บทที่ 83 เลี้ยงข้าวแม่โจว

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 83 เลี้ยงข้าวแม่โจว

จางซิ่วเอ๋อเห็นดังนั้นก็มีรอยยิ้มระบายบนหน้า นางดื่มน้ำแก้กระหายก่อนจะไปที่บ้านตระกูลจาง

แม่โจวกับซานหยาเป็นคนที่หาตัวเจอง่ายมาก เพราะเวลานี้สองคนนี้ไม่อยู่บนเขาก็ทำงานอยู่ในลานบ้าน จางซิ่วเอ๋อจึงไม่จำเป็นต้องเข้าบ้านตระกูลจาง

นี่ไงล่ะ แม่โจวกำลังจัดฟืนอยู่ในลานบ้าน ส่วนจางซานหยากำลังให้อาหารหมู

พอแม่โจวเห็นจางซิ่วเอ๋อก็รีบเดินเข้ามา

ตอนนี้ท้องของแม่โจวโตขึ้นไม่น้อย แต่คนตระกูลจางก็ไม่ได้เพลามือลงเลย ยังให้แม่โจวทำงานเยอะเหมือนเดิม

จางซิ่วเอ๋อเห็นแล้วก็ปวดใจ “ท่านแม่ ซานหยา ข้ามาเรียกไปกินข้าวเจ้าค่ะ”

แม่โจวมองจางซิ่วเอ๋อด้วยสีหน้าลังเล “ซิ่วเอ๋อ คือ….ถ้าข้าไป ท่านย่าเจ้าก็ต้องด่าข้าน่ะสิ”

ฝ่ายจางอวี่หมินชะโงกหัวออกมาจากในบ้าน พูดกับแม่โจว “เจ้าทำกับข้าวเสร็จรึยัง?”

“อยู่ในหม้อจ้ะ”แม่โจวเอ่ย

จางอวี่หมินแค่นเสียง “ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะไปกินที่ไหนก็ไป ประหยัดข้าวที่บ้านดี ไม่กลับมากินข้าวอีกเลยยิ่งดี”

แม่โจวพูดด้วยท่าทีโล่งใจ “งั้นข้าไปล่ะ ตั้งแต่ชุนเถาบาดเจ็บข้ายังไม่ได้ไปเยี่ยมเลย พอทุกคนกลับมาเปิดหม้อก็กินข้าวได้เลยนะจ๊ะ”

จางซิ่วเอ๋อถลึงตาใส่ทางที่จางอวี่หมินอยู่ เด็กอายุแค่นี้กลับร้ายกาจขนาดนี้ แม่โจวกับซานหยาจะกินอะไรได้มากแค่ไหนเชียว อีกอย่างพวกนางกินข้าวที่บ้านตระกูลจางไม่อิ่มด้วยซ้ำ

แม่โจวในตอนนี้ดูไม่เหมือนก่อน ช่วงนี้จางซิ่วเอ๋อจึงเอาของกินให้แม่โจวเป็นประจำ นางจึงได้บำรุงร่างกายอยู่ตลอด

ถึงแม้จะไม่แข็งแรงเท่าคนปกติ แต่ไม่ถึงกับลมพัดก็แทบล้มเหมือนเมื่อก่อน ถึงแม้ตอนนี้จะผอมเหมือนเดิม แต่สีหน้าดูดีขึ้นเยอะ พวงแก้มก็ดูมีเลือดฝาดขึ้น

จางซานหยากระโดดโลดเต้น พอได้ยินว่าได้ไปกินข้าวที่บ้านผีสิง นางก็อารมณ์แจ่มใสสุด ๆ

ในสายตาจางซานหยา ต่อให้บ้านผีสิงมีผีจริง ๆ ก็ไม่น่ากลัวเท่าบ้านตระกูลจาง อย่างน้อยตอนอยู่บ้านผีสิงนางจะทำอะไรก็ได้ และได้มีของดี ๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยได้มี

พี่ใหญ่พี่รองก็ดีกับนางมาก ช่วยนางทำงานและซื้อของให้นาง

แม่โจวก็สบายใจอย่างหาได้ยาก

พอแม่โจวได้เห็นอาหารบนโต๊ะก็อึ้งไปไม่น้อย “ซิ่วเอ๋อ วันนี้วันอะไรเหรอ? ทำไมเจ้าทำกับข้าวเยอะขนาดนี้? แล้วกับข้าวพวกนี้ดูดีไปรึเปล่า?”

“ท่านแม่ พี่ใหญ่ไม่ได้ทำอาหารพวกนี้ คนอื่นให้มาเจ้าค่ะ” ชุนเถาอธิบายยิ้ม ๆ

แม่โจวมองอาหารพวกนี้ตาค้าง มีเป็ดทอดกรอบ ปลาตุ๋นน้ำแดง ขาหมูอบ และมะเขือทอดสอดไส้ ดูก็รู้ว่าไส้มะเขือทำจากเนื้อล้วน แล้วยังมีกับข้าวอีก 4 อย่างที่ถึงจะเป็นผักทั้งหมด แต่ก็ดูแล้วน่ากินสุด ๆ

ทั้งชีวิตของแม่โจวยังไม่เคยเห็นขาหมูอบทั้งขาเลย

“ซิ่ว…..ซิ่วเอ๋อ……” แม่โจวตกใจจนพูดอึกอัก

จางซิ่วเอ๋อกล่าวยิ้ม ๆ “ท่านแม่ นั่งลงแล้วกินเร็วเจ้าค่ะ ข้าบอกก่อนนะว่าของพวกนี้ได้มาอย่างสุจริต ข้าและชุนเถาสองคนทำเครื่องเทศสำหรับปรุงอาหารแล้วขายให้โรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวี อาหารพวกนี้ทางอิ๋งเค่อจวีให้มา”

แม่โจวตะลึงสุดขีด “เครื่องเทศอะไรกัน? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงเลย?”

จางซิ่วเอ๋อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หลายวันก่อนที่ทำปลาให้ท่านแม่กิน ท่านไม่รู้สึกว่าปลาที่ข้าทำไม่มีกลิ่นคาวเหรอเจ้าคะ? ไม่ใช่ของมีค่าอะไรหรอก ข้าไปเอาหญ้าป่าจากบนเขามาทำน่ะเจ้าค่ะ”

สามพี่น้องจางเห็นพ้องกันว่าจะไม่บอกใครเด็ดขาดว่าในเครื่องเทศใส่อะไรบ้าง

ไม่ใช่ว่าพวกนางไม่เชื่อใจแม่โจว แต่กลัวว่าหากวันหนึ่งคนตระกูลจางรู้ว่าพวกนางรวยเพราะสิ่งนี้แล้วจะคาดคั้นกับแม่โจว

ส่วนเรื่องได้เงินเท่าไรนั้น แม่โจวไม่ถามจางซิ่วเอ๋อก็ไม่พูด

ต่อให้แม่โจวเป็นแม่แท้ ๆ ของนาง นางก็ไม่จำเป็นต้องโปร่งใสขนาดนั้นต่อหน้าแม่โจว ส่วนชุนเถาเหรอ ตอนนี้สองพี่น้องใช้ชีวิตด้วยกัน จึงปิดบังนางไม่ได้

แม่โจวกินข้าวไปมองสามพี่น้องไป

ยิ่งมองก็ยิ่งพอใจ ลูกสาวแล้วอย่างไร? ลูกสาวได้ดีเลิศเลอกว่าลูกชายเสียอีก ลูกสาวสามคนของตัวเองกตัญญูกว่าลูกชายบ้านอื่นอีก มีอะไรดี ๆ ก็เอาให้ตัวเองกินหมด

แม่โจวกินข้าวที่นี่อย่างมีความสุข หารู้ไม่ว่าตอนนี้บ้านตระกูลจางเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

วันนี้ตระกูลจางก็ทำเนื้อกินเหมือนกัน เป็นเนื้ออบกับมันฝรั่ง

เพราะจางต้าเหอผู้เป็นสามีของแม่เถาได้กลับมาแล้ว

ช่วงก่อนจางต้าเหอออกไปรับงานข้างนอก เขาเป็นคนพอมีฝีมือบ้าง ครั้งนี้ก็ได้ไปสร้างบ้านให้ครอบครัวฐานะดีในเมือง

ถึงแม้แม่เฒ่าจางจะเป็นคนขี้งก แต่พอคิดว่าลูกชายคนที่สามของตัวเองกลับมา ก็หั่นเนื้อมาครึ่งชั่ง

จางต้าเหอออกไปครั้งนึงได้ตำลึงไม่น้อยเลยนะ เพื่อตำลึงพวกนี้แม่เฒ่าจางก็ไม่ทำให้จางต้าเหอรู้สึกหมดใจกับที่บ้านหรอก

รอจนคนตระกูลจางที่ออกไปทำไร่บวกกับจางต้าเหอกลับมาแล้ว แม่เฒ่าจางก็ขมวดคิ้วและถาม “อวี่หมิน พี่สะใภ้สี่ของเจ้าล่ะ?”

จางอวี่หมินเบ้ปาก “จางซิ่วเอ๋อมาหานาง ข้าเห็นนางออกไปกับจางซิ่วเอ๋อ”

“ทำกับข้าวเสร็จรึยังน่ะ?” ปฏิกิริยาแรกของแม่เฒ่าจางไม่ใช่โกรธ แต่ให้รีบกิน กินหมดก่อนแม่โจวกลับมายิ่งดี

จางอวี่หมินมีท่าทางขยันอย่างหาดูได้ยาก ยกกับข้าวมาวางบนโต๊ะ

แม่เฒ่าจางมองมันฝรั่งตุ๋นเนื้อและบอกยิ้ม ๆ “ต้าเหอ ครั้งนี้เจ้าคงเหนื่อยแย่ ข้าตั้งใจซื้อเนื้อมาทำ เจ้ากินเยอะ ๆ เลยนะ”

จางต้าเหออ้วนกว่าจางต้าหูเล็กน้อย ผิวก็ขาวกว่านิดหน่อย เขารู้จักเอาใจยายจางมากกว่าจางต้าหู

เวลานี้เขาเอาเหรียญทองแดงพวงหนึ่งออกจากแขนเสื้อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม วางบนโต๊ะเสียงดังเคร้ง

มองผ่าน ๆ ก็เห็นว่ามีประมาณ 80 เหรียญเป็นอย่างต่ำ!

แม่เฒ่าจางอารมณ์ดีขึ้นมาในบัดดล “ต้าเหอ แม่ว่าแล้วว่าเจ้าต้องเก่ง!”

จางต้าหูเห็นอย่างนั้นก็เอ่ยเสียงทุ้ม “พอทำงานในไร่เสร็จแล้วข้าก็จะออกไปหางานทำนะขอรับ”

แม่เถาถลึงตาใส่จางต้าหู “เช่นนั้นเจ้าก็ต้องมีฝีมือให้เท่าพี่สามของเจ้าสิ”

พูดไปแม่เถาก็เรียกสือโถว “สือโถว แม่หาเนื้อให้กิน เจ้าอยากให้พ่อเจ้าหาเงินซื้อเนื้อให้เจ้ากินไม่ใช่เหรอ ครั้งนี้กินให้พอเลยนะ”

พูดไปแม่เถาก็ไปหาเนื้อในกะละมังกิน

ปกติแม่เถาไม่กล้าขนาดนี้หรอก แต่วันนี้ไม่เหมือนกัน จางต้าเหอเอาเงินกลับมานะ แม่เฒ่าจางเพิ่งได้เงินไป ไม่มีทางไม่ให้สือโถวกินเนื้อหรอก

หารู้ไม่ พอจิ้มตะเกียบลงไป สีหน้าแม่เถาก็แข็งทื่อ

เนื้อล่ะ? ไหนว่าเนื้อตุ๋นมันฝรั่ง?

แม่เถาพลิกดูอีกสองรอบ กลับพบว่าในกะละมังเหลือเนื้อแค่สองชิ้น สีหน้านางก็อึมครึมลง

เวลานี้สือโถวกำลังเคาะถ้วยด้วยตะเกียบเสียงดังโคร้งเคร้ง “แม่ ข้าจะกินเนื้อ! ข้าจะกินเนื้อ!”

……………………………………………