บทที่ 84 ไม่มีเนื้อแล้ว

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 84 ไม่มีเนื้อแล้ว

แม่เถาตบตะเกียบของสือโถวร่วง “กินน้งกินเนื้ออะไรหา! มีเนื้ออยู่แค่สองชิ้น!”

แม่เฒ่าจางมองกะละมังอย่างแปลกใจ และก็เห็นว่าในนั้นไม่มีเนื้อจริง ๆ

จางต้าเหอเริ่มโมโห “ท่านแม่ ข้าเหนื่อยอยู่ข้างนอกตั้งหลายวันก็เพื่อซื้อเนื้อให้สือโถวกิน ทำไมท่าน…..”

แม่เฒ่าจางตบโต๊ะและยืนขึ้น พูดอย่างเกรี้ยวกราด “ข้าตัดเนื้อมาครึ่งชั่งกับมือตัวเอง ทำไมถึงเหลือแค่สองชิ้นล่ะ! แม่โจวล่ะ! ไปเรียกนางกลับมา! นางเป็นคนทำกับข้าว ข้าจะถามนางเองว่าเนื้อหายไปไหน!”

จางอวี่หมินพูดอย่างสมน้ำหน้า “แม่โจวออกไปกับจางซิ่วเอ๋อ”

สีหน้าแม่เฒ่าจางอึมครึมลงเรื่อย ๆ “แม่โจวต้องเอาเนื้อไปให้ตัวขาดทุนสองตัวนั้นกินแน่ ๆ! หนอยแน่! แม่โจวนี่นับวันยิ่งไม่เห็นข้าอยู่ในสายตานะ!”

จางต้าเหอมองมันฝรั่งที่โดนแม่เถาคลุกจนเละไปหมด แล้วพูดด้วยสีหน้าอึมครึม “ท่านแม่ ข้าเหนื่อยแล้ว กับข้าวนี่ข้าไม่กินล่ะ”

แม่เถาเห็นจางต้าเหอไปแล้ว ก็ใช้ตะเกียบคีบเนื้อสองชิ้นสุดท้ายเข้าปากสือโถวและเอ่ย “เราสองแม่ลูกก็ไม่กินข้าวแล้ว”

หลังจากที่ครอบครัวจางต้าเหอกลับเข้าห้อง จางต้าเหอก็เอาห่อกระดาษห่อนึงออกจากเสื้อที่เพิ่งเปลี่ยนไป

เขาเปิดห่อกระดาษและบอกกับสือโถว “สือโถว มากินเนื้อ”

ในนั้นเป็นเนื้อสุกชั่งหนึ่ง สรุปแล้วจางต้าเหอไม่ได้มอบเงินที่ได้มาทั้งหมดให้แม่เฒ่าจาง นอกจากตัวเองเก็บไว้จำนวนหนึ่งแล้วยังซื้อเนื้อมาด้วย

ครอบครัวใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ตำลึงที่คนในบ้านหามาได้ต้องรวมไว้ด้วยกัน

แต่ทุกครั้งที่จางต้าเหอออกไปทำงานก็จะเก็บตำลึงไว้เองครึ่งนึง

ส่วนจางต้าหูที่อยู่บ้านตลอดน่ะเหรอ แต่ละวันจะเหนื่อยตายอยู่ที่ไร่อยู่แล้ว ขนาดผลผลิตที่ได้มายังทำให้ลูกเมียตัวเองกินไม่อิ่ม

ครั้นได้ออกไปทำงานข้างนอกเป็นบางคราว ก็ต้องมอบเงินทุกตำลึงให้ยายจางหมด

มิน่าล่ะสือโถวถึงอ้วนกว่าสามพี่น้องตั้งเยอะ นอกจากเขาจะอิ่มได้เป็นปกติอยู่แล้ว จางต้าเหอยังให้เขาได้กินของอย่างอื่นเพิ่มด้วย

แม่เฒ่าจางด่าไปพักนึง เมื่อเห็นแม่โจวไม่อยู่ก็ด่าจางต้าหูแทน “จางต้าหู! ทำไมข้าถึงมีลูกไม่เอาถ่านอย่างเจ้านะ? เก่งสู้พี่สามของเจ้าไม่ได้ไม่เท่าไหร่ เมียตัวเองยังจัดการไม่ได้!”

“ดูเจ้าซิ พี่สามเจ้าเหนื่อยมาหลายวัน ได้เงินกลับมาตั้งเยอะ กลับไม่ได้กินเนื้อสักคำ!” แม่เฒ่าจางเอานิ้วจิ้มหน้าผากจางต้าหูพลางด่า

จางต้าหูก็ไม่ขัดขืน เงียบงันฟังแม่เฒ่าจางด่าตัวเอง หน้าแดงก่ำ

“ถ้าในสายตาเจ้ายังมีแม่อย่างข้าอยู่ ก็ไปตามแม่โจวกลับมาจากบ้านผีสิง แล้วสั่งสอนให้หนัก!” แม่เฒ่าจางโวยวายเสียงกราดเกรี้ยว

คำพูดพวกนี้ทำให้จางต้าหูหนักอึ้งในใจ เขานึกหัวร้อนและพุ่งออกไปข้างนอกอย่างเกรี้ยวกราด

จางต้าหูรู้สึกว่าแม่เฒ่าจางทำให้ตัวเองขายหน้า พี่สามหาเงินซื้อเนื้อมา แต่ตัวพี่สามเองกลับไม่ได้กินเนื้อสักคำ เขารู้สึกผิดสุด ๆ

พอมาถึงป่าด้านนอกบ้านผีสิง จางต้าหูก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ค่อยกล้าเข้าไป

แต่พอนึกถึงคำที่แม่เฒ่าจางด่าเขา เขาก็กลั้นใจพุ่งเข้าไป

พอจางต้าหูมาถึงใกล้ ๆ บ้านผีสิง ก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาเป็นระยะจากด้านในบ้านผีสิง

เขาได้ยินแม่โจวพูด “ซิ่วเอ๋อ เจ้าอย่าเอาแต่ดูพวกเรา เอ้า กินเนื้อเยอะ ๆ หน่อย”

จางต้าหูตะลึงขึ้นมา ที่แท้แม่พูดไม่ผิด แม่โจวเอาเนื้อมาให้จางซิ่วเอ๋อกินจริง ๆ

แม่โจวทำแบบนี้ได้อย่างไร? นี่มันต่างอะไรกับขโมยของ? ทำไมถึงต้องทำให้เขาขายหน้าด้วย!

เขาบันดาลโทสะ ยิ่งได้ยินเสียงของพวกแม่โจว เขาหายกลัวป่าและบ้านผีสิงอันน่าพิศวงนี่ เดินตามแนวรั้วหัก ๆ แล้วพุ่งเข้าไป

เวลานี้พวกจางซิ่วเอ๋อกำลังกินข้าวกันอย่างมีความสุข จางต้าหูก็สาวเท้ายาว ๆ เข้าไปด้วยสีหน้าดำคร่ำเครียด

โครม!

โต๊ะของจางซิ่วเอ๋อคว่ำลง

จางซานหยาหูตาไวรีบคว้าขาหมูที่กินไปเพียงครึ่งเดียวไว้ น้ำแกงหกใส่เต็มตัว

ทุกคนผงะกันหมด และหันกลับมามองจางต้าหู

แม่โจวตัวสั่นเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าทำไมจางต้าหูถึงโมโหขนาดนี้ แต่พอเห็นจางต้าหูโมโหก็กลัวโดยสัญชาตญาณ

อยู่กับจางต้าหูมานานหลายปี ถึงแม้น้อยครั้งนักที่จางต้าหูจะโมโหใส่นาง แต่ก็ใช่ว่าไม่เคย

มีครั้งนึงที่นางทะเลาะกับแม่เฒ่าจาง จางต้าหูก็โมโหใส่ ความทรงจำครั้งนั้นทำให้แม่โจวกลัวจางต้าหูในตอนนี้มาก

คนซื่อ ๆ ไม่ค่อยโมโหหรอก แต่พอโมโหทีก็น่ากลัวมาก

“แม่โจว! ดูเรื่องที่เจ้าทำซิ! บ้านเราแทบจะแตกอยู่แล้ว เจ้ายังมีหน้ามาแอบกินเนื้อที่นี่อีก!” จางต้าหูพูดเสียงเกรี้ยวกราด

เวลานี้จางซิ่วเอ๋อก็ได้สติกลับมา นางมองจางต้าหูอย่างโกรธเคือง “ท่านพ่อ! ท่านมาทำอะไรที่นี่? ข้าจำได้ว่าข้าไม่ได้เชิญพ่อมานะ! แล้วพ่อโมโหขนาดนี้ทำไมกัน? พูดให้รู้เรื่องนะ บ้านตระกูลจางทำไม? แม่กินข้าวกับข้าตลอด จะไปทำอะไรใครได้?”

“กินข้าวกับเจ้าอะไร? นางเอาเนื้อที่ที่บ้านทำไว้ให้ลุงสามเจ้ามาให้เจ้ากิน ลุงสามเจ้าเสียหน้าหมด พาป้าสามของเจ้าเข้าห้องไปเลย!” จางต้าหูโวยวายเสียงดัง

จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วมองแม่โจว “ท่านแม่ นี่มันเรื่องอะไรกันเจ้าคะ?”

จางซิ่วเอ๋อไม่เชื่อว่าแม่ตัวเองจะตาต่ำเอาเนื้อของบ้านตระกูลจาง ตระกูลจางขี้งกขนาดนั้นจะมีเนื้อสักแค่ไหนเชียว ที่ตัวเองให้แม่โจวไปในแต่ละวันยังเยอะกว่านั้นอีก!

แม่โจวส่ายหัว “ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนข้ามาที่นี่กับเจ้าก็ตุ๋นมันฝรั่งกับเนื้อไว้ในหม้อแล้ว”

จางต้าหูเอ่ยเสียงเกรี้ยวกราด “ถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังจะเถียงอีก แม่บอกว่าซื้อเนื้อมาครึ่งชั่ง แต่ตอนกินข้าวในมันฝรั่งตุ๋นมีเนื้อแค่สองชิ้น ถ้าเจ้าไม่ได้เอาไปแล้วเนื้อหายไปไหน? เมื่อกี้ตอนข้าอยู่ข้างนอกยังได้ยินที่พวกเจ้าคุยกันเรื่องกินเนื้ออยู่เลย!”

จางซิ่วเอ๋อได้ฟังก็หัวเราะ “เมื่อกี้พวกเรากินเนื้ออยู่จริง ๆ แต่พ่อแน่ใจเหรอว่าเนื้อนี่แม่ข้าเอามาจากบ้านตระกูลจาง?”

จางซิ่วเอ๋อพูดไปก็ชี้จางซานหยาที่อุ้มขาหมูไว้และเอ่ยเสียงเย็น “ที่พวกเรากินน่ะคือขาหมู ไม่ใช่มันฝรั่งตุ๋นเนื้อ”

จางชุนเถาก็กำลังมองจางต้าหูเศร้า ๆ สายตาผิดหวังสุด ๆ

จางต้าหูเพิ่งสังเกตว่าในมือจางซานหยาอุ้มขาหมูไว้ เขามองขาหมูอย่างไม่อยากเชื่อ

พอมอง เขาก็มีสีหน้าผงะ

เขาก้มมองพื้น ก็เห็นอาหารที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ดูก็รู้ว่าเป็นกับข้าวเนื้อหลายอย่าง…

จางต้าหูนิ่งค้างอยู่ตรงนั้น เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแม่ลูกสี่คนอยู่ดีกินดีขนาดนี้ที่นี่

จางซิ่วเอ๋อหัวเราะเสียงเย็นพลางกล่าว “ท่านพ่อ ดูให้ดี ๆ นะ พวกเรากินไปกว่าครึ่งแล้ว เนื้อที่เหลืออยู่ตอนนี้คงมากกว่าเนื้อครึ่งชั่งที่บ้านตระกูลจางอีกกระมัง ข้าบอกแม่ไว้แต่แรกแล้วว่าให้มากินเนื้อที่บ้านข้าวันนี้ นางจะแอบเอามาให้ข้ากินทำไมกัน?”

…………………………………………………