บทที่ 85 ไม่แยกแยะถูกผิด

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 85 ไม่แยกแยะถูกผิด

“ท่านพ่อไม่ต้องสงสัยหรอกว่าท่านแม่แอบกินหรือไม่ แม่ข้าทำกับข้าวมาตั้งหลายปีเคยแอบกินอะไรสักคำไหม? อีกอย่างนางมากินข้าวกับข้าก็กินได้เต็มอิ่มแล้ว ทำไมต้องนำเนื้อครึ่งชั่งนั่นมาด้วย?” จางซิ่วเอ๋อย้อนถาม

จางต้าหูพูดด้วยท่าทางอึ้ง ๆ “แล้วทำไมเนื้อถึงหายไป?”

จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าจางต้าหูช่างสมองหมาปัญญาควายจริง ๆ สื่อสารด้วยไม่ได้เลย ทำให้คนอื่นโมโหแทบตาย

“ข้าว่าเนื้อนั่นคงโดนแมวจรจัดคาบไป” นางถากถาง เสร็จแล้วก็แอบหัวเราะเสียงเย็นอยู่ในใจ แมวจรจัดอะไรกัน? ตอนนี้นางรู้แล้วว่าทำไมวันนี้จางอวี่หมินถึงยอมให้แม่โจวออกมาง่าย ๆ

ที่แท้ก็รอขโมยกินเนื้อที่บ้านนี่เอง!

พวกคนตระกูลจางไม่เห็นแม่โจวในสายตาเลยจริง ๆ ยังไม่รู้เลยว่าความจริงเป็นอย่างไรก็โทษแม่โจวเสียแล้ว

“เหลวไหล แมวจรจัดจะไปคาบเนื้อในหม้อได้อย่างไรกัน” จางต้าหูเถียง

จางชุนเถาพูดเสียงแผ่วอยู่ข้าง ๆ “แมวจรจัดทำไม่ได้ แต่ท่านอาเล็กทำได้…..”

“เป็นเด็กเป็นเล็กพูดว่าร้ายท่านอาเล็กเจ้าได้อย่างไรกัน? ท่านอาเล็กเจ้าเป็นผู้หญิง จะตะกละขนาดนั้นได้อย่างไร?” จางต้าหูพูดทันที

จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง “ท่านพ่อคิดว่าจางอวี่หมินไม่ทำ แล้วคิดว่าแม่ข้าจะเอาเนื้อไปรึ? ท่านพ่อดูกับข้าวของข้าให้ดีอีกรอบ มีจานไหนที่ด้อยกว่ามันฝรั่งตุ๋นเนื้อบ้าง? ถ้าเป็นท่าน ท่านจะละทิ้งอาหารดี ๆ ตั้งมากมายเช่นนี้แล้วไปกินมันฝรั่งตุ๋นเนื้อแทนเหรอ?”

จางต้าหูโดนจางซิ่วเอ๋อตอกกลับจนพูดไม่ออก ถึงอาหารพวกนี้จะเหลือแค่ก้นจานและตกกระจายอยู่บนพื้น แต่กลิ่นยังดีจนทำให้เขาน้ำลายแทบไหล น่ารับประทานกว่ามันฝรั่งตุ๋นเนื้อที่บ้านหลายเท่า

ในตอนนี้เองแม่โจวก็พูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “จางต้าหู ข้าหมดใจกับท่านแล้ว ท่านเอาแต่เข้าข้างแม่และน้องสาวท่าน! ไม่สนใจเลยว่าเราสามแม่ลูกจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร!”

พูดมาถึงตรงนี้แม่โจวก็ชี้ท้องตัวเองแล้วเอ่ย “อย่างนั้นข้าพาลูกในท้องที่ยังไม่เกิดนี่ไปตายด้วยกันเลยดีกว่า! ไม่อย่างนั้นถึงเวลาลูกเกิดมาก็ต้องลำบากอยู่ดี!”

จางต้าหูลนลานทันที เพิ่งคิดได้ว่าในท้องแม่โจวมีลูกอีกคน เขาพูดอย่างร้อนรน “เหมยจื่อ เจ้าอย่าวู่วาม”

แม่โจวแหงนหน้ามองฟ้า พยายามไม่ให้น้ำตาตัวเองไหลออกมา “ข้าไม่วู่วาม ไม่วู่วามเลยสักนิด ข้าแค่รู้สึกว่าข้าอยู่ไปก็ไร้ความหมาย ตอนนี้ลูกสาวก็มีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ข้าจะกินดีอยู่ดีด้วยก็ไม่ได้! ท่านจะเอาอย่างไร?”

จางซิ่วเอ๋อเห็นแม่โจวมีสีหน้าหมดอาลัยตายอยากจริง ๆ จึงหันไปมองค้อนจางต้าหูตาขวาง แล้วรีบเดินไปอยู่ตรงหน้าแม่โจว “ท่านแม่ ท่านอย่าโกรธเลยนะ ใจเย็น ๆ ตายเตยอะไรกัน? ต่อให้ท่านไม่มีสามีที่ดี แต่ท่านมีลูกสาวที่ดีตั้งสามคนเลยนะ ถ้าท่านตายแล้วพวกเราสามพี่น้องจะทำอย่างไร?”

จางชุนเถาเองก็พุ่งเข้ามา ร้องไห้กอดขาแม่โจว “ท่านแม่ ท่านตายไม่ได้นะ ข้าไม่อยากเป็นลูกไม่มีแม่ ไหนจะซานหยาอีก ซานหยาอายุยังน้อย ถ้าท่านตายแล้วซานหยาโดนรังแกจะทำอย่างไร?”

แม่โจวมองจางชุนเถา พูดเสียงสะอื้น “เจ้ากับพี่เจ้ามีความสามารถ ดูแลซานหยาได้ แม่ไม่มีอะไรที่ไม่วางใจ…..”

“ท่านแม่ ท่านยังมีท่านยายกับท่านตานะเจ้าคะ! แม่ไม่ได้กลับไปตั้งหลายปี ไม่อยากกลับไปเยี่ยมพวกเขาเหรอเจ้าคะ?” จางชุนเถารีบบอก

ทันใดนั้นแม่โจวก็ปล่อยโฮ “ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกอกตัญญู แต่งงานออกมาหลายปีแต่กลับไปแทบนับครั้งได้!”

“ท่านแม่อย่าร้องเลยนะเจ้าคะ พรุ่งนี้พวกเราไปเยี่ยมพวกเขากัน” จางซิ่วเอ๋อพูดทันที

แม่โจวคงนึกถึงพ่อแม่ตัวเอง นาทีนี้จึงเลิกคิดอยากตายแล้ว

จางซิ่วเอ๋อยืนตัวตรง ชี้หน้าจางต้าหูแล้วกล่าว “ท่านไปเถอะ ที่นี่ไม่ต้อนรับท่าน”

จางต้าหูมองจางซิ่วเอ๋ออย่างตะลึง “ข้าเป็นพ่อเจ้านะ เจ้าไล่ข้าได้อย่างไร?”

“ไม่ให้ข้าไล่ท่าน หมายความว่าท่านจะอยู่ชดใช้เงินให้ข้ารึ?” จางซิ่วเอ๋อหัวเราะเสียงเย็น “ในเมื่อท่านไม่อยากไป เช่นนั้นเราก็มาคำนวณกันหน่อย!”

พูดมาถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็ชี้พื้นที่อยู่ในสภาพเละเทะ “ค่าอาหารที่กินใกล้จะหมดแล้วข้าไม่คิด แต่ท่านก็น่าจะรู้นะว่าอาหารของข้ามาจากโรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวี ที่เหลืออยู่เท่านี้ก็ราคาไม่เบา!”

“เอาแค่เรื่องจาน ท่านดูดี ๆ นะ จานข้าล้วนทำจากกระเบื้องอย่างดีมีลายดอกไม้ด้วย จานหนึ่งราคา 30 เหรียญ ท่านทำจานข้าแตกไป 8 ใบ ดังนั้นราคาทั้งหมดเท่ากับ 240 เหรียญ!” จางซิ่วเอ๋อหรี่ตาพูด

จางต้าหูผงะ หากจางซิ่วเอ๋อไม่พูดเขาก็ไม่รู้ พอจางซิ่วเอ๋อพูดขึ้นมาเขาถึงก้มมอง และพบว่าจานพวกนี้ไม่ใช่ของที่คนธรรมดาจะใช้กันได้เลย

จางต้าหูพูดเสียงแผ่ว “ข้าเป็นพ่อเจ้า ทำจานเจ้าแตกไม่กี่ใบแล้วเจ้ายังจะเอาเงินอีกเหรอ?”

จางซิ่วเอ๋อโกรธจัดจนหัวเราะออกมา “จานนี่ของโรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวีนะ! ที่มาอยู่กับข้าตอนนี้ก็แค่ให้ข้ายืมมาใช้เท่านั้น ใช้เสร็จแล้วข้าต้องคืน ถ้าไม่มีคืนข้าก็ต้องชดใช้! หรือเพราะข้าเป็นลูกสาว? ท่านจะไปทำลายของของใครก็ต้องให้ข้าชดใช้เหรอ?”

“เขาว่ากันว่าหนี้ของบิดาบุตรชายต้องชำระแทน ข้าไม่เคยได้ยินว่าหนี้ของบิดาบุตรสาวต้องชำระแทนนะ!” จางซิ่วเอ๋อยิ้มเย็น

จางต้าหูอึดอัดจนหน้าแดงก่ำ เขาอยากจะมุดแผ่นดินหนี ที่จริงตอนนี้เขารู้แล้วว่าแม่โจวไม่ได้ขโมยเนื้อไป แต่จะให้ยอมรับความผิดตัวเองก็ลำบากอยู่

“ข้ารู้ว่าท่านไม่มีเงินสักแดงเดียว เช่นนั้นจำนวนเงินนี่ข้าจดไว้ก่อน แต่ตอนนี้ข้าขอให้ท่านออกจากบ้านข้าไปเดี๋ยวนี้! อย่าโกรธที่ข้าไล่ท่านไปเลย อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นที่ตระกูลเนี่ย ไม่ใช่ตระกูลจางอะไรนั่น!” จางซิ่วเอ๋อออกปากไล่

นางรู้สึกว่าอารมณ์แม่โจวไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย จึงไม่อยากให้จางต้าหูมายืนพูดเหลวไหลอะไรที่นี่อีก ถ้าพูดอะไรที่แม่โจวไม่พอใจแล้วเกิดอยากตายขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร?

ไหนจะซานหยาอีก ซึ่งตอนนี้กำลังกอดขาหมูยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ร้องไห้ไม่โวยวายใด ๆ ท่าทางเหมือนกำลังเสียขวัญ

จางต้าหูแทบจะวิ่งหางจุกตูด รู้สึกเสียหน้าเหลือแสน

เมื่อมาถึงหน้าบ้านตระกูลจาง เขาก็ยังลังเลอยู่ว่าตัวเองควรเข้าไปข้างในหรือไม่ ถ้าแม่ของตนถามขึ้นมาจะตอบนางว่าอย่างไร? หรือเขาควรจะบอกว่าอวี่หมินกินเนื้อไปอย่างนั้นเหรอ? แต่ท่านแม่คงไม่เชื่อหรอก

สุดท้ายเขาก็กัดฟันกลับเข้าไป และยืนลังเลอยู่หน้าห้องแม่เฒ่าจางว่าจะเคาะประตูเข้าไปดีหรือไม่

ขณะนั้นเขาก็ได้ยินแม่เฒ่าจางลดเสียงต่ำคุยกระซิบกับจางอวี่หมิน

“อวี่หมิน แม่รู้ว่าวันนี้เจ้าเป็นคนกินเนื้อนั่นไป” แม่เฒ่าจางกล่าวขึ้นในทันใด

จางอวี่หมินเงียบไปครู่หนึ่งและเอ่ย “ท่านแม่ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าไม่ได้กินเนื้อนาน…..ก็เลย……”

แม่เฒ่าจางถอนหายใจพลางกล่าว “แม่รู้ แต่เรื่องวันนี้เจ้าต้องถือเสียว่าแม่โจวเป็นคนทำนะ ตอนนี้เจ้ายังไม่แต่งงาน ถ้ามีข่าวลือออกไปว่าเจ้าเป็นคนตะกละ อีกหน่อยคงแต่งงานยากแน่”

………………………………………