บทที่ 87 ฟักไข่

ราชาซากศพ

บทที่ 87
ฟักไข่

“มันน่าจะเป็นไข่ของสัตว์อสูร แต่ข้าไม่รู้ว่ามันคือสัตว์อสูรชนิดใด?” หลินเว่ยจับไข่ที่มีขนาดใหญ่กว่าศีรษะของเขา พลางจ้องมองขึ้นและลง จากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง
“ไร้สาระ…..ตราบใดที่เจ้ามีตา ผู้ใดล้วนก็มีตามองเห็นว่าเป็นไข่ของสัตว์อสูร มิฉะนั้นมันจะได้รับการปกป้องอย่างดีแบบนี้รึ?” เสี่ยวไป๋เบ้ปากเล็กน้อยและพูดด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งความเกรงใจ

“ฮ่าฮ่า! ข้าเดาว่ากล่องใบนี้กับกล่องใบนั้น ล้วนทำมาจากวัสดุประเภทเดียวกัน ข้าคิดว่ามันถูกสร้างโดย บุคคล ๆ เดียวกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างไข่ใบนี้ นั้นคืออะไรกันแน่? และหญ้ามังกร งั้นข้าเดาว่านี่คือไข่มังกร
แต่ข้าไม่รู้ว่ามังกรที่อยู่ในไข่ใบนี้ คือมังกรชนิดใด? หลินเว่ยหัวเราะเบา ๆ แล้ว พูดพร้อมกับขมวดคิ้ว

“โดยทั่วไป ความสามารถของมันจะถ่ายทอดมาจากตั้งแต่บรรพบุรุษของมัน แต่เนื่องจากสามารถสร้างหญ้ามังกรขึ้นมาได้ เผ่าพันธุ์นี้ก็ไม่น่าจะอ่อนแอ ระดับขั้นต่ำที่สุดคือ ขั้นแปด ถ้าโชคร้ายอย่างน้อยก็สามารถไป ทะลุขั้น 7 หรือสูงกว่านั้นได้ ” เสี่ยวไป๋กล่าว
“เยี่ยม!” ทันทีที่ได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเว่ยสว่างขึ้น หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น

“เจ้าต้องการจะฟักไข่ใบนี้หรือ?” เสี่ยวไป๋ร้องถามด้วยความประหลาดใจ ตามลักษณะนิสัยของหลินเว่ย ไม่ใช่ว่าเขาต้องการที่จะเอามันไปขายแลกเงินหรือ?

“แน่นอนว่า มีมังกรที่ใหญ่โตดังภูเขา เป็นอาวุธวิเศษที่ข้าตื่นเต้นที่จะนึกภาพเกี่ยวกับมันในอนาคต” หลินเว่ยกล่าวอย่างตื่นเต้น

“อืม! เจ้าพูดถูก แต่ถ้าเจ้าต้องการฟักไข่ เจ้าต้องวางหยดเลือดของเจ้าลงไป หากต้องการฟักไข่มังกรใบนี้ ต้องมอบพลังงานจำนวนมาก เพื่อให้มันฟักออกมาในเวลาอันสั้น ไม่เช่นนั้นเขาต้องใช้ระยะเวลาหลายร้อยปี
ในการฟักมันออกมาและดูแลมันจนกว่าจะแข็งแกร่ง! เจ้าเต็มใจหรือ?

เสี่ยวไป๋ มองไปที่มีใบหน้าหลินเว่ยจริงจัง และพูดด้วยความสงสัยฉายเต็มใบหน้าของมัน มันไม่เข้าใจว่า จำเป็นต้องจ่ายราคามหาศาล เพื่อฝึกฝนสัตว์อสูรระดับสูงเช่นนี้หรือ ตัวเขานั้นไม่เข้าใจหลินเว่ยว่าคิดอะไรอยู่
“แน่นอนว่าข้ามีเจ้าเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะมีทรัพยากรไม่พอในการเลี้ยงดูพวกเจ้า หลินเว่ยพิจารณาตามที่เสี่ยวไป๋พูดออกมาแล้ว ก็จริงตามที่เสี่ยวไป๋พูด แต่แลกมาด้วยผู้ช่วยที่แข็งแกร่ง และไม่มีวันทรยศ
ในอนาคตการเลี้ยงดูอย่างมหาศาลก็พอจะถูไถไปได้
“เอาล่ะ” เสี่ยวไป๋พยักหน้าและกล่าวขึ้น
ตอนนี้หลินเว่ยได้ตัดสินใจแล้ว เขาไม่ใช่คนที่คิดมากมายอะไร ดังนั้นจึงเริ่มต้นการฟักไข่มังกร ก่อนอื่นหลินเว่ยกัดนิ้ว เพื่อหยดเลือดลงบนเปลือกไข่ จากนั้นเขาก็ใช้พลังจิตของเขา เจาะเข้าไปในเปลือกไข่และสลักวิญญาณเอาไว้
รอยเลือดที่หยดลงไปบนเปลือกไข่ นั้นซึมซับลงไปทันที
หลังจากทำสัญญาเสร็จสิ้น จากนั้นหลินเว่ยก็หยิบหินหยวนทั้งเก้าออกมา และเตรียมที่จะตั้งกองหินหยวนเล็ก ๆ ไว้ในถ้ำ สร้างเป็นค่ายกลขึ้นมาเรียกว่าเสี่ยวกุ้ยหยวนและค่ายกลนี้เป็นค่ายกลพื้น ๆ ขั้นต่ำ เนื่องจากจัดเตรียมเรียบง่าย
ใช้เพื่อเพิ่มความเร็วในการดูดซับหินหยวนเพียงเท่านั้น ซึ่งคนธรรมดา ๆ สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

หลินเว่ยวาดค่ายกลบนพื้นเสร็จสิ้น จากนั้นก็วางหินหยวนทั้งเก้าก้อนวางไว้ตามลำดับ ในที่สุดเขาก็หยิบไข่มังกรขึ้นมา และวางลงในศูนย์กลางของค่ายกล
เมื่อหลินเว่ยวางไข่มังกรลงไป หินหยวนทั้งเก้าก้อนก็เปล่งแสงออกมาในทันที จากนั้นพวกมันก็มาบรรจบกันที่จุดศูนย์กลางของค่ายกลตามเส้นที่หลินเว่ยวาดค่ายกล

ในเวลานี้ หลินเว่ยรู้สึกว่ามีการไหลเวียนของอากาศจาง ๆ ภายในถ้ำ จากนั้นก็ค่อย ๆ เข้มข้นขึ้นของกระแสอากาศที่ไหลวนอยู่ภายในค่ายกล

ในช่วงระยะเวลานั้นหนึ่งค่ายกลเล็ก ๆ ของหินหยวนทั้งเก้าได้ผลเป็นอย่างดี ไม่นานนักไข่มังกรก็ถูกหมอกควันสีน้ำนมปกคลุมทั่วใบ นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อพลังแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง
สามารถมองไปที่ไข่มังกรที่ถูกห่อหุ้มด้วยความมีชีวิตชีวา หลินเว่ยพยายามใช้ความแข็งแกร่งทางจิต เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของไข่มังกรแต่หลินเว่ยก็ล้มเหลว หลินเว่ยรู้สึกว่าลมปราณของไข่มังกรที่ปกคลุมอยู่ทั่วนั้นเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อเวลาผ่านไป ค่ายกลของหินหยวนทั้งเก้าก้อนทั้งเก้าใบ ก็ถูกใช้หมดลงไปภายในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน โดยเหลือเพียงฝุ่นผงสีขาว

เมื่อเวลาผ่านไป ลมปราณเหนือไข่มังกรก็เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ความเร็วในการดูดกลืนพลังก็เร็วมากขึ้น ในช่วงแรกหินหยวนเพียงเก้าก้อน สามารถใช้ได้ภายในครึ่งวัน แต่หลังจากนั้นเพียงสามวันเวลาของมันก็สั้นลงสิบส่วน และในแต่ละครั้งก็จะสั้นลงไป
ตอนนี้หินหยวนระดับต่ำเก้าชิ้นก็ไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้นหลินเว่ยจึงต้องเปลี่ยนหินหยวนชุดใหม่

ในความเป็นจริง หลินเว่ยสามารถจัดวางค่ายกลได้ดีกว่านี้ แต่เขานั้นไม่มีความรู้เชี่ยวชาญในเรื่องค่ายกล และไม่แน่ใจว่าเสี่ยวไป๋รู้เรื่องหรือถนัดในเรื่องค่ายกลหรือไม่? หลินเว่ยทำได้เพียงแค่เฝ้าดูค่ายกลเสี่ยวกุ้ยหยวนตลอดเวลา
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงใส่หินหยวนหลายร้อยก้อน ลงไปในค่ายกลทีเดียว เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของพลัง และเร่งความเร็วในการฟักไข่มังกร

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ครึ่งเดือนหินหยวนของหลินเว่ย มากกว่าครึ่งถูกเผาผลาญไปหมดสิ้น หินหยวนด้อยคุณภาพเกือบ 2,000 ชิ้นถูกโยนลงไปในค่ายกล ในที่สุดไข่มังกรที่วางอยู่ในค่ายกลก็มีปฏิกิริยาขึ้น
มีรอยแตกบนเปลือกไข่เล็ก ๆ สองวันต่อมารอยแตกก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ

เมื่อมองไปที่หินหยวนที่น้อยลงเรื่อย ๆ ในมือของเขา หลินเว่ยกัดฟันของเขาและหยิบจงปินหยวนระดับสูง ออกมาเก้าชิ้นด้วยความปวดใจบนใบหน้าของเขา และวางไว้ในค่ายกล
“กึก … !” กระแสลมปราณไหลช้า ๆ ในตอนแรก ก็พุ่งสูงขึ้นและก่อตัวเป็นพายุที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ค่ายกล พลังที่แข็งแกร่งมีแนวโน้มที่จะกลั่นตัวเป็นของเหลว โดยไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่าถึงสถานการณ์ภายในค่ายกลอีกต่อไป

จงปินหยวนคือหินหยวนชนิดหนึ่งที่มีระดับความเข้มข้นแตกต่างจากหินหยวนธรรมดา ๆ เพียงครึ่งชั่วโมงต่อมาไข่มังกรก็ถูกตอบสนอง มีเสียงแตกร้าวดังเข้ามาในหูของหลินเว่ย เมื่อเวลาผ่านไปเสียงก็ธรรมดา ๆ ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของการดูดซับพลังก็แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

ในช่วงสามชั่วโมงที่ผ่านมา พลังงานในค่ายกลก็หายไป หินหยวนคุณภาพปานกลางทั้งเก้าชิ้น ก็กลายเป็นผุยผงและค่ายกลก็หยุดทำงานลง
ในตอนนี้ หลินเว่ยเห็นเปลือกไข่ปริแตก มีสัตว์คล้ายจิ้งจก ขนาดเท่าฝ่ามือของหลินเว่ย ซ่อนตัวอยู่ในเปลือกไข่ พร้อมดวงตาสีม่วงคู่หนึ่ง เพ่งมองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น