บทที่ 97 ไม่ได้เลวถึงสันดาน

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 97 ไม่ได้เลวถึงสันดาน

จางซิ่วเอ๋อทนดูต่อไปไม่ไหวจึงพาจางชุนเถาออกไป

สำหรับจางซิ่วเอ๋อแล้ว การร้องไห้แก้ปัญหาไม่ได้หรอก มีแต่ต้องหาเงินให้มาก ๆ หาเงินได้มากขึ้นแล้วถึงจะแก้ปัญหาพวกนี้ได้

ในยุคโบราณแบบนี้ จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่านอกจากเงินแล้วก็ไม่มีอะไรที่พึ่งพาได้

“พี่ หลังจากนี้เราต้องช่วยบ้านท่านยายมากๆ นะเจ้าคะ” น้ำเสียงจางชุนเถามีแววเว้าวอน

จริง ๆ แล้วจางชุนเถารู้ว่าตนพูดแบบนี้ไม่ถูก อย่างไรเสียจางซิ่วเอ๋อเป็นคนหาเงินจำนวนนี้มา ตอนนี้แม้แต่ตัวนางเองก็ต้องให้จางซิ่วเอ๋อเลี้ยง

แต่นางเห็นคนตระกูลโจวอยู่กันอย่างยากลำบากก็พลอยเสียใจไปด้วย นางยอมกินน้อยหน่อยก็ได้หากมันจะช่วยตระกูลโจวได้

จางซิ่วเอ๋อลูบหัวจางชุนเถา บอกเสียงอ่อนโยน “พูดอะไรโง่ ๆ นั่นบ้านท่านยายเรานะ พี่จะไม่ดูแลได้อย่างไร”

จางชุนเถาพยักหน้า “พี่ ท่านนี่ดีจริง ๆ”

จางซิ่วเอ๋อรู้สึกถึงความพึ่งพาจากจางชุนเถา จึงคลี่ยิ้มออกมา

ก่อนหน้านี้จางชุนเถาดูแลนางอย่างกับเป็นผู้ใหญ่ ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไปบ้างและหันมาพึ่งพานางแล้ว

จางซิ่วเอ๋อมองพระจันทร์บนฟ้า สีหน้าดูล่องลอยออกไปยังที่ไกลแสนไกล

ดูท่าหนทางของนางยังต้องดำเนินต่อไปอีกยาวไกลจริง ๆ…..

แต่ตราบใดที่ยังเป็นพระอยู่ก็ต้องเคาะระฆังวัด วันใดที่นางยังอาศัยอยู่ในร่างนี้ก็ต้องกตัญญูแทนเจ้าของร่าง แน่นอนว่าสงวนเฉพาะตระกูลโจวเท่านั้น

พวกคนตระกูลจางเหรอ? เหอะ!

ในคืนนั้นเอง

หยางชุ่ยฮวาและโจวอู่กลับมาแล้ว คนทั้งบ้านก็พักผ่อนกันเร็ว

ก่อนหน้านี้หยางชุ่ยฮวามักจะทะเลากับโจวอู่ในตอนกลางคืน นางทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน กลางคืนก็กินไม่อิ่ม จึงมีความโมโหชอบหาเรื่อง

แต่วันนี้เหรอ?

หยางชุ่ยฮวากินอิ่มและพบวิธีหาเงินได้แล้ว จึงได้แต่คิดวาดฝันในใจว่าพรุ่งนี้จะจับปลาได้กี่ตัว?

อย่าให้พูดเลยว่าหลับฝันหวานขนาดไหน!

แม้แต่แม่เฒ่าโจวและโจวชางซุ่นก็ได้นอนสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายปี

ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่แม่โจวกลับมา ตระกูลโจวก็จะวุ่นวายราวไก่บินหนีสุนัขกระโดด แต่ครั้งนี้กลับสงบสุขเป็นพิเศษ

แต่คนตระกูลจางกลับไม่โชคดีเหมือนตระกูลโจว

หลังไปบ้านผีสิงของจางซิ่วเอ๋อมา พวกเขาต่างมีท่าทางหวาดผวาเมื่อถึงบ้าน

โดยเฉพาะแม่เฒ่าจางที่เคยยโสโอหังอย่างกับไก่ชนที่แข่งชนะมาตลอด บัดนี้มีหน้าตาหม่นหมอง นั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา

จางอวี่หมินก็กลัวเหมือนกัน นางน้ำตาไหลไม่หยุด เพียงได้ยินสุ้มเสียงเล็กน้อย จางอวี่หมินก็อดตัวสั่นไม่ได้

แม่เถายังดีหน่อย เพราะนางเคยเจอเรื่องน่ากลัวไปแล้วรอบหนึ่ง ครั้งนี้ถือว่าเตรียมใจไว้แล้วบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก

จางต้าเหอเป็นผู้ชาย ภูมิต้านทานจึงสูงกว่านิดหน่อย ตอนนี้เริ่มหายกลัวแล้ว

แต่พอเห็นท่าทางคนตระกูลจางในตอนนี้ จางต้าเหอก็ปวดหัวสุด ๆ

จางต้าเหอมองจางต้าหูที่เงียบไม่พูดจา “ต้าหู เจ้าพูดอะไรหน่อยสิ ตอนนี้แม่ น้อง แล้วก็เมียข้าเป็นแบบนี้ไปแล้ว! เราจะทำอย่างไรกันดี?”

จางต้าหูยังไม่เข้าใจ “ควรทำอย่างไรเหรอขอรับ?”

จางต้าเหอมองจางต้าหูอย่างรังเกียจ ทำไมน้องชายคนนี้ถึงโง่ขนาดนี้นะ! ยังไม่เข้าใจความหมายอีก?

จางต้าเหอข่มโทสะในใจตนเองไว้ “เจ้ารีบไปหาคนมาทำพิธีสิ! ขับพลังร้ายออกไปจากพวกนาง! ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

จางต้าหูเข้าใจในทันที “ใช่แล้ว ต้องหาคนมาทำพิธี! ข้าไปหาจากหมู่บ้านข้างเคียงก่อนนะขอรับ!”

หมู่บ้านข้าง ๆ มีคนตาบอดข้างเดียวคนหนึ่งถูกเรียกว่าหูครึ่งเซียน เขาทำนายทายทักและดูโรคผีได้ หากเชิญเขามาได้จะดีที่สุด

จางต้าหูคิดมาถึงตรงนี้ก็พุ่งออกไปข้างนอกทันที

จางต้าเหอเห็นจางต้าหูไปแล้ว กำลังจะนั่งพัก ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังปึ้ง เป็นจางต้าหูที่กลับมาและมองเขาด้วยสีหน้าลำบากใจ

จางต้าเหอตาโตมองจางต้าหู “เจ้ากลับมาทำไม? ให้เจ้าไปตามคนไม่ใช่รึ? หรือเจ้าเห็นว่าฟ้ามืดแล้วไม่อยากไป? เจ้ามีใจกตัญญูบ้างไหม! ไม่ต้องพูดถึงเมียข้า เพียงแค่แม่และน้อง เจ้าจะไม่สนใจไยดีเลยเหรอ?”

จางต้าหูเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน แล้วค่อย ๆ พูดเสียงแผ่ว “ข้าไม่ได้กลัวมืด เพื่อแม่และน้อง มืดกว่านี้ข้าก็ไปได้ แต่…..”

จางต้าหูชะงักก่อนจะเอ่ยปาก “ข้าไม่มีเงิน”

พอได้ยินสามคำที่จางต้าหูพูด จางต้าเหอก็มีสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมาทันควัน “เจ้าไม่มีเงินเหรอ?”

จางต้าหูพยักหน้า “เงินข้ายกให้ท่านแม่หมด…..”

พูดจบจางต้าหูก็มองแม่เฒ่าจาง

แม่เฒ่าจางที่กลัวจนนิ่งไปพอได้ยินจางต้าหูจะขอเงินก็พลันมีหน้าตาแข็งทื่อ ทำตาเหลือกเหมือนไม่ได้ยิน!

จางต้าเหอมีสีหน้าไม่สู้ดี เขาพอมีเงินอยู่บ้าง แต่ทำไมเขาต้องเอาออกมาด้วย? อีกอย่าง ถ้าเขาเอาออกมาก็เหมือนเป็นการบอกแม่เฒ่าจางว่าบ้านพวกเขาซ่อนเงินส่วนตัวไว้น่ะสิ?

แล้วจะบอกว่าอย่างไรหลังจากนี้?

จางต้าเหอจึงเอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา “น้องสี่ เรื่องนี้เกิดเพราะบ้านเจ้า เจ้าต้องหาทางแก้เอาเอง!”

“ส่วนเรื่องไม่มีเงิน ก็เป็นปัญหาของเจ้า!” จางต้าเหอโยนภาระทันที

คนปกติใครเขาจะรับภาระแบบนี้? แต่จางต้าหูใช่คนปกติที่ไหน? พูดแบบจางซิ่วเอ๋อก็คือจางต้าหูดวงตามืดบอดมีแต่มันหมู! ในสมองมีแต่น้ำโคลน!

เวลาแบบนี้เขากลับรู้สึกว่าที่ทุกคนต้องอกสั่นขวัญผวากันหมดก็เพราะไปที่บ้านจางซิ่วเอ๋อ ดังนั้นเขาต้องรับผิดชอบ

แต่ถึงเขาจะคิดแบบนี้ เขาก็ไม่มีเงิน!

“แต่ข้าไม่มีเงินจริง ๆ” จางต้าหูบอกหงอย ๆ ถ้าเขามีเงินเขาเอาออกมานานแล้ว จะรอมาถึงตอนนี้ทำไม?

จางต้าเหอโมโหสุดขีด แต่ก็รู้แล้วว่าจางต้าหูไม่มีเงินจริง ๆ เขาไม่สนคนอื่นหรอกจะเป็นหรือจะตาย แต่ภรรยาตัวเองเขาต้องสน

พอคิดแบบนั้นจางต้าเหอก็เอ่ยขึ้น “เงินข้าก็ให้ท่านแม่ไปหมดแล้ว เจ้าให้ท่านแม่เอาเงินออกมาก่อนแล้วกัน ถือว่าเจ้ายืมท่านแม่……”

จางต้าเหอก็รู้ว่าแม่เฒ่าจางไม่ยอมเอาเงินออกมาง่าย ๆ หรอก จึงเพิ่มประโยคท้าย

“ยืมเหรอ? แล้วข้าจะคืนอย่างไรล่ะ? ตามหลักเงินที่ข้าหามาก็ต้องให้ท่านแม่หมด” จางต้าหูคิดหนัก

จางต้าเหอมองจางต้าหูอย่างดูถูก “เจ้าไม่รู้จักไปขอจากลูกสาวเจ้าหรือไง? ครั้งนี้เราต้องอกสั่นขวัญผวาเพราะบ้านผีสิงนะ เป็นความผิดจางซิ่วเอ๋อทั้งหมด! ค่าตามคนต้องให้จางซิ่วเอ๋อออก! รอจางซิ่วเอ๋อกลับมาเจ้าไปขอจางซิ่วเอ๋อก็จบ!”

จางต้าหูหนักใจ แค่เขานึกถึงจางซิ่วเอ๋อก็ปวดหัว เดี๋ยวนี้เขาว่าอะไรลูกสาวคนนี้ไม่ได้แล้ว ส่วนเรื่องขอเงินจากจางซิ่วเอ๋อ จางต้าหูรู้สึกว่าไม่ง่ายนัก

ในตอนที่จางต้าหูยังลังเลอยู่ แม่เฒ่าจางก็ร้องโอดโอยขึ้นมา “ข้าทรมานจังเลย! เหมือนเห็นคนหัวกระทิงหน้าม้ามาลักวิญญาณข้า!”

แม่เฒ่าจางทรมานมากจริง ๆ แต่เรื่องเห็นคนหัวกระทิงหน้าม้าเป็นเพียงเรื่องที่กุขึ้นมา!

……………………………………