ตอนที่ 171 หลิงอู่ กินได้หรือไม่? (1)/ตอนที่ 172 หลิงอู่ กินได้หรือไม่? (2)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 171 หลิงอู่ กินได้หรือไม่? (1)

หลิวอวิ๋นเซียวหน้าตาขึงขัง “องค์หญิงท่านจะมากเกินไปแล้ว กระหม่อมรู้ว่าตั้งแต่เล็กท่านร้ายกาจดื้อรั้นเอาแต่ใจ แต่ตลอดมาซวงเอ๋อร์ปฏิบัติต่อท่านอย่างไรท่านไม่เห็นหรือ? อย่างไรเสียชีวิตของท่านก็ได้นางช่วยไว้ ท่านกลับตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นยังจะแย่งสัตว์วิเศษนางอีกพ่ะย่ะค่ะ!”

เพื่อให้สำเร็จหลิงอู่เขาเก็บตัวอยู่นานหลายเดือน แต่เฟิงหรูชิงมาถึงแผ่นดินใหญ่นี้ได้เพียงสองสามเดือนเท่านั้น

 ฉะนั้นย่อมไม่มีใครบอกหลิวอวิ๋นเซียวถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวังหลวง

จู่ๆ เฟิงหรูชิงก็ฉีกยิ้มขึ้นมา

รอยยิ้มเสแสร้งเย็นยะเยือก

“ผู้นำตระกูลหลิวเพิ่งจะกลับมา ไม่เข้าใจเรื่องราวในหลายเดือนนี้ก็พอจะให้อภัยได้ แต่หลิวฮูหยินแสร้งทำเป็นไม่รู้? ท่านไม่รู้เรื่องในประตูเมืองไม่กี่วันนี้หรือ?”

หลิวซื่อชะงัก “เรื่องอะไรหรือเพคะ?”

ในช่วงเวลานี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่นางยังไม่รู้อีก?

เฟิงหรูชิงเดินเข้าไปใกล้หลิวซื่อ ริมฝีปากแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ท่านไม่รู้แต่เฟิงหรูซวงรู้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ท่านไม่สู้ถามนางเองไม่ดีกว่าหรือ?”

เมื่อเห็นสายตาของหลิวซื่อที่มองมาท่าทีของเฟิงหรูซวงก็สงบนิ่งลง “ตอนนั้นน้าสะใภ้กลับไปที่บ้านท่านแม่ ฉะนั้นจึงไม่รู้…สัตว์วิเศษเหล่านี้ท่านพี่เป็นคนนำกลับมา คนทั้งวังหลวงเห็นด้วยกันทั้งนั้น”

เรื่องนี้ภายในแคว้นหลิวอวิ๋นไม่ใช่ความลับ เฟิงหรูซวงจึงมิกล้าพูดโกหก

สีหน้าหลิวซื่อเปลี่ยนเป็นดูไม่ดีนักในทันที นางรีบหันไปมองหลิวอวี่ “อวี่เอ๋อร์เจ้าไม่ได้บอกว่า สัตว์วิเศษเหล่านี้เป็นขององค์หญิงรองหรอกหรือ?”

 ได้ยินคำถามของหลิวซื่อหลิวอวี่ก็นิ่งไป สักพักเขาจึงจะเรียกสติกลับมาได้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเช่นเคย

“ท่านแม่ ท่านพี่เป็นคนบอกข้าทั้งสิ้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ท่านพี่บอกข้าว่าสัตว์วิเศษเหล่านี้เป็นของนาง” หลิวอวี่เชิดหน้าขึ้น ทำเสียงหึ “อย่างไรข้าก็ไม่สนใจ ข้าจะเอาหมาป่าสีขาวตัวนั้น ถ้าท่านแม่ไม่ช่วยข้าพามันกลับไป ข้าจะไม่กินข้าว ไม่ดื่มน้ำ ข้าจะตายให้ท่านดู!”

สีหน้าหลิวซื่อฉายแวววิตกกังวล แต่ทว่าสัตว์วิเศษเหล่านี้ไม่ใช่ของเฟิงหรูซวง อยากจะนำกลับไปก็คงลำบากเสียแล้ว

“อวี่เอ๋อร์ หรือไม่…แม่ไปโรงค้าสัตว์วิเศษซื้อให้เจ้าตัวหนึ่งดีหรือไม่?”

“ไม่ ข้าจะเอาหมาป่าสีขาวตัวนี้!”

หลิวอวี่ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นเกลือกกลิ้งกระจองอแง ไม่ยอมถอดใจจากหมาป่าตัวนั้น

เมื่อก่อนเขามีตระกูลหลิวคอยตามใจ มีหรงกุ้ยเฟยคอยเอาใจ มีเฟิงหรูชิงคอยช่วย ย่อมกลายเป็นคนที่มีนิสัยเย่อหยิ่งเอาแต่ใจหาใดเปรียบ

น่าเสียดายเฟิงหรูชิงในตอนนี้ ไม่ได้โง่เขลาเหมือนแต่ก่อนแล้ว

ทั้งที่โดนตีไปครั้งหนึ่งแล้วแท้ๆ ยังไม่กระจ่างในความจริงอีก

“ท่านแม่ หากท่านแม่ไม่ช่วยข้าเอาหมาป่าสีขาวกลับไป ข้าจะไปหากุ้ยเฟยเหนียงเหนียง กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงรับสั่งแค่คำเดียวของทุกสิ่งก็ต้องเป็นของข้า!” สีหน้าหลิวอวี่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง ถลึงตามองเฟิงหรูชิง “ท่านก็ด้วย เมื่อก่อนของที่ข้าชอบท่านก็จะให้ข้า ตอนนี้ท่านมีสิทธิ์อะไรไม่ให้ข้า?”

นี่ก็เหมือนคนคนหนึ่งให้เงินขอทานทุกวัน หากมีวันใดที่ไม่ให้ ขอทานจะไม่ซาบซึ้งน้ำใจนาง กลับเกลียดชังนางด้วย

“องค์หญิง…” หลิวซื่อแอบชำเรืองมองหลิวอวิ๋นเซียว เห็นว่าหลิวอวิ๋นเซียวมิได้ห้ามปรามหลิวอวี่ นางก็ใจกล้าก้าวเดินไปข้างหน้าสองก้าวแล้วกล่าว “ก็แค่สัตว์วิเศษตัวเดียว อวี่เอ๋อร์ว่าไปแล้วก็เป็นน้องชายของท่าน ท่านไม่จำเป็นจะต้องตระหนี่เช่นนี้ ไม่สู้ยกหมาป่าสีขาวให้อวี่เอ๋อร์ไป พวกเราตระกูลหลิวจะซาบซึ้งท่านเป็นอย่างยิ่งเพคะ”

แววตาเฟิงหรูชิงเย็นราวกับฤดูหนาวเดือนสิบสองทำเอาคนเห็นต้องตัวสั่น

“ข้อแรก ข้าเฟิงหรูชิงชีวิตนี้มีน้องสาวเพียงคนเดียวคือน่าหลานไต้เอ๋อร์ และมีพี่ชายอีกคนคือน่าหลานจิ้ง ไม่มีน้องชายน้องสาวที่ใดอีก! อย่าว่าแต่หลิวอวี่ ต่อให้เป็นเฟิงหรูซวงก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกับข้า!”

……………………………………

ตอนที่ 172 หลิงอู่ กินได้หรือไม่? (2)

“ข้อสอง เจ้าหมาป่าน้อยไม่ใช่ของขวัญที่จะยกให้ใคร มันไม่ใช่สิ่งของมันเป็นเหมือนลูกหมาป่าของข้า แม้ว่าท่านจะสามารถยกลูกชายของตัวเองให้คนอื่นได้ แต่ข้าก็ไม่อาจยกมันให้ใคร ข้าเฟิงหรูชิงมิได้ขี้ขลาดถึงเพียงนั้น!”

หลิวซื่อโมโหขึ้นมาทันที องค์หญิงนี่ยังไม่รู้ความเสียจริง ก็แค่หมาป่าตัวเดียวยังหมาป่ามาเปรียบเทียบกับคน!

สำหรับใครคนอื่นแล้วมนุษย์ย่อมสำคัญกว่า แต่นี่กลับบอกว่าหมาป่าตัวนั้นเป็นลูกของนาง ไม่แบ่งแยกมนุษย์กับสัตว์ ยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน!

หมาป่าสีขาวร้องเอ๋าว์เอ๋าว์อยู่สองครั้ง ซาบซึ้งจนน้ำตานองหน้า

นายท่านของมันเป็นคนดี

เมื่อครู่ก็เข้ามาช่วยมันโดยไม่สนใจตัวเอง ตอนนี้ยังนับว่ามันเป็นลูก ชีวิตนี้ของมันจะติดตามนายท่านแน่นอน ถึงจะกินเทียนหลิงกั่วของนายท่านจนหมดบ้านแล้วมันก็จะไม่ไปไหน!

“องค์หญิง” หลิวซื่อหัวเราะเฝื่อน

“ไม่มีหมาป่าตัวเดียวไปหาเอาใหม่ก็สิ้นเรื่อง จะเอาหมาป่ามาเปรียบเทียบกับลูกชายของหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ”

“ใช่ ข้าพูดผิดไป พวกเขาทั้งสองนำมาเทียบกันไม่ได้”

เฟิงหรูชิงแสดงสีหน้าขอโทษ

หลิวซื่อฉีกยิ้มกว้างกว่าเก่า “องค์หญิงเข้าใจก็…”

คำสุดท้ายยังไม่ทันได้เอ่ยออกมาเสียงใสดุจระฆังของเฟิงหรูชิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“เพราะว่าคนทั้งตระกูลหลิวรวมกัน ยังเทียบไม่ได้กับขนเส้นเดียวของเจ้าหมาป่าน้อย! เมื่อครู่ข้าเอาเจ้าหมาป่าน้อยไปเปรียบกับลูกชายของท่าน นี่ช่างผิดต่อหมาป่าน้อยของข้าจริงๆ”

เฟิงหรูชิงลูบขนของหมาป่าสีขาวแววตาแสดงความรู้สึกเสียใจเต็มประดา “ดีที่หลิวฮูหยินเตือนข้า ข้าถึงได้เข้าใจข้อนี้ วันหน้าข้าจะไม่เอาหมาป่าน้อยไปเปรียบกับคนง่ายๆ อีกแล้ว”

เพราะว่า…คนพวกนี้…ไม่คู่ควร!

หมาป่าของนางซื่อสัตย์ภักดีแล้วยังโง่เขลาอีก จะไปหาหมาป่าเฝ้าบ้านที่ดีเช่นนี้ได้จากไหน? คนพวกนี้คิดจะแย่งหมาป่าของนาง มันก็เหมือกับ…ฝันลมๆ แล้งๆ

“องค์หญิง!” หลิวซื่อโมโหขึ้นเสียงลั่น

เฟิงหรูชิงดวงตาทอประกาย เพียงขยับกายก็ไปอยู่ที่ด้านหลังหลิวซื่อเสียแล้ว

เพี๊ยะ!

ฝ่ามือฟาดเข้าที่หน้านางอย่างแรง

การกระทำของนางรวดเร็วและเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อย่าว่าแต่คนอื่นเลยแม้แต่หลิวอวิ๋นเซียวยังคิดไม่ถึงว่าเฟิงหรูชิงจะตีคนตรงนี้

“ช่างกล้าดีนัก!” น้ำเสียงเฟิงหรูชิงเย็นยะเยือก “ใครอนุญาตให้เจ้าขึ้นเสียงใส่ข้า? เป็นผู้น้อยคิดกำเริบเสิบสาน?”

“ท่าน…”

หลิวซื่อหน้าแดงก่ำยกนิ้วชี้เฟิงหรูชิงด้วยความโมโห

แววตาเย็นชาของเฟิงหรูชิงส่องประกาย “มือของเจ้าหากกล้าชี้หน้าข้าอีก ข้าจะหักนิ้วเจ้าทิ้งทันที!”

หลิวซื่อไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

พ่อสามีสำเร็จหลิงอู่แล้ว เหตุใดนางยังต้องรองรับอารมณ์เฟิงหรูชิงอีก?

แต่นางก็กลัวองค์หญิงนี่ เกิดบ้ากัดคนไม่เลือกจริงๆ จึงได้แต่เก็บนิ้วลงไปถลึงตามองเฟิงหรูชิง

“ท่านปู่”

หลิวอวี่น้อยเนื้อต่ำใจหันไปหาหลิวอวิ๋นเซียวที่ไม่พูดไม่จาจนถึงตอนนี้ “ข้าอยากได้หมาป่าสีขาวตัวนั้น”

แววตาหลิวอวิ๋นเซียวนิ่งขรึมลง เขาไม่ได้สนใจคำพูดของหลิวอวี่ ดวงตาสูงวัยฉายแววดุร้ายเย็นชา

“องค์หญิง ท่านรังแกลูกสะใภ้กระหม่อมต่อหน้ากระหม่อม มันดูจะเกินไปหน่อยหรือไม่?”

อย่างไรเขาก็ระดับหลิงอู่

เขากลับมาเมืองหลวงครั้งนี้ ต่อให้เป็นฝ่าบาทก็ต้องนับว่าเขาเป็นแขกสำคัญ

คิดไม่ถึงว่าเฟิงหรูชิง…จะกล้าตีคนต่อหน้าเขา!

เฟิงหรูชิงเหล่ตามองหลิวอวิ๋นเซียว “ข้าตีนางแล้วอย่างไร? ต่อให้ข้าตีนางจนตาย ใครจะกล้าพูดคำแบบนั้นไม่กับข้า?”

“ท่าน…” หลิวอวิ๋นเซียวโกรธจนใบหน้าสูงวัยเขียวคล้ำ “กระหม่อมเป็นหลิงอู่”

…………………………