ตอนที่ 123 จวนตระกูลเฟิ่งตามหาคน! + ตอนที่ 124 ขอถอนหมั้น!

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 123 จวนตระกูลเฟิ่งตามหาคน! + ตอนที่ 124 ขอถอนหมั้น! Ink Stone_Romance

ตอนที่ 123 จวนตระกูลเฟิ่งตามหาคน!

“หลานปิดหน้าไว้นะ! ท่านรู้ว่าเป็นเสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์ของท่านได้อย่างไรเจ้าคะ?” เธอบีบถุงเม็ดบัวหวานในมือ เอ่ยถามถึงความเคลือบแคลงในใจ

อันที่จริง ขนาดมู่หรงอี้เซวียนกับซูรั่วอวิ๋นเห็นเธอก็ยังดูกันไม่ออกในแวบเดียว แล้วเขาดูออกได้อย่างไรกันเล่า?

ใครจะรู้ ว่าคำพูดนี้ของเธอจะแลกมาด้วยสายตาชิงชังของท่านผู้เฒ่า

“ปู่เห็นหลานมาตั้งแต่เด็กๆ แค่ปิดหน้าไว้ ปู่จะมองไม่ออกเลยหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น ปู่เก็บตัวฝึกฝนวิชามาเหมือนเพิ่งจะเป็นเวลาไม่กี่เดือน จะมองหลานไม่ออกได้อย่างไรเล่า?”

ได้ยินคำพูดเขา เฟิ่งจิ่วถึงจะนึกขึ้นได้ ก่อนเกิดเรื่อง ท่านผู้เฒ่ากำลังอยู่ในช่วงเก็บตัวฝึกฝนวิชา คิดๆ ดูแล้ว คงเพิ่งฝึกเข้าขั้นจึงวิ่งแจ้นออกมาหาเหล้ากิน คาดว่ายังไม่เห็นเฟิ่งชิงเกอตัวปลอมคนนั้นในจวนตระกูลเฟิ่ง

“งั้นท่านนึกออกแล้วรึเจ้าคะ ว่าอยู่บ้านไหน?”

ท่านผู้เฒ่าเฟิ่งมองนางพลางส่ายหน้า ถอนใจกล่าวว่า “เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์ ปู่เพิ่งเก็บตัวออกมาไม่กี่เดือน ไยจึงรู้สึกว่าเจ้าคล้ายจะโง่เขลาขึ้นเสียแล้ว? เจ้าเป็นหลานสาวปู่ หลานอยู่บ้านไหน แน่นอนว่าปู่ก็อยู่บ้านนั้นด้วย ยังต้องถามอีกรึ?”

เฟิ่งจิ่วกระตุกมุมปาก แม้เขาจะไม่ได้พูดอะไรผิด แต่ว่า ทำไมฟังแล้วแปลกๆ ชอบกล? หนำซ้ำ ยังเห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขานึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร!

ทั้งสองคนเดินบนถนนอยู่นานนัก เมื่อใกล้ถึงประตูจวนตระกูลเฟิ่ง เธอก็หยุดฝีเท้าลง “ท่านกลับไปเถิด! ออกมาครั้งหน้าอย่าทิ้งพวกองครักษ์ตระกูลเฟิ่งล่ะ ไม่งั้นท่านจะลืมทางกลับอีกนะเจ้าคะ”

ผู้เฒ่าตระกูลเฟิ่งฟังแล้วรู้สึกแปลกใจ มองประตูจวนตรงหน้า ก่อนจะมองนางที่หันตัวกำลังจะไป เอ่ยถามอย่างแคลงใจ “เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์ หลานไม่กลับบ้านกับปู่รึ? ยังจะไปไหนอีก?”

ขณะที่พูด ก็เร่งตามไปข้างกายนาง พลางสั่งสอนว่า “หลานคิดว่าผู้หญิงตัวคนเดียวจะออกไปโดยไม่ให้คนคอยติดตามได้อย่างไร? หากพบอันตราย ถูกคนลักพาตัวเข้าจะทำเช่นไร? ในบ้านเราเจ้าเป็นสมบัติอันล้ำค่าเพียงนี้ ถ้าถูกลักพาตัว จะให้พวกปู่ไปตามหาที่ใดเล่า?”

“ท่านไม่กลับไปรึเจ้าคะ?” เธอมองเขาด้วยสายตาผิดแปลก ในใจมีความกังวลเล็กน้อย เอาล่ะครั้งนี้ จะทำเช่นไรกับเขาดี?

ผู้เฒ่าเฟิ่งหรี่ดวงตาลงยิ้ม กล่าวอย่างเอาอกเอาใจ “หลานจะไปเดินเล่นไม่ใช่รึ? ปู่ไปเป็นเพื่อนเอง คอยปกป้องหลานได้ หนำซ้ำ ปู่เพิ่งจะเก็บตัวออกมาไม่กี่เดือน ยังไม่อยากรีบกลับเข้าบ้านขนาดนั้น”

เขาตบๆ น้ำเต้าเหล้าตรงช่วงเอว บอกว่า “เหล้านี่ก็ยังดื่มไม่หมดด้วย!”

มองประตูจวนตระกูลเฟิ่งที่อยู่เบื้องหน้าไม่ไกล แล้วมองท่านผู้เฒ่าข้างกาย เธอถอนหายใจอย่างไร้เสียง ถึงจะพาคนออกไป

ในจวนตระกูลเฟิ่ง

เมื่อเฟิ่งเซียวที่กำลังสนทนาอยู่กับมู่หรงอี้เซวียน ได้ยินรายงานของคนรับใช้ ก็ลุกยืนขึ้นมาทันที ตะคอกเสียงเข้มว่า “อะไรนะ? ท่านผู้เฒ่าออกจากการเก็บตัวโดยที่พวกเจ้าไม่รู้? ตอนนี้ทั้งนอกจวนในจวนก็หาคนไม่เจอรึ?”

คนรับใช้ก้มหัวเล็กน้อย ดวงตาไม่กล้ามองเขาตรงๆ อยู่บ้าง “ใช่ ใช่ขอรับ ข้าน้อยส่งองครักษ์ในจวนออกไปตามหา แต่ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวเลยขอรับ”

“แอบหนีออกไปหาเหล้ากินแน่ๆ!”

เฟิ่งเซียวพูดอย่างกังวลน้อยๆ มองไปที่มู่หรงอี้เซวียน “ท่านผู้เฒ่าหายไป อาต้องไปตามหา ก่อนหน้านี้ชิงเกอกลับมาก็หลบอยู่ในห้อง ต้องรบกวนเจ้าช่วยข้าเข้าไปดูนางทีนะ”

“ท่านอาเซียว ให้ข้าส่งคนไปช่วยหาด้วยไหมขอรับ?” มู่หรงอี้เซวียนลุกยืนขึ้นเอ่ยถาม

“ไม่ต้องหรอก กำลังคนในจวนมีพอนัก หนำซ้ำอาเดาว่าคงจะอยู่ในสถานที่จำพวกร้านเหล้าในเมือง พวกอาไปตามหาก็พอแล้ว”

ระหว่างที่พูด ก็ไม่รอให้เขาเอ่ยอะไรมากนัก ก่อนจะเดินก้าวยาวออกไป ตะเบ็งเสียงทุ้ม “ไปตามองครักษ์ตระกูลเฟิ่งที่อารักขาท่านผู้เฒ่ามาให้ข้า!”

………………………………

ตอนที่ 124 ขอถอนหมั้น!

เห็นเขาก้าวยาวพาคนจากไป มู่หรงอี้เซวียนก็ชะงักลงพักหนึ่ง ถึงจะเดินไปยังเรือนด้านหลัง มาถึงเรือนของเฟิ่งชิงเกอ

พอสาวใช้สองคนที่คอยอยู่ในลานบ้านเห็นเขา ก็ร้อนลนลงคุกเข่าคำนับ ขานเรียก “คารวะท่านอ๋องสามเจ้าค่ะ”

“พวกเจ้าถอยไปเถอะ!” เขายืนตรงลานบ้าน ส่งสัญญาณให้สาวใช้ทั้งสองถอยไป

ทั้งสองมองหน้ากันแวบหนึ่ง ขานตอนรับ แล้วถึงจะเดินออกไป

เฟิ่งชิงเกอในห้องได้ยินเสียงมู่หรงอี้เซวียนด้านนอก ในใจยิ่งคิดยิ่งน้อยอกน้อยใจ

“ชิงเกอ ข้ามีเรื่องอยากพูดกับเจ้า” เขายืนอยู่นอกประตู ไม่ได้เข้าไป

ประตูห้องเปิดแกร๊กออก เฟิ่งชิงเกอที่สีหน้าโกรธเคืองยืนข้างประตู “ท่านจะพูดอะไรรึเจ้าคะ? จะบอกว่าท่านไม่ได้ตั้งใจนิ่งมองข้าโดนคนตบ? หรือจะบอกว่าพอเห็นสาวน้อยงดงามที่ปิดผ้าคลุมหน้านั่นท่านก็หวั่นไหวแล้ว?”

มู่หรงอี้เซวียนมองนางด้วยท่าทางซับซ้อน ฟังคำพูดแล้ว ก็เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “ข้าขอโทษ”

ได้ยินเขาพูดขอโทษ ใจนางเต้นตึกตักชั่วขณะ มีความตกใจเล็กน้อย “ท่านพี่มู่หรง หลายเดือนมานี้ข้ามักจะรู้สึกว่าท่านห่างเหินข้าไปไกลนัก ท่านไม่ชอบข้าจริงๆ แล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

“ชิงเกอ เจ้าเป็นคนดีมาก ดีมากจริงๆ”

เขาหลับตาลง ในหัวคิดถึงสาวน้อยที่ปิดผ้าคลุมหน้าผู้นั้น กล่าวว่า “พูดได้ว่าพวกเราเป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กที่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ตลอดมาข้านึกว่าเราจะเดินเคียงกันไปชั่วนิรันดร์ ถึงกับเตรียมการไว้เมื่อหลายเดือนก่อน ว่าจะทูลขอเสด็จพ่อ ให้พวกเราได้แต่งงานกัน”

“ท่านพี่มู่หรง ท่าน…”

“เจ้าฟังข้าพูดให้จบก่อน” เขามองที่นาง แล้วพูดต่อ “แต่ช่วงไม่กี่เดือนนี้ ที่เจ้ากำลังรู้สึกเช่นนั้น ข้าเองก็รู้สึก ว่าระยะห่างของเราสองยิ่งไกลกันเรื่อยๆ ความรู้สึกหวั่นไหวยามที่อยู่ด้วยกันเช่นวันวาน ข้าก็ไม่รู้ว่ามันจางหายไปตั้งแต่เมื่อใด ข้ารู้ว่านี่มันโหดร้ายสำหรับเจ้ามาก แต่ข้าไม่อยากหลอกลวงเจ้า”

เห็นนางหลั่งน้ำตาอย่างเงียบเชียบ เขาก็ไม่อยากลืมตามอง “เดิมทีเมื่อครู่ข้าอยากบอกพ่อเจ้าว่าจะยกเลิกงานแต่งของพวกเรา แต่หลังท่านปู่ออกจากเก็บตัว ไม่รู้วิ่งหายไปไหน เขาก็พาคนไปตามหา เรื่องนี้ผ่านไปอีกสองสามวันข้าจะบอกเขาเอง”

นางโผเข้ากอดเขาไว้แน่น ฟูมฟายด้วยความตื่นตระหนก “ไม่! ข้าไม่ต้องการ! ท่านพี่มู่หรง ข้าไม่อยากถอนหมั้น ข้าชอบท่าน ชอบท่านมานานแสนนานแล้ว ท่านรู้บ้างหรือไม่?”

เขาปล่อยให้นางโอบกอด ดวงตาที่หลับลงมีความรู้สึกผิด “ชิงเกอ เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้เลย จากนี้ไปข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเช่นน้องสาว ไม่ดีกว่าหรือ?”

“ไม่! ข้าไม่อยากเป็นน้องสาวท่าน ข้าไม่ต้องการ! ท่านพี่มู่หรง ท่านบอกสิ ข้ายังทำดีไม่พอใช่หรือไม่? ข้าผิดตรงไหนใช่หรือไม่? ท่านบอกมาเถิด ข้าจะแก้ไข จะปรับปรุงตัวได้แน่นอนเจ้าค่ะ” นางเงยหน้าร้องไห้พลางมองเขาอย่างเศร้าใจ ไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

นางทั้งชอบ และรักเขามากจริงๆ จึงเรียนรู้ทุกการเคลื่อนไหว คำพูด และท่าทางของเฟิ่งชิงเกอเพื่อเขา ถึงกับยอมใช้ตัวตนเฟิ่งชิงเกอไปตลอดชีวิตก็เพื่อเขา ใช้ใบหน้านางมาเผชิญหน้า ทว่าตอนนี้… ทว่าตอนนี้กลับนึกไม่ถึง ว่าเขาจะเอ่ยปากขอถอนหมั้น?

เขาดึงแขนนางที่กอดเอวตนไว้แน่นออก มองนางอย่างรู้สึกผิด “ชิงเกอ นี่ไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ ความคิดนี้อยู่ในใจข้ามาระยะหนึ่งแล้ว จนกระทั่งวันนี้ถึงจะพูดออกมา ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจได้ สิ่งของเช่นความรู้สึกไม่อาจกล้ำกลืนฝืนทน ข้าเสียใจยิ่งนักที่ทำร้ายเจ้า”

สิ้นสุดน้ำเสียง เขาก็ไม่มองนางอีก แต่หันตัวก้าวยาวเดินออกไป

ทั่วทั้งร่างเฟิ่งชิงเกอทรุดลงนั่งบนพื้นอย่างสิ้นเสียสติ มองเงาร่างเขาที่หันตัวตีจากโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างตะลึงงัน จนนิ้วมือแทงลึกลงฝ่ามือ

………………………………