บทที่ 36 อาจารย์ก็เดิมพันเหรอ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

“จิ๊ๆๆ คุณหนูสามกู้เป็นไก่อ่อน คุณหนูห้ากู้เป็นหญิงชั้นต่ำบ้ากาม ข้าว่านะ คุณหนูรองกู้ก็ไม่ได้ดีไปถึงไหนหรอก”

“นั่นน่ะสิ ต่อไปพวกเราแต่งงาน อย่าแต่งกับคุณหนูในจวนเฉิงเซี่ยงเด็ดขาด คาดเพดานไม่ตรงคานพื้นเอียง กู้ชูหน่วนกับกู้ชูหลันยังเป็นแบบนี้ แล้วกู้ชูหยุนจะดีไปถึงไหนกัน”

กู้ชูหน่วนไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นๆพูดถึงนาง นางเอาแต่จ้องมองการเดิมพันครั้งนี้ไม่หยุด

ในบรรดาการเดิมพันทั้งหมด อ๋องเจ๋อมีมากที่สุด เทียบกับกู้ชูหยุนแล้ว น้อยจนน่าสงสาร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องของกู้ชูหลันกระทบถึงนางหรือเปล่า และนาง……ก็ไม่มีใครยอมเดิมพันเลย

และพูดคนในราชวิทยาลัยต่างก็ซุบซิบกัน

“เดิมพันให้คุณหนูสามกู้ หนึ่งต่อห้าร้อย ทุกคนรีบเดิมพันเร็วเข้า พลาดโอกาสในครั้งนี้ ต้องรออีกห้าปีเลยนะ”

กู้ชูหน่วนตาเป็นประกาย

หนึ่งต่อห้าร้อย?

งั้นขอแค่นางชนะ หนึ่งตำลึงก็ได้ห้าร้อยตำลึงเลยน่ะสิ

กู้ชูหน่วนกลับหลังหันกะทันหัน ยื่นมือไปแล้วพูดว่า “วันนี้พวกเจ้าเอาเงินมาใช่ไหม ยืมข้าก่อน ข้ารับรองว่าพวกเจ้าจะต้องได้เงินกลับไปจนล้นมือแน่นอน”

เซียวหยู่เซวียนสงสัย “เจ้าคงไม่ได้จะเดิมพันให้ตัวเจ้าชนะใช่ไหม”

“เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดนั้นเชียวเหรอ?”

พอพูดแบบนี้ออกไป เซียวหยู่เซวียนสามคนก็ตื่นเต้นขึ้นมา “งั้นเจ้าว่ามา พวกเราจะเดิมพันให้ใคร เย่เฟิง? อ๋องเจ๋อ? หรือว่ากู้ชูหยุน?”

กู้ชูหน่วนหัวเราะหึๆ สายตาเป็นประกาย สายตาเฉียบคมนั้นเต็มไปด้วยการวางแผน

“เจ้าเอาเงินให้ข้าก่อน”

หลิวเยว่มองไปที่เซียวหยู่เซวียน ถามด้วยสายตาว่าจะให้ดีไหม?

เซียวหยู่เซวียนลูบคางตัวเอง แล้วพูดว่า “ยัยขี้เหร่ฉลาดเป็นกรด มีแต่นางที่เอาเปรียบผู้อื่น ยังไม่เห็นใครเคยเอาเปรียบนางได้เลย ครั้งนี้พวกเราเชื่อนางอีกครั้งแล้วกัน”

หลิวเยว่อวี่ฮุยพยักหน้า งั้นก็เชื่ออีกสักครั้งแล้วกัน

สามคนต่างก็ควักเงินออกมา เซียวหยู่เซวียนเอาออกมาห้าหมื่น หลิวเยว่สองหมื่น อวี่ฮุยหนึ่งหมื่น

กู้ชูหน่วนกลอกตาขึ้นบน “เงินแค่นี้เองเหรอ?” รู้แบบนี้เมื่อวานไม่น่าเอาเงินให้เจ้าพวกนี้เร็วขนาดนั้นเลย

“ข้าให้ที่บ้านหมดแล้ว?”

กู้ชูหน่วนเอาเงินมา และเดิมพันให้ตัวเองทั้งหมด

“ข้าเดิมพันให้กู้ชูหน่วนชนะ”

พวกเซียวหยู่เซวียนตะลึง และพูดอย่างบ้าคลั่งว่า “ไหนเจ้าว่าจะไม่เดิมพันให้ตัวเองไง?”

“ข้าว่าข้าไม่โง่สักหน่อย ทำไมไม่เดิมพันให้ตัวเองล่ะ”

“เจ้า……เจ้าหลอกพวกข้า ข้าไม่เดิมพันแล้ว เจ้าเอาเงินคืนข้ามานะ”

“ซื้อแล้วซื้อเลย ถ้าคนของราชวิทยาลัยคืนเงินให้พวกเจ้าได้ งั้นข้าก็ไม่ว่าอะไร”

“ยัยขี้เหร่ เจ้าเป็นคนที่ฟ้าสวรรค์ส่งมาลงโทษข้าใช่ไหม?”

มองดูแววตาเคียดแค้นของทั้งสามคน กู้ชูหน่วนโอบไหล่เขาไว้ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วางใจได้เลย ถ้าข้าชนะแล้ว พวกเจ้าจะได้เงินอย่างน้อยคนละห้าล้านตำลึงเชียวนะ”

“ช่างมันเถอะ เจ้าคิดว่าที่หนึ่งเป็นกะหล่ำปลีหรือไง เจ้าอยากได้ก็ได้เลยงั้นเหรอ”

กู้ชูหน่วนหัวเราะแหะๆ เอาเงินห้าล้านออกมาจากกระเป๋า และเดิมพันไปทั้งหมด “ข้าเอาทรัพย์สินของข้าและชีวิตของข้าเดิมพันไปทั้งหมดแล้ว ฟ้าสวรรค์ต้องปกป้องให้ข้าได้ที่หนึ่งนะ”

ทุกคนที่ล้อมวงอยู่นั้นต่างก็ขี้เกียจที่จะบ่นแล้ว พวกเขารอดูกู้ชูหน่วนจะรนหาที่ตายยังไง

กลุ่มผู้คนไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน ทำเอาทุกคนแตกวงกันหมด

“อาจารย์ซ่างกวนมาแล้ว คุณพระ อาจารย์ซ่างกวนมาสนามการเดิมพันได้ยังไง หรือว่าเขาจะเดิมพันเหมือนกัน?”

กู้ชูหน่วนเงยหน้ามองไป กลับเห็นซ่างกวนฉู่สวมชุดสีขาวดั่งหิมะ อย่างกับเทพบุตรลงมาจุติ เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

ใบหน้าของเขาหล่อเหลา บุคลิกสง่างาม ขนาดเดินยังให้ความรู้สึกที่สง่าจนไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้

“อรุณสวัสดิ์อาจารย์ซ่างกวน”

ทุกคนทักทายอย่างมีมารยาท และหลีกทางให้อาจารย์

ซ่างกวนฉู่พยักหน้าเล็กน้อย “อรุณสวัสดิ์”

กู้ชูหน่วนยิ้มและพูดว่า “อาจารย์ ทำไมถึงมาสนามเดิมพันล่ะ หรือว่าท่านจะลงเดิมพันเหมือนกัน?”

“วันนี้นักเรียนสามคนของข้าเข้ารอบสุดท้ายได้ ข้าก็ต้องมาให้กำลังใจสักหน่อยสิ”

ทุกคนอดไม่ได้ขยับเข้าไปใกล้ แล้วพูดว่า “อาจารย์ซ่างกวนก็จะลงเหรอ? คุณพระ อาจารย์ซ่างกวนสายตาเฉียบแหลม คนที่ท่านเดิมพันต้องได้ที่หนึ่งแน่ พวกเรายังลังเลอะไรอีก เดิมพันตามท่านดีกว่า”

“นั่นสิ ลงตามอาจารย์ซ่างกวน จะต้องชนะอย่างแน่นอน”

หลิวเยว่หงุดหงิดใจมาก ถ้ารู้แบบนี้พวกเขาไม่น่าเอาเงินออกมาเลย

ทุกคนในสนามการเดิมพันต่างก็ยิ้มและพูดอย่างเคารพว่า “อาจารย์ซ่างกวน ไม่ทราบว่าท่านต้องการเดิมพันให้ใครขอรับ”

ซ่างกวนฉู่เอาเงินออกมาหนึ่งพันตำลึง และรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

“ข้าสองแขนเสื้อโปร่งใสสะอาด เงินหนึ่งพันตำลึงนี่เป็นทรัพย์สินทั้งหมดของข้า เดิมพันให้……คุณหนูสามกู้แล้วกัน”

เฮือก……

ทุกคนแทบสะดุดล้มหน้าทิ่มพื้น

เดิมพันให้……ให้กู้ชูหน่วนงั้นเหรอ?

วันนี้อาจารย์ซ่างกวนไม่ได้ป่วยใช่ไหม? เขาเดิมพันให้กู้ชูหน่วนไก่อ่อนแบบนั้นได้ยังไงกัน?

ขนาดผู้รับผิดชอบสนามการเดิมพันยังอึ้งกันเป็นแถบเลย

“อาจารย์ ท่านแน่ใจนะว่าไม่ได้เดิมพันผิดคน?”

ซ่างกวนฉู่ยิ้มอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงที่พูดนั้นกลับเด็ดขาด ผู้ที่ได้ยินแล้วก็ต้องยอมสยบ

“คุณหนูสามกู้เพิ่งมาเรียนที่ราชวิทยาลัย ข้าเป็นอาจารย์ ก็ต้องให้กำลังใจนางมากๆสิ”

พวกคุณหนูในราชวิทยาลัยต่างหลงใหลกันไปหมด

“อาจารย์ซ่างกวนอ่อนโยนและคิดถึงผู้อื่นก่อนเสมอเลย เขาไม่เคยคิกที่จะทิ้งไก่อ่อนคนหนึ่งเลย นิสัยดีมากจริงๆ”

“นั่นสิ อาจารย์ซ่างกวนรู้ดีว่าไก่อ่อนกู้ชู้หน่วนจะต้องแพ้ราบคาบ แต่เขาก็ยังเดิมพันด้วยทรัพย์สินทั้งหมดที่มีให้นาง เพียงแค่อยากให้กำลังใจนาง โลกนี้ทำไมถึงมีคนที่ดีอย่างอาจารย์ซ่างกวนอยู่นะ”

กู้ชูหน่วนดูภายนอกเป็นคนอ่อนโยนอบอุ่น แต่ความจริงแล้วรอยยิ้มนั้นกลับเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเจ้าเล่ห์แสนกล นางเห็นแล้วก็อดไม่ได้กระตุกมุมปาก

ซ่างกวนฉู่ดูยังไงก็เหมือนมาปลอบใจนางเลย

เหมือนรู้ดีว่านางจะต้องชนะแน่นอน ดังนั้นจึงเดิมพันด้วยเงินทั้งหมดที่มี แถมยังทำตัวเป็นคนดี เพื่อได้รับชื่อเสียงดีๆพวกนั้นอีก

คนเจ้าเล่ห์

ไร้ยางอาย

น้ำเสียงของซ่างกวนฉู่สดใสไพเราะ และทำท่าสั่งสอน “คุณหนูสามทำสุดความสามารถก็พอ แพ้ก็ไม่เป็นไร ข้าจะคอยให้กำลังใจนะ”

ให้กำลังใจบ้าอะไร

ซ่างกวนฉู่ไปแล้ว แต่ทุกคนก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะเดิมพันให้ใคร

ถ้าอาจารย์ซ่างกวนเดิมพันให้คนอื่น พวกเขาจะลงตามแน่นอน

แต่ตอนนี้……

หรือว่าจะเดิมพันไก่อ่อนตามอาจารย์ดี?

เงินของพวกเขาไม่ได้ตกลงมาจากฟากฟ้าสักหน่อย

อาจารย์ซ่างกวนใจดีได้ แต่พวกเขาทำไม่ได้

“ทำยังไงดี เดิมพันให้ใครดี?”

“ช่างเถอะ เดิมพันให้อ๋องเจ๋อดีกว่า ชนะแน่นอน”

“งั้นข้าเดิมพันให้อ๋องเจ๋อ”

เซียวหยู่เซวียนเปิดพัดเสียงดัง แล้วพูดว่า “ข้าดูไม่ออกเลย อาจารย์ซ่างกวนใจดีจริงๆนะ”

กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูด

ใจดีเหรอ?

คนทั้งพระนครโดนซ่างกวนฉู่หลอกกันหมด เขาก็เป็นแค่หมาป่าที่เอาหนังแกะมาบังหน้า

งานชุมนุมแข่งขันบุ๋นมีราชวงศ์เป็นผู้จัด

ฮ่องเต้รวมไปถึงขุนนางคนอื่นๆต่างก็มาดูการแข่งขันทั้งหมด ภาพนั้นยิ่งใหญ่มาก

ที่นั่งหลักตรงกลางบนสุดนั้นเป็นที่นั่งของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน

ด้านซ้ายเป็นขุนนาง เรียงตามลำดับหน้าที่

ด้านขวาเป็นคณะทูตของแคว้นฉู่ แคว้นจ้าว แคว้นฮั่ว รวมไปถึงอาจารย์ใหญ่และคณาจารย์ของราชวิทยาลัยแห้งแคว้นเย่

กู้ชูหน่วนเห็นว่านางมีที่นั่งด้วย แต่อยู่ท้ายสุดก็เท่านั้น

นางรู้สึกรังเกียจที่นั่งนี้มาก

แต่พอนึกถึงคนที่ได้เข้ารอบสามคนพร้อมกัน กู้ชูหยุนกลับไม่มีที่นั่ง นางก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา