ตอนที่ 44 คนที่จะถูกฆ่าในตอนนี้ก็คือเจ้า

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีรู้สึกได้ถึงพลังผันผวนของเขาที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น ใบหน้าก็เคร่งขรึมลง

“จอมภูต นักฆ่าคนนั้นใช้วิธีการลับบางอย่างเพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเอง โอกาสสำเร็จเป็นไปได้ยากมาก”

คู่ต่อสู้คือจอมภูต มู่เฉียนซีสามารถหาวิธีการวางยาพิษฆ่าได้  แต่ถ้าจะให้นางฆ่าผู้ฝึกตนระดับจอมภูตนั้นมันยาก นางคงไม่ได้ไร้เดียงสาถึงเพียงนั้น

มู่เฉียนซีเร่งเร้าพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง ซัดพลังไปทางในป่าเทียนหวง  แต่ก็มีพลังอันรวดเร็วถูกยิงมาทางนางอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน

“มู่เฉียนซี เจ้าจงตายให้ข้าเชยชมซะ!  ตาย!  ตาย!  ตาย!”

— ตูม! —

เสียงพลังอันบ้าคลั่งดังก้องมาจากทางด้านหลังของมู่เฉียนซี  ความเร็วของนางยังไม่มากพอจะหลบได้ทัน นางได้แต่ยกมือขึ้นตะเบ็งเสียงออกไป “โล่วารี!”

— ปัง! —

แม้จะมีโล่วารีคอยขวางกั้น ร่างของมู่เฉียนซีก็ลอยออกไปตามแรงจากการโจมตี

— ตุบ! —

ชุดกระโปรงยาวสีม่วง เมื่อกระแทกพื้นก็เปื้อนดินโคลน ริมฝีปากมู่เฉียนซีมีเลือดไหลออกมา

ระดับจอมภูตมีพลังและความแข็งแกร่งมากกว่าผู้บำเพ็ญภูตธรรมดามาก

“แต่ว่า…” มู่เฉียนซีหันไปเห็นผลไม้ลูกแดง ๆ ข้างหลังของนาง พลันสายตาฉายแววเยือกเย็น

นางเด็ดผลไม้ลูกนั้นมาลูกหนึ่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ในขณะเดียวกัน ตอนนี้นักฆ่าพยายามจะเข้าประชิดเพื่อโจมตีนางแล้ว

“ท่านผู้นำตระกูลมู่ หนีต่อไปสิ! เหตุใดถึงไม่หลบหนีต่อไปล่ะ ?”

มู่เฉียนซีเอ่ยปาก “บาดแผลและยาพิษของลูกพี่ลูกน้องเจ้า ข้าสามารถแก้ได้ ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะให้ยาถอนพิษเจ้า  แต่ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าก็จะไม่ได้อะไรเลย”

“อันนี้เป็นยาถอนพิษรักษาดวงตาให้กับพี่น้องเจ้าได้  เจ้าสามารถลองดูได้ แล้วค่อยตามฆ่าข้าก็ไม่สาย แต่ถ้าขืนรอต่อไป ดวงตาของพี่น้องเจ้าก็คงจะมองไม่เห็นอีกต่อไปแล้ว”

มู่เฉียนซีโยนผลไม้ลูกสีแดงนั้นออกไป ผลไม้ลูกนี้ไม่มีพิษ

ชาอี้รับผลไม้ลูกนี้มา ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเยียบเย็น “ยาพิษ รอสักพักค่อยไปแก้ให้เจ้าสอง แต่ถ้าไม่ได้ฆ่าผู้นำตระกูลมู่ผู้มากเล่ห์เหลี่ยมเช่นท่าน ข้าคงอึดอัดใจน่าดู”

รังสีฆ่าฟันอันน่ากลัวแผ่โอบล้อมร่างกายอันบอบบางของมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปากก่อนจะกล่าวว่า… “เช่นนั้นรึ ? หึ! คนที่ถูกฆ่าเห็นทีคงไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้ามากกว่า”

ใบหน้าของสาวน้อยที่งดงามมีรอยยิ้มเลือดเย็นอาบเคลือบ ดวงตาคู่นั้นที่ดำมืด มีประกายสว่างไสว ฉายแววความต้องการสังหาร

— ฟิ้ว! —

ทันใดนั้นก็มีเขาแหลมคมพุ่งมาหาชาอี้จากทางด้านหลัง

มู่เฉียนซีรีบหลบไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย นางรู้อยู่แล้ว

แพะวิญญาณเขาเดียวจ้องมองชาอี้  ตามันเขม็งจ้อง ตัวมันนั้นเฝ้าผลไม้วิญญาณซินเทียนร้อยปี ตอนนี้มีมนุษย์มาเก็บผลไม้  สงสัยว่าเจ้ามนุษย์นั้นคงไม่อยากจะมีชีวิตอีกต่อไป

ผลไม้วิญญาณซินเทียน เป็นสมุนไพรวิญญาณระดับสาม เป็นธรรมดาที่ต้องมีพวกสัตว์วิญญาณระดับสามคอยดูแลอยู่

ใครก็ตามที่เด็ดมันออกมา เหมือนกับสัตว์วิญญาณถูกแย่งสมบัติไปก็ไม่ปาน สัตว์วิญญาณย่อมไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่นอน

มู่เฉียนซีช่วงนี้ได้อ่านตำรายาของตระกูลมู่มา นางถึงพอรู้ข้อมูลบ้าง แต่ชาอี้ไม่รู้เรื่องพวกนี้  เขาไม่เข้าใจว่าทำไมสัตว์วิญญาณตัวนี้จึงลงมือจู่โจมเขาเพื่อที่จะช่วยสตรีน่าตายผู้นั้น

— ปัง! —

ร่างกายของชาอี้ลอยออกไป การโจมตีเมื่อครู่ทำให้เขาบาดเจ็บรุนแรง โชคยังดีที่ไม่ถึงแก่ชีวิต

‘หนี!’ ความคิดตระหนกตกตื่นผุดขึ้นในหัวใจชาอี้ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์วิญญาณระดับสาม

“เจ้ามนุษย์ที่น่าเกลียด คิดจะหนีรึ ? ฝันไปเถอะ!”

แพะวิญญาณเขาเดียววิ่งตามไป ชาอี้ใบหน้าเปลี่ยนสีทันที จากแดงเพราะกรุ่นโกรธกลับกลายเป็นซีดขาวราวกระดาษ

ขนาดเขายังไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์วิญญาณระดับสามอยู่ดี ตอนนี้บาดเจ็บอย่างหนัก ยิ่งทำให้เขาไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับมันได้

มู่เฉียนซีอาศัยจังหวะในตอนนี้หลบหนีออกไป

ชาอี้คิดว่านางหนีไปไม่ไกล  เขาตะโกนขึ้น “มู่เฉียนซี ให้ตายเถอะ! เจ้าใช้วิชามารอะไรของเจ้า เหตุใดจึงทำให้สัตว์วิญญาณระดับสามมาช่วยเจ้าได้”

ชาอี้นั้นแม้ตายก็คาดไม่ถึงว่า มู่เฉียนซีไม่ได้ใช้วิชามาร แต่เป็นเพราะมือของเขาถือผลไม้วิญญาณซินเทียนอยู่

ถ้าเขาโยนผลไม้นี้ทิ้งไปอาจจะมีโอกาสรอด แต่ตอนนี้เขาไม่ทันฉุกคิด

— ตูม! —

แพะวิญญาณเขาเดียวยังคงตามราวีไม่จบสิ้น ท้ายที่สุดชาอี้ก็ระเบิดพลังทั้งหมดที่มีโจมตีแพะในกระบวนท่าที่มีพลังสูงสุด

“น่าเบื่อนักเจ้าแพะบัดซบ ระเบิดทำลายล้าง!”

— ตูม! —

แม้ในกระบวนท่าที่มีพลังสูงสุด แต่สำหรับสัตว์วิญญาณระดับสามแล้ว ทำได้เพียงสร้างบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น เขาแหลมของแพะตัวนั้นเข้ามาใกล้ชาอี้ พลันทิ่มแทงทะลุหัวใจเขา

อารมณ์โกรธของเขาพุ่งสูงมากที่สุด ทว่ามิใช่โกรธให้เจ้าแพะ สัตว์วิญญาณระดับสาม  แต่เป็นมู่เฉียนซี

เขาสบถด่าขึ้นมาด้วยเสียงอันดัง “มู่เฉียนซี เจ้าต้องไม่ได้ตายดี ไม่ได้ตายดีแน่!”

— ฉึก! —

ชาอี้ไม่พอใจที่ถูกฆ่าตาย แพะวิญญาณเขาเดียวหยิบผลไม้วิญญาณชื่อซินเทียนหลิงขึ้นมา

ดูเหมือนเจ้ามนุษย์ผู้นี้จะมีพรรคพวก  ซินเทียนหลิงถูกเด็ดมาไว้นาน พลังวิญญาณจะค่อย ๆ สูญหายไป เขาเลือกที่จะกินผลไม้วิญญาณนี้ก่อน ไม่มีเวลาไปตามฆ่าเจ้ามดน้อยที่อ่อนแอนั่น

“บัดซบมู่เฉียนซี ไปตายเสียไป!” ชาซางที่ตอนนี้กลายเป็นขันทีไปแล้วสบถด่าไม่หยุด

ดวงตาของชาอี้ปวดแสบจนแทบจะทำให้เขาเป็นลมล้มไป เขากัดฟันพูดขึ้นมาว่า… “พี่ใหญ่ใช้ยาวิญญาณหยวนแล้ว จะต้องฆ่ามู่เฉียนซีล้างแค้นให้พวกเราได้แน่ ๆ”

“ความหวังของพวกเจ้า คงจะต้องฝันสลายแล้ว”

ทันทีที่เสียงกลั้วหัวเราะลอยมา พวกเขาก็ได้เห็นร่างบางในชุดผ้าแพรสีม่วงอันคุ้นเคยปรากฏตัวตรงหน้า  รอยยิ้มของนางช่างดูสดใส แต่ทำให้ชาอี้และชาซางแสดงอาการหวาดกลัวเต็มที่

“เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ถ้างั้นพี่ใหญ่ล่ะ…” ตอนนี้จิตใจของพวกเขาเย็นวาบ

“ตายไปแล้วแน่นอน” มู่เฉียนซีแค่นเสียงสะใจ

“บัดซบ! พวกเราติดกับดักเสียแล้ว มู่เฉียนซีออกมาฝึกฝนในครั้งนี้จะต้องมีผู้มีวรยุทธ์สูงส่งคอยแอบคุ้มครองนางแน่” ใบหน้าของพวกเขาขาวซีดในฉับพลัน

“บอกมา! ใครเป็นคนส่งพวกเจ้ามา  พวกผู้เฒ่าหนังเหี่ยว ๆ แต่เหนียวตายยากของตระกูลมู่ หรือว่าตระกูลโอวหยาง ?” แววตามู่เฉียนซีฉายแววความเยือกเย็น

“ฮ่า ๆ ๆ พวกเรามีกฎของนักฆ่าซึ่งท่านผู้นำตระกูลมู่ย่อมไม่เข้าใจอยู่  ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเราจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ว่าจ้างเป็นอันขาด”

พวกเขามองมู่เฉียนซีด้วยสายตาอันเยือกเย็น “ท่านผู้นำตระกูลมู่ อย่าคิดว่าครั้งนี้ท่านจะรอดพ้นแล้วจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นมา อีกไม่ช้าท่านก็จะต้องไปอยู่ในนรกเป็นเพื่อนพวกเรา” พูดจบ พวกเขาก็ฆ่าตัวตายทันที

“เหอ ๆ” มู่เฉียนซีหัวเราะยานคาง สีหน้าฉาบทาความรำคาญใจ “ไม่บอกก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มีแค่สองตระกูลนี้ให้คาดเดาว่าใคร” มู่เฉียนซีพูด น้ำเสียงเยียบเย็น

พริบตานั้น สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนไป ทำจมูกฟุดฟิดได้กลิ่นคาวโชยเข้ามา

มีสัตว์ใหญ่หนึ่งตัวปิดกั้นบริเวณไว้ อ้าปากขนาดใหญ่จนเห็นว่ามีเลือดแดงในปาก มันจ้องมองที่ซากศพก่อนจะหันไปมองมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ตั้งแต่ย้อนเวลามายังโลกใบนี้ นางศึกษาข้อมูลมากมาย  หลังจากเข้าใจเกี่ยวกับยาสมุนไพรวิญญาณ นางยังเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์วิญญาณทั้งหมดด้วย

นี่คืองูเหลือมตามวิญญาณโลหิต  มันถือเป็นสัตว์วิญญาณระดับสี่ ชอบกลิ่นคาวเลือด ชอบกินเนื้อมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง

— ฟิ้ว! —

งูเหลือมตามวิญญาณโลหิตพุ่งตรงเข้าหานาง

มู่เฉียนซีใช้กำลังเท่าที่มีทั้งหมดหลบหลีกไป ดีที่ครั้งนี้เป้าหมายไม่ใช่นาง แต่เป็นศพสองร่างนั้น ครั้งนี้นางพอจะหลบไปได้

ลิ้นหนา ๆ ของของงูเหลือม ตวัดร่างไร้วิญญาณสองร่างเข้าปาก ดวงตาคู่หนึ่งที่ใหญ่เท่ากับกระดิ่งจ้องมองมาที่มู่เฉียนซีต่อ  มันเหมือนจะพูดว่าให้นางรออยู่นิ่ง ๆ  หลังจากกินศพสองร่างนี้แล้ว รายต่อไปคือนาง

นางไม่สามารถหนีได้ ถ้านางมีท่าทีจะหนี งูเหลือมตามวิญญาณโลหิต สัตว์วิญญาณระดับสี่นี้ เพียงใช้แค่กระบวนท่าเดียวก็สามารถฆ่านางตายได้แล้ว

.