พี่หลิวได้ยินตงฟางเสวี่ยตะโกนว่า ‘ส่งแขก’ ก็อดชะงักไม่ได้
แต่เมื่ออันหลินได้ยินคำว่า ‘ส่งแขก’ หัวใจก็แตกสลายแล้ว!
นี่เป็นความรู้สึกที่สิ้นหวังอย่างยิ่ง เมื่อแฟนคลับตัวยงถูกไอดอลเกลียด
“ไม่เอาสิ! พี่ตงฟาง นักพรตจอมปลอมตั้งใจมาขอโทษพี่ เพราะเรื่องราวก่อนหน้านี้โดยเฉพาะเลยนะ!” เถียนหลิงหลิงรีบพูดห้ามปราม
ขณะที่พูด เธอยังไม่ลืมขยิบตาส่งสัญญาณให้อันหลินอีกด้วย
อันหลินรับรู้ พลันก็พูดพลางทำหน้ารู้สึกผิด “ใช่แล้ว เซียนหญิงจิ้งซิน เกิดเรื่องไม่ดีบางส่วนในกลุ่ม ผมรู้สึกผิดจากใจจริง เลยมาเพื่อขอโทษโดยเฉพาะ”
“มาเพื่อขอโทษโดยเฉพาะงั้นเหรอ”
สีหน้าของตงฟางเสวี่ยอ่อนลงเล็กน้อย
อันที่จริงเธอใจเย็นลงแล้ว
เพราะสิ่งที่อันหลินทำในกลุ่ม เป็นเรื่องที่ปกติมาก ไม่ได้เจตนาแต่อย่างใด
เพียงแต่ว่าการโจมตีอันไร้รูปร่างเหล่านั้น สำหรับเธอแล้วมันค่อนข้างฝังใจ จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาก่อนหน้านี้
“จริงครับ ผมเป็นแฟนคลับตัวยงคุณด้วยนะ!” ตาของอันหลินเป็นประกาย พูดเสริมขึ้นมา
หากจะขอลายเซ็น ย่อมต้องขอในฐานะแฟนคลับ
อีกอย่าง…
มันเป็นความในใจของอันหลิน เขาจึงพูดออกมาอย่างซื่อตรงจริงใจ!
“เอ๊ะ จริงเหรอ…”
คิ้วของหญิงงามตรงหน้าเรียวยาว ดวงตาหรี่ลงเป็นรูปจันทร์เสี้ยว ถามยิ้มๆ ว่า “นายบอกว่านายเป็นแฟนตัวยงของฉัน งั้นฉันจะขอถามคำถามนายสามข้อก่อน”
“ท่านเซียนหญิงว่ามาได้เลย” อันหลินประหม่าเล็กน้อย
นี่เป็นการทดสอบของไอดอลเหรอ ตื่นเต้นจังเลย!
ตงฟางเสวี่ยชูนิ้วเรียวยาวขึ้นมาหนึ่งนิ้ว “คำถามแรก นายคิดว่าฉันร้องเพลงเพราะไหม”
อันหลินได้ยินก็นิ่งไปครู่หนึ่ง นี่มันไร้สาระไม่ใช่หรือไง!
เขาตอบทันทีว่า “เพราะ! ดุจเสียงสวรรค์ ชวนให้เคลิบเคลิ้ม!”
ตงฟางเสวี่ยได้ยินก็พยักหน้าอย่างพอใจ พูดต่อว่า
“คำถามที่สอง เพลงของฉัน มีเพลงไหนบ้าง”
“เมืองวาดทราย กาลเวลาผันผ่าน น้องมารร้าย จิ้งจอกเซียน…”
อันหลินตอบได้คล่องปร๋อ ชื่อเพลงเหล่านี้ล้วนเป็นเพลงที่คว้าอันดับหนึ่งบนชาร์จเพลงใหญ่ทั้งนั้น ต่อให้ไม่ใช่แฟนคลับของตงฟางเสวี่ย ก็คุ้นหูเช่นกัน
“คำถามข้อสุดท้าย…”
ดวงตาคู่งามของตงฟางเสวี่ยจดจ้องอันหลิน ใบหน้ามีรอยยิ้มหวานน่าหลงใหล
“นายคิดว่า…ฉันสวยไหม”
อันหลินตะลึงงันอีกครั้ง
ให้ตายเถอะ นี่มันคำถามบ้าอะไรกัน!
เราควรจะตอบว่าสวยหรือไม่สวยล่ะ
มันเป็นคำถามให้คะแนนฟรีเฉยๆ งั้นเหรอ
หรือว่า เธอมีนิสัยประหลาดชอบให้คนอื่นบอกว่าเธอไม่สวย
สิ่งผิดปกติย่อมชอบกล!
ขณะที่อันหลินกำลังจะอ้าปากตอบว่า ‘คุณไม่สวย ที่จริงคุณน่าเกลียดมาก’
จู่ๆ ก็เห็นเถียนหลิงหลิงมองเขา พูดคำว่า ‘สวย’ โดยไม่มีเสียง
อันหลินพูดอย่างกระจ่างใจโดยพลันว่า “สวย! เหมือนนางฟ้าบนภูเขาหิมะ งดงามเหนือผู้ใด!”
ตงฟางเสวี่ยไม่คิดเลยว่าอันหลินตอบคำถามเธอไม่พอ ยังใช้ประโยคอุปมาอีก ใบหน้าสะสวยของเธอแดงระเรื่อ เห็นได้ชัดว่าได้ผลเป็นอย่างยิ่ง
คราวนี้อันหลินงงไปหมดแล้วจริงๆ
โอ้พระเจ้า ก็ชมเธอว่าสวยก็พอแล้วเหรอ
นี่มันคำถามบ้าบออะไร เป็นการทดสอบจริงๆ เหรอเนี่ย!
“พี่ตงฟาง ดูสิ นักพรตจอมปลอมผ่านการทดสอบ กลายเป็นแฟนตัวยงของพี่แล้ว พี่จะไม่ให้ลายเซ็นเขาหน่อยเหรอ” เถียนหลิงหลิงกอดแขนตงฟางเสวี่ย เริ่มเข้าเรื่องจริงจังทันที
เถียนหลิงหลิงรู้ว่า ที่จริงแล้วพี่ตงฟางชอบให้คนอื่นชมเธอมาก
พูดให้ถูกก็คือ หลงตัวเองนิดหน่อย…
ดังนั้น เมื่อคนอื่นชมจนเธอหน้าชื่นตาบานละก็ จะเป็นช่วงเวลาที่จัดการธุระให้สำเร็จลุลวงได้ง่าย
แม้ตงฟางเสวี่ยจะดีใจมากก็ตาม แต่พอได้ยินคำแนะนำของเถียนหลิงหลิง ก็ส่ายหน้าอย่างหนักแน่นอยู่ดี “ข้อเสนอนี้ฉันรับปากไม่ได้ เธอก็รู้ว่า ฉันไม่เคยแจกลายเซ็นเลย…”
“โธ่ หลิงหลิงขอร้องล่ะ พี่แหกกฎสักครั้งเถอะ”
เถียนหลิงหลิงใช้ดวงตาหวานเยิ้มมองตงฟางเสวี่ย พร้อมกับออดอ้อนไปด้วย
ใบหน้าของตงฟางเสวี่ยมีความไขว้เขวปรากฏให้เห็น แต่ยังคงปิดปากเงียบ
ขณะนั้นเอง อันหลินก็นึกอะไรขึ้นมาได้ หยิบยาขวดหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ ยื่นให้ตงฟางเสวี่ย
“เซียนหญิงจิ้งซิน นี่เป็นยาชะลอวัย ยาอายุวัฒนะขั้นเจ็ด มีสรรพคุณช่วยให้ผิวขาวผ่องใส
นอกจากนี้ มันยังช่วยปรับสมดุลเลือดลม ขยายหลอดเลือด ผมไม่ได้ใช้มัน ถือเป็นของขวัญการพบหน้าก็แล้วกัน”
เมื่อได้ยินว่ามีสรรพคุณบำรุงผิวพรรณ สุดท้ายแนวป้องกันของตงฟางเสวี่ยก็พังครืน…
“สหายอันหลิน นายเกรงใจกันเกินไปแล้ว”
แม้ตงฟางเสวี่ยจะพูดแบบนี้ แต่ยื่นมือออกไปรับยาอายุวัฒนะมาอย่างง่ายดายแล้ว
เถียนหลิงหลิงขยิบตาให้อันหลิน ราวกับจะบอกว่า ทำได้ดี!
“เฮ้อ ก็ได้ เห็นแก่หลิงหลิง ฉันจะเซ็นให้นายสักครั้ง…”
สุดท้ายตงฟางเสวี่ยก็ถอนหายใจ พูดขึ้นมาช้าๆ
อันหลินกับเถียนหลิงหลิงได้ยินก็ดีใจ รู้แล้วว่าจุดประสงค์ของพวกเขาสำเร็จแล้ว!
“แต่ว่า เรื่องที่ฉันให้ลายเซ็นนาย ห้ามบอกคนอื่นนะ อีกอย่างห้ามให้คนอื่นดูด้วย ต้องเก็บไว้เอง เข้าใจไหม” ตงฟางเสวี่ยทำหน้าเคร่งขรึม พูดอย่างจริงจัง
ถึงอันหลินจะไม่รู้ว่าทำไมตงฟางเสวี่ยถึงมีเงื่อนไขแบบนี้ แต่ศิษย์พี่คนนั้นต้องรับปากแน่นอน ฉะนั้นเขาจึงตกปากรับคำทันที
ตงฟางเสวี่ยจึงหยิบการ์ดแข็งใบหนึ่งออกมา จรดปากกาเขียนชื่อตัวเองลงไปดั่งหงส์ร่อนมังกรรำ
ลื่นไหลไม่สะดุด เสร็จในชั่วอึดใจ!
อันหลินกับเถียนหลิงหลิงมองลายเซ็นของตงฟางเสวี่ยด้วยสีหน้าตะลึงพรึงเพริด
เพลงของตงฟางเสวี่ยไพเพราะ หน้าตาสะสวย ลายมือ…
ทำไมถึงได้น่าเกลียดขนาดนี้ล่ะ!
อันหลินมองก้อนตัวหนังสืออัปลักษณ์บนการ์ดใบนั้น นิ่งเงียบอยู่นาน
มันเป็นอักษรศิลป์งั้นเหรอ
ไม่!
แม้อักษรศิลป์จะอ่านไม่ออก แต่มันมีความงดงามขององศาและโครงสร้าง!
แต่ลายเซ็นอันนี้…
ใช้คำว่าก้อนมานิยามได้เท่านั้น!
เถียนหลิงหลิงก็เพิ่งเคยเห็นตัวหนังสือของตงฟางเสวี่ยครั้งแรก ผ่านไปนานกว่าจะเค้นเสียงออกมาได้ “แหะๆ…ลายเซ็นของพี่ตงฟางมีเอกลักษณ์จังเลย!”
ตงฟางเสวี่ยยื่นลายเซ็นให้อันหลิน เขยิบไปใกล้เขา พ่นลมหายใจ กระซิบข้างหูว่า “ลายเซ็นนี่ต้องเก็บไว้เอง ถ้านายกล้าให้คนอื่นดูละก็ ฉันฆ่านายแน่!”
อันหลินได้ยินปากก็กระตุก แต่กลับพยักหน้าอย่างว่าง่าย
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า ทำไมตงฟางเสวี่ยถึงไม่ให้ลายเซ็นแฟนคลับ…
เพราะแบบนี้แฟนคลับหดหายแน่นอน!
เขาจ้องลายเซ็นบนการ์ดแข็ง ตกอยู่ในภวังค์ความคิด
คำว่า ‘ตงฟางเสวี่ย’ ต้องพยายามเพ่งมอง จึงจะเห็นเค้าโครงเพียงน้อยนิด
หากให้การ์ดใบนี้กับคนอื่น ให้ตายก็ไม่มีใครเชื่อว่า นี่เป็นลายเซ็นของตงฟางเสวี่ย
ถ้าอันหลินมอบการ์ดใบนี้ให้ศิษย์พี่…
ศิษย์พี่จะคิดว่าเขาถูกอันหลินปั่นหัวเป็นปัญญาอ่อนหรือเปล่า จะเกิดอารมณ์ชั่ววูบเรียกหินวิญญาณหลายร้อยก้อนกลับไปไหม…
ยิ่งคิดแบบนี้ เขาก็ยิ่งกังวลใจ
ใช่แล้ว เขาอาจจะสงสัยว่าตัวเองได้ลายเซ็นปลอม…
แต่ว่า ไม่นานอันหลินก็ปล่อยวางความคิด
เพราะนี่เป็นลายเซ็นของตงฟางเสวี่ยจริงแท้แน่นอน แถมยังเป็นลายเซ็นแรกเสียด้วย!
“เซียนหญิงจิ้งซิน คุณช่วยเซ็นให้ผมอีกอันได้ไหม”
อันหลินมองตงฟางเสวี่ยแล้วถามด้วยความคาดหวัง
ตงฟางเสวี่ยได้ยินก็ชะงัก “ทำไมล่ะ”
“เพราะว่า…” อันหลินหน้าขึ้นสี “เพราะผมตั้งใจว่าจะพกติดตัวอันหนึ่ง วางไว้ใต้หมอนอันหนึ่ง”
เมื่อเถียนหลิงหลิงได้ยินประโยคนี้ ก็อ้าปากค้าง แสดงอาการมึนงง คิดว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่า
คุณพระ…อันหลินจะทำอะไรกัน สนใจเจ้าก้อนนั้นจริงๆ เหรอ!
ตงฟางเสวี่ยได้ฟังก็แน่นิ่งอยู่กับที่
ลายเซ็นของเธอเป็นอย่างไร เธอรู้ตัวเองดี ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเรื่องไม่แจกลายเซ็นเกิดขึ้น
แต่ผู้ชายคนตรงหน้า กลับอยากได้เพิ่มอีกใบ หลังเห็นลายเซ็นของเธอแล้ว!
มันเป็นความรู้สึกอะไรกันแน่ เพราะลายมือของเธอสวยงั้นเหรอ
ไม่…
มันคือความรัก!
นี่เป็นความรักที่ขอเพียงชอบใครสักคน ก็จะชอบทุกอย่างของเขา ไม่ว่าจะเป็นข้อดีหรือข้อเสีย!
ใบหน้างดงามราวกับจับต้องไม่ได้ของตงฟางเสวี่ยแดงระเรื่อ หัวใจก็เริ่มเต้นเร็วขึ้นมา
เถียนหลิงหลิงมองอย่างอึ้งๆ อยู่อีกมุม
ให้ตายเถอะ!
พี่ตงฟางโดนแทะโลมเหรอ
“อืม…ได้ ฉันตกลง”
เสียงนุ่มนวลออกมาจากปากของตงฟางเสวี่ย น้ำเสียงอ่อนโยนกว่าเมื่อครู่นี้ไม่ต่ำกว่าสิบเท่า!
เสร็จกัน โดยแทะโลมแล้วจริงๆ!
คราวนี้เถียนหลิงหลิงชื่นชมจริงๆ
ปกติมองไม่ออกว่าเจ้าอันหลินคนนี้จะมีปัญญาจีบสาว ตอนนี้เมื่อลงมือ ก็แทะโลมเทพีผู้ยากจะอาจเอื้อมเลยเหรอ!
อันหลินไม่ทันสังเกตเห็น เขาเก็บลายเซ็นที่สองของตงฟางเสวี่ยอย่างพออกพอใจ คิดในใจว่าเอาใบนี้ให้ศิษย์พี่คนนั้นก็แล้วกัน
ส่วนลายเซ็นแรกนั่น…
ของที่มีความหมายปานนี้ แน่นอนว่าต้องเก็บไว้เองสิ!
นี่เป็นสิ่งที่แฟนคลับตัวยงคนหนึ่งพึงมี ต่อให้น่าเกลียด ก็เป็นของไอดอลเชียวนะ!
ติ้ง!
ขณะนั้นเอง เสียงของระบบก็ดังขึ้น
อันหลินเปิดระบบด้วยความแปลกใจ เห็นแถบ ‘ภารกิจพิเศษ’ สว่างวาบ ……………………………………