ตอนที่ 79.1 ความผิดปกติของพญายม (1)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

เห็นขันทีน้อยตรงหน้า กำลังนั่งต่ำลงอยู่ข้างเท้าของเขา ทำให้เขารู้สึกว่าเธอตัวเล็กยิ่งขึ้น

ใบหน้าเล็กขนาดฝ่ามือนั้นประณีตยิ่งนัก หน้าผากขาวกว่าหิมะ ผิวขาวราวหิมะ เพียงเป่าดีดแตกสลาย สิ่งที่ดึงดูดที่สุดคือดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาคู่นั้น

แวววาวสดใส ราวกับบ่อน้ำสีคราม ระยิบระยับ งดงามจนคนมองไม่วางตา

อีกทั้งเมื่อมองดวงตางดงามตรงหน้านี้ ในใจเขาพรั่งพรู่ความรู้สึกที่แปลกประหลาดออกมา

ราวกับมีก้อนหินขนาดเล็กก้อนหนึ่งถูกโยนเข้าไปในหัวใจที่นิ่งสงบของเขา จนเกิดระลอกคลื่นขึ้น…

สำหรับความผิดปกติในใจนี้ ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋แปลกใจ ทว่าเวลานี้เขาไม่อาจสนใจความรู้สึกนั้น เพราะกำลังจ้องมองบนใบหน้าเล็กประณีตงดงามด้านล่าง จากดวงตาคู่ที่งดงามนั้น เลื่อนลงไปสู่ริมฝีปากงดงามนั้นอย่างช้าๆ

ริมฝีปากแดงคู่นี้ เป็นคู่ที่เล็กและประณีตที่สุดตั้งแต่ที่เขาเคยเห็นมา!

ริมฝีปากวาบวับอมชมพู เหมือนกับดอกท้อที่เพิ่งเบ่งบานในเดือนสาม  งดงามน่ารักเช่นนี้ ทำให้คนที่เห็นอยากจะ…เข้าไปสัมผัสใกล้ชิด

ขณะคิดในใจ เหลิ่งจวิ้นอวี๋ไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาตนที่มองเล่อเหยาเหยานั้น ค่อยๆ มีประกายอันร้อนแรงประเภทหนึ่งขึ้น

ดวงตาเป็นประกาย ภายในปรากฏแสงปรารถนาอันลึกลับไม่หยุด เพียงมองคล้ายกับสัตว์ร้ายกำลังจ้องมองเหยื่อ หมายจะกระโจนเข้าไปทำมิดีมิร้ายเหยื่อตัวนั้น

เล่อเหยาเหยาไม่รู้ความคิดในใจของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ ก่อนหน้านี้ตอนเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียน พี่สาวน้องสาวข้างกายล้วนเริ่มมีแฟนกันหมด แต่เธอกลับไม่มีแม้กระทั่งจับมือใกล้ชิดสนมกับผู้ชายเลย

แม้เธอจะไร้เดียงสา แต่กลับไม่ได้หมายความว่าเธอไม่เข้าใจ

เพราะจากสายตาเป็นประกายของพญายมที่ร้อนแรงเช่นนี้ ส่วนใดที่ถูกเขามอง คล้ายกับเกิดประกายไฟ

ความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาเริ่มว้าวุ่นใจขึ้นมา

เพราะตอนนี้เธอคล้ายรับรู้ว่าพญายมต้องการทำสิ่งใดกับเธอ

เขา…อยากจูบเธอ!?

หลังรับรู้เรื่องนี้ เล่อเหยาเหยาตกใจจนตาเบิกกว้าง ภายในแววตาปรากฏความกังวลวาบขึ้น ก่อนร่างกายพลันถอยหลังไป

ทว่าเธอกลับลืมไปว่าตนเองกำลังนั่งอยู่บนพื้น!

เธอถอยหลังไป ร่างกายพลันสูญเสียการทรงตัว ก้นกระทบลงที่พื้นทันที

สำหรับท่าทางของเล่อเหยาเหยา ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋มีสีหน้าตะลึงเล็กน้อย ดวงตาพลันเป็นประกาย ก่อนเอ่ยปากว่า

“เจ้ากลัวข้าขนาดนั้นเชียวหรือ?!”

แม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋พูดอย่างมั่นใจยิ่ง อีกทั้งคิ้วกระบี่ขมวดขึ้น เห็นชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย

เล่อเหยาเหยาเห็นเช่นนั้น จึงกระพริบตางดงามที่สับสนชั่วครู่ ริมฝีปากอ้าเล็กน้อยคล้ายต้องการเอ่ยบางอย่าง

แต่เธอยังไม่ทันได้เอ่ยออกมา รู้สึกว่าตรงหน้าพลันมืดมิด

เงาร่างดุจลูกศรที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นอนอย่างเหลิ่งจวิ้นอวี๋ กระโจนเขามาหาเธอ

ทว่าเขาไม่ได้กระโจนเข้าหาตัวเธอ แต่ใช้ฝ่ามือใหญ่ที่ไม่ได้บาดเจ็บค้ำพื้นไว้ หน้าอกแข็งแกร่งนั้นลอยอยู่เหนือตัวเธอ คล้ายถูกล้อมกดดันนด้วยตาข่ายขนาดใหญ่ ทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมกอดเขา

สำหรับท่าทางอันรวดเร็วของเหลิ่งจวิ้นอวี๋นี้ ทำให้เล่อเหยาเหยาตกตะลึงอย่างที่สุด

เห็นเพียงดวงตางดงามเบิกกว้างเพราะตกใจ ปากสีแดงสดอ้าขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นฟันขาวน่ารักภายในปากของเธอ

สำหรับท่าทางตกตะลึงอ้าปากค้างของเล่อเหยาเหยา ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋สุขใจอย่างเห็นได้ชัด

ดวงตาเย็นชาของเขาพลันโค้งขึ้นเล็กน้อย มุมปากโค้งขึ้น ก่อนรอยยิ้มกว้างเห็นฟันเลือนลางจะเปิดเผยออกมา

น้ำเสียงเย้ายวนสุขใจนั้น ดังขึ้นที่ข้างหูของเล่อเหยาเหยา

“กระต่ายน้อย เจ้ายังไม่ใส่ยาให้ข้าเลย!”

“เอ้อ”

สำหรับคำพูดตอนนี้ของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ บนหน้าผากของเล่อเหยาเหยาปรากฎเส้นสีดำที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นขึ้นมา

แม่มันเถอะ ตอนนี้ท่านทับเขาอู่นะ จะให้เขาใส่ยาให้ท่านได้เช่นไร!?

อีกทั้งตอนนี้ท่านหมายความว่าอันใด!?

เขาคงไม่คิดจะ…ทำอะไรเธอนะ!?

แต่เธอเป็นขันทีนะ…

เธอไม่อยากให้พญายมทำมิดีมิร้าย!

เล่อเหยาเหยาร้องตะโกนอย่างตกใจในใจ บนใบหน้าก็แสดงท่าทางราวอยากร้องไห้ แต่ไร้น้ำตาออกมาเช่นกัน

คิ้วดำขมวดแน่น เม้มริมฝีปากเล็ก ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ขัดขืนว่า

 “คือ ท่า…ท่านอ๋อง โปรดลุกขึ้นก่อนได้หรือไม่ขอรับ!? ท่าไม่ลุกขึ้น บ่าวจะทำแผลให้ท่านได้เช่นไร!?”

เล่อเหยาเหยาเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก อีกทั้งสงสัยว่าพญายมผู้นี้เสียสติไปแล้วหรือไม่

ปกติทำหน้าราวภูเขาน้ำหีบศพ พอมองต้องตกใจ แต่เวลานี้จากชายหนุ่มภูเขาน้ำแข็งเปลี่ยนเป็รหลาะแหละชั่วร้าย อีกทั้งยังหยอกล้อกับขันทีเช่นเธอ!

สวรรค์ เขาเสียสติไปแล้ว!

ขณะเล่อเหยาเหยาร้องตะโกนในใจ เหลิ่งจวิ้นอวี๋ตรงหน้ากลับมองใบหน้าเรียวเล็กที่อมทุกข์ของเล่อเหยาเหยานั้น ด้วยรอยยิ้มที่ลึกล้ำ

เพราะไม่รู้เหตุใด เขาจึงชื่นชอบมองท่าทางน่าสงสารของขันทีน้อยที่ถูกตนข่มเหงเช่นนี้ยิ่งนัก

 ‘เขา’ ยิ่งทำเช่นนี้ ยิ่งทำให้เขาอยากรังแก ‘เขา’

สวรรค์! เขาเสียสติไปแล้วหรือ!?

สำหรับความคิดแปลกประหลาดนี้ กระทั่งเหลิ่งจวิ้นอวี๋ล้วนคิดว่าไม่น่าเชื่อเช่นกัน ทว่าเมื่อมองใบหน้าเล็กดุจกระต่ายน้อยที่ลนลานสับสนของขันทีน้อยด้านล่างนั้น กลับทำให้เขาไม่อยากทิ้งความคิดที่จะรังแก ‘เขา’ ไป

ขณะคิดในใจ เหลิ่งจวิ้นอวี๋ยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ก่อนจะส่งมือใหญ่ที่บาดเจ็บของตนนั้นไปตรงหน้าเล่อเหยาเหยา ทำให้เล่อเหยาเหยาเห็นรอยบวมแดงด้านบนชัดยิ่งขึ้น แล้วจึงเอ่ยว่า

 “ใส่ยาเช่นนี้ก็แล้วกัน”

 “เอ้อ”

เมื่อเห็นใบหน้าแน่วแน่ของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยารู้ว่าหากเธอไม่ทำตามคำสั่งของเขา ก็ไม่รู้ว่าท่านอ๋องผู้นี้จะทำเรื่องน่าแตกตื่นอันใดออกมาอีก

แม้ในใจจะคล้ายไม่ยินยอม แต่ผู้ใดใช้ให้เธอเวลานนี้เป็นคนที่อาศัยบ้านผู้อื่นอยู่ จึงจำต้องก้มหัว

หากไม่ทำตามคำสั่งของท่านอ๋องผู้นี้ ศีรษะเล็กๆ ของเธอคง…

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาอดเม้มริมฝีปากงามพริ้งอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ก่อนพลันทำตามคำสั่งของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ ยื่นมือหยิบขี้ผึ้งบนโต๊ะน้ำชา ร่างกายส่วนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น มือทั้งสองข้างค้ำยันอยู่บนพื้น ภาพนี้ดูเช่นไรก็อึดอัดยิ่งนัก

แต่เรื่องได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าเธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

หลังเล่อเหยาเหยาทาขี้ผึ้งบนมือใหญ่เหลิ่งจวิ้นอวี๋อย่างยากลำบาก หยิบกรรไกรและผ้าพันแผลออกมา เริ่มพันแผลให้เขา

ทว่าเพราะเป็นครั้งแรกที่พันแผลให้คนอื่น อีกทั้งยังอยู่ในท่าที่อึดอัดเช่นนี้ การพันแผลที่บาดเจ็บของเล่อเหยาเหยาดูแล้วช่างน่าอนาถยิ่งนัก กระทั่งตัวเธอยังมองอย่างละลายใจ

ในใจสับสัยไม่หยุด เพราะเหตุใดตอนเช้ามองดูท่านหมอพันแผลให้พญายมอยู่นาน ทั้งยังพันได้น่าดูขนาดนั้น แต่ดูเธอสิ!

พันแผลราวกับขนมจ้าง (บ๊ะจ่าง)! หรือเรื่องพวกนี้จะต้องต้องปฏิบัติบ่อยจึงจะชำนาญ!?

ทว่า แม้เล่อเหยาเหยาจะเห็นว่าตนพันแผลให้พญายมได้น่าเกลียดอย่างมาก แต่เธอกลับแสร้งทำเป็นไม่เห็น บนใบหน้ายังเผยท่าทางอิ่มอกอิ่มใจ และภูมิใจอย่างยิ่งออกมา

ฮึๆ ผู้ใดให้เขามีท่าทางประหลาดชั่วช้าเช่นนี้! เธอพันแผลเช่นนี้ เขาคงไม่ชอบมากเป็นแน่!

“เรียบร้อยแล้วขอรับท่านอ๋อง บ่าวพันแผลให้เสร็จแล้ว ตอนนี้ท่านอ๋องลุกขึ้นได้หรือยังขอรับ!?”

ดวงตางดงามกระพริบอย่างไร้เดียงสา ก่อนเล่อเหยาเหยาจะเอ่ยกับคนด้านบน

ส่วนเหลิ่งจวิ้นอวี๋เมื่อเห็นใบหน้าเรียวเล็กนั้นดูภูมิอกภูมิใจ ท่าทางนั้น ราวกับจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่งที่เพิ่งแอบกินไก่ของชาวนา ช่างเจ้าเล่ห์น่ารักอันใดเช่นนี้

ทว่าเมื่อหันมองมือใหญ่ของตนที่ถูกพันแผลอย่างน่าเกลียดอย่างยิ่งนั้น อดยิ้มมุมปากเล็กน้อยไม่ได้

เขารู้ว่าเล่อเหยาเหยาตั้งใจ แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋เพียงกระตุกมุมปากเบาๆ ครู่หนึ่ง ผ่านไปนานจึงเอ่ยสองคำออกมาเบาๆ

 “ดียิ่ง”

 “เอ้อ”

ครั้งนี้กลับเป็นเล่อเหยาเหยาที่ต้องกระตุกมุมปาก พลางแอบคิดในใจว่า

ไม่เสียทีที่เป็นพญายม สายตานั้นช่างแข็งแกร่งเสียจริง!

ทว่า…

“เช่นนั้นท่านอ๋อง ลุกได้หรือยังขอรับ!”

หน้าตัวเมีย หากถูกคนเห็นท่าทางเช่นนี้ของพวกเขา เขาไม่คิดบิดเบือนถึงจะแปลก! ต่อไปเธอไม่มีหน้าเจอผู้ใดแล้ว!

ขณะเล่อเหยาเหยาคิดพัวพันในใจ กระพริบดวงตางดงาม พลางอยากให้พญายมนี้ชักกะตุกกลับไปเป็นคนที่เย็นยะเยือกดั่งเช่นเมื่อก่อน

เพราะท่าทางของเขาเวลานี้ ทำให้เธอยากที่จะรับมือได้จริงๆ!

ขณะเล่อเหยาเหยาหดหู่ในใจ เดิมทีคิดว่าเมื่อเธอพูดออกอย่างตรงไปตรงมา และช่วยเขาพันแผลเรียบร้อย ตามหลักแล้วเขาต้องลุกขึ้นมา

กลับกลายเป็นว่าหลังพญายมได้ยินคำพูดนี้ของเล่อเหยาเหยา กลับไม่ขยับแม้แต่น้อย และดวงตาเย็นชาเป็นประกาย ก่อนจ้องมองบนใบหน้าเล็กของเธอ แล้วเอ่ยถามว่า

 “หากข้าไม่ยอมลุกขึ้นล่ะ!?”

 “เอ้อ”

สำหรับคำพูดของพญายม เล่อเหยาเหยาถูกทำให้ตกตะลึงอีกครั้ง และในใจอยากร้องไห้ แต่ไร้น้ำตา

เขาพูดเช่นนี้ เธอจะทำอันใดได้!?

ทว่า เมื่อเขาไม่ลุกขึ้น ได้! งั้นเธอจะลุกเอง!

แม้จะค่อยๆ มุดตัวจากช่องว่างของการกักขังของเขาออกมาได้ เฮอเฮอ คล้ายกับว่าจะยากไม่น้อย แต่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการเอนตัวนอนบนพื้นตลอด แล้วถูกคนเห็นจนเข้าใจผิดเลยเถิดไปไกลเช่นนี้!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยกัดฟันแน่น ก่อนตัดสินใจมุดลอดออกไป

แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่า ความคิดในในทั้งหมดของเธอที่จริงได้เปิดเผยออกมาบนใบหน้าเล็กที่ประณีตน่ารักนั้นหมดแล้ว

เมื่อล่วงรู้ความคิดนี้ของเล่อเหยาเหยา เหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่เห้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเล่อเหยาเหยา พลันยื่นมือใหญ่ที่ถูกพันไว้ราวขนมจ้าง (บ๊ะจ่าง) นั้น ก่อนใช้นิ้วที่ไม่ได้พันแผลเพียงไม่กี่นิ้วนั้น จับเบาๆ ที่คางกำลังก้มต่ำของเล่อเหยาเหยาขึ้นมา

ก่อนน้ำเสียงเย้ายวนมีเสน่ห์จะพลันดังขึ้น

 “อย่าขยับ”

 “เอ้อ”

เมื่อได้ยิน เล่อเหยาเหยาพลันไม่กล้าขยับ

อีกทั้งแผ่นหลังยืดตรงอย่างยิ่ง ทั่วร่างกายแข็งทื่อ

ใจพลันเต้นระรัวอย่างรุนแรง ก่อนจะร้องตะโกนในใจไม่หยุด

สวรรค์! สายตาที่น่าหวาดกลัวนั้นของพญายมมาอีกแล้ว!

ร้อนแรงอย่างนั้น เหมือนสัตว์ร้ายที่หิวโหยตัวหนึ่งที่อยากกลืนกินเธอเข้าไปในท้องอย่างไรอย่างนั้น

เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงหนังศีรษะชาวาบไปชั่วขณะ

สวรรค์! พญายมคืนนี้ช่างผิดปกติเกินไปจริงๆ

…………………………………………………………………………………