ตอนที่ 87 ครองแชมป์ยอดขายที่หนึ่งอีกครั้ง / ตอนที่ 88 สร้างจักรวรรดิ

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 87 ครองแชมป์ยอดขายที่หนึ่งอีกครั้ง

 

 

จ้าวหงหลิงถูกโจมตีจากรอบสารทิศ ทุกคนต่างต้องการเล่นงานเธอ

 

 

ประสิทธิภาพและผลงานของจ้าวหงหลิงนั้นยอดเยี่ยมมากจนไม่มีใครสามารถหาเรื่องเธอได้ แต่ครั้งนี้ ทุกคนต่างใช้ประโยชน์จากเรื่องเจี่ยงซือเฟยมาจัดการจ้าวหงหลิงให้จนมุม

 

 

แต่ถึงอย่างไร จ้าวหงหลิงก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว เธอจึงสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนเหลือบมองทุกคนแล้วประกาศเสียงดังฟังชัด “เป็นความผิดของฉันเองค่ะ ฉันจะลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ”

 

 

เธอไม่ใช่คนปัดความรับผิดชอบ และท้อเท็จจริงคือ เจี่ยงซือเฟยทิ้งบริษัทไปในขณะที่อยู่ภายใต้การดูแลของเธอ

 

 

ตัวตัวค้านเสียงดังลั่น “พี่หลิง!”

 

 

ผู้คนรอบๆ ตัวเธอต่างยิ้มอย่างยินดีปรีดาและเริ่มพูดจาประชดประชัน เห็นได้ชัดว่าทุกคนกำลังรอให้เธอประกาศลาออก

 

 

“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว!”

 

 

“คนในบริษัทจับตาดูเธออยู่ทั้งนั้น แล้วนี่จะแก้ตัวเรื่องยอดขายยังไงดีล่ะ”

 

 

ในตอนนั้นเอง หลินเยียนที่ควรจะอยู่เงียบๆ และไม่ทำตัวโดดเด่นที่สุดก็ลุกขึ้นเดินไปยังกลางห้องอย่างช้าๆ

 

 

หญิงสาวมองทุกคนแล้วเอ่ยอย่างเฉื่อยชา “ใจเย็นๆ ค่ะ ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้น”

 

 

ทุกคนทำหน้าถมึงทึงขณะจ้องมองหลินเยียนอย่างหงุดหงิด “เธอเป็นใครถึงมีสิทธิ์พูดแบบนี้”

 

 

หลินเยียนเมินแล้วบ่นต่อ “เป็นอะไรกันคะ กะอีแค่เจี่ยงซือเฟยหนีไปที่อื่นทำไมถึงต้องตีโพยตีพายกันขนาดนั้น คอยดูแล้วกันค่ะ ฉันจะช่วยหากำไรที่เสียไปเพราะพี่หลิงกลับมาให้ในเวลาแค่สามเดือน พี่หลิงต้องทำเงินได้เปรี้ยงจนติดอันดับท็อปของบริษัทเหมือนเดิมแน่นอน!”

 

 

ทั้งห้องเงียบกริบเมื่อสิ้นเสียงหลินเยียน

 

 

ทุกคนจ้องมองหลินเยียนราวกับมองดูคนบ้า แม้แต่จ้าวหงหลิงและตัวตัวเองก็พูดอะไรไม่ออก

 

 

เกิดเสียงหัวเราะดังสนั่นห้องในเพียงอึดใจต่อมา

 

 

“ฮ่าๆๆ! หลินเยียน เธอเสียสติไปแล้วหรือไง! หรือว่านี่เล่นมุกอยู่?”

 

 

“เธอโดนแบนจากวงการบันเทิงไปแล้ว ที่ได้บทสมทบกระจอกๆ นั่นมาก็เพราะใช้ดวงล้วนๆ แล้วยังหน้าด้านสร้างข่าวฉาวกับดาราดังอีกต่างหาก ตอนนี้ชื่อเธอน่ะอยู่ในบัญชีดำเรียบร้อยแล้ว แค่เธอไม่ลากบริษัทให้ตกต่ำไปด้วยก็เป็นบุญแล้ว แต่ตอนนี้ดันมาบอกว่าจะหาเงินให้เราเรอะ”

 

 

“ฉันว่าเธออยู่กับบทนั้นได้ไม่นานหรอกนะ ใครเขาจะอยากมีเอี่ยวกับดาราที่ดีแต่สร้างปัญหากันล่ะ กล้าเทียบตัวเองกับเจี่ยงซือเฟยได้ยังไง!”

 

 

 

 

หลินเยียนยังคงสงบแม้อยู่กลางพายุคำวิพากษ์วิจารณ์ เธอพูดในขณะที่ฉีกยิ้มว่า “เดี๋ยวก็รู้เองล่ะค่ะว่าจะหมู่หรือจ่า ขอแค่ฉันลองสักตั้งมันจะมีปัญหาอะไร หรือว่าพวกคุณไม่มั่นใจในตัวเอง อ๋อ พวกคุณกลัวแพ้ฉันจนอันดับยอดขายร่วงใช่ไหมคะ”

 

 

เหล่าผู้จัดการหน้าถอดสีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

 

 

“พูดจาเหลวไหล!”

 

 

“ยัยคนเพ้อเจ้อ ฝันกลางวัน!”

 

 

หลินเยียนโบกมือไปมา “เรื่องนี้แก้ได้ง่ายมากๆ ในเมื่อทุกคนมั่นใจมากว่าฉันจะทำไม่ได้ ทำไมเราไม่มาเดิมพันกันหน่อยล่ะคะ”

 

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าหลินเยียนจะเข้ามาวุ่นวาย ทุกคนจึงเริ่มหารือกันเอง

 

 

จ้าวหงหลิงทำงานหนักมานานหลายปีจนทางผู้บริหารเล็งเห็นความทุ่มเทของเธอ เหล่าผู้จัดการรู้ดีว่าต่อให้บีบบังคับให้เธอลาออกได้แต่เบื้องบนก็คงไม่ยินยอมในทันทีทันใด

 

 

แต่ถ้ามีคนซื่อบื้ออย่างหลินเยียนช่วย พวกเขาก็อาจจะกำจัดจ้าวหงหลิงได้เร็วกว่าที่คิด

 

 

เมื่อเวลานั้นมาถึง ชื่อเสียงของจ้าวหงหลิงก็น่าจะเสื่อมเสียน่าดูชม และเธอก็จะถูกทำลายลงในที่สุด

 

 

เมื่อคิดได้อย่างนั้น หนึ่งในผู้จัดการก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้า “ได้! เราให้เวลาเธอสามเดือน ถ้าผู้อำนวยการจ้าวทำยอดขายสูงสุดไม่ได้ เธอจะต้องทำตามสัญญาที่ให้ในวันนี้!”

 

 

เมื่อพูดจบ พวกเขาก็ออกจากห้องไป

 

 

ตัวตัวตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวหลังจากนั้น “หลินเยียน! พี่ทำอะไรของพี่ ทำไมต้องพยายามกลั่นแกล้งพี่หลิงด้วยทั้งๆ ที่เขาดีกับพี่ขนาดนี้”

 

 

 

 

ตอนที่ 88 สร้างจักรวรรดิ

 

 

“ตัวตัว…”

 

 

จ้าวหงหลิงส่ายหัวก่อนพูดขัดจังหวะตัวตัว เธอถอนหายใจเบาๆ กับตัวเอง “ช่างเถอะ อย่างน้อยเราก็มีเวลาอีกสามเดือน”

 

 

แต่ถึงกระนั้น เธอก็ย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีกแล้วในช่วงเวลาสามเดือนข้างหน้านี้

 

 

ตัวตัวยังรู้สึกโมโหแทนจ้าวหงหลิงอยู่ “แต่พี่เยียนก่อเรื่องอีกแล้วนะคะ!”

 

 

หลินเยียนกะพริบตา “ฉันอาจจะดังเปรี้ยงขึ้นมาก็ได้นี่? แล้วงานโฆษณาเอย รายการเอย หนังเอย ก็จะแห่เข้ามาหาฉัน แล้วเราก็จะทำยอดขายได้ที่หนึ่งอีกครั้ง!”

 

 

ตัวตัวทำหน้าเฉยเมย “ถ้าพี่ทำเงินให้เราได้จริง ฉันจะเชื่อฟังคำสั่งพี่ทุกอย่าง แถมเสิร์ฟชาให้ด้วยเอ้า!”

 

 

 

 

จ้าวหงหลิงจัดรถให้ตัวตัวใช้ไปส่งหลินเยียนที่บ้าน

 

 

ตัวตัวกำชับหลินเยียนอย่างเคร่งครัดเมื่อพวกเธอลงมาถึงที่ชั้นล่าง “ระวังตัวด้วยเวลาจะออกไปไหน เราไม่มีเงินจ้างบอดี้การ์ดให้พี่หรอกนะ อย่าโดนแฟนๆ ฆ่าซะก่อนล่ะ!”

 

 

หลินเยียนยิ้ม “เข้าใจแล้ว! ทำไมถึงคิดว่าฉันจะตายง่ายๆ ล่ะ ฉันยังต้องอยู่ช่วยเธอกับพี่หลิงสร้างจักรวรรดิใหม่ก่อนนะ!”

 

 

ตัวตัวสวนทันที “จักรวรรดิแอนตี้แฟนน่ะเหรอ”

 

 

หลินเยียนเงียบกริบ…

 

 

นี่เธอสองคนจะคุยกันดีๆ ไม่ได้เลยหรือยังไง?

 

 

หลินเยียนมองไปทางกลุ่มแอนตี้แฟนแล้วถอนหายใจ “เฮ้อ…พวกนี้ยังไม่ได้มาตรฐานนะ ขนาดหน้าฉันยังจำไม่ได้เลย สงสัยต่อมความภักดีจะมีปัญหา!”

 

 

ตัวตัวฉุนกึก “หยุดเอ้อระเหยแล้วขึ้นรถเดี๋ยวนี้!”

 

 

ขณะที่หลินเยียนกำลังจะขึ้นรถ เธอได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากทางกลุ่มแอนตี้แฟน พวกเขากำลังพุ่งมาทางเธออย่างเกรี้ยวกราด

 

 

“หลินเยียน! นั่นมันหลินเยียน!”

 

 

“หลินเยียน! นังหน้าด้าน! กล้าเล็งไอดอลที่รักของฉันได้ยังไง! มาให้ฉันตบสักที…”

 

 

“ลุยเลยเจ๊! หวดมันให้คว่ำ!”

 

 

 

 

ในเพียงอึดใจต่อมา กลุ่มแอนตี้แฟนเขวี้ยงปาผักเน่า ก้อนหิน และไข่เน่ามาทางคนทั้งคู่

 

 

ตัวตัวดึงผักออกจากผมด้วยท่าทีโมโหสุดขีด “ยัยงั่งนี่! พวกเขาจำพี่ได้แล้ว! พอใจแล้วหรือยังล่ะ”

 

 

หลินเยียนเลิกคิ้วอย่างงุนงงเพราะเธอมั่นใจว่าปลอมตัวอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว “เป็นไปได้ไง พวกเขาไม่น่าจะจำฉันได้สิ แหม ดูถูกไม่ได้เลยนะเนี่ย”

 

 

ตัวตัวที่กำลังโกรธจัดพูดว่า “ก็ต้องมีคนในบริษัทบอกพวกเขาอยู่แล้ว!”

 

 

หลินเยียนตอบ “ทำไมล่ะ เราทำงานที่เดียวกันแท้ๆ ใครกันน้อช่างใจไม้ไส้ระกำได้ขนาดนั้น”

 

 

ตัวตัวสวนกลับ “ทุกคนในบริษัทเขาเกลียดพี่กันหมดแหละ ฉันจะไปรู้ได้ไง”

 

 

หลินเยียนพูดไม่ออก…

 

 

ตัวตัวเร่งเธอ “ขึ้นรถเดี๋ยวนี้!”

 

 

หลินเยียนและตัวตัวรีบขึ้นรถอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาชีวิตก่อนที่รถจะแล่นออกไปในทันทีทันใด

 

 

“ไม่ได้เจอการต้อนรับขับสู้อย่างดีแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย…” หลินเยียนใช้ฝ่ามือแนบที่หน้าอกแล้วถอนหายใจ

 

 

ตัวตัวกลอกตาเป็นเชิงตอบรับ “พวกนี้ยังไม่รู้ว่าพี่อาศัยอยู่ที่ไหนก็เลยได้แต่ตามมาราวีถึงบริษัทแบบนี้ นี่ยังแค่กลุ่มเล็กนะ เดี๋ยวพอเปิดกล้องแล้วทุกคนก็จะรู้ว่าพี่อยู่ที่ไหน แล้วพี่ก็จะโดนดักซุ่มโจมตีแน่ๆ เราตายแน่พี่! คิดล่วงหน้าไว้เลยนะว่าอยากจะตายแบบไหน!”

 

 

หลินเยียนรู้สึกเหมือนถูกลูกธนูจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงหัวใจ แต่เมื่อเธอเหลือบมองป้ายชื่อของตัวตัว เธอก็ใจชื้นขึ้นเล็กน้อย

 

 

ตัวตัวมองออกไปนอกหน้าต่างและสังเกตเห็นว่ามีรถจำนวนหนึ่งแล่นตามมาด้านหลัง ซ้ำร้ายคือมีนักข่าวมาด้วย

 

 

ตัวตัวบอกกับพนักงานขับรถอย่างกังวลใจ “ช่วยขับเร็วกว่านี้อีกค่ะ!”

 

 

“ทางนี้มันขับยากนะคุณ อีกอย่าง ผมก็ขับเกินความเร็วที่เขาจำกัดไปแล้ว!” พนักงานขับรถกัดฟันกรอดราวกับไม่ได้เต็มใจจะทำงานนี้

 

 

ตัวตัวมองหลินเยียนแล้วเริ่มเทศนาเธอ “ความผิดพี่คนเดียวเลย! พี่หลิงก็ตกที่นั่งลำบากอยู่แล้วแต่ดันต้องมาดูแลพี่อีก! พี่จะพาเขาซวยไปด้วย!”

 

 

พนักงานขับรถเหงื่อตก “พวกมันขับมาใกล้เราเกินไปแล้ว ผมคงสลัดมันไม่พ้นหรอก!”