ในที่สุดเส้นหมี่ก็ยังคงถูกขังใหม่อีกครั้ง
แต่ไม่ได้ขังเอาไว้นาน เนื่องจากว่าหลังจากนี้ไม่กี่ชั่วโมง เรือก็จะถึงแล้ว เธอจึงถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง
“คุณเส้นหมี่ ถึงแล้วครับ คุณลงไปก่อน วันนี้คาดว่าคงจะไม่สามารถพาคุณไปที่หิรัญชากรุ๊ปได้ ผมได้จัดการเรื่องที่พักให้คุณแล้ว ถึงตอนนั้นพวกเขาจะพาคุณไป”
คนที่มาเปิดประตูให้เธอก็คือเค หลังจากที่เขาปล่อยตัวเธอออกมาแล้ว ก็บอกเธอว่าวันนี้จะไม่ได้ไปที่หิรัญชากรุ๊ปเป็นการชั่วคราว
ไม่ไปหิรัญชากรุ๊ปก็ดีสิ!
เธอยังกำลังกลุ้มใจอยู่ว่าจะส่งเธอไปจริงๆ เธอเห็นคุณท่านแล้วควรจะทำอย่างไรดี? คนๆนี้ ในตอนนั้นรักและเอ็นดูเธอแบบนี้ เห็นเธอเป็นเหมือนกับลูกสาวแท้ๆอย่างไรอย่างนั้น
เธอไม่รู้จริงๆ หลังจากที่เขาเห็นเธออีกครั้ง เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร? จะโมโหหรือเปล่า?
เส้นหมี่ถอนหายใจออกมา
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ”
เธอใจร้อนที่จะไปเจอกับลูกอีกสองคนแล้ว หลายวันขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองคนเป็นอย่างไรกันบ้าง?
เคพยักหน้าลง จากนั้น ก็พาเธอลงมาจากเรือ
ห้าปีแล้ว ตอนที่เท้าทั้งสองข้างของเส้นหมี่เหยียบลงบนพื้นดินผืนนี้อีกครั้ง อารมณ์ความรู้สึกของเธอก็มีความซับซ้อน
ห้าปีแล้ว เธอไม่ได้กลับมาเป็นเวลาห้าปีเต็มๆ เงยหน้าขึ้นมามอง โครงสร้างของเมืองยังคงดูคุ้นเคย แต่ตึกสูงระฟ้าที่ผุดขึ้นมานั้น และยังมีความเสียงดังคึกคักที่แตกต่างไปจากเมื่อห้าปีก่อนอย่างสิ้นเชิง ทำให้เธอรู้สึกแปลกไม่คุ้นเคยแบบนั้น
เมืองAในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว
“ยืนอยู่ตรงนี้ทำอะไรกัน? ขึ้นรถสิครับ?”
บอร์ดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆเห็นเธอไม่ขยับ ก็เร่งขึ้นมาด้วยความรำคาญเล็กน้อย
เส้นหมี่ได้ยินแล้ว ถึงได้ดึงสติกลับมา แล้วเดินไปยังรถคันนั้นที่อยู่ทางด้านหน้า
“คุณชายเล็กของพวกนายล่ะ? ทำไมไม่เห็นเขาลงมาด้วย?”
“คุณยังจะกล้าถามถึงเขาอีก? ไม่กลัวตายเลยจริงๆใช่ไหม?”
บอร์ดี้การ์ดตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ
เห็นแบบนี้แล้ว เส้นหมี่ไม่ได้ถามอีก เธอหันไปมองทางนอกหน้าต่าง ไม่ได้คิดอีกว่าทำไมวันนี้ถึงเลื่อนการถูกส่งตัวไปที่หิรัญชากรุ๊ปก่อนชั่วคราว? และยิ่งไม่ได้ระวังจับตาดูด้วยว่าผู้ชายหมาๆนั่นก็ดูเหมือนจะไม่ได้ลงมาด้วยเช่นกัน?
หลังจากนั้นเธอก็ถูกพาตัวไป
ถ้าหากไม่ได้ไปที่หิรัญชากรุ๊ปแล้ว เธอก็สามารถแวบออกไปหาลูกอีกสองคนได้ใช่ไหม?!!
เส้นหมี่ถูกส่งไปยังคอนโดมิเนียมที่แยกออกมา พื้นที่ไม่เล็ก มี3ห้องนอน2ห้องโถง แต่ถูกล็อคเอาไว้อย่างแน่นหนามาก
ง่ายมาก ก็คือเพื่อที่จะป้องกันให้เธอหนีนั่นเอง!
ผู้ชายเฮงซวยคนนี้นี่!
เส้นหมี่รู้สึกร้อนใจเล็กน้อย เห็นบอร์ดี้การ์ดที่มาส่งเธอกำลังจะไป เธอก็รีบตามมา : “แล้วโทรศัพท์มือถือของฉันล่ะ? เอาโทรศัพท์มือถือของฉันคืนมา ฉันยังต้องใช้โทรนะ”
“คุณจะโทรเหรอ? โทรหาใคร? ให้พวกเขามาช่วยคุณใช่ไหม? คุณเส้นหมี่ ผมจะบอกคุณให้นะ ทางที่ดีที่สุดอย่าได้มีความคิดแบบนี้เลย คอนโดนี้มีแต่กล้องวงจรปิด ถ้ามาจริงๆ นั่นก็คงจะถูกฝังไปพร้อมกับคุณนั่นแหล่ะ!”
“………”
ประโยคนี้เพียงประโยคเดียว เส้นหมี่ก็ยืนจ้องบอร์ดี้การ์ดคนนี้อยู่ตรงประตู โมโหอยู่นานจนพูดอะไรไม่ออก!
แสนรัก คุณมันคนสารเลว!
สุดท้ายแล้ว เส้นหมี่ก็ไม่ได้อะไรมาเลย ถูกล็อคอยู่ในคอนโดแบบนี้ เธอเคยคิดที่จะปีนหน้าต่างแอบออกไป แต่ผลปรากฏว่า ความสูงสามสิบกว่าชั้น เธอมองเพียงแวบหนึ่ง ก็ถอยกลับมาแล้ว สีหน้าซีดเหมือนกับกระดาษเลยอย่างไรอย่างนั้น
เธอกลัวความสูง!
ในเมื่อเป็นแบบนี้ เธอก็มีเพียงแค่วิธีเดียว ก็คืองัดกุญแจ
ห้าปีมานี้เส้นหมี่เลี้ยงดูลูกทั้งสองคนอยู่ข้างนอกคนเดียว ความจริงแล้วก็ผ่านความลำบากมา เธอไม่มีเบื้องหลังที่มีอำนาจ และไม่มีเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่อีกด้วยเช่นกัน เธอเดินออกมาได้ด้วยการเริ่มต้นทีละก้าวของเธอ
ดังนั้น เธอสามารถงัดกุญแจได้ ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ
แต่ในขณะที่เธอกำลังพลิกกล่องพลิกตู้และหาอุปกรณ์อยู่ในคอนโดเจอแล้วนั้น ตอนที่กำลังนั่งยองๆลงตรงหน้าประตูเตรียมจะลงมือ จู่ๆประตูบานนี้ก็มีเสียงแกร๊ก และถูกคนเปิดออกจากทางด้านนอกแล้ว!
เส้นหมี่ : “……..”
“หม่ามี๊ กำลังทำอะไรอยู่ฮะ? งัดกุญแจเหรอฮะ? ดูแล้วผมจะเดาไม่ผิด หม่ามี๊ถูกคนไม่ดีจับตัวมาอีกแล้ว หม่ามี๊ สรุปแล้วหม่ามี๊ไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจกันแน่?”
ใครก็คิดไม่ถึง ว่าจู่ๆที่ประตูบานนี้เปิดออกมา จะเป็นเจ้าเด็กตัวน้อย!!
และหลังจากที่เจ้าเด็กตัวน้อยเห็นเส้นหมี่ที่มีอุปกรณ์อยู่ในมือแล้ว ใบหน้าเล็กๆที่ดูเยือกเย็นก็ยิ่งปรากฏความโมโหเล็กๆออกมา มือเล็กๆกำหมัดแน่น
เส้นหมี่ตกตะลึงไปแล้ว!
พระเจ้า นี่เธอตาลายไปแล้วใช่ไหม? ทำไมคิวคิวถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้? เขาหาที่นี่เจอได้อย่างไร? เธอเพิ่งจะมาถึงที่นี่เอง!!
เส้นหมี่ถึงกับงงไปอยู่หลายวินาที
“คิว……คิวคิว หนูมาได้ยังไงลูก หนูหาที่นี่เจอได้ยังไง?”
“หม่ามี๊โง่จัง ก็มาตามเครื่องติดตามบนตัวของหม่ามี๊มาไงฮะ หม่ามี๊ สองสามวันนี้สรุปแล้วหม่ามี๊ทำอะไรกันแน่? ทำไมไม่กี่วันก่อนตำแหน่งถึงได้ไปปรากฏอยู่ในทะเลล่ะฮะ? สรุปแล้วหม่ามี๊ไปเจออะไรมากันแน่? ใช่คนไม่ดีคนนั้นหรือเปล่าฮะ? เขาจับหม่ามี๊อีกแล้วใช่ไหม?”
คิวคิวรู้สึกโมโหมาก หลังจากที่ขาเล็กๆก้าวเข้ามาแล้ว เขาก็ยื่นมือเล็กๆหยิบเอาเครื่องติดตามที่ติดไว้บนร่างของหม่ามี๊ออกมา
เส้นหมี่ : “………”
เขาอย่ากดดันเธอแบบนี้….ได้ไหม?
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเธอเองก็คือหม่ามี๊ของเขา เธอก็ไม่อยากเสียหน้าหรอกใช่ไหม?
“คนไม่ดีคนนี้ ดูแล้วเขาจะยังไม่ได้รับการสั่งสอน ผมจะต้องให้เขาได้เห็นถึงความร้ายกาจซักหน่อยแล้ว” คิวคิวเริ่มคลั่งออกมา เขาจะทิ้งโน้ตเอาไว้เหมือนกับครั้งที่แล้ว
เส้นหมี่เห็นแล้ว ถึงได้ตื่นตกใจขึ้นมาแล้วก็พุ่งเข้าไปกอดเขาเอาไว้
“ไม่เลยคิวคิว หนูเข้าใจผิดแล้วลูก เขาไม่ได้รังแกหม่ามี๊ เขาก็คือคนไข้ของหม่ามี๊ สองสามวันนี้ หม่ามี๊นั่งเรือมาด้วยกันกับเขา เพื่อรักษาอาการป่วยให้เขา”
“จริงไหมฮะ?”
“จริงสิครับ หนูเชื่อหม่ามี๊นะ เพราะอาการป่วยของเขาไม่สามารถนั่งเครื่องบินได้ ได้แค่เพียงต้องนั่งเรือเท่านั้น หลังจากนั้นหม่ามี๊ก็นั่งเรือมากับเขา และบนเรือโทรศัพท์มือถือก็ไม่มีสัญญา ไม่ได้ติดต่อกับพวกหนูเลย คิวคิวขอโทษจริงๆนะลูก เรื่องนี้ เป็นความผิดของหม่ามี๊เอง ที่ไม่ได้บอกพวกหนู”
เส้นหมี่พยายามโอ๋ลูกชายคนนี้ก็เพื่อจะข่มไฟความโมโหในใจเขาลงไป
ล้อเล่นหรือเปล่า?
ถ้าหากยังให้เขาโวยวายต่อไป แสนรักจะต้องเจอเขาอย่างแน่นอน
อีกทั้ง เขายังฉลาดมากอีกด้วย ดูเรื่องที่เขาทำบนร่างกายของเธอมาตลอดทาง เธอไม่ต้องสงสัยเลยจริงๆ ถูกเขาขุดต่อไปแบบนี้ เขาจะต้องพบเจอถึงสถานะของผู้ชายสารเลวคนนั้นอย่างแน่นอน
เส้นหมี่มองลูกชายคนนี้ด้วยความตื่นเต้น
ยังดีที่ถึงแม้เด็กคนนี้จะมีไอคิวสูงมาก แต่เขาก็คือเด็ก ได้ยินคำพูดที่มีหลักการเหตุผลของเธอแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอีกเป็นการชั่วคราว
“ถ้าอย่างนั้นหม่ามี๊รักษาโรคให้เขา แล้วทำไมมาถึงที่นี่แล้วยังถูกขังอยู่อีกล่ะฮะ?”
“…….เปล่าค่ะเปล่าเลย หม่ามี๊ไม่ได้ถูกขัง เขาเพียงแค่จัดให้หม่ามี๊มาพักอยู่ที่นี่ เมื่อกี้….หม่ามี๊หยิบอุปกรณ์มา ความจริงแล้วคือรู้สึกว่ากลอนล็อคนี่มันไม่ปลอดภัย อยากจะไขให้มันแน่นหน่อยน่ะครับ”
เส้นหมี่พูดไปทั่วต่อ
คิวคิว : “………”
เพื่อคนไม่ดีคนหนึ่ง ไม่คิดว่าหม่ามี๊จะพูดโกหกหลอกตัวเองมากมายขนาดนี้ ดูแล้ว เขาจะต้องไปสำรวจคนไม่ดีคนนี้จริงๆแล้ว
แสนรัก ประธานของหิรัญชากรุ๊ปใช่ไหม?
ได้ เขาจำเอาไว้แล้ว อีกไม่นานก็จะไปหาเขา!