่าย
จางห่ายถูกเขาทำร้ายจนพิการ เขามีความเป็นไปได้สูงที่สุด
“ฉันเป็นนักเรียนในสำนักยุทธ์ ได้รับการคุ้มครองจากสำนักยุทธ์ คนพวกนี้กลับกล้ารับภารกิจฆ่าฉัน คือคนที่เห็นเงินสำคัญกว่าชีวิตจริงๆ”
หลัวซิวแผ่การรับรู้ พบว่าคนพวกนั้นรวมถึงเฉินหู่ได้แยกย้ายกันแล้ว แยกกันไปคนละทิ้ง ตามหาบนเขตพื้นที่นี้
มีแค่หยวนต้าซาน ที่อยู่ใกล้เขามากที่สุด กำลังตัดหนังเสือด้วยความประณีต หนังเสือยิ่งสมบูรณ์แบบก็ยิ่งดีเท่านั้น ราคาก็จะยิ่งสูง
อย่างรวดเร็ว หลัวซิวคิดขึ้นได้ พุ่งตัวออกมาจากพุ่มหนามด้วยความเร็วสูงสุด ตรงไปหาหยวนต้าซานที่อยู่ใกล้ศพของอสูรเสือหางเหล็ก
“ใคร?”
หยวนต้าซานได้ยินเสียง ไหวตัวได้ทันที รีบคว้าขวานคู่ที่อยู่ข้างกายขึ้นมา
“นายนี่เอง!” รูม่านตาของหยวนต้าซานหดเล็ก อีกฝ่ายสวมชุดดำ สวมหมวกสาร คือคนที่เฉินหู่ต้องการจะฆ่า
แต่คนคนนี้ เหมือนเมื่อกี้จะซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ!
“ตึ้ง!”
ปราณในแผ่ออร่าออกมาจากตัวของหลัวซิว นี่คือสัญลักษณ์ปราณในของผู้ฝึกยุทธ์การกลั่นร่างขั้น6ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะปรากฏขึ้น
เขารู้ดี ตนต้องจัดการหยวนต้าซานในเวลาที่สั้นที่สุด ไม่อย่างนั้นถ้าหยวนต้าซานส่งสัญญาณ เฉินหู่และพวกก็จะรีบมา
“ฟิ้ว!”
กระบี่ชิงเฟิงออกมาจากฝัก พุ่งตรงไปตรงหน้าหยวนต้าซาน
หยวนต้าซานรีบหยิบขวานคู่ขึ้นมาป้อง ได้ยินเสียงฟิ้ว เกิดประกายไฟ หยวนต้าซานถอยหลังติดต่อกันสามก้าว ชาไปหมดทั้งตัว
“พลังที่แข็งแกร่งมาก!” หยวนต้าซานอุทานในใจด้วยความตกตะลึง เขาคือการกลั่นร่างขั้น8 แค่ปะทะกันก็สามารถโจมตีจนทำให้ตนถอยหลัง อย่างน้อยต้องเป็นยอดฝีมือการกลั่นร่างขั้น9
“เป้าหมายยากจะรับมือ ฉันจะส่งสัญญาณให้พวกเฉินหู่มา” หยวนต้าซานโยนขวานออกไปหนึ่งด้าม ยื่นมือเข้าไปในอก หยิบกระบอกไม้ไผ่เล็กๆสีแดงออกมาหนึ่งอัน
แต่ว่าในเวลานี้เอง การเคลื่อนไหวของเขาหยุดลง เพราะมีกระบี่เล่มหนึ่ง พาดไว้บนคอของเขาแล้ว
“ถ้านายกล้าส่งสัญญาณ ฉันจะตัดหัวนายทิ้ง” หลัวซิวพูดเสียงเยือกเย็น เขารู้จักกระบอกไม้ไผ่ขนาดเล็กสีแดงนั่น มันคล้ายกับดอกไม้ไฟ แค่เปิดออก ก็สามารถส่งสัญญาณไฟขึ้นไปบนฟ้าได้
กระบี่คมกริบวางไว้บนคอ หยวนต้าซานรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซานมาจากคอ ผิวถลอกแล้ว
วินาทีนี้ เขารู้สึกได้เพียงหนาวเย็นไปทั้งกระดูก อีกฝ่ายเร็วเกินไปแล้ว ตนไม่มีแม้แต่โอกาสส่งสัญญาณ
หยวนต้าซานรีบพยักหน้า ทิ้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณในมือ เขารู้ดี ชีวิตของตนเอง ขึ้นอยู่กับความคิดชั่ววูบหนึ่งของอีกฝ่าย
“ฉันถามนาย ใครจ้างให้พวกนายมาฆ่าฉัน?” หลัวซิวถามเสียงเยือกเย็น
“ฟิ้ว!”
ลำแสงเยือกเย็นพุ่งมา หยวนต้าซานยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ลูกดอกธนูสีขาวหนึ่งดอก ปักจากด้านหลังทะลุมาที่หัวใจของเขา
หลัวซิหน้าเปลี่ยนสี เมื่อกี้ความสนใจของเขาอยู่ที่หยวนต้าซาน ดังนั้นจึงไม่รู้ตัวว่ามีคนเข้ามาใกล้
หยวนต้าซานเบิกตากว้าง ก้มหน้าลงมองลูกดอกที่ยิงทะลุร่าง เลือดไหลออกมาจากปาก
เขารู้สึกว่าสติของตนเองเลือนลางลงเรื่อยๆ ก่อนจะตกสู่ความมืดของความตาย เสียงของเฉินหู่ดังขึ้นกะทันหัน
“ไอ้หนู ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ!”
“ตึ้ง!” ร่างของหยวนต้าซานล้มลงจมกองเลือด
เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน หลัวซิวไม่ต้องใช้การรับรู้แห่งชีวิต ก็เห็นร่างหนึ่ง เดินออกมาจากพุ่มไม้
นำทีมโดย เฉินหู่ ข้างๆเขายังมีอีกสามคน มือธนูซ่อนตัวอยู่ไม่ไกล
หลัวซิวเข้าใจทุกอย่างทันที เฉินหู่ให้หยวนต้าซานเก็บหนังเสือและหางเหล็ก เพียงเพื่อเป็นเหยื่อล่อเท่านั้น
คิดถึงตรงนี้ หลัวซิวไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น หมุนตัวหันหลังแล้ววิ่งหนี
“ฟิ้ว!”
ลูกดอกธนูสีเงินพุ่งมา ราวกับลำแสงสีเงินทอประกาย ยิงมาด้วยความเร็วสูง
ขณะวิ่ง หลัวซิวเคลื่อนฝีเท้าไปด้านข้าง ไม่ส่งผลกระทบต่อความเร็วของเขาแม้แต่น้อย หลบหลีกการโจมตีของลูกดอกธนู
“ตามไป!” เฉินหู่ออกคำสั่ง ทุกคนแยกย้ายกันทันที ไล่ตามหลัวซิวด้วยการล้อม
“ตึ้ง!ตึ้ง!ตึ้ง!……”
วิ่งผ่านป่าความรวดเร็ว ความเร็วของหลัวซิวราวกับเสือดาว ท่าทีคล่องแคล่วหลักแหลมเหมือนลิง อาศัยวิชาท่าร่างก้าวสั้นของแดนบรรลุผล ถึงแม้จะเป็นเฉินหู่ที่บรรลุแดดฝึกชี่ไห่ ก็ช้ากว่าความเร็วของเขาเล็กน้อย
มีเพียงลูกดอกธนูที่มือธนูยิง ทำให้หลัวซิวต้องคอยระมัดระวัง เพราะว่าความสามารถของมือธนูคนนี้ เหนือกว่าจางหุนมาก
“แม่เจ้าเว้ย วิ่งเร็วขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
เฉินหู่สีหน้าเคร่งเครียด จากสายตาของเขา ร่างของหลัวซิวไกลออกไปเรื่อยๆ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเลือนราง
ถูกต้องเขาคือจอมยุทธ์ แต่ว่าไม่เชี่ยวชาญด้านความเร็วของวิชาท่าร่าง
แต่เขาไม่เป็นกังวลว่าหลังจากหลัวซิวหนีไปแล้วตนจะเดือดร้อน เพราะว่าอีกฝ่ายไม่มีหลักฐานใดๆ ถึงแม้จะไปแจ้งสำนักยุทธ์ ก็ไม่เป็นไร
หลัวซิวหยุดลง ซ่อนตัวที่พุ่มไม้ซึ่งเต็มไปด้วยหญ้า จากการรับรู้ของเขา พวกเฉินหู่ไม่มีทางตามทันในระยะเวลาสั้นๆ