บทที่ 46
ตำรวจบางคนรีบวิ่งเข้าไปตรวจดู และไม่น่าแปลกใจ พวกเขาดึงหน้ากากออกจากหน้าของลีโอด้วยเช่นกัน
ปีก่อน พ่อค้าผู้ร่ำรวยได้เข้ามาที่เมืองเมืองตงไห่เพื่อลงทุน แต่เขากลับถูกโกงงานภาพวาดโบราณราคา 1 พันล้านเหรียญไปโดยคู่หูสองคน สำนักงานใหญ่ของกรมตำรวจได้ให้ความสนใจกับคดีนี้มาก และได้สั่งให้เมแกนสอบสวนคดีนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทว่าคู่หูนี้ฉลาด แม้ว่าเมแกนจะติดตามคดีนี้นับปี เธอก็พลาดในการตามร่องรอยของพวกเขาไปทุกครั้ง
เธอไม่คิดว่าจะสามารถจับพวกเขาได้ในวันนี้
เมแกนสั่นสะท้าน เธอกำลังจะทำผลงานชิ้นใหญ่!
ด้านเหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณที่ตอนแรกต้องการเป็นพยานให้แจ็คล้วนยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออก
พวกเขาเองก็รู้เรื่องคดีต้มตุ๋นเมื่อปีก่อนเช่นกัน พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าสองคนนี้จะเป็นตัวการ แถมยังกล้ามากพอจะโกงตระกูลยัง
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาล้วนสงสัยในตัวแดร์ริล
หน้ากากของพวกเขาเหมือนจริงมากจนไม่มีใครแยกออก แล้วเขาดูมันออกได้ยังไง?
พวกเขาไม่ได้ถามอะไรไปเพราะเมแกนอยู่ด้วย
ในตอนนั้นเอง เมแกนสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวทั้งสองคนไปในรถ จากนั้นก็เดินมาหาแดร์ริล
เมแกนกัดริมฝีปากด้วยความลำบากใจและกล่าว “แดร์ริล ฉันต้องขอโทษจริง ๆ ฉันหุนหันพลันแล่นเกินไปฉันเกือบจะพลาดโอกาสปิดคดีนี้แล้ว ขอบคุณคุณมากสำหรับความช่วยเหลือ”
แดร์ริลยิ้มและโบกมือ “ไม่เป็นไร ผมแค่ไม่อยากให้คนร้ายหนีไปได้เท่านั้นเอง”
เมแกนพยักหน้าลงและถามอย่างสงสัย “คุณรู้ได้อย่างไรว่าแจ็คสวมหน้ากากอยู่?”
แดร์ริลคิดอยู่ครูหนึ่งแล้วตอบออกมาอย่างผ่อนคลาย “มันก็ไม่มีอะไรพิเศษ ตอนที่เขากำลังดิ้นรนเมื่อกี๊ เศษหน้ากากชิ้นเล็ก ๆ มันม้วนขึ้นมาจนผมจับสังเกตได้”
ด้วยความสัตย์จริง แดร์ริลเองก็งุนงงเกี่ยวกับคำถามของเธอเช่นกัน
การปลอมตัวของแจ็คนั้นสมบูรณ์แบบ ตำหนิเพียงจุดเดียวของหน้ากากคือจุดต่อระหว่างคอ ตำหนินั้นไม่สามารถแยกได้โดยคนทั่วไป แม้แต่เขาเองก็สงสัยว่าเขาแยกออกได้ยังไงเหมือนกัน
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สายตาของเขาเฉียบคมขนาดนี้?
แดร์ริลพึมพำในใจ
เมแกนไม่ได้สงสัยในตัวเขา เธอยิ้มและกล่าว “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันต้องขอบคุณคุณจริง ๆ ฉันจะเลี้ยงมื้อค่ำคุณในอนาคตหากมีโอกาส”
หลังจากกล่าวจบ เมแกนก็จากไป
ระหว่างทางกลับไปสถานทีตำรวจ ลีโอกับแจ็คที่อยู่เบาะหลังนั้นกำลังโมโหและไม่พอใจ
พวกเขาทั้งคู่ได้วางแผนต้มตุ๋นนี้มาพักหนึ่งแล้ว พวกเขาคิดว่ามันเป็นแผนอันสมบูรณ์แบบ พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าแดร์ริลจะขัดขวางแผนการของพวกเขาในช่วงที่สำคัญที่สุด
แจ็คถามลีโอด้วยความโกรธ “หมอนั่นคือแดร์ริล ดาร์บี้ ใช่ไหม?”
ลีโอพยักหน้า “นั่นคือสิ่งที่เจ้าของร้านวัตถุโบราณคนอื่นบอก เขาคือลูกเขยของตระกูลลินดัน”
แจ็คกัดริมฝีปากและกำหมัด “เ-ี่ยเอ๊ย เราออกจากที่นี่เมื่อไหร่ พวกเราควรจะไปฆ่ามัน!”
กลับมาที่ตำหนักไข่มุก เมื่อเห็นว่าทุกคนกลับออกไป อีวอนเดินมาพร้อมรองเท้าส้นเข็ม เธอถาม “แดร์ริล คุณรู้ได้อย่างไรว่าสองคนนั้นเป็นนักต้มตุ๋น?”
แดร์ริลแสยะยิ้มและกล่าวอย่างผ่อนคลาย “ก็ง่าย ๆ ผมแค่อ่านนิยายนักสืบเยอะเท่านั้นเอง อีกอย่าง ด้วยความสัตย์จริง การแสดงของพวกนั้นมันแย่จะตายไป”
เมื่อฟังน้ำเสียงสบาย ๆ ของเขา อีวอนก็หัวเราะและถามอีก “ความรู้เรื่องหยกน้ำตาเลือดที่คุณแบ่งปันมา คุณไปรู้พวกมันมาจากไหนคะ?”
โอ้ เวรล่ะ คำถามนี้ยากแฮะ
แดร์ริลใช้เวลาคิดครู่หนึ่งและกล่าว “เกี่ยวกับเรื่องนั้น ผมได้เรียนมาจากปรมาจารย์ชราคนนึงน่ะ เพราะอย่างนั้น…”
แดร์ริลอีกอัก มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว การประเมินของแท้ของปลอมของหยกนาตาเลือดมันก็แค่งานง่าย ๆ อีวอนพลันเริ่มมีความรู้สึกบางอย่าง เสียงของเธอดูกังวล “ปรมาจารย์ชราคนนั้นชื่ออะไรคะ? แล้วเขาอาศัยอยู่ที่ไหน?” เธอไม่สามารถแยะแยะหยกน้ําตาเลือดของจริงกับปลอมได้ แต่แคร์ริลกลับบอกมันได้อย่างง่ายดาย และยังแบ่งปันความรู้มากมายให้เธอ ปรมาจารย์ชราคนนั้นที่สอนเขายิ่งต้องมีความรู้มากกว่า เธอต้องเจอปรมาจารย์คนนั้นให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม ทว่า การตอบกลับของแดร์ริลต่อมาก็ทําให้อีวอนผิดหวัง แดร์ริลตอบด้วยท่าทางขอโทษ “ผมไม่ได้เห็นเขามาหลายปีมากแล้ว ผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ที่ไหน” เมื่อได้ยินเช่นนั้น อีวอนก็ถอนหายใจ เธอไม่ต้องการจะถามอะไรอีก เธอมองแคร์ริลด้วยความรู้สึกซับซ้อน และถามอย่างสุภาพ “แดร์ริล คุณช่วยสัญญาอะไรกับฉันหน่อยได้ไหม?” “อะไรเหรอครับ?” อีวอนถามอย่างนุ่มนวล “ฉันหวังอยากเชิญคุณเป็นนักประเมินวัตถุโบราณของตําหนักไข่มุกของเรา คุณไม่จําเป็นต้องมาที่ร้านทุกวันก็ได้ คุณแค่ต้องมาเวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ เงินเดือนคือ 5 หมื่นเหรียญ ฟังดูเป็นอย่างไรคะ?”