บทที่ 127 ความกังวลและความหวาดกลัว + บทที่ 128 เป็นปัญหาของเจ้า Ink Stone_Romance
บทที่ 127 ความกังวลและความหวาดกลัว
เซียวจื่อเซวียนรู้สึกหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจเมื่อเห็นว่าหลิงหลัวเปลี่ยนไปอย่างไร หลิงหลัวหมดความสนใจในตัวนางแล้วหรือ? ไม่ นางจะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องพรรค์นั้นขึ้นแน่ เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะหนิงเมิ่งเหยา นางจะไม่ปล่อยให้เรื่องมันเป็นเช่นนี้เด็ดขาด
หนิงเมิ่งเหยามองคนที่อยู่ตรงหน้านาง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น “เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่?”
เฉียวเทียนช่างเดินเข้ามาหาหนิงเมิ่งเหยาก่อนนั่งลงข้าง ๆ นาง “ดูเหมือนว่าเซียวจื่อเซวียนกำลังวางแผนจะทำร้ายเจ้าอีกแล้ว”
“จริงหรือ?” หนิงเมิ่งเหยาถามเหมือนไม่รู้สึกอะไร
“เจ้าไม่กังวลรึ?” เมื่อเห็นนางทำท่าเหมือนเรื่องนั้นมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเอง เฉียวเทียนช่างก็อดถามขึ้นมาไม่ได้
หนิงเมิ่งเหยาพลันหันไปมองเฉียวเทียนช่างก่อนหัวเราะออกมา ทำเอาเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“เซียวจื่อเซวียนคงจะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเล่อเล่อนั้นคงไม่มีทางสาวไปถึงตัวนางได้ แต่ไหนท่านบอกข้าสิ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเรื่องนี้ถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน แล้วหยางซิ่วเอ๋อร์ก็เอาป้ายหยกออกมาแสดง?” หนิงเมิ่งเหยาถามพร้อมกับยิ้มไปด้วย
เฉียวเทียนช่างรู้สึกว่าเขาคงกังวลเรื่องนี้มากจนเกินไป เขาเองก็เป็นห่วงหญิงสาวผู้นี้ แต่ใครจะไปรู้ว่านางนั้นจะไม่สนใจในสิ่งที่เซียวจื่อเซวียนทำเลยสักนิดเดียว
“เทียนช่าง ข้ามีคำถามเพียงคำถามเดียวที่อยากถามเจ้า พวกคนเบื้องบนนั่นจะติดตามเรื่องนี้ต่อหรือไม่?”
“แน่นอน” ถ้าหากมันเป็นเพียงแค่คดีปล้นกันธรรมดาๆ พวกเขาก็คงจะไม่สนใจเป็นแน่ แต่ว่าคดีนี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเช่นนั้น จริงๆ แล้วมันเป็นการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างขุนนางกับโจร และผู้ที่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ก็คือท่านแม่ทัพของแผ่นดิน นี่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่นัก
หนิงเมิ่งเหยายิ้ม “ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วยังมีอะไรที่ข้าต้องเป็นกังวลด้วยหรือ?”
ในเมื่อเบื้องบนจะจัดการติดตามคดีที่เกิดขึ้นนี้ต่อเอง ดังนั้นนางจึงไม่ต้องลงมือทำอะไรเองเลยสักอย่าง มิหนำซ้ำตอนสุดท้ายนางยังสามารถบรรลุตามผลลัพธ์ที่ตนต้องการได้อีก จะมีอะไรดีเท่านี้อีกหรือ?
เฉียวเทียนช่างทนไม่ไหวอีกต่อไป เขายื่นมือไปบีบแก้มของนาง “ถ้าหากพวกเขารู้ว่าสิ่งที่เจ้าพยายามทำอยู่คืออะไร ข้ากลัวว่าเจ้าอาจจะเจอปัญหาหนักก็ได้”
หนิงเมิ่งเหยาตีมือของเฉียวเทียนช่างเป็นการบอกให้ปล่อยแก้มของตน แล้วนางก็ขึ้นเสียงใส่ “อย่ามาบีบหน้าข้า มันไม่ใช่โคลนให้เจ้าบีบเล่นนะ”
เฉียวเทียนช่างไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มก่อนถามขึ้น “เจ้าไปเปรียบตัวเองกับดินโคลนได้อย่างไร?”
“เอาล่ะ ไปที่อื่นได้แล้ว” หนิงเมิ่งเหยาโบกมือไล่เขา
ชายผู้นี้มาที่นี่เพียงเพราะอยากแกล้งนาง แต่นางนั้นยุ่งเกินกว่าจะเอาเวลาไปเล่นกับเขาได้
ระหว่างนั้น หยางซิ่วเอ๋อร์รอคอยเวลาอยู่ที่บ้าน ในตอนแรกนั้น ไม่มีอะไรให้นางต้องเป็นกังวลเลยสักนิด ทว่าเพียงแค่นางทึกทักว่าทุกอย่างคงเป็นไปได้ด้วยดี จู่ ๆ ก็มีคนสองคนเข้ามาในหมู่บ้าน ใบหน้าของนางซีดเผือด
คนพวกนั้นล้วนแต่งกายดูดี และมีแม้กระทั่งข้ารับใช้รุ่นหนุ่มสาวติดสอยห้อยตามมาด้วยอีกสองสามคน นางไม่ได้ออกไปดู แต่นางก็ได้ยินว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อสืบคดีบางอย่าง
เมื่อได้ยินดังนั้น เหงื่อเย็นๆ ก็ไหลลงจากแผ่นหลังของนาง ข้านึกว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเสียอีก? เหตุใดจู่ๆ คนพวกนี้จึงโผล่มาที่นี่ได้? พวกเขาไม่ใช่แม้กระทั่งคนของท่านเจ้าเมืองด้วยซ้ำ แต่พวกเขาดูเหมือนคนมีฐานะจากที่ไหนสักแห่งซึ่งคงมีแต่เทพบนสวรรค์เท่านั้นที่รู้
หลังจากได้ข่าวที่นางต้องการ หยางซิ่วเอ๋อร์ก็เดินโซซัดโซเซกลับบ้านอย่างรวดเร็ว นางขุดป้ายหยกขึ้นมาโดยไม่สนแม้กระทั่งสายตาของนางหลัวที่มองมา
เมื่อกำสิ่งนั้นไว้ในมือแน่น หยางซิ่วเอ๋อร์ก็รู้สึกใจเย็นขึ้น นางมองป้ายหยกอย่างเย็นชา หากพวกเขาไม่อยากช่วยนางจริงๆ เช่นนั้นนางก็จะปฏิบัติต่อพวกเขาให้เหมือนกับที่นางโดน นางจะไม่ปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน
ณ บ้านของหยางจู้ คนสองคนกำลังซักถามหยางเล่อเล่ออยู่ เมื่อเขาสังเกตเห็นเฉียวเทียนช่างซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ดวงตาของพวกเขาก็ทอแสงแวววับ “อย่ากังวลไปเลย พวกเรามาที่นี่เพียงเพราะอยากถามเกี่ยวกับเรื่องการปล้นเท่านั้น”
หยางเล่อเล่อมองหนิงเมิ่งเหยา ในดวงตามีความกังวลใจฉายชัดอยู่บนนั้น หลังจากได้รับการพยักหน้าอนุญาตจากนาง นางก็รู้สึกโล่งใจ
“ท่านอยากรู้อะไรหรือ?”
“เจ้าจำอะไรเกี่ยวกับพวกโจรได้บ้าง?”
หยางเล่อเล่อครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ก่อนนางจะส่ายศีรษะ “ใบหน้าของพวกมันล้วนแต่ถูกผ้าดำปิดเอาไว้ แต่จะว่าไป จริงๆ แล้วด้านหน้าของข้ามีเกวียนราคาแพงสองเล่มผ่านถนนเส้นนั้นไปก่อนข้า”
ในตอนแรกไม่มีผู้ใดคิดว่าเรื่องนี้มันผิดปกติ แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็รู้สึกว่ามันมีบางอย่างพิกลๆ อยู่ ทั้งที่มีเกวียนราคาแพงสองเล่มผ่านไปก่อน แต่ฝูงโจรกลับไม่โจมตีพวกเขา ทว่ากลับเลือกที่จะมาปล้นเกวียนธรรมดาๆ แทน และผู้ที่อยู่บนนั้นก็คือสาวชาวบ้านธรรมดาผู้หนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้มันดูไม่ใช่เรื่องปกติเลย
“นอกเหนือจากนี้ มีอะไรที่ดูแปลกๆ บ้างหรือไม่?” ชายทั้งสองลอบมองกันเล็กน้อย ก่อนคิ้วของพวกเขาจะขมวดเข้าหากัน
หยางเล่อเล่อส่ายหน้า “ไม่แล้ว แต่พี่เหลยอันน่าจะรู้อะไรอยู่บ้าง หลังจากที่เขาช่วยข้าไว้ เขาก็มองคนพวกนั้นด้วยสายตาแปลกๆ มิหนำซ้ำ ยังเจอบางสิ่งจากตัวของพวกโจรอีกด้วย”
บทที่ 128 เป็นปัญหาของเจ้า
เฉียวเทียนช่างมองสีหน้าที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของชายทั้งสองก่อนกล่าวว่า “ข้าจะบอกให้เหลยอันมาที่นี่ ไว้เขามาถึงแล้วพวกเราค่อยคุยกันต่อก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้รบกวนตามข้ามาที่บ้านก่อน”
ผู้ที่มาสืบคดีมองหน้ากันและกัน แล้วก็พยักหน้า “ดีเหมือนกัน เช่นนั้นเรารอให้เหลยอันมาก่อนดีกว่า”
หนิงเมิ่งเหยามองพวกเขาออกไป ก่อนเดินไปข้างๆ หยางเล่อเล่อแล้วแตะไหล่นาง “อย่ากังวลให้มากไป ไม่มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรอก”
หยางเล่อเล่อพยักหน้าเงียบๆ “อืม เหยาเหยา พี่เหลยอันจะมาจริงๆ หรือ?”
หนิงเมิ่งเหยายิ้มบาง นางหยิกแก้มของหยางเล่อเล่อแล้วถาม “เจ้าอยากเจอเขาขนาดนั้นเลยหรือ? เจ้าชอบเขาหรือไร?”
ใบหน้าของหยางเล่อเล่อขึ้นสีแดงระเรื่อ นางผลักมือของหนิงเมิ่งเหยาออกก่อนมองนางอย่างเหนียมอาย “เจ้าพูดอะไร? ข้าก็แค่อยากขอบคุณเขาหรอก อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนช่วยข้าเอาไว้” หนิงเมิ่งเหยาหัวเราะเมื่อเสียงของนางฟังดูเบาลงเรื่อยๆ
“งั้นหรือ เป็นแบบนั้นนี่เอง”
“ข้า… ข้าต้องไปแล้ว” หยางเล่อเล่อผุดลุกขึ้นก่อนหนีเข้าห้องตัวเอง
ด้วยรู้สึกทึ่งที่หยางเล่อเล่อสามารถหนีไปได้อย่างรวดเร็ว หนิงเมิ่งเหยาจึงหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ นางหยางและนางเฉียวซึ่งยืนอยู่ด้านข้างเองก็ขบขันการกระทำของหญิงสาวทั้งสองเช่นกัน
พวกนางรู้สึกอยู่เหมือนกันว่าทั้งสองดูเป็นคู่ที่น่าจะเหมาะสมกัน ดังนั้นจึงเห็นดีเห็นงามไปด้วย อีกอย่าง เหลยอันเองก็เป็นผู้ชายที่ดี
หลังจากเฉียวเทียนช่างพาชายทั้งสองมาถึงบ้านของตน เขาก็หันไปหาพวกเขา “พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนระดับสูงพวกนั้นจะสั่งการให้เจ้าพวกนี้มาที่นี่เพียงเพื่อถามคำถามง่ายๆ แค่ไม่กี่คำถาม
“ท่านแม่ทัพ”
“พอแล้ว ในหมู่บ้านแห่งนี้ ข้าเป็นเพียงพรานป่าธรรมดาๆ คนหนึ่ง” เฉียวเทียนช่างนิ่วหน้าก่อนสะบัดมือบอกให้พวกเขาลุกขึ้น
“ท่านแม่ทัพ ฮ่องเต้ต้องการให้ท่านจัดการปัญหานี้ขอรับ” ทั้งสองคนมองหน้ากัน ก่อนหนึ่งในนั้นจะก้าวออกมาข้างหน้าและอธิบายแก่เฉียวเทียนช่าง
เฉียวเทียนช่างหายตัวไปหลังจากช่วยฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์ และไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าเขาหายไปไหน พวกเขาเองก็รู้สึกแปลกใจเมื่อตัวเองถูกส่งตัวมาที่นี่ ทั้งที่คดีซึ่งพวกเขาต้องจัดการแก้ไขนี้มันเป็นเพียงคดีที่เกิดในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น ทว่าเมื่อได้พบเฉียวเทียนช่าง พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าจุดประสงค์ที่พวกเขามาคืออะไร
“ข้าไม่มีวันตอบตกลง ตอนนี้ข้าไม่อยากสนใจเรื่องพวกนั้นหรอก แล้วก็เรื่องเหตุร้ายที่เกิดขึ้นนี้ พวกเจ้าก็จัดการเสีย” เฉียวเทียนช่างไม่อยากรับช่วงต่อในการสืบคดีนี้
เขาเข้าใจในจุดประสงค์ของฮ่องเต้ดี ถ้าหากเขาเข้ามาทำคดีนี้ต่อ สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้หลังจากนี้นั้นจะกลายเป็นปัญหาของเขาไปด้วยเช่นกัน
หากเป็นเช่นนั้น มันก็จะขัดต่อความตั้งใจในตอนแรกของเขา ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
“แต่…” ชายคนที่สองพยายามจะกล่าวอะไรต่อ แต่เฉียวเทียนช่างขัดขึ้นมาก่อน
“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ถ้าหากพวกเจ้ายังไม่สามารถแม้แต่จะจัดการปัญหาเช่นนี้ได้ เช่นนั้นข้าก็เริ่มสงสัยแล้วว่าพวกเจ้าทำอะไรเป็นบ้าง” เฉียวเทียนช่างมองพวกเขาอย่างเย็นชา
ชายทั้งสองเป็นคนที่เขาไว้ใจ เพียงเพราะเหตุนี้คนพวกนั้นก็เลยส่งทั้งสองมาที่นี่เพื่อจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าหากเขาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วยตนเอง เช่นนั้นแล้วเขาก็ควรจะพูดอะไรเพื่อให้ลูกน้องที่จะมาอยู่ใต้อาณัติของตนเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียก่อน
เมื่อได้ยินดังนี้ ทั้งสองก็ก้าวถอยหลังกลับไป คนพวกนั้นช่างรนหาที่ตายแท้ๆ ถึงได้คิดจะให้เฉียวเทียนช่างจัดการเรื่องพวกนี้แทนตนเอง
“พวกเราเข้าใจแล้วขอรับ พวกเราจะจัดการเรื่องนี้ให้ดี”
เฉียวเทียนช่างพยักหน้าด้วยความพอใจ “ดี เหลยอันน่าจะมาถึงพรุ่งนี้ ดังนั้นพวกเจ้าค่อยคุยกันเรื่องนี้ต่อ แต่อย่ามาก่อกวนข้าล่ะ” เขานั้นยุ่งแสนยุ่ง และคงไม่มีเวลาที่จะมาเสวนากับพวกเขานัก
“เข้าใจแล้วขอรับ” ทั้งสองรับปากอย่างไม่มีทางเลือก
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เห็นได้ชัดว่าควรจะให้เฉียวเทียนช่างเป็นผู้จัดการ แต่เหตุใดจึงกลายเป็นว่าพวกเขาต้องมาจัดการแทนกัน?
“ถ้าเจ้ามีอะไรอยากพูดก็พูดออกมา อย่าบ่นแค่ในใจ” เฉียวเทียนช่างหรี่ตามองคนทั้งสองซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าและขู่เสียงเย็น
บรรยากาศอันทรงพลังจากเขาทำเอาทั้งสองยืนตัวตรงแทบจะในทันที “ไม่มีขอรับ…พวกเราไม่มีอะไรจะพูดขอรับ” “ใช่ขอรับ ไม่มีเลยขอรับ”
“เช่นนั้นก็กลับไป”
ทั้งสองอ้าปากของตน อยากจะถามเขาว่าทำไมไม่ให้พวกเขาพักที่นี่ในเมื่อบ้านของเขาก็ยังมีห้องว่างอยู่
ทว่าเฉียวเทียนช่างไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้กล่าวอะไร เขาทำเพียงเดินนำทั้งสองออกไปนิ่งๆ
หนิงเมิ่งเหยากลับมาในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นเขาที่หน้าประตู นางก็ถามขึ้น “เจ้ามายืนทำอะไรอยู่ที่หน้าประตู?