ณ โรงพยาบาลในขณะเดียวกันนั้น ถังหนิงยังไม่คลอดเด็กออกมา ดังนั้นห้องของเธอจึงยังถูกคุ้มกันไว้อย่างแน่นหนา

 

 

โดยปกติแล้ว เมื่อการตั้งครรภ์เกินวันที่คาดไว้ไปสองสัปดาห์ เด็กในท้องจะเป็นอันตรายยิ่งขึ้น ไป๋ลี่หวารู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นเธอจึงกระซิบบอกโม่ถิงอย่างเงียบๆ ว่า “พวกเราควรเตรียมยาเร่งคลอดนะ ไม่อย่างนั้นแล้ว ยิ่งยืดการตั้งท้องไปเท่าไร เด็กในท้องก็ยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น”

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ โม่ถิงจึงหันไปมองถังหนิงผู้กำลังนอนอยู่บนเตียงและไม่พูดอะไร

 

 

หากชายหนุ่มรู้ว่าถังหนิงจะต้องตกอยู่ในอันตรายและได้รับความเจ็บปวดมากมายเช่นนี้ เขาก็คงไม่อยากได้ลูกตั้งแต่แรก ตัวเขาเองก็คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ในตอนนี้เช่นเดียวกัน การที่เขากังวลเรื่องถังหนิงอย่างมากนั้นทำให้ชายหนุ่มกระสับกระส่ายเป็นอย่างยิ่ง

 

 

ทว่าถังหนิงไม่ได้หลับอยู่ หลังจากที่แอบได้ยินบทสนทนาระหว่างแม่และลูกชาย หญิงสาวก็บังคับตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “ทำแบบที่แม่เสนอเถอะค่ะ ฉันรับมือไหว”

 

 

แต่ยิ่งถังหนิงพยายามจะเข้มแข็งเท่าไหร่ โม่ถิงก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปเท่านั้น

 

 

ตอนนั้นเองที่ถังหนิงส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นให้ชายหนุ่มดังเคย รอยยิ้มของเธอนั้นคือรูปแบบการปลอบโยนที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้

 

 

โม่ถิงสงบลงแล้วพยักหน้า “เดี๋ยวผมจะไปคุยกับคุณหมอครับ”

 

 

หลังจากได้ยินคำขอของโม่ถิง คุณหมอก็ยิ้มแล้วอธิบายว่า “ทางเราจะเฝ้าระวังอาการของคุณนายโม่เพื่อประเมินว่าเธอต้องการยาเร่งคลอดหรือไม่ อย่าห่วงเลยค่ะคุณโม่ พวกเราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณนายโม่และเด็กในท้องจะมีสุขภาพดีด้วยกันทั้งคู่”

 

 

ทว่าบนโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ดังนั้นตราบใดที่ยังมีความเสี่ยง โม่ถิงก็อดกังวลไม่ได้

 

 

“ถิงคะ คุณไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ ฉันก็แค่คลอดลูกเท่านั้นเอง ไม่ได้อันตรายอย่างที่คุณคิดหรอก…”

 

 

กลางดึกคืนนั้นภายในห้องพักของโรงพยาบาล ใต้แสงไฟสีเหลืองนวล โม่ถิงกุมมือถังหนิงเอาไว้อย่างแนบแน่น “หลังจากเด็กคนนี้เกิดมา ผมจะไม่ใจดีกับเขาแน่ กล้าดียังไงถึงอยู่ในท้องของคุณนานขนาดนี้และไม่ยอมออกมาสักที!”

 

 

“เด็กคนนี้อาจรู้ว่าคุณจะแย่งความอบอุ่นไปจากเขาทันทีที่เขาเกิดมา ดังนั้นเขาก็เลยตัดสินใจจะอยู่ในท้องของฉันให้นานขึ้นอีกหน่อยมั้งคะ”

 

 

โม่ถิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพลันเอ่ยขึ้นมาว่า “แม่บอกผมว่าคุณเองก็เสี่ยงอันตรายเหมือนกัน ดังนั้นสองสามวันที่ผ่านมาผมจึงเอาแต่คิดว่าผมจะทำยังไงถ้ามีอะไรเกิดอะไรขึ้นกับคุณ

 

 

แต่ไม่ว่าผมจะคิดเท่าไหร่ ผมก็หาคำตอบไม่ได้เลย สิ่งเดียวที่ผมรู้สึกคือความหวาดกลัว ความกลัวที่ผมไม่เคยรู้สึกถึงมันมาก่อน”

 

 

“อย่ากลัวไปเลยค่ะ ลูกกับฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ เราสองคนจะไม่ไปไหน” ถังหนิงพูดให้โม่ถิงหยุดกังวล “เราสองคนจะอยู่เคียงข้างคุณไปจนแก่เฒ่า”

 

 

คืนนั้น ถังหนิงนอนไม่หลับ รู้สึกได้ว่าโม่ถิงหลับอย่างระมัดระวังอยู่ในอ้อมแขนของเธอ หญิงสาวไม่เคยเห็นโม่ถิงในมุมนี้มาก่อน เขาคือราชาแห่งวงการบันเทิงและไร้เทียมทานในทุกสิ่งที่ทำมาเสมอ ทว่าในเวลาเช่นนี้ ชายหนุ่มกลับเป็นดั่งชิ้นแก้วอันแสนบอบบาง

 

 

ถังหนิงเจ็บปวดหัวใจ ดังนั้นหญิงสาวจึงภาวนาให้ลูกของเธอคลอดออกมาเร็วๆ เพื่อที่พ่อของเขาจะได้สบายใจเสียที

 

 

วันถัดมา คุณหมอเข้าตรวจร่างกายถังหนิงแล้วยืนยันว่าเธอสามารถใช้ยาเร่งคลอดได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นเขาจึงปลอบโม่ถิงและบอกให้เขาไม่ต้องกังวล

 

 

ขณะที่ถังหนิงรออยู่ในห้องคลอด โม่ถิงอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเธอด้วยทว่าถังหนิงเข้าใจนิสัยของชายหนุ่มดีเกินไป หากเขาเห็นเธอเจ็บปวด เขาจะชอกช้ำใจเพราะภาพนั้นตลอดไป ดังนั้นถังหนิงจึงปฏิเสธไม่ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนเธอ

 

 

ครู่ต่อมา ความเจ็บปวดก็มาถึง ถังหนิงรู้สึกได้ว่าปอดของเธอบีบตัวและเริ่มหายใจยากขึ้น

 

 

ที่ด้านนอกห้องคลอด ทุกคนรอด้วยความกระวนกระวายในขณะที่โม่ถิงนั่งเงียบๆ อยู่บนม้านั่ง ชายหนุ่มดูเครียดเป็นอย่างยิ่ง แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเพิกเฉยการมีตัวตนอยู่ของเขา

 

 

ในอดีต ถังหนิงเคยผ่านเรื่องยากลำบากมาทุกรูปแบบแล้ว การให้กำเนิดลูกสักคนให้กับชายที่เธอรักนั้นจะถือเป็นความท้าทายขนาดนั้นเชียวหรือ

 

 

เมื่อคิดเช่นนี้ ถังหนิงรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอพลันเปี่ยมไปด้วยพลัง

 

 

“คุณถังหนิง เบ่งเรื่อยๆ เลยนะครับ หมอเห็นหัวเด็กแล้ว”

 

 

ภายในห้องคลอด ถังหนิงกำลังได้สัมผัสการทรมานอันแสนสาหัส ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงเสียจนเธอเกือบจะเป็นลม

 

 

ด้านนอกห้องคลอดในขณะเดียวกันนั้น ทุกคนล้วนเห็นความทรมานที่โม่ถิงกำลังประสบ

 

 

“ทำไมไอ้เจ้านี่ถึงต้องเจอเรื่องลำบากมากมายขนาดนี้กันด้วยนะ” ผู้เฒ่าถังถอนหายใจ

 

 

ครู่ต่อมา นางพยาบาลคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากห้องคลอดแล้วจับมือผู้เฒ่าถัง “คุณเป็นสมาชิกครอบครัวของคุณถังหนิงหรือเปล่าคะ”

 

 

“ชะ…ใช่ครับ”

 

 

“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณถังหนิงคลอดเด็กออกมาแล้วและปลอดภัยดี อีกเดี๋ยวพยาบาลอีกคนจะออกมาคุยกับพวกคุณ อย่าห่วงไปเลยนะคะ คุณถังหนิงปลอดภัยค่ะ”

 

 

เมื่อได้ยินว่าหญิงสาวคลอดเด็กออกมาแล้ว ทุกคนก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอนนั้นเองที่นางพยาบาลเอ่ยถามว่า “คนไหนคือสามีของเธอคะ”

 

 

ทุกคนมองไปยังโม่ถิงขณะที่เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปหานางพยาบาลคนนั้น

 

 

“ฉันดูออกเลยค่ะว่าคุณรักภรรยาของคุณมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นผู้หญิงสักคนคลอดลูกอย่างเข้มแข็งและกล้าหาญเพื่อที่คนเป็นสามีจะได้ไม่ได้เป็นห่วงเธอ พวกคุณทั้งคู่น่ารักมากค่ะ ยินดีด้วยอีกครั้งนะคะ”

 

 

“ผมเข้าไปได้หรือยังครับ” น้ำเสียงโม่ถิงนั้นไม่ได้เยือกเย็นเหมือนดังเคย อันที่จริง…มันเป็นเสียงที่แหบแห้งและสั่นเครือ ชายหนุ่มหวาดกลัวจนไม่ได้ตระหนักว่าตัวเองได้กลายเป็นพ่อคนแล้ว สิ่งเดียวที่เขานึกถึงคือถังหนิง คนรักของเขา

 

 

“ได้ค่ะ เชิญเลย” ทันทีที่นางพยาบาลเอ่ยเช่นนั้น โม่ถิงก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องคลอด เมื่อเห็นว่าถังหนิงเหงื่อท่วมตัว เขาก็รีบก้าวเข้าไปหาแล้วกุมมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ…มันจบแล้ว”

 

 

ถังหนิงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว หยาดน้ำตาไหลพรากจากดวงตาทั้งสองของเธออย่างควบคุมไม่ได้

 

 

เพราะเมื่อครู่ก่อน หญิงสาวพนันกับพยาบาลสาวคนนั้นไว้

 

 

โดยส่วนมากแล้วผู้เป็นสามีมักจะจดจ่ออยู่กับลูกของพวกเขาทันทีที่ภรรยาคลอดเด็กออกมา มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไปดูอาการของภรรยาก่อน มีหลายกรณีที่ผู้เป็นสามีหนีไปทันทีที่พบว่าลูกของพวกเขาเป็นเด็กผู้หญิง

 

 

แต่ถังหนิงมั่นใจว่าสามีของเธอจะไม่เป็นเช่นนั้น

 

 

ในหัวใจเขา เธอเป็นที่หนึ่งเสมอ

 

 

ดังนั้นนางพยาบาลจึงชื่นชมความสัมพันธ์ของพวกเขาและแสดงความยินดีกับถังหนิง

 

 

“คุณเจอลูกของเราหรือยังคะ”

 

 

โม่ถิงส่ายหน้า ชายหนุ่มอยากกอดถังหนิงแต่เขาไม่อยากเคลื่อนไหวอย่างประมาท

 

 

“คุณกังวลแค่เรื่องฉันเหรอคะ”

 

 

“อือฮึ” เสียงโม่ถิงยังคงสั่นเครือ

 

 

 

 

ด้านนอกห้องคลอด ทุกคนยังเฝ้ารออยู่ ไม่นานนัก นางพยาบาลคนหนึ่งก็อุ้มเด็กที่ถังหนิงเพิ่งคลอดออกมาเพื่อให้คนในครอบครัวได้เห็นเจ้าตัวเล็ก

 

 

ทว่าทุกคนต้องประหลาดใจเมื่อนางพยาบาลคนนั้นอุ้มเด็กหนึ่งคนที่แขนแต่ละข้าง…

 

 

“พวกคุณไม่รู้เหรอคะ คุณนายโม่คลอดเด็กแฝดออกมา เป็นผู้ชายทั้งคู่เลยค่ะ!”

 

 

แฝด…ชาย!

 

 

“โม่ถิง เจ้านั่นนี่โชคดีจริงๆ” เป่ยเฉินตงถอนหายใจ ทว่าน้ำเสียงของเขามีร่องรอยของความชื่นชมอยู่เล็กน้อย

 

 

ขณะที่สมาชิกครอบครัวมองเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์และไร้เดียงสาทั้งสองที่อยู่ในอ้อมแขนของนางพยาบาล พวกเขาก็พลันรู้สึกตื่นเต้น

 

 

“พี่น้องแฝดชาย ยอดเยี่ยมจริง…”

 

 

บางทีในตอนนี้ แม้แต่ตัวถังหนิงเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเธอให้กำเนิดเด็กแฝด ระหว่างการตรวจ หญิงสาวจดจ่ออยู่กับสุขภาพของลูกเท่านั้นและบอกให้คุณหมอเก็บเรื่องอื่นๆ เอาไว้เป็นความลับ ส่วนตอนที่อยู่ในห้องคลอด สิ่งเดียวที่เธอจดจ่อก็คือความเจ็บปวด หลังจากที่ความเจ็บปวดนั้นทุเลาลง หญิงสาวก็จำอะไรไม่ได้อีก…