ส่วนที่ 4 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน ตอนที่ 6 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

ห้องประลองที่ไป๋หลังเลือกเป็นห้องสังเวียนมวยที่เรียบง่ายที่สุด ทั้งสี่ด้านไม่มีที่ให้ซ่อน จริงๆ แล้วห้องแบบนี้ไม่เอื้อสำหรับการต่อสู้ แต่ในมุมมองขอไป๋หลัง เขามีระดับที่จะข่มซูหว่านได้ 15 ระดับ และไอเทมของเขาดีกว่าของซูหว่านมาก แม้ว่าซูหว่านจะเป็นนักบวชที่มีทักษะในการฟื้นฟูเลือด แต่หากอิงตามพลังโจมตีของเธอก็ถือว่าเป็นเรื่องสบายมาก 

 

 

เมื่อการนับถอยหลังสิ้นสุดลง ไป๋หลังก็เริ่มใช้ทักษะล่องหนทันที แต่ที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ ซูหว่านพลันขว้างเวทกระสุนแสงออกไปนัดหนึ่งตั้งแต่วินาทีแรก นี่เป็นทักษะโจมตีเดียวที่ระดับค่อนข้างต่ำของนักบวช พลังไม่ได้แรงมาก แต่ในตอนนี้เธอแทบจะไม่ต้องรอเวลาคูลดาวน์เลย และการโจมตีนี้เป็นการโจมตีที่เร็วที่สุด ดังนั้นในตอนเริ่มแรกซูหว่านจึงชิงเป็นผู้ลงมือก่อน เวทกระสุนแสงของเธอขัดจังหวะการล่องหนของไป๋หลัง!  

 

 

ไป๋หลังผ่านการต่อสู้มาทุกรูปแบบ เมื่อเห็นทักษะของตนถูกขัดจังหวะก็ไม่ได้ตกใจเลยสักนิด เขาวาดมีดชื่อเล่ห์โค้งโลหิตที่อาบยาพิษสีเขียวขุ่นตรงไปยังซูหว่าน…  

 

 

มือสังหารระดับสูงสามารถใช้คมมีดได้ไหวพลิ้วดั่งสายลม เมื่อโจมตีโดน นอกจากบาดแผลธรรมดาทั่วไปแล้ว เป้าหมายจะถูกล็อกเป้า ในอีกสิบวินาทีต่อมาก็จะถูกพิษ และตกอยู่ในสภาวะเลือดไหลไม่หยุด!  

 

 

ความว่องไวของมือสังหารอยู่ระดับสูงสุดในบรรดาห้าอาชีพ อีกทั้งร่างกายของไป๋หลังดีกว่าร่างกายของคนทั่วไป ซูหว่านเห็นแค่เงาอันเลือนรางสายหนึ่ง เพียงแค่พริบตาเดียว เงาของไป๋หลังก็ปรากฏต่อหน้าเธอแล้ว 

 

 

ในช่วงเสี้ยววินาทีซูหว่านยิงเวทกระสุนแสงออกไปอีกนัดหนึ่ง แล้วถือโอกาสตอนที่ไป๋หลังกำลังตาพร่ามัวรีบถอยหลังออกมาด้วยความเร็ว เธอถอยหลังไปพลาง ร่ายเวทลดความเร็วไปพลาง สามวินาทีต่อมา ไป๋หลังพลันพุ่งเข้าหาซูหว่านอีกครั้ง เวทลดความเร็วก็เริ่มทำงานในตอนนั้นพอดี ท่าทางของไป๋หลังเริ่มเปลี่ยนเป็นเชื่องช้าลง และซูหว่านรีบใช้โอกาสนี้ร่ายเวทลดกำลังทำให้ร่างกายของไป๋หลังอ่อนแอลง เมื่อเขากำลังตกอยู่ในสภาวะทั้งร่างกายอ่อนกำลังลง ซูหว่านก็ยิงเวทกระสุนแสงใส่เขาอย่างไม่ยั้งมือ…  

 

 

-200 -200 -200 -200… 

 

 

เมื่อระดับเพิ่มขึ้น ความรายกาจของเวทกระสุนแสงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย  

 

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา ค่าพลังชีวิตของไป๋หลังก็ลดลงไปประมาณพันกว่า แต่ค่าพลังชีวิตปัจจุบันของเขาก็ยังคงมีเยอะกว่า 4,700 หน่วย!  

 

 

ในตอนนี้ ใบหน้าของไป๋หลังก็ซีดขาวลงกว่าเดิม ต่อหน้าสายตาของผู้ชมที่เห็นซูหว่านโจมตีเขาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เสียเลือดไปมากกว่า 1,000 หน่วย สำหรับเขาแล้วช่างถือเป็นความอัปยศที่ไม่เคยมีใครทำกับเขามาก่อน!  

 

 

ด้วยความโมโห ไป๋หลังพลันใชทักษะหากินของมือสังหารลอบโจมตีออกไปทันที เมื่อโดนสกิลนี้จะขยับตัวไม่ได้เป็นเวลาห้าวินาที!  

 

 

การโจมตีของไป๋หลังครั้งนี้รวดเร็ว แม่นยำ และโหดเ**้ยม ไม่มีแม้แต่เวลาให้ซูหว่านได้หลบหลีก แต่นาทีที่การโจมตีของไป๋หลังมาถึงตรงหน้า ซูหว่านก็ร่ายเวทโล่แสงออกมาได้ทันเวลาพอดี นี่คือหนึ่งในทักษะป้องกันชีวิตของนักบวชเลยทีเดียว โล่แสงที่ปรากฏออกมาช่วยดูดซับความเสียที่จะเกิดขึ้นกับผู้ร่ายเวทได้ อีกทั้งยังช่วยให้หลีกเลี่ยงความตายได้!  

 

 

ระหว่างที่โจมตี ไป๋หลังได้เห็นว่าซูหว่านเวียนหัวจมลงไปกับพื้น ใบหน้าของไป๋หลังก็ปรากฏรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมา ในอีกห้าวินาทีต่อมา เขาก็ใช้ทักษะโจมตีทั้งหมดของตัวเองไปที่ซูหว่าน… 

 

 

-720 -680 -900…  

 

 

ในฐานะที่เป็นนักบวชระดับ 45 คนหนึ่ง ค่าพลังชีวิตของซูหว่านมีเพียง 3,000 หน่วย หลังจากที่ถูกไป๋หลังโจมตีต่อกันเป็นเวลาห้าวินาที เธอใช้เพียงแค่โล่แสงเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากความตายเท่านั้น และเธอเหลือเลือดเพียงแค่ 270 หน่วยสุดท้ายเท่านั้น  

 

 

“จบแล้วล่ะ!” 

 

 

อีกก้าวเดียวไป๋หลังก็เกือบจะพุ่งไปถึงร่างของซูหว่าน ร่างของทั้งสองคนสามารถเข้าใกล้กันได้แบบไม่มีขอบเขต เวลานี้ทักษะโจมตีของไป๋หลังยังไม่หมดเวลาในการคูลดาวน์เลย แต่เขากลับมีความมั่นใจว่าสามารถใช้การโจมตีทางกายภาพปลิดชีวิตน้อยๆ ของซูหว่านได้ ทว่าในเวลานี้เองซูหว่านพลันโน้มตัวไปข้างหน้า ข้อมือของไป๋หลังกระทบกับหน้าอกของซูหว่านพอดี ในขณะนั้น ไป๋หลังดูเหมือนกับถูกร่ายเวทอัมพาตใส่ ทั้งตัวของเขาชะงักหยุดอยู่กับที่ มีดเล่ห์โค้งโลหิตในมือเขาอยู่ห่างจากร่างของซูหว่านเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น!  

 

 

ทั้งสนามประลองตกอยู่ในความโกลาหล ผู้ชมทุกคนต่างเบิกตากว้างมองสถานการณ์ในเวลานี้อย่างไม่เข้าใจ หรือว่าซูเฉิงหว่านเย่ว์ได้รับทักษะนักบวชใหม่งั้นเหรอ  

 

 

แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่ใช่นะ 

 

 

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพราะเรื่องนี้น่ะ ผู้เล่นชายบางคนถึงกับกระแอมไอ แค่กๆ ออกมาเมื่อได้เห็นเหตุการณ์นี้ พวกเราทำได้แค่รับรู้แต่พูดออกไปไม่ได้นะสิ!  

 

 

เวลานี้ ตัวของไป๋หลังแข็งทื่อ สีหน้าของเขาเหมือนถูกฟ้าผ่า ในหัวของเขามีเสียงของระบบดังสะท้อนก้องและเยียบเยียบอยู่ข้างหู… 

 

 

[ผู้เล่นไป๋หลังถูกตัวผู้เล่นหญิงอย่างประสงค์ร้าย! ระบบจึงทำการตักเตือนระดับสาม!] 

 

 

เนื่องจาก ‘หลิงเสิน’ เป็นเกมออนไลน์ที่เสมือนจริง และเพื่อปกป้องผู้เล่นหญิงที่ค่อนข้างอ่อนแอกว่า จึงต้องซ่อนระบบ ‘ป้องกันการล่วงละเมิด’ นี้เพิ่มลงไปเป็นพิเศษ เมื่อผู้เล่นชายสัมผัสกับพื้นที่สงวนของผู้เล่นหญิง ก็จะถูกระบบเตือนทันที อีกทั้งจะชาไปทั้งร่างกายเป็นเวลาห้าวินาที!  

 

 

แน่นอนว่า นี่คือบทลงโทษที่เบาที่สุด ถ้าหากทำผิดเป็นครั้งที่สอง ก็จะถูกลงโทษจะเพิ่มเป็น 2 เท่า หากมีผู้ละเมิดต่อผู้อื่นโดยมีเจตนาร้าย ระบบจะขึ้นบัญชีดำต่อผู้กระทำผิด และชีวิตนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่โลกของ ‘หลิงเสิน’ อีก  

 

 

สำหรับระบบที่ซ่อนอยู่นี้ ผู้เล่นส่วนใหญ่จะไม่ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่มีการแนะนำอย่างเป็นทางการบนเว็บไซต์ แต่เมื่อจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ระบบนี้จึงไม่ใช่ความลับอีกต่อไป และหากในอนาคตเมื่อระบบเกมได้รับการอัปเดต ก็จะเพิ่มระบบอื่นๆ เพื่อช่วยป้องกันความเป็นส่วนตัวผู้เล่นให้มีมนุษยธรรมมากขึ้น  

 

 

ระหว่างที่ไป๋หลังเป็นอัมพาต ซูหว่านรีบใช้ประโยชน์ในช่วงเวลานี้ร่ายเวทรักษาให้กับตัวเองอย่างต่อเนื่อง และจากนั้นก็ได้ยิงเวทกระสุนแสงใส่ไป๋หลังอีกครั้งทันที…  

 

 

-200 -200 -200 -200… 

 

 

เมื่อเห็นพลังชีวิตของซูหว่านฟื้นตัวมากกว่าครึ่ง แต่ตัวเขาเองกลับสูญเสียพลังชีวิตไปหลายพัน ไป๋หลังก็น้ำตาตกใน!  

 

 

อาชีพนักบวชนี่ทำให้คนปวดหัวจริงๆ!  

 

 

ในตอนที่อยู่สนาม PK อาชีพอื่นๆ ต่างไม่สามารถใช้อุปกรณ์ใดๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตได้ แต่นักบวชสามารถฟื้นฟูเลือดเพื่อช่วยตัวเองได้!  

 

 

หลังจากที่ตรวจสอบเวลาคูลดาวน์ทักษะของตัวเองแล้ว ในช่วงเวลาที่ทักษะของกำลังจะพร้อมกลับมาใช้ได้ใหม่อยู่นั้น ไป๋หลังก็พุ่งเข้าหาซูหว่านอีกครั้ง…  

 

 

ทั้งสองคนต่อสู้กันอยู่หลายนาที เมื่อมีช่องว่างซูหว่านก็รีบเพิ่มเลือดให้กับตัวเอง อีกทั้งเพราะการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วเป็นพิเศษและการรับรู้ที่เฉียบคมของเธอ จึงทำให้สามารถหลบการโจมตีของไป๋หลังได้ทุกครั้ง เมื่อรอถึงการนับถอยหลังห้านาทีสุดท้ายบนสนามประลอง ทั้งคู่ต่างยังคงมีชีวิตอยู่ ดังนั้นระบบจะตัดสินชัยชนะจากค่าพลังชีวิตที่เหลืออยู่ เท่ากับชัยชนะตกเป็นของซูเฉิงหว่านเย่ว์ไปโดยปริยาย!  

 

 

เมื่อทั้งสองถูกเคลื่อนย้ายกลับไปที่ดินแดนพันปีตรงทางเข้าของดันเจี้ยน ไป๋หลังมองซูหว่านอย่างดุร้าย “เธอโกง! มาสู้กันอีกรอบ!”  

 

 

“ลูกผู้ชายก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ นอกจากว่า นายจะยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชาย” 

 

 

ซูหว่านเลิกคิ้วมองและโน้มตัวไปตรงหน้าไป๋หลัง คราวนี้ดูเหมือนว่าไป๋หลังจะตกใจ และรีบหลบไปอีกด้าน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขวางทางเดินของตัวเองแล้ว ซูหว่านจึงรีบเดินไปด้านข้าง NPC อย่างรวดเร็ว หยิบอุปกรณ์เพื่อช่วยเปิดดันเจี้ยนออกมา ร่างซูหว่านพลันกะพริบวาบหนึ่ง นาทีถัดมาร่างก็ปรากฏขึ้นในดันเจี้ยน…  

 

 

“สมควรตาย!” 

 

 

ไป๋หลังที่ถูกทิ้งไว้ด้านนอกมองไปยังทางเข้าดันเจี้ยนอย่างเกรี้ยวกราด สุดท้ายก็ต้องหาที่นั่งลง เขาอยากจะรออยู่ที่นี่ เขาไม่เชื่อว่าซูเฉิงหว่านเย่ว์จะอยู่ในดันเจี้ยนได้ตลอดไปโดยไม่ออกมา!  

 

 

ในขณะเดียวกัน ไม่รู้มือดีที่ไหนแอบถ่ายคลิปวิดีโอตอนไป๋หลังกับซูเฉิงหว่านเย่ว์ต่อสู้กันที่สนามประลองแล้วอัปโหลดลงที่เว็บบอร์ดทางการของ ‘หลิงเสิน’ …  

 

 

ซูเฉิงหว่านเย่ว์ที่หายตัวไปหลายวันกลับมายังเซิร์ฟสี่อีกครั้ง แล้วยัง PK ชนะไป๋หลังด้วย!  

 

 

อาศัยเพียงชื่อกระทู้ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อย และกลุ่มคนที่ดูการประลองครั้งนี้อย่างละเอียด ก็จะรับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่า ในช่วงเวลาหนึ่งเกิดความผิดปกติบางอย่างขึ้นกับไป๋หลัง จากนั้นก็มีผู้เล่นไม่ประสงค์ออกนามตั้งข้อสังเกตกับทุกคนว่าระบบ ‘การป้องกันล่วงละเมิด’ นั้นเป็นอย่างไร หลังจากที่ผู้เล่นไม่ระบุชื่อตั้งข้อสังเกตไว้ คนทั้งกระทู้ต่างก็พากันเริ่มโหมกระหน่ำวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ปกติในครั้งนี้… 

 

 

ผู้เข้าชม A : [ไป๋หลังกล้าจับหน้าอกเทพธิดาของฉันงั้นหรอ! บ้าไปแล้วจริงๆ! ฉันอยากจะพูดกับเขาแค่สี่คำว่า…ให้ฉันจัดการ!] 

 

 

ผู้เข้าชม B : [เห็นด้วย +1] 

 

 

ผู้เข้าชม C : [เห็นด้วย +10086] 

 

 

ผู้เข้าชม D : [ไอ้พวกลามก! ซูเฉิงหว่านเย่ว์มีอะไรดี เทพบุตรไป๋หลัง ฉันอยากมีลูกกับคุณ!] 

 

 

ผู้เข้าชม E : […] 

 

 

โลกของ ‘หลิงเสิน’ เซิร์ฟหัวเซี่ย 6  

 

 

หลายวันมานี้ในดันเจี้ยนที่เปิดใหม่ ลูกน้องของกิลด์หย่งเย่ทุกคนต่างก็กำลังยุ่งอยู่กับการบุกตะลุยดันเจี้ยน แต่ซูรุ่ยกลับซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เก็บระดับระดับ 70 อยู่เพียงลำพังมาโดยตลอด ตอนนี้เขาสามารถใช้เวทสายน้ำแข็งได้อย่างคล่องมือและผ่อนคลายแล้ว ในมุมที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ซูรุ่ยก็ได้ทดลองเอาวิชาตัวเบาของตนเองมาผสานเข้ากับทักษะภายในเกมด้วย ผลการทดลองออกมาถือว่าไม่แย่  

 

 

หลังจากสังหารมอนสเตอร์มาเกือบทั้งวัน เมื่อดูค่าประสบการณ์ของตัวเองที่เพิ่มขึ้นมาจนใกล้จะเต็มหลอดแล้ว ซูรุ่ยถึงเทเลพอร์ตกลับไปยังกิลด์หย่งเย่อย่างพึงพอใจ 

 

 

“หัวหน้า!” 

 

 

“ลูกพี่!” 

 

 

เมื่อเห็นซูรุ่ยสวมเสื้อคลุมจอมเวทสีน้ำเงินค่อยๆ เดินเข้ามาทางประตู ผู้ได้รับการขนานนามอันยิ่งใหญ่ว่าเป็น ‘อันดับ 1ในเซิร์ฟ’ คนนี้ช่างเปล่งประกายส่องแสงทำร้ายสายตาผู้คนยิ่งนัก  

 

 

เสี่ยวโส่วปิงเหลียงผู้จัดการดูแลของในคลังกิลด์เอ่ยทักทายซูรุ่ย เมื่อเห็นใบหน้าซูรุ่ยยังคงไร้อารมณ์ใดๆ เหมือนเดิม เขาก็ไม่ได้โกรธ อีกทั้งยังเริ่มพิมพ์ข้อความลงไปในช่องสนทนาของกิลด์… 

 

 

เสี่ยวโส่วปิงเหลียง : [หัวหน้ากลับมาแล้ว! มีหัวหน้าภูเขาน้ำแข็งปล่อยรัศมีความเย็นออกมาไม่หยุดไม่หย่อนคนหนึ่งอย่างนี้ ทำให้คนรู้สึกว่าฤดูร้อนนี้มันสุดปังจริงๆ นะ!]  

 

 

ชูอวิ๋นซือเหริน : [เสี่ยวโส่ว! นายเป็นผู้ชาย มาพร่ำเพ้อบ้าผู้ชายแบบนี้มันดีแล้วรึไง] 

 

 

ชิงซิ่วจยาเหริน : [ถึงทุกคนจะเป็นสาววาย แต่ก็ไม่สนับสนุนนายให้แอบรักใต้เท้าหัวหน้าหรอกนะ! ใต้เท้าหัวหน้าสูงศักดิ์ขนาดนี้ นายแค่คนปุถุชนระดับธรรมดาเลิกเพ้อฝันซะเถอะ!] 

 

 

เสี่ยวโส่วปิงเหลียง : [ฉันผิดไปแล้ว! ฉันบังอาจไปแล้ว! ฉันก็แค่เด็กใสซื่อคิดอยากจะเป็นผู้ชายเหมือนหัวหน้าแค่นั้นเอง!] 

 

 

ชิงซิ่วจยาเหริน : [ชาตินี้นายหมดหวังแน่ ชาติหน้าก็เลือกเกิดให้ดีๆ ก่อนนะ!] 

 

 

เสี่ยวโส่วปิงเหลียง : [ชิงซิ่ว ต่อให้อยู่ห่างกันพันภูผาหมื่นธารา ฉันก็สัมผัสถึงความชั่วร้ายลึกๆ ในใจของเธอได้นะ!] 

 

 

ชิงซิ่วจยาเหริน : [เสี่ยวโส่วเด็กดี ตอนนี้พี่สาวกำลังจะกลับเมืองแล้วนะ! อีกหน่อยก็จะได้อยู่ใกล้กับใต้เท้าหัวหน้าแล้วนะ! โฮะๆๆ!] 

 

 

เสียชี่หลิ่นหราน : [พวกเธอนี่เอะอะโวยวายกันจริงๆ! เงียบๆ หน่อยได้ไหม!] 

 

 

โยวอวี้เตอะเหม่ยหยางหยาง : [พี่ชายหลิ่นหราน พี่ออกมาจากสนามประลองแล้วเหรอ! เมื่อกี้พี่ได้ดูเว็บบอร์ดทางการไหม!] 

 

 

เสียชี่หลิ่นหราน : [??] 

 

 

โยวอวี้เตอะเหม่ยหยางหยาง : [ซูเฉิงหว่านเย่ว์กลับมาแล้ว! เพิ่งจะ PK กับไป๋หลังที่สนามประลองเซิร์ฟ 4 ไปเลย!] 

 

 

เสียชี่หลิ่นหราน : [จริงเหรอ] 

 

 

เย่อวี่ : [จริงเหรอ] 

 

 

ชิงซิ่วจยาเหริน : [??] 

 

 

โยวอวี้เตอะเหม่ยหยางหยาง : [] 

 

 

ในเวลานี้นิ้วมือของเสี่ยวโส่วปิงเหลียงที่กำลังจะพิมพ์ข้อความพลันหยุดชะงัก…ฉิบหาย! หัวหน้าไม่เคยเข้ามาคุยในช่องสนทนามาก่อน คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเข้ามา!  

 

 

นี่เรื่องจริงใช่ไหม ใช่คนเป็นๆ ไหม 

 

 

ชิงซิ่วจยาเหรินกับเหม่ยหยางหยางต่างก็ตกตะลึง เสี่ยวโส่วปิงเหลียงพลันหันไปมองซูรุ่ยที่กำลังนั่งตั้งใจพิมพ์อยู่ในฐานทัพข้างๆ ตามจิตใต้สำนึก ในเวลานี้ช่องสนทนาของกิลด์ก็มีข้อความเพิ่มขึ้นมาใหม่หนึ่งข้อความ… 

 

 

เย่อวี่ : [เกิดอะไรขึ้นกับซูเฉิงหว่านเย่ว์] 

 

 

จริงๆ แล้วซือถูเย่ร่างเดิมเป็นคนเก็บตัว ดังนั้นเมื่อก่อนเขาจึงไม่เคยเข้าร่วมช่องสนทนาเพื่อพูดคุยกับคนอื่นเลย อีกทั้งซูรุ่ยก็ไม่ค่อยชอบคนเฮฮานัก หลังจากที่เขาได้เป็นซือถูเย่ เขาก็ยังคงนิสัยนี้ของซือถูเย่เอาไว้ แต่ในช่องตั้งค่าของห้องสนทนา ซูรุ่ยเอาคำว่า ‘ซูเฉิงหว่านเย่ว์’ สี่คำนี้มาเป็นคำค้นหาหลัก พอมีคนพูดถึงชื่อของซูหว่าน ช่องสนทนาของเขาก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ!