เล่มที่ 3 บทที่ 79 หรือเซี่ยยวี่หลัวจะเป็นคนโง่

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เซี่ยยวี่หลัวหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “งั้นหรือ? ท่านจะบอกว่าจื่อเซวียนถูกข้าตี เช่นนั้น พวกเราลองยื่นมือออกมา ให้หัวหน้าหมู่บ้านดู! ”

“ยื่นมือทำไม? ” หลัวซื่อรู้สึกสงสัย

“บนใบหน้าจื่อเซวียนมีรอยแผลข่วนหนึ่งรอย นั่นย่อมหมายความว่าคนที่ตีไว้เล็บยาว แต่ท่านลองดู เล็บของข้าถูกตัดจนแทบจะเข้าเนื้อ ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่าเล็บของท่านยาวหรือสั้น! ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าว

เซียวจิ้งยี่รู้สึกว่ามีเหตุผลยิ่งนัก หันไปตะคอกใส่หลัวซื่อด้วยสีหน้าถมึงทึง “ยื่นมือออกมา! ”

หลัวซื่อไม่ยอม รู้ว่าตัวเองไม่อาจแก้ตัวได้อีก จึงโวยวายแก้ต่าง “เซียวจื่อเซวียนมาถึงก็ตีลูกชายข้า หรือจะให้ข้าทนดูลูกชายโดนตี! ”

นั่นหมายความว่า เซียวจื่อเซวียนถูกนางตี!

“หลัวไห่ฮวา! ” เซียวจิ้งยี่ตะคอกเรียกชื่อเต็มของหลัวซื่อ “เช่นนั้นแล้ว ลูกชายของเจ้าก็คือแก้วตาดวงใจ ส่วนลูกชายผู้อื่นก็เปรียบเสมือนหญ้าข้างทาง เจ้าตีจื่อเซวียนหนักเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวว่าบิดามารดาของเขาจะกลับมาคิดบัญชีกับเจ้ากลางดึกหรือ! ”

เซียวจิ้งยี่ใช้มือคู่กุมไม้เท้าไว้ กระทุ้งพื้นไม่หยุด

น่าโมโหนัก ช่างน่าโมโหเสียจริง!

หลัวซื่อกลัวเล็กน้อย อย่างไรเสีย จะมีใครบ้างไม่กลัวภูตผี เพียงแต่นางเป็นคนยึดตัวเองเป็นใหญ่จนเคยชิน จึงส่งเสียงเย็นในลำคอ “เซี่ยยวี่หลัวตีบ่อยขนาดนั้น ทำไมพ่อแม่ของเขาไม่มาคิดบัญชีกับนางบ้างล่ะ? หากจะคิดบัญชีจริง ก็คงไปหาเซี่ยยวี่หลัวก่อน! ”

ทางที่ดีให้พ่อแม่เซียวจื่อเซวียนพาเซี่ยยวี่หลัวไปด้วยเลย

“เจ้า…” เซียวจิ้งยี่กล่าวอะไรไม่ออก “หลัวไห่ฮวา เจ้ามันโหดเหี้ยมนัก! ”

ถึงอย่างไรเซี่ยยวี่หลัวก็เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเซียวจื่อเซวียน หากนางเป็นคนตีจริง คนอื่นก็คงได้แต่ทอดถอนใจ ใครจะกล้าไปกล่าวโทษ

แต่หลัวซื่อนั้นต่างกัน ไม่ได้เป็นญาติมิตรอะไรกับเซียวจื่อเซวียน เจ้าตีเด็กบ้านคนอื่น ทั้งยังตีหนักถึงเพียงนี้ นั่นเป็นเรื่องไม่สมควร!

“เจ้ายังไม่รีบขอขมาพวกภรรยาของเซียวยวี่อีก! ” เซียวจิ้งยี่ตะคอก

หลัวซื่อเบ้ปาก ส่งเสียงเย็นในลำคอทีหนึ่ง เซียวจิ้งยี่รู้ว่าภรรยาเซียวไฉซุ่นเป็นคนหัวรั้น วันนี้ได้พบตัวจริง จึงเข้าใจว่าเป็นคนหัวรั้นเสียยิ่งกว่าอะไร คิดว่าเขาไม่มีวิธีจัดการนางแม้แต่น้อยงั้นหรือ?

“หลัวไห่ฮวา เจ้ายังจำกฎระเบียบของหมู่บ้านสกุลเซียวได้หรือไม่? ”

หลัวซื่อเบ้ปาก นางแทบไม่รู้หนังสือ จะไปจำกฎระเบียบของหมู่บ้านได้อย่างไร!

เซียวจิ้งยี่กุมไม้เท้า กล่าวด้วยความรู้สึกโมโห “สตรีทุกคนที่แต่งเข้าหมู่บ้านสกุลเซียว ข้าจะย้ำกำชับกับพวกนางเสมอ แม้ว่าหมู่บ้านสกุลเซียวของเราจะไม่ใหญ่ และไม่ร่ำรวย แต่ทั้งหมู่บ้านของเราก็คือครอบครัวใหญ่ ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เคารพผู้อาวุโส เอ็นดูผู้เยาว์ เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน คอยดูแลช่วยเหลือซึ่งกัน แต่วันนี้เจ้าทำอะไรลงไป? ”

ชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่มุงดูอยู่ ต่างก็ทอดถอนใจ

เมื่อเห็นว่าเซียวจื่อเซวียนถูกตีจนเจ็บถึงเพียงนี้ ภายในใจทุกคนต่างรู้สึกไม่ดี ในตอนแรกยังนึกว่าเซี่ยยวี่หลัวเป็นคนทำ ทุกคนจึงกล่าวอะไรไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวคนอื่น พวกเขายุ่งไม่ได้ แต่เวลานี้ เมื่อรู้ว่าหลัวซื่อเป็นคนตี ต่างคนต่างก็ทนดูต่อไปไม่ได้!

“จริงด้วย ภรรยาไฉซุ่น ครั้งนี้เจ้ากระทำการไม่เหมาะไม่ควรจริง เด็กกำพร้าพ่อแม่เดิมทีก็น่าสงสารอยู่แล้ว เจ้ายังลงมือหนักถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้าถึงทำได้ลงคอ! ”

เซียยวี่หลัวเห็นว่าเซียวจื่อเซวียนใส่ยาเสร็จแล้ว จึงหันไปยิ้มพร้อมกล่าวกับหลัวซื่ออย่างเย็นเยียบ “บุตรชายของท่านผลักจื่อเมิ่งของข้า ทำให้นางเลอะไปทั้งตัว แย่งชิงหมวกจากจื่อเมิ่ง หมวกที่ข้าเพิ่งทำเสร็จในช่วงเช้าถูกพวกท่านทำลายจนพังเสียหาย ท่านไม่เพียงลงมือตีจื่อเซวียน ทั้งยังใส่ร้ายว่าข้าเป็นคนทำ แม่เสี่ยวฮวา ท่านลองบอกมาว่าบัญชีครั้งนี้ พวกเราควรคิดอย่างไร? ”

เซียวจิ้งยี่กล่าว “ภรรยาเซียวยวี่ เจ้าลองบอกมา ว่าเรื่องนี้เจ้าคิดจะทำอย่างไร? ”

ดวงหน้าเซี่ยยวี่หลัวเย็นเยียบ “ขอขมาพวกเราสามคนต่อหน้าทุกคน นอกจากนั้น ค่ารักษาอาการบาดเจ็บของจื่อเซวียน ท่านต้องเป็นคนจ่าย! ”

หลัวซื่อทำท่าจะตะคอกกลับ เซียวจิ้งยี่ปราดสายตามองแวบหนึ่ง “ทำไม เจ้าไม่ยินยอม? ภรรยาเซียวยวี่ให้เจ้าขอขมา ให้เจ้าชดใช้ค่ายาค่ารักษาเล็กน้อยถือว่าเมตตาถึงขีดสุดแล้ว ข้าคิดว่าแค่นี้ยังไม่พอ จื่อเซวียนถูกเจ้าตีจนเจ็บถึงเพียงนี้ ดังนั้นวันนี้เจ้าไปจับไก่มาตัวหนึ่ง ให้เขาบำรุงร่างกาย! ”

หลัวซื่อโวยวายขึ้นมาทันที “ทำไมข้าต้องทำ? เซียวจื่อเซวียนยังตีต้าจ้วงของข้าด้วย แล้วบัญชีนี้จะคิดอย่างไร? ทำไมลูกชายข้าถึงสมควรโดนตี หัวหน้าหมู่บ้าน เช่นนี้ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรม! ”

นางส่งเสียงเอะอะโวยวาย สุดท้ายนั่งลงบนพื้นโวยวายไม่หยุด “ท่านรังแกพวกเราสามแม่ลูก ฮึ เพราะเห็นว่าเซียวยวี่ไปสอบ แล้วคิดว่าจะสอบผ่านได้เป็นบัณฑิต ทำให้หมู่บ้านสกุลเซียวของพวกท่านมีเกียรติ! คนเรียนหนังสือรังแกคนสัตย์ซื่อบริสุทธิ์ ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรม! ”

เซียวจิ้งยี่โมโหจนแทบคลั่ง นี่มันเรื่องอะไรกัน!

“หลัวไห่ฮวา เจ้า… เจ้ามันไร้เหตุผล ไร้เหตุผลสิ้นดี! ” เซียวจิ้งยี่กุมไม้เท้า โมโหจนแทบทนไม่ไหว!

หลัวไห่ฮวายังนั่งอยู่บนพื้นโวยวายต่อ “คนเรียนหนังสือรังแกคนชนบทอย่างเรา อย่าคิดว่าเซียวยวี่ได้เป็นบัณฑิตแล้วพวกท่านจะรังแกข้าได้ ข้าไม่ยอม ไม่ยอม! ”

เซียวจิ้งยี่โมโหเดือดดาล “เช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไร? ”

หลัวซื่อกล่าว “หากให้ข้าจ่ายค่ารักษา นางก็ต้องจ่ายค่ารักษาให้ต้าจ้วงของข้าด้วยซ้ำ ต้าจ้วงของข้าถูกปาก้อนหินใส่เจ็บแทบตาย! ”

เซียวจื่อเซวียนกล่าวเสียงเบา “พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าใช้หินก้อนเล็กมาก ไม่เจ็บแน่! ”

“ไม่เจ็บ? ” หลัวซื่อตะคอก “เช่นนั้นข้าลองปาใส่เจ้าดู! ”

เซี่ยยวี่หลัวเอ่ยถามเซียวจื่อเซวียน “จื่อเซวียน นางตบเจ้าไปกี่ครั้ง? ”

เซียวจื่อเซวียนจับใบหน้าที่บวมเป่ง “นางตบข้าแค่สองครั้ง และเตะข้าอีกสองครั้ง! ”

เซี่ยยวี่หลัวแย้มรอยยิ้ม มีแผนการในใจแล้ว นางมองดูหลัวซื่อที่ยังนั่งอาละวาดอยู่บนพื้น ก่อนหันมองเซียวจิ้งยี่ “หัวหน้าหมู่บ้าน ในเมื่อแม่เสี่ยวฮวาไม่ยอมชดใช้ค่ารักษา และไม่ยอมจับไก่ เช่นนั้นเอาเช่นนี้ก็แล้วกัน พวกเราจะจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง! ”

เซียวจิ้งยี่ “จำลองอีกครั้ง? จำลองอย่างไร? ”

“ต้าจ้วงผลักจื่อเมิ่งล้มในหลุมโคลน ก็ให้จื่อเซวียนกระชากผมของเสี่ยวฮวาให้นางล้มในหลุมโคลน จื่อเซวียนปาหินใส่ต้าจ้วง ก็ให้ต้าจ้วงใช้หินขนาดเท่ากันปาใส่จื่อเซวียน หลัวซื่อตีจื่อเซวียน ย่อมให้จื่อเซวียนเป็นคนตีคืนไม่ได้ ผู้ใหญ่แรงเยอะ เด็กจะมีแรงมากแค่ไหนเชียว อย่างไรเราก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถ้าอย่างไรก็ให้ข้าเป็นคนตีคืน แต่ข้าจะไม่ลงมือกับเด็ก แม่เสี่ยวฮวา ถ้าอย่างไร ท่านให้ข้าตบสองที เตะอีกสองครั้ง ความบาดหมางระหว่างเราก็ถือว่าหายกัน? ” เซี่ยยวี่หลัวกล่าว

“ได้ วิธีนี้ดี! ” หลัวซื่อได้ยินดังนั้นก็รีบตอบตกลง “ตกลงตามนี้! “

เซียวจิ้งยี่ได้ฟังดังนั้นห้วงความคิดก็แทบหยุดชะงัก นี่มันเป็นวิธีดีอย่างไรกัน?

หรือเซี่ยยวี่หลัวจะเป็นคนโง่?