บทที่ 21 ชินชิน มานี่สิ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ใบหน้าเล็กๆ กลับยิ่งหน้าซีดมากขึ้นกว่าเดิม
คำพูดประโยคนี้ของแสนรักนับว่าเบาแล้ว อาจจะเห็นว่าเมื่อคืนนี้เพื่อช่วยลูก เธอไม่ได้คำนึงถึงสถานการณ์ของมีดที่อยู่บนร่างของตัวเอง ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน คาดว่าเขาคงจะยิ่งพูดให้ดูแย่กว่านี้เสียอีก
ใช่ เธอยังมีสิทธิอะไรไปพบเขากัน?
เธอทอดทิ้งไปครั้งแรก ก็เป็นการทำร้ายครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้จะไปเจออีก ไปรู้จักอีก บอกเขาว่านี่คือหม่ามี๊ของเขา เธอยังไม่ตาย เพียงแต่ไม่ต้องการเขาแล้ว นั่นไม่ใช่เป็นการทำร้ายเขามากกว่าเดิมอย่างนั้นหรือ?
“คุณผู้หญิง ความจริงที่คุณบอกว่าท่านประธานไม่ต้องการลูก ไม่เลยครับ หลายปีมานี้ ท่านประธานดีกับคุณชายเล็กมากจริงๆ เรื่องอะไรเขาก็พึ่งพาตัวเอง คุณรู้ว่าทำไมเขาไปรักษาอาการทางพวกคุณแล้วต้องพาเขาไปด้วยไหมครับ? ก็เป็นเพราะคุณชายเล็กร่างกายอ่อนแอหลายโรค กรุ๊ปเลือดของเขาก็หายาก ท่านประทานไปเป็นเวลานาน คุณชายเล็กจะมีอุบัติเหตุอะไร ถึงได้พามาอยู่ข้างๆด้วยตลอด”
“………”
เป็นเวลานาน เส้นหมี่เงยหน้าขึ้นมาอย่างแข็งทื่อ ได้ยินแล้วเอ่ยถามขึ้นมา : “กรุ๊ปเลือด….หายาก?”
เคมีพยักหน้าลง : “ครับ เขาก็เหมือนกับคุณ เป็นเลือดลบRHที่ค่อนข้างหายาก ตอนนั้นที่คลอดก่อนกำหนดแล้วเขาป่วยหนัก โรงพยาบาลขาดเลือด เพื่อช่วยเขา ท่านประธานพากเขาไปที่โรงพยาบาลศูนย์หลวงในชั่วข้ามคืน ถึงได้รักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้ เพราะฉะนั้น คุณผู้หญิงครับ คุณไม่ต้องสงสัยเลยจริงๆ ว่าเขาจะทำไม่ดีต่อคุณชายเล็ก หรือไม่ต้องการเขา”
เคมีพูดเรื่องนี้ออกมาด้วยความจริงใจ
เส้นหมี่ได้ยินแล้ว เธอรู้สึกจุกอยู่ตรงคอ และยิ่งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี มีเพียงแค่อาการที่เปลี่ยนไปอย่างห่อเหี่ยวหมดกำลังใจ เหมือนกับฟ้าผ่าลงมาอย่างไรอย่างนั้น
“ฉันรู้แล้วล่ะค่ะ คุณไปเถอะ เมื่อคืนขอบคุณมากๆนะคะ ใช่สิ ต่อไป….คุณอย่าเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงอีกเลย ฉันไม่ใช่แล้ว เลี่ยงกับการที่ประธานของพวกคุณได้ยินเข้าแล้วจะไม่พอใจเอา”
“…….”
เคมีอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายหลังจากที่เขาถอนหายใจแล้วก็หันหลังออกไปเลย
สุดท้ายแล้วเส้นหมี่ก็ไม่ได้ไปหาชินจังอีก ตั้งใจอยู่พักรักษาอาการบาดเจ็บที่ห้องโดยสาร
แสนรักเห็นว่าเธอประพฤติตัวดีแล้ว ก็ไม่ได้ให้คนล็อคเธอเอาไว้อีก ให้ความอิสระในการเคลื่อนไหวที่เพียงพอกับเธอ
เพียงแต่ ทั้งสองคนคิดไม่ถึง ว่าพวกเขาบรรลุถึงข้อตกลงที่จะไม่เจอหน้าลูกแล้ว แต่วันนี้ ตอนที่เรือกำลังจะถึงท่านั้น จู่ๆชินจังกลับเป็นฝ่ายมาหาถึงที่เองแบบนี้
“ทำไมคุณน้าถึงยังถูกขังอยู่?”
วันนี้ชินจังมาเล่นโดรนตรงรั้ว ดังนั้น ก็ไม่นับว่าตัวเองเป็นฝ่ายมาหาถึงที่เช่นกัน
แต่หลังจากที่เส้นหมี่เห็นเงาของเขาแล้ว กลับควบคุมเอาไว้ไม่ได้
“ชินชิน หนู….หนูมาได้ยังไง? ออกมาคนเดียวเหรอ? แด๊ดดี้ของหนูไม่ได้ดูหนูอยู่ใช่ไหม?”
“ทำไมเขาจะต้องดูผมด้วยฮะ?”
ชินจังตอบกลับไปอย่างไม่ยอม แล้วหันหลังถือรีโมทของโดรนที่อยู่ในมือเดินออกไป
เด็กนี่มีนิสัยที่แตกต่างกับคิวคิวอย่างสิ้นเชิง โดยปกติคิวคิวพูดกับเส้นหมี่จะไม่มีท่าทางแบบนี้เป็นอันขาด เขามีความกระตือรือร้นสุภาพ มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยแสงที่สดใส
แต่เด็กคนนี้ล่ะ?
ทั้งร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของความเย็นชาและมืดมน ทั้งๆที่เพิ่งจะห้าขวบ แต่กลับเหมือนพ่อของเขามาก
ในใจของเส้นหมี่รู้สึกเจ็บปวด
รีบตามหลังมาแล้ว เธอก็ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วยความระมัดระวัง : “ขอโทษทีนะชินชิน น้าเข้าใจผิดแล้ว ว้าว หนูเล่นโดรนได้ดีจังเลย บินสูงขนาดนี้เลย”
เส้นหมี่หาเรื่องคุย
หลังจากที่เคมีพูดกับเธอ ความจริงแล้วเธอไม่ค่อยกล้าเผชิญหน้ากับเด็กคนนี้ซักเท่าไรนัก เธอกลัวว่าตัวเองพูดผิด แล้วยิ่งต้องมาเผชิญหน้ากับเขา ความละอายใจก็จะพรั่งพรูออกมา
ทำให้เธอไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะเจอเขา
และเป็นอย่างที่คิด เด็กคนนี้ไม่ได้สนใจคำพูดของเธอเลย เขามาข้างรั้วเริ่มควบคุมโดรนที่อยู่ในมือ ใบหน้าเล็กๆที่ดูเท่ห์นั้นทำเป็นเหมือนกับเส้นหมี่ไม่มีตัวตนอยู่เลย
ในใจของเส้นหมี่รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีก เธอมองไปยังโดรนที่อยู่ทางบนศีรษะ
“ใช่แล้วชินชิน น้าลืมบอกเราหนูไปเลย โดรนแบบนี้ ถ้าหากเพิ่มกระดาษฟรอยด์ตรงปลายปีกมัน จะสามารถบินสูงขึ้นได้ แล้วก็ควบคุมทิศทางได้ง่ายด้วยนะ”
พูดประโยคนี้ออกมาแล้ว นับว่า เด็กคนที่ยืนอยู่ด้วยใบหน้าเล็กๆที่ดูเท่และเย็นชา ก็มองมาที่เธอ
เส้นหมี่เห็นแล้วก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที : “จริงๆนะคะ ถ้าหนูไม่เชื่อ น้าลองให้ดูก็ได้”
หลังจากนั้นเส้นหมี่ก็ไปหาแผ่นกระดาษฟรอยด์มาทันที
วิธีนี้ เป็นวิธีที่เส้นหมี่เรียนรู้มาจากคิวคิว สองพี่น้องคู่นี้ ถึงแม้จะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่งานอดิเรกกลับเหมือนกันเสียจนน่าตกใจ ชินจังชอบเล่นอันนี้ ที่บ้านของเธอก็ซื้อให้กับเด็กน้อยอีกคนไม่น้อยเลยด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ตอนที่คิวคิวเล่นเมื่อก่อนหน้านี้ เธอเองก็เห็นอยู่บ้างเป็นบางครั้งเช่นกัน เคยเห็นเขาเล่นแบบนี้
เส้นหมี่หากล่องบุหรี่เปล่าๆที่อยู่บนเรือมาสองสามอัน หลังจากนั้นก็วิ่งกลับมาอยู่ข้างๆเด็กคนนี้
“ชินชินหนูดูนะ กระดาษฟรอยด์อันนี้ หนูรอก่อนนะ น้าจะทำมันออกมาให้”
เธอนั่งลงตรงหน้าลูกอย่างหอบๆ ฉีกกล่องบุหรี่เปล่าออกแล้วเอาห่อกระดาษด้านในออกมา เตรียมจะลอกแผ่นกระดาษฟรอยด์ด้านในออกมา
ตอนแรกชินจังก็ไม่ได้สนใจ
แต่เขาก็มีหัวใจเป็นเด็ก เห็นเส้นหมี่นั่งอยู่ตรงนั้นแกะกระดาษฟรอยด์ออกมาจริงๆแล้ว หัวใจแห่งความสงสัยก็ปรากฏขึ้นมา แล้วมองดูเธออย่างตั้งใจ
“ชินชิน หนูเคยทำกระดาษฟรอยด์อันนี้ไหม?”
“…….”
ไม่มีคนตอบ ถึงแม้ว่าชินจังจะยืนอยู่ข้างหลังเธอ แต่เนื่องจากว่านิสัยที่ชอบสันโดษและเอาแต่ใจก็ยังคงไม่ยอมพูดกับเธออยู่ดี