ทำไมนักบุญคนตัดไม้ถึงปรากฎตัวที่นี่ แท่นสังเวยที่เขาใช้ดูเหมือนจะถูกตระเตรียมเอาไว้เนิ่นนานแล้ว หรือว่าจะเป็นผู้คนในโลกแห่งนี้ที่อัญเชิญเขามา
ฉินมู่จิตกระเจิดกระเจิง แท่นสังเวยได้ถูกฝังเอาไว้ใจกลางสนามรบ ดังนั้นเมื่อกองทัพสองฝ่ายปะทะกัน เลือดและเนื้อก็จะกระตุ้นให้มันทำงาน อัญเชิญนักบุญคนตัดไม้มา
เห็นได้ชัดว่านี่คือแผนที่ตระเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า!
ฉินมู่พลันระลึกได้ถึงที่ผู้สันโดษชิงโยวบอกว่านักบุญคนตัดไม้ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเมื่อหนึ่งเดือนก่อน และออกไปพร้อมกับขวานของเขา นักบุญคนตัดไม้คงจะได้รับข่าวคราวบางอย่าง อันทำให้เขาฟื้นตื่นขึ้นมาจากการการหลับใหลเพื่อใช้พิธีบูชายัญเพื่อจุติลงมายังโลกใบนี้
ฉินมู่ขัดขวางการโจมตีของศัตรูจากข้างหลังเขา และประตูน้อมสวรรค์ก็พลันขยายใหญ่ขึ้น ร่างของเขาปั่นหมุน และประตูน้อมสวรรค์ก็ปั่นหมุนตามไปด้วย พลันส่งดวงวิญญาณมากมายเข้าไปในแดนใต้พิภพก่อนที่พวกเขาจะพลันได้ร้องสักแอะ
ฟึ่บบบ!
เสือเทพยดาที่กำลังแบกนักบุญคนตัดไม้กระโดดลงมาจากแท่นสังเวยและมุ่งตรงไปยังฐานทัพศัตรู เขามองไปที่ฉินมู่ด้วยความตกตะลึง และเสียงอันกึกก้องสะท้านโลกก็ดังมา “นายท่าน นั่นดูเหมือนจะเป็นชนรุ่นหลังของท่านนะ!”
จากบนหลังเสือ นักบุญคนตัดไม้มองกลับไปและเห็นฉินมู่ต่อสู้กับฝูงมารฟ้าด้วยประตูน้อมสวรรค์ สายตาของเขาเป็นประกายแสง และส่องสว่างพื้นที่รอบๆ แท่นสังเวย
“แปลกจริง เขามายังสวรรค์ไท่หวงได้อย่างไร….”
นักบุญคนตัดไม้ละสายตาไป ไม่ว่าเสือเทพยดาจะผ่านไปที่ใด ฝูงมารและม้าศึกก็จะถูกซัดกระเด็น เมื่อเสือเทพยดาคำราม คลื่นเสียงก็พุ่งซัดไปข้างหน้า เป่ามารจำนวนมากให้กระเด็นไปบนอากาศ เมื่อฉินมู่เห็นภาพนี้ พุงใหญ่โตเกินเหตุของกิเลนมังกรก็พุ่งผ่านความคิดของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉานักบุญคนตัดไม้ เสือเทพยดานี้เรียกเขาว่านายท่าน ดังนั้นก็น่าจะเป็นสัตว์ขี่ของเขา เขานี่ดูยิ่งใหญ่เกรียงไกรจริงๆ!
บนหลังเสือ นักบุญคนตัดไม้เงื้อขวานในมือ และผ่าทักษะเทวะของมารเทวะที่พวยพุ่งเข้ามาใส่เขา ด้วยการกระโจนขึ้นลงไม่กี่ที เสือเทพยดาก็พาเขาเข้ามาถึงฐานทัพของศัตรู
จากระยะเวลาที่เสือเทพยดากระโจนลงไปจากแท่นสังเวยถึงตอนที่เขาไปถึงค่ายทัพศัตรู นั้นเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ
นักบุญคนตัดไม้เงื้อขวานยักษ์ของเขา และด้วยการตวัดมือขึ้นลง ศีรษะทั้งสี่ของมารเทวะในค่ายทัพศัตรูก็ปลิวกระเด็นไปก่อนที่อีกฝ่ายจะทันลุกขึ้นมาเสียอีก
“ฮา ติ ลา!”
มารเทวะอื่นๆ พุ่งเข้ามาและเข้าล้อมเสือเทพยดา นักบุญคนตัดไม้ซึ่งนั่งอยู่บนหลังของมันเงื้อขวานยักษ์ขึ้น แสงของมันพวยพุ่งออกไปราวน้ำหลาก
คัมภีร์มารฟ้ามหาศึกษิต! ไม่สิ ที่เขาขับเคลื่อนอยู่นั้นน่าจะเป็นวิชากายาจ้าวแดนดินสามอมตะฉบับสมบูรณ์!
ฉินมู่ถูกฝูงมารฟ้ารุกไล่ถอยไปอย่างต่อเนื่อง และจำต้องถอยขึ้นไปบนแท่นสังเวย ขณะที่ทำเช่นนั้น เขาก็สังเกตเห็นการโจมตีของนักบุญคนตัดไม้จากหางตา ปฏิภาณความเข้าใจของเขาต่อวิชากายาจ้าวแดนดินสามอมตะ เหนือล้ำกว่าข้ามากมายนัก!
นักบุญคนตัดไม้มิได้เพียงแค่กวัดแกว่งขวาน มืออีกข้างของเขายังร่ายทักษะเทวะทุกชนิดจากคัมภีร์มารฟ้ามหาศึกษิต แต่ทว่ามันมิใช่เพียงแค่ทักษะเดียว แต่เป็นการประกอบกันของทักษะเทวะที่แตกต่าง เหมือนกับพลังฝ่ามือดาวสวรรค์คลุมนภาของหลี่เทียนซิง หลังจากตรึกตรองเรียนรู้ทักษะเทวะเป็นร้อยชนิดสำเร็จ เขาก็ประกอบเข้าด้วยกับเป็นทักษะเทวะแบบนั้น
หากว่าเป็นผู้อื่น คงไม่มีทางมองออกว่าทักษะเทวะของเขาคือคัมภีร์มารฟ้ามหาศึกษิต แต่ทว่าในฐานะจ้าวลัทธิมารฟ้า ฉินมู่ย่อมจดจำมันได้ในทันที
รอบๆ นักบุญคนตัดไม้ เขตพลังลึกลับมากมายพวยพุ่งออกมาและเป่ามารเทวะทั้งหลายกระเด็นไป ในพริบตานั้น ขวานยักษ์ของเขาพลันพุ่งเข้าใส่มารเหล่านั้นและสะบั้นศีรษะของพวกเขาทั้งหมด พละกำลังการต่อสู้ของมันร้ายกาจเป็นอย่างยิ่ง
ฉินมู่อยากจะสังเกตดูทักษะเทวะของนักบุญคนตัดไม้อย่างละเอียด แต่ทว่าฝูงมารฟ้าเข้ามาห้อมล้อมเขาไว้มากขึ้นทุกที หลังจากที่นักบุญคนตัดไม้ถูกอัญเชิญมา เขาก็บุกทะลวงเข้าไปในค่ายทัพศัตรูและสังหารมารเทวะทั้งหมด เขาเมินเฉยกองทัพฝูงมารฟ้าที่เหลือ ดังนั้นไพร่พลมารมากมายจึงยังไหล่บ่าเข้ามาในสนามรบและสังหารอริศัตรู
ในตอนนั้น ฝูงมารฟ้ายังท่วมท้นเข้ามาอีก แต่ผู้ฝึกวิชาเทวะข้างหลังแท่นสังเวยก็ถูกผลักให้รุกไปข้างหน้าเช่นกัน เสียงอึกทึกของการต่อสู้ดังสะท้านพิภพ
ในการต่อสู้ขนาดใหญ่ของทักษะเทวะ พลังของคนผู้เดียวไม่สลักสำคัญ หากว่าใครวอกแวกเสียสมาธิ พวกเขาก็อาจจะตกตายใต้การโจมตีของศัตรูในเมื่อใดก็ได้
ฉินมู่ไม่อาจเสียเวลาไปมากกว่านี้ และละทิ้งความกังวลทั้งหมดเพื่อต่อสู้ด้วยทุกอย่างที่ตนมี
กำลังฝีมือของฝูงมารฟ้าแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาด วิชาฝึกปรือและทักษะเทวะระหว่างเหล่ามารและสันตินิรันดร์นั้นแตกต่างกันคนละขั้ว ฝ่ายแรกนั้นอาจจะขาดความเพริศแพร้วพิสดารในกระบวนท่า แต่พวกเขาโดดเด่นเหนือธรรมดาในด้านพลังวัตร ฝูงมารฟ้ามีเอกลักษณ์โดดเด่นตรงนี้
กายเนื้อของพวกเขาแตกต่างจากเผ่ามนุษย์ เผ่าทั้งแปดของพวกเขาเป็นเช่นนี้ กบเกล็ดปลา ยักษ์แมกม่า เด็กหนุ่มหล่อเหลา สตรีหางแมงป่อง สตรีแปดกรงเล็บ สัตว์ประหลาดแปดหนวดราก และสัตว์ประหลาดมืออสรพิษ
มารเหล่านี้มีสายเลือดสูงชั้นกว่า และย่อมเป็นเครื่องจักรสังหารที่มีพลังการต่อสู้อันแข็งแกร่ง ผู้ที่อยู่รอบๆ ฉินมู่ล้วนแต่เป็นมารชั้นเลิศและไม่มีใครที่อ่อนแอไปกว่าเขาสักคน
ฝูงมารฟ้ากรูกันเข้ามาบนแท่นสังเวยมากขึ้นทุกที และก็มีมากถึงสิบกว่าคน พวกเขาเห็นว่าประตูน้อมสวรรค์ข้างหลังฉินมู่นั้นพิสดารอย่างเหลือแสนจึงหลบเลี่ยงมันพลางประสานกำลังกลุ้มรุมโจมตี
ฉินมู่ต่อสู้กับพวกเขาด้วยพละกำลังทั้งหมด และกระบี่แปดพันเล่มก็พุ่งฉวัดเฉวียนไปมา แสงกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนท่วมท้นเข้าไปเมื่อกระบี่บินพุ่งกรูกันไปราวฝูงแมลงร้าย ในเสี้ยวพริบตา ภูเขาและแม่น้ำก็ปรากฏ ก่อขึ้นมาเป็นกระบี่ย่างไปในทิวทัศน์
บนแท่นสังเวย ภูเขามากมายเหยียดยาวไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด น้ำตกร่วงลงมา และแม่น้ำสายยาวก็ไหลรี่ การต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวเมื่อครู่หายวับไปโดยไร้ร่องรอย
กระนั้นในพริบตาถัดมา โลหิตก็หลั่งไหลออกมาจากภาพภูเขาและแม่น้ำเหล่านี้ อาบน้ำทิวทัศน์ให้เป็นสีแดงฉาน
จากนั้นพวกมันก็แหลกทำลาย และยักษ์แมกม่าก็เหวี่ยงค้อนของมันหลังจากทะลวงผงาดขึ้นมาจากภูเขาและแม่น้ำ
ฉินมู่ล่าถอยพลางยกมือขึ้นสูง กระบี่ไร้กังวลลอยพุ่งไป และกระบี่ทั้งแปดพันเล่มที่พุ่งตามมา ในพริบตานั้นพวกมันทั้งหมดหลอมรวมเข้ากับกระบี่ไร้กังวล
ยักษ์แมกม่าฟาดลงมาด้วยค้อนของเขา และกระแสอากาศอันน่าสะพรึงกลัวก็พวยพุ่งออกไปทุกทิศทาง กวาดซัดซากศพจำนวนไร้ประมาณรอบๆ แท่นสังเวยขึ้นไปบนอากาศ
ฉินมู่ถือกระบี่ด้วยสองมือต่อต้านค้อนของยักษ์แมกม่าอันปั่นหมุนด้วยความเร็วประดุจพายุ มีเพียงเสียงเคร้งๆ ดังมาไม่หยุดหย่อนจากการปะทะของพวกเขา แต่ฉินมู่ตัวสั่นเทิ้มอย่างแรงเมื่อเขาถูกซัดกระเด็นขึ้นไปบนอากาศ
ในจังหวะนั้น ยักษ์แมกม่าถูกผ่าออกเป็นสองเสี่ยงพร้อมกับค้อนของตน!
ไม่ทันที่ฉินมู่จะตกลงถึงพื้น เขาก็เห็นสตรีแปดกรงเล็บอ้ากรงเล็บของนางกว้าง ศพบนอากาศถูกระเบิดแยกออกจากกัน และโลหิตกระเซ็นท่วมรอบทิศทาง ถล่มทับเด็กหนุ่ม
ฉินมู่สะบัดกระบี่ไร้กังวล และมันก็แยกตัวออกจากกัน กระบี่แปดพันเล่มเข้ามาประกอบใหม่เป็นมีดยาวสองเล่มอันไขว้กันอยู่ แสงมีดสร้างบางสิ่งอันดูคล้ายดวงจันทร์บนท้องฟ้า
รังสีมีดแสงจันทร์หลอมรวมเป็นหนึ่งและพลันระเบิดออก รัศมีแสงพุ่งลงมาราวดาวตก
ฟิ้ววว!
หมอกเลือดถูกผ่าออก และสตรีแปดกรงเล็บก็เห็นแสงดาว กรงเล็บของนางแตะลงไปบนแสงดาวนั้น เสียงโลหะปะทะดังมา แสงจันทร์และแสงดาวทะลวงผ่านร่างของนาง แยกร่างนั้นเป็นชิ้นๆ
กระบวนท่าที่หกแห่งเพลงมีดเชือดของคนแล่เนื้อ มีดยาวห้อยใต้แสงจันทร์สกาว ท่ามกลางหมู่ดาวม้าสวรรค์ตื่นตระหนก
ฉินมู่คลายมือที่จับกระบี่และมีดยาวสองเล่มก็ลอยขึ้นไปแยกตัวออกเป็นกระบี่บินจำนวนนับไม่ถ้วนที่บินวนรอบตัวเขาเพื่อปัดป้องมีดมารนับหมื่นอันยิงพุ่งมาทางเขา
พลิกฝ่ามือเพื่อโจมตีด้วยมุทรา ยอดฝีมือมีดดาบแห่งเผ่ามารที่ถูกโจมตีครางเสียงหนักก่อนระเบิดเป็นชิ้นๆ
ตูม ตูม ตูม
สายฟ้าครืนครันและระเบิดตลอดระยะสิบลี้ ไม่ว่ามือหยินหยางพลิกสวรรค์ของฉินมู่จะไปที่ใด ผู้คนและม้าศึกก็จะถูกพลิกกระเด็น
ด้วยมุทราอีกอย่างจากมือหลักของเขา น้ำแข็งก็แช่เย็นแผ่นดินกว่าสิบลี้ นิ้วชี้แตะลงไปที่ใจกลางหว่างคิ้ว และกระบี่บินก็พุ่งไปตามเส้นทางของมือหยินหยางพลิกสวรรค์เป็นเกลียวตรงไปข้างหน้าและทำให้เลือดไหลนองเป็นท้องธาร!
ท่วงท่ากระบี่เกลียว!
ทันใดนั้น งูเหลือมยักษ์สองตัวก็เลื้อยพันรอบร่างของฉินมู่และบีบรัดอย่างบ้าคลั่ง สตรีอสรพิษกระโดดขึ้นไปบนอากาศและเหวี่ยงซัดใส่เขาด้วยมือของนางที่เป็นงูเหลือม
ฉินมู่เงยศีรษะขึ้น และรังสีแสงสองเส้นยิงออกจากดวงตาของเขา รูเปิดทะลุที่หน้าอกของสตรีอสรพิษ ปลิดชีพนาง แต่แขนงูเหลือมของนางก็ยังคงซัดเขาขึ้นไปบนอากาศด้วยเช่นกัน
ข้างใต้เขา สตรีอัปลักษณ์พลันกระแทกน้ำเต้าข้างหลังนาง และจุกน้ำเต้าก็เปิดออก ด้วยเสียงฟู่ ปราณมารสีแดงเลือดก็พวยพุ่งออกมาและยิงไปยังฉินมู่
“กายามังกรแท้เจ้าแดนดิน!” ฉินมู่ตะโกนออกไปอย่างดุดัน และดิ้นหลุดออกจากแขนงูเหลือม ด้วยมุทราหนึ่ง รูปเงาของภูเขาไฟก็พลันปรากฏข้างหลังเขา มันตั้งตระหง่านและพลันปะทุพวยพุ่ง!
ฝ่ามือไฟนรกสนามแม่เหล็กคลั่ง!
เขาฟาดฝ่ามือลงไปในทิศทางใต้ตัว และปราณมารสีแดงเลือดก็ถูกแผดเผาเป็นจุณพร้อมกับสตรีอัปลักษณ์นั้น
“ทักษะเทวะอัศจรรย์! ท่ามกลางผู้ฝึกวิชาเทวะขั้นเจ็ดดาว เจ้าสามารถจัดอยู่ในสิบอันดับได้!”
ฉินมู่ตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินเสียงแข็งทื่อ เขามองลงไปข้างล่างและเห็นแม่ทัพใหญ่แห่งฝูงมารฟ้าวิ่งขึ้นมาบนแท่นสังเวยด้วยใบหน้าที่เงยขึ้นมามองเขา
แม่ทัพใหญ่มารฟ้าตนนั้นมีธงใหญ่ปักไว้ที่หลัง ระหว่างที่พุ่งทะยานขึ้นมา ร่างกายของเขาพลันสั่นเทิ้ม และศีรษะทั้งสี่ พร้อมกับแขนทั้งแปดก็ผุดโผล่ขึ้นมา เขาถือมีดยาวหลายเล่มอันไขว้ซึ่งกันและกัน ฝีเท้าของเขาแปรเปลี่ยนไปมาอย่างคาดเดาไม่ได้เมื่อเขาสังหารผู้ฝึกวิชาเทวะที่กีดทางมา
“ฉายส่องจิตวิญญาณดั้งเดิม!”
แม่ทัพใหญ่มารฟ้าตบหลังมีดเข้ากับศีรษะของตนเอง และจิตวิญญาณดั้งเดิมอันสูงสิบห้าวาก็กระโจนออกจากร่างกายของเขา มันร้องคำรามไปยังท้องฟ้า และยกมือของมันขึ้นเพื่อผนึกมุทราซัดไปยังฉินมู่ มันใหญ่เกือบจะครึ่งไร่ ด้วยรอยประทับต่างๆ ที่ไขว้ขัดสลับไปมาและเผยแสดงรอยประทับมารทุกชนิดที่ฉายแสงโชนก่อนที่จะหรี่ลงไปเป็นระยะ
รอยประทับมารเต้นเร่า แต่ไม่ทันที่มันมาถึงตัวเขา อักษรรูนมารอันดูเหมือนโซ่ปรากฏขึ้นมารอบๆ เขาและรัดพันร่างเขาเอาไว้
กระนั้นเขาก็คงไม่อาจต้านทานรับพลังของฝ่ามือได้!
กระบี่ไร้กังวลและกระบี่บินเล่มอื่นๆ กำลังบินกลับมา แต่พวกมันอยู่ห่างไกลเกินกว่าที่จะช่วยชีวิตเขา
ในจังหวะนั้น ฉินมู่เห็นห้านิ้วของนักบุญคนตัดไม้รวบเข้าด้วยกัน และทักษะเทวะทุกประเภทจากคัมภีร์มารฟ้ามหาศึกษิตก็หลอมรวมเป็นหนึ่ง พลานุภาพของมันแผ่พุ่งออกไป และเป่ามารเทวะตนหนึ่งให้กระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แรงบันดาลใจพุ่งเข้าชนฉินมู่ และเขาก็รวบนิ้วทั้งห้าเข้าด้วยกันเช่นกัน
วิชากายาจ้าวแดนดินสามอมตะของเขาพลันโคจรในแบบแผนอันแปลกประหลาด ทารกวิญญาณและดวงวิญญาณของเขาหลอมรวมเข้าด้วยกัน ธาตุทั้งห้าฉายแสงส่องอย่างเจิดจ้า หกทิศรวมเป็นหนึ่ง เจ็ดดาวเหินสู่นภากาศ และสุริยันจันทราก็เคลื่อนคล้อยโคจร
ปัง ปัง ปัง!
พลังงานอันไร้ขอบเขตพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของฉินมู่และฉีกสะบั้นโซ่รอยมารที่รัดพันรอบๆ ตัวเขา จากนั้นเขาก็เงื้อมือขึ้นต้านรับฝ่ามืออันเกรี้ยวกราดจากจิตวิญญาณดั้งเดิมของแม่ทัพใหญ่มารฟ้า
ฉินมู่ครางหนักๆ เมื่อกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้าอันทักษะเทวะและเทพศาสตรา มารศาสตราจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังอาละวาด หากว่าเขากระเด็นขึ้นไปสูงกว่านี้ จะต้องตายอย่างน่าอนาถแน่นอน!
อักษรรูนมากมายปรากฏรอบตัวเขาและหมุนวนเป็นเกลียว ขณะที่ฉินมู่กำลังจะลอยลิ่วไปถึงเขตต้องห้ามบนท้องฟ้า เขาก็หายวับ
ปัง!
เขาร่วงลงมาอีกสิบลี้ห่างออกไป พลังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวจากจิตวิญญาณดั้งเดิมของแม่ทัพใหญ่มารฟ้าได้ทำให้เขากลิ้งกระเด็นตีลังกาไปหลายตลบ และปะทะเข้ากับกลุ่มผู้ฝึกวิชาเทวะที่กำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้า
ฉินมู่กลิ้งหกคะเมนไปสิบกว่าตลบก่อนที่จะตั้งตัวลุกขึ้นมาได้
ผู้ฝึกวิชาเทวะจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านเขาไป ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ยกอาวุธวิญญาณทุกประเภทลอยขึ้นไปบนอากาศ ก่อนจะส่งมันถล่มลงมายังดินราวกับห่าฝน ครอบคลุมพื้นดินตรงหน้าพวกเขาทั้งหมด ยากที่จะกล่าวว่ามีไพร่พลมารมากมายแค่ไหนที่ตายจากการระดมยิงอาวุธวิญญาณรอบนี้
ข้ายังมีชีวิตอยู่?
ฉินมู่รีบตรวจดูเนื้อตัวของเขาและพบว่าแม้เขาจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่กระบวนท่าพิฆาตจากแม่ทัพใหญ่มารฟ้ามิได้ทำอันตรายเขา เขาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจแกมยินดี
กระบวนท่าของนักบุญคนตัดไม้มรพลานุภาพจนเกินจินตนาการ! หรือว่าเขาจะรู้ว่าข้ากำลังตกที่นั่งลำบากจึงจงใจขับเคลื่อนกระบวนท่านี้เพื่อให้ข้าเรียนรู้และเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ต้องตาย
เขายื่นมือออกไปคว้าจับอากาศ กระบี่ไร้กังวลพากระบี่บินเล่มอื่นๆ บินกลับมาก่อนที่พวกมันจะเปลี่ยนกลับเป็นไจกระบี่ลงบนฝ่ามือของเขา
ทันใดนั้นเสียงกังวานสดใสก็ดังมาจากข้างหลัง “ข้าเหมือนจะเคยเห็นเจ้ามาก่อน!”
ฉินมู่หันกลับไปและเห็นเทพเจ้าสูงตระหง่านข้างหลังเขา บนบ่าของเทพนั้นคือเด็กสาวผู้มีเปียถักสองข้าง นางก้มหัวลงมาเล็กน้อยเพื่อเพ่งพิศดูฉินมู่
………………….