กู้ชูหน่วนหยิบอ้อยขึ้นมาแทะโดยไม่สนใจใคร พร้อมกันนั้นก็หันไปผิวปากให้นักปราชญ์ทั้งสองจากรัฐจ้าว

“พวกท่านทั้งสองอยากจะพนันกับข้าอีกสักตาไหมล่ะ”

มุมปากของฉังเจินและฉังผิงกระตุกนิดหนึ่ง

ผู้หญิงคนนี้เป็นผีพนันหรือยังไง พูดออกมาแต่ละคำไม่เคยพ้นคำว่าพนัน

รอบที่แล้วพวกเขาเพิ่งแพ้ไปจนทำให้คุณชายอี้ต้องอยู่เล่นสนุกกับนางเป็นเวลาเจ็ดวัน แค่นี้พวกเขาก็ละอายใจจะแย่แล้ว มีหรือจะกล้าพนันอีก

ฉังเจินส่ายหน้า เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณหนูสาม เรามาที่นี่เพื่อร่วมการชุมนุมแข่งขันวิชาการ ไม่ได้มาเพื่อเล่นพนัน เราซาบซึ้งในความมีน้ำใจของคุณหนูสาม แต่คงต้องขอปฏิเสธ คุณหนูสามโปรดไปหาคนอื่นเถิด”

“ช่างคงแก่เรียนเสียจริง ไม่สนุกเอาเสียเลย”

กู้ชูหน่วนเงยหน้าและหันไปมองอี้เฉินเฟยผู้สง่างาม นางกะพริบตาปริบๆ และเอ่ยยิ้มๆ “คุณชายอี้ การแข่งเมื่อครู่นี้ท่านไม่เสียใจทีหลังใช่หรือไม่เจ้าคะ”

“ไม่เสียใจอยู่แล้ว หลังจากการชุมนุมแข่งขันวิชาการสิ้นสุดลง ข้าน้อยอี้จะยอมทำตามสิ่งที่คุณหนูสามต้องการ”

ทุกคนพากันฮือฮา

มีคำเล่าลือว่าคุณชายอี้เฉินเฟยเป็นคนใจดี แต่ไม่คิดว่าจะอารมณ์ดีขนาดนี้

เขาเป็นผู้มีฝีมือที่มีชื่อเสียงไปทั่วหล้า เป็นนักปรัชญาขงจื๊อที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ เขามีสถานะที่สูงส่ง แต่กลับเต็มใจเที่ยวเล่นสนุกกับแม่สาวถุงฟางอัปลักษณ์

หรือเขามองไม่ออกว่ากู้ชูหน่วนกำลังทำให้เขาอับอายขายหน้า

กู้ชูหน่วนขยิบตาให้เขาอย่างมีเลศนัย ทำราวกับว่าเขาเป็นคณิกาหนุ่มในหอนางโลม

อี้เฉินเฟยไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

นางกำลังลวนลามเขาต่อหน้าธารกำนัลงั้นรึ

เซี่ยวอวี่เซวียนเอ่ยอย่างมีน้ำโห “ข้ารู้อยู่แล้วว่าแม่สาวอัปลักษณ์จะต้องสนใจอี้เฉินเฟย สายตาของนางเป็นอะไร อี้เฉินเฟยมีดีตรงไหน”

“พวกข้าว่าคุณชายอี้ดูดีจะตายไปลูกพี่ ทั้งนิสัยดี มีวิชาความรู้ แถมยังรูปโฉมงดงามอีกต่างหาก”

“ไอ้พวกบ้า”

อาจารย์สวีโกรธจนพ่นวาจาออกมาว่า “ทำตัวไม่สมเป็นนักปราชญ์เสียเลยๆ”

การประลองเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ จากนั้นทุกคนจึงมองไปทางกระดานหมากรุกตรงหน้า

เมื่อเห็นแวบแรก ฉังเจิน ฉังผิง เจ๋ออ๋องรวมถึงเยี่ยเฟิงต่างก็ตกใจ

กระดานหมากรุกที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นสีดำหรือสีขาวต่างก็ถูกบังคับให้หมดหนทาง ไม่มีทางให้เดินหมากต่อ

เห็นได้ชัดว่านี่คือตัวหมากที่ตายแล้ว

ทุกคนเฝ้ามองอยู่นานก็ยังไม่รู้ว่าควรเดินหมากไปทางไหน

ปรมาจารย์หมากรุกลำพองใจเป็นอย่างมาก “หมากรุกหลิงหลงใช่ว่าจะล้มได้ง่ายๆ แม่สาวน้อย เจ้าต้องระวังหน่อยนะ”

กู้ชูหน่วนแทะอ้อยพลางมองกระดานหมากรุก ต้องบอกว่าหมากเกมนี้ซับซ้อนจริงๆ เพราะบนกระดานหมากแฝงไปด้วยกลหมากเก้าช่องและกลหมากสองรูปสามลักษณ์ หากประมาทคงถูกฝ่ายตรงข้ามกินหมากจนหมด

อา…

วางหมากงั้นหรือ

ตอนอยู่ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด นางเป็นนักเลงหมากกระดาน ไม่ว่าจะเป็นหมากล้อม หมากรุกจีนหรืออื่นๆ นางไม่คณนามือทั้งนั้น

ที่ชำนาญก็คือกระดานหมากหลิงหลง ก็งั้นๆ แหละ คอมพิวเตอร์ที่บ้านของนางมีระบบของตัวเอง ในชาติที่แล้วนางเล่นไปไม่รู้ตั้งแต่รอบต่อกี่รอบ

“ของข้าหมากขาวหรือหมากดำรึ” นางถาม

ทุกคนพูดไม่ออก

กู้ชูหน่วนเป็นผู้ท้าดวลก็ต้องเป็นสีขาวอยู่แล้ว นางถามคำถามโง่ๆ พรรค์นี้ออกมาได้อย่างไร นี่นางเล่นหมากรุกเป็นแน่หรือเปล่า

“สีขาว” ฉังเจินตอบ

“ขอบคุณ ว่าแต่ตอนนี้เป็นตาข้าหรือตาของพวกท่านล่ะ”

“…”

จากคำพูดของนาง ทุกคนจึงสรุปได้ว่านางเล่นหมากรุกไม่เป็นเลย ผู้หญิงคนนี้ก็แค่พูดเลอะเทอะไปเรื่อย

ปรมาจารย์หมากรุกขมวดคิ้ว “แม่สาวน้อย เจ้าไม่เคยเล่นหมากรุกงั้นรึ”

“เอ่อ… ข้าอยู่ที่นี่ มีชีวิตความเป็นอยู่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่น่ะ”

“…”