บทที่ 22 ในที่สุดก็กลับประเทศ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

เส้นหมี่เห็นแล้ว ก็ไม่ได้บังคับเขาเช่นกัน เอากระดาษฟรอยด์ในกล่องบุหรี่นั่นออกมาตรงหน้าเขาที่ละนิด วางแล้วขูดอยู่บนหัวเข่า ไม่นาน กระดาษฟรอยด์หนึ่งแผ่นก็ถูกเธอลอกออกมาได้
“ชินชิน หนูดูสิคะ!!”
ชินจัง : “…….”
ถึงแม้ว่าจะยังไม่พูดออกมา แต่ก็สามารถเห็นได้ชัดว่าดวงตาที่เดิมทีไม่ได้มีอารมณ์อะไรนั้นเป็นประกายขึ้นมา
ดังนั้นพูดได้ว่า นี่ลูกชายโดนเธอดึงดูดเข้าแล้วใช่ไหม?
ในใจของเส้นหมี่นั้นเกิดความเซอร์ไพรส์แวบขึ้นมา รีบอาศัยตีเหล็กในช่วงที่กำลังร้อนอยู่นี้ เธอยื่นส่งกระดาษฟรอยด์หนึ่งแผ่นให้ในมือของลูกชายคนนี้
“มาครับ หนูก็ลองดูนะ ตรงนี้คาดว่าน่าจะต้องใช้หลายแผ่นเลย หนูช่วยน้า เราสองคนทำด้วยกัน แบบนี้จะได้เร็วๆดีไหมครับ?”
“อืม…..”
ในที่สุดชินจังก็พยักหน้าลง มือเล็กๆที่ขาวสะอาดรับกระดาษฟรอยด์ที่ยื่นมาให้ใบนั้น หลังจากนั้นก็นั่งยองๆลงมา
เก่งจัง!
เส้นหมี่ดีใจจะแย่อยู่แล้ว
แอบมองไปพบว่าคิ้วและดวงตาที่ตกลงมาของลูก มองจากมุมนี้ของเธอ ไม่ว่าจะเป็นขนตาหนาเป็นแพรเหมือนขนนก และยังส่วนโค้งของใบหน้าเล็กๆ ช่างงดงามและละเอียดอ่อนเหมือนกับตุ๊กตาเซรามิคเลยอย่างไรอย่างนั้น และเหมือนคิวคิวของเธอมากอีกด้วย
และเธอยังพบว่า หลังจากที่เขาให้ความสนใจกับเรื่องนี้แล้ว เขาดูนุ่มนวลขึ้นมาก
ชินชิน วางใจนะลูก หม่ามี๊จะต้องชดเชยกับความผิดพลาดของตัวเองอย่างแน่นอน จนกว่าลูกจะยอมยกโทษให้หม่ามี๊
ทำอยู่ประมาณเป็นสิบนาที ในที่สุดแม่ลูกทั้งสองคนก็ติดลงบนโดรนจนเสร็จ
“ชินชิน เสร็จแล้วครับ หนูรีบลองดูสิ ว่าจะสามารถบินได้สูงขึ้นหรือเปล่า?”
“ได้ฮะ…..”
ครั้งนี้ ชินจังก็เอ่ยพูดคำที่แตกต่างไปขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้น เขาก็ถือโดรนนี้มาบังคับควบคุมใหม่ และเป็นแบบนั้นจริงๆ เมื่อเริ่มขึ้น สิ่งนี้ก็ผุดขึ้นจากพื้นผิวทะเลเป็นสิบเมตร
“หนูดูสิ น้าไม่ได้หลอกหนูเห็นไหม? กระดาษฟรอยด์นี่สามารถเพิ่มความสูงได้”
เส้นหมี่ปรบมือด้วยความตื่นเต้นดีใจอยู่ตรงนั้น
ชินจังเองก็พอใจมากเช่นกัน มุมปากที่พูดน้อยๆมาตลอด สามารถมองเห็นส่วนโค้งบางๆได้แล้ว
แสนรักพบว่าลูกชายหายไป ตอนที่มาตามหาที่นี่ ก็เห็นฉากนี้เข้าพอดี—
ลูกชายที่สำรวมกิริยา ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ในเวลานี้ยืนอยู่ตรงริมรั้วและปรากฏรอยยิ้มที่หายากแบบนี้ขึ้น แต่ที่ทำให้เขารู้สึกเคียดแค้นก็คือ ผู้หญิงแย่ๆคนนั้นทั้งๆที่รับปากเขาเอาไว้แล้ว แต่ในเวลานี้ไม่คิดว่าเธอจะจะมายืนปรบมือและทั้งยังกระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ ดูแล้ว หลอมรวมเข้าไปอยู่ในโลกของลูกไปแล้วอย่างสมบูรณ์
เส้นหมี่!!
ความโมโหที่อยู่ในอกของเขาพรั่งพรูออกมาทันที ใบหน้าหล่อเหลาก็ดูร้ายยิ่งขึ้นแล้ว!
“พวกคุณสองคนกำลังทำอะไรกัน? เส้นหมี่ ใครให้คุณมาเจอเขา? คุณกล้ามากเลยนะ! คำพูดของคุณเป็นคำพูดเหลวไหลอย่างนั้นใช่ไหม?”
เสียงนั้นมีความดุร้ายเป็นอย่างมาก แต่ละคำดูเหมือนกับเค้นให้ออกมาจากช่องฟันเลยอย่างไรอย่างนั้น
เส้นหมี่หน้าซีดขึ้นมาทันที เหมือนกับมีน้ำเย็นราดลงมาจากด้านบนศีรษะของเธอ เธอที่เต็มไปด้วยความดีใจและความหวัง ก็ดับมอดลงไปแบบนี้ เย็นเยือกขึ้นมาแล้ว
“ฉัน…..ฉันไม่ใช่…..”
“มานี่ที อุ้มคุณชายเล็กกลับไป แล้วก็ขังตัวผู้หญิงคนนี้ให้ฉันใหม่อีกครั้ง ไม่มีคำสั่งจากฉัน ใครก็ไม่อนุญาตให้เปิดทั้งนั้น!”
ชายหนุ่มที่ดวงตาแดงก่ำนี้ ไม่ได้ให้โอกาสเธออธิบายเลย หรือบางทีพูดได้ว่าเขาเองก็ไม่อยากฟังเธออธิบายด้วยเช่นกัน หลังจากเสียงตะคอกที่เฉียบขาดนี้ ก็มีคนมาพาตัวเด็กไปทันที
ส่วนเส้นหมี่ ก็ถูกบอร์ดี้การ์ดสองคนจับตัวเองไว้ด้วยเช่นกัน
ความจริงแล้วก็จะโทษเขาไม่ได้ เนื่องจากว่าเขาบอกเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเขาจะไม่ยอมให้เส้นหมี่มาทำร้ายชินจัง และเส้นหมี่ก็รับปากแล้วด้วย
ยังมีอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ชินจังเป็นคนที่เขาเลี้ยงดูเติบโตขึ้นมา เป็นความรู้สึกอยากครอบครองของผู้ชาย และนั่นก็จะไม่ยอมให้คนอื่นมาแตะต้องของของตัวเองเป็นอันขาด
เส้นหมี่ถูกลากไปยังห้องโดยสาร เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่มาอย่างกะทันหัน ทำให้สมองของเธอสับสนวุ่นวายจนเบลอไปหมด
“ไม่ใช่นะแสนรัก ฟังฉันอธิบายก่อน ฉันคิดแล้ว ว่าเรื่องนี้ฉันสามารถชดเชยได้ ฉันจะไม่ทำร้ายเขาอย่างแน่นอน คุณเชื่อฉันนะคะ”
เส้นหมี่อยากจะอธิบายกับผู้ชายคนนี้ ว่าเมื่อครู่นี้เธอเข้ากับลูกได้ดีจริงๆ ถ้าหากให้โอกาสเธอ เธอมั่นใจว่าจะทำให้เขาให้อภัยเธอได้
แต่ หลังจากที่แสนรักได้ยินแล้ว กลับหัวเราะเยาะออกมา : “ชดเชย? เส้นหมี่ คุณจะเอาอะไรมาชดเชย? คุณที่เป็นคนที่สามารถหนีไปเพื่อความอิสระของตัวเองได้! คุณมีสิทธิอะไรจะมาชดเชยให้เขา?”
“……”
“คุณฟังผมให้ชัดเจนนะ ถ้าหากคุณยังอยากให้ครอบครัวคุณอยู่ที่เมืองAนี้อย่างสงบสุข ทางที่ดีที่สุดคุณประพฤติตัวดีๆหน่อยก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้น อย่ามาหาว่าผมไม่ไว้หน้าก็แล้วกัน!”
สุดท้ายแล้วที่ผู้ชายคนนี้จากไป ก็ทิ้งประโยคนี้เอาไว้ด้วยความเกลียดชังให้กับเส้นหมี่
สิ้นประโยคนี้แล้ว ต่อให้จะโมโหขนาดไหน หรือจะไม่ยอมก็ทำได้แค่ต้องข่มเอาไว้แบบนั้น
ครอบครัวที่เมืองAครอบครัวคุณป้าของเธอ
และตอนนี้ ลูกอีกสองคนของเธอก็อยู่ที่บ้านของพวกเขา
เส้นหมี่กัดฟันด้วยความโมโห