ตอนที่ 91 ถอดกางเกง

แม่สาวเข็มเงิน

ตอนที่ 91 ถอดกางเกง

“มีเหล้าที่มีฤทธิ์ค่อนข้างแรงสักนิดหรือไม่ ?” เจียงป่าวชิงหันไปถามไป๋จีที่อยู่ด้านข้าง

ไปจีกะพริบตาปริบ ๆ จากนั้นเขาก็มองกงจี้

กงจี้หลับตาไม่พูดอะไร แต่ไป๋จีกลับเข้าใจความหมายของกงจี้ดีจึงพยักหน้า “มีเหล้าชั้นดีที่ยังไม่ได้เปิดอยู่พอดี หากว่าแม่นางเจียงต้องการ ข้าจะไปหยิบมาให้”

ฝูฉูที่กลับมาจากไปชงชาได้ยินว่าเจียงป่าวชิงต้องการเหล้า นางจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ตักเตือนเจียงป่าวชิง “แม่นางเจียง เหล้าที่มีฤทธิ์แรงมักจะทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะกับผู้หญิง ควรที่จะทะนุถนอมร่างกายตัวเองให้ดี ๆ นะ”

เจียงป่าวชิงรู้ว่าฝูฉูเข้าใจผิดแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ ทำเพียงพูดขึ้นยิ้ม ๆ “ข้าไม่ได้จะดื่มเหล้านี้หรอกเจ้าค่ะพี่ฝูฉู ท่านชายของพี่ต่างหากที่ต้องใช้”

ฝูฉูไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย แต่เจียงป่าวชิงกลับไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม

ไม่นานไป๋จีก็ไปหยิบเหล้ามาให้ เขาเปิดฝาเหล้าออก จากนั้นกลิ่นเหล้าที่รุนแรงก็แทบจะกระทบกับใบหน้าในทันที

เจียงป่าวชิงยื่นหน้าออกเล็กน้อย

กลิ่นเหล้าหอมมากแต่นางนั้นไม่ดื่มเหล้า  กลิ่นเหล้านี้ทั้งหอมทั้งฉุน ยากที่จะทนได้ไหว

เนื่องจากเจียงป่าวชิงรู้ว่าของที่คนสมัยโบราณใช้หมักเหล้านั้นค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่เล็กน้อย นางกลัวว่าจะมีบางอย่างขัดแย้งกับคุณสมบัติยาของกงจี้ จึงครุ่นคิดอยู่สักครู่ สุดท้ายก็รินใส่ถ้วยเล็ก ๆ และทำการจิบ เสร็จแล้วก็จุ๊ปากเล็กน้อย

เหล้าที่เข้มข้นไหลลงไปในลำคอ นางไม่คาดคิดเลยว่ามันจะไม่ทำให้รู้สึกแสบ เหล้าไหลเรื่อยลามไปที่ปลายลิ้นแล้วไหลผ่านคอ มันทิ้งความหวานไว้นิดหน่อย

เพียงแค่จิบเดียว ปลายจมูก แก้ม และใบหูของเจียงป่าวชิงก็แดงขึ้นมาทันทีทำให้ฝูฉูพูดเตือนอีกครั้ง นางเตือนอยู่ด้านข้าง “แม่นางเจียง รสสัมผัสในช่วงสุดท้ายของเหล้านี้ค่อนข้างรุนแรงอยู่พอสมควร…”

เจียงป่าวชิงยิ้มด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “จิบเดียวก็พอแล้วเจ้าค่ะ เพียงเท่านี้ข้าก็ได้รู้แล้วว่าข้างในไม่มีอะไรขัดแย้งกับคุณสมบัติยา” เดิมทีนางมีสติดีมาก แต่เพราะว่าดื่มเหล้าเมื่อครู่ไป นางจึงรู้สึกคึกอย่างน่าประหลาด

เจียงป่าวชิงสั่งให้ไป๋จีไปหยิบชามขนาดใหญ่และให้เขาเทเหล้าลงไปให้เต็ม หลังจากที่นางทำความสะอาดแล้ว ก็นำเข็มเงินในกระเป๋าเข็มแช่ลงไปในเหล้าทั้งหมด

ไป๋จีพูดขึ้น “เข็มเงินนี้ผ่านการต้มในน้ำเดือดตามคำสั่งของแม่นางเจียงแล้ว ตอนนี้ยังต้องทำการฆ่าเชื้อต่ออีกรึ ?”

เจียงป่าวชิงมองไป๋จีเล็กน้อย นางพูดให้ความรู้เขาอย่างอดทน “หากจะพูดให้เหมาะเจาะก็คือสิ่งของที่ผ่านเลือดจะต้องได้รับการฆ่าเชื้อ ดูอย่างดาบเล่มนั้นของเจ้าสิ ฟันไปฟันมา อันที่จริงคือไม่หลงเหลือความความสะอาดถูกสุขอนามัยเลย  ฟันคนตั้งมากมายมาขนาดนั้น เจ้าเคยทำการฆ่าเชื้อให้มันบ้างหรือเปล่า ? ถ้าหากว่าไม่ระวังและเผลอเอาไปทำร้ายคนของตัวเองในภายหลัง ก็อาจจะทำให้คนของตัวเองป่วยเพราะการที่เจ้าฆ่าคนแต่ไม่ได้ทำการฆ่าเชื้อยังไงล่ะ”

ไป๋จีพูดอย่างชัดเจน “ข้าจะไม่ฟันคนของตัวเอง”

เจียงป่าวชิงตบโต๊ะ “เจ้าพูดอีกครั้งสิ! ครั้งที่แล้วเจ้าเกือบจะฟันข้าอยู่แล้วนะ”

“เอ่อ… นั่น…” คำพูดของเจียงป่าวชิงทำให้ไป๋จีไม่รู้จะรับคำต่ออย่างไรดี เขาเก้อเขินอยู่เล็กน้อย ทว่ากงจี้กลับหัวเราะเยาะขึ้นมา

เจียงป่าวชิงเงยหน้าขึ้นมาจ้องเขาทันที “คุณชายกง เจ้ายังมีหน้ามาหัวเราะอีกรึ ?! ถึงอย่างไรไป๋จีก็ก็ไม่ฟันข้า แต่มีดสั้นเล่มนั้นของเจ้ากลับแทงทะลุไหล่ข้า” เจียงป่าวชิงประณามเขาอย่างสมเหตุสมผล นอกจากนี้ นางยังชี้ไปที่บริเวณที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อก่อนหน้านี้อีกด้วย

“…” แม้ว่าจะเป็นคนอย่างกงจี้ แต่เขาก็ตกใจกับคำประณามอย่างกะทันหันของเจียงป่าวชิงจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว

อยู่ดี ๆ เหตุใดนางถึงพูดเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมาได้ล่ะ ?

ฝูฉูขมวดคิ้วเล็กน้อย “ประเดี๋ยว… แม่นางเจียงคงไม่ได้เมาหรอกใช่หรือไม่ ?”

เจียงป่าวชิงโบกมือให้ฝูฉูเล็กน้อย “ข้าไม่ได้เมา ข้ามีสติดี” จากนั้นนางก็หันไปบ่นกงจี้อีกครั้ง “ข้ามีบุญวาสนาและดวงแข็ง โชคดีที่ไม่เป็นบาดทะยัก ไม่อย่างนั้นใครจะรักษาขาให้เจ้า ? ถึงตอนนั้นเราสองคน คนหนึ่งตาย คนหนึ่งขาด้วน น่าเวทนามากเลยนะข้าจะบอกให้เจ้ารู้ไว้”

“…” กงจี้ยังคงเงียบต่อ เจอเช่นนี้เขาจะพูดอะไรได้อีกล่ะ  เขาพบว่าถึงแม้เจียงป่าวชิงจะไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิงที่ใจคับใจแคบ แต่เรื่องที่เขาแทงไหล่นาง คาดว่านางคงจะสามารถบ่นได้อีกนานเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าฝูฉูจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น แต่เมื่อนางฟังดูแล้วคล้ายกับว่าจะไม่ใช่เรื่องดีอะไร นางจึงคิดว่าเปลี่ยนหัวข้อสนทนาจะเป็นการดีที่สุด “แม่นางเจียง วันนี้เจ้าจะฝังเข็มให้ท่านชายเลยรึ ? จะ… จะไม่ฉุกละหุกไปหน่อยหรือ ?”

อันที่จริงฝูฉูยังคงสงสัยเกี่ยวกับการฝังเข็มอยู่เล็กน้อย ถึงอย่างไรนางก็ไม่เคยเห็นวิธีการฝังเข็มที่พิสดารของเจียงป่าวชิงมาก่อน อย่างมากก็เห็นเจียงป่าวชิงปักเข็มเย็บผ้าหลายอันไว้บนไหล่ของนางเองเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

แต่ฝูฉูนั้น นางเชื่อในการตัดสินใจของท่านชายกงจี้ผู้นี้ ในเมื่อท่านชายของนางคิดว่าการฝังเข็มของเจียงป่าวชิงมีประโยชน์ต่อพิษที่ขาของเขา เช่นนั้นก็แสดงว่าเจียงป่าวชิงจะไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน

เจียงป่าวชิงสั่งให้ไป๋จีไปหยิบผ้าขนหนูที่สะอาดมาหนึ่งผืน จากนั้นนางถึงจะหันไปพูดกับฝูฉู “พี่ฝูฉู เหตุใดถึงจะฉุกละหุกล่ะ ? ตลอดหลายวันมานี้ การที่ข้าใช้เครื่องปรุงยาแช่เท้าเพื่อขับสารพิษบางส่วนนั้นก็เป็นการเตรียมการสำหรับการฝังเข็มอยู่แล้ว ในเมื่อเข็มเงินมาถึงมือข้าแล้ว ข้าคิดว่าทั้งสองสิ่งสามารถเข้ากันได้ เช่นนี้ก็จะหายได้เร็วยิ่งขึ้น”

ฝูฉูไม่พูดโต้แย้งอะไรและไม่ได้พูดอะไรอีก

กงจี้ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดขึ้น “แล้วไหล่เจ้าล่ะ ?”

เจียงป่าวชิงยืดเส้นยืดสายให้กงจี้ดู “คุณชายกงไม่ต้องเป็นห่วง ถึงแม้ว่าบาดแผลข้าจะฉีกขาดเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ข้าใช้การฝังเข็มเพื่อทำการฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ ตอนนี้กล้ามเนื้อภายในก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วด้วย เจ้าไม่ต้องห่วงเลย นี่มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อขาของเจ้าอย่างแน่นอน”

สีหน้าของกงจี้ไม่สู้ดีนัก ผ่านไปสักครู่เขาถึงจะพูดขึ้นมานิ่ง ๆ “ถ้าอย่างนั้นก็ดี อย่าทำให้ข้าเสียเรื่องเพราะไหล่ของเจ้าก็แล้วกัน”

เจียงป่าวชิงกะพริบตาปริบ ๆ  ไม่รู้ทำไมนางถึงได้รู้สึกว่าเขากัดฟันพูดคำพูดเมื่อสักครู่ออกมาอย่างไรอย่างนั้น ทว่าจะไปสนใจเขาทำไมกันเล่า

เพียงแต่…

เจียงป่าวชิงมองกงจี้ด้วยแววตาลังเลอยู่สักครู่ สุดท้ายก็พูดออกไปอย่างไม่เกรงกลัว “คุณชายกง ต่อไปข้าต้องขอถอดกางเกงของเจ้าสักหน่อยล่ะนะ” พูดจบ ภายในห้องก็เงียบลงทันที

เมื่อเขาได้ฟังดังนั้น เดิมทีถ้วยชาที่กงจี้เพิ่งใช้มือยกขึ้นมาก็เกือบถูกเขาบีบจนแตกละเอียดอยู่รอมร่อ

ฝูฉูยืนขวางอยู่ตรงหน้ากงจี้ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ นางจ้องมองเจียงป่าวชิงอย่างโมโห “แม่นางเจียง โปรดระวังคำพูดของเจ้าด้วย!”

‘วาจาแม่นางช่างรุนแรงเกินไปจริง ๆ’ แม้กระทั่งไป๋จี เวลานี้เขาก็แอบคิดในใจอย่างเงียบ ๆ เขาไม่คิดว่าแม่นางเจียงจะเป็นคนที่เร่าร้อนถึงเพียงนี้

เจียงป่าวชิงกางมือออกด้วยท่าทางที่ไร้เดียงสา “พวกเจ้าคิดไปถึงไหนกัน การฝังเข็มของข้าต้องถอดกางเกง การจะทำเพียงรูดขากางเกงขึ้นนั้นแน่นอนว่าไม่ได้ เพราะมันจะบีบรัดหลอดเลือดที่ขาและส่งผลต่อผลการรักษา”

ฝูฉูเลี่ยงออกไปแล้ว สุดท้าย… ผ้าห่มบาง ๆ ตรงเอวของกงจี้ก็มีเพียงส่วนน่องเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมาให้เห็น

กงจี้นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลาที่สุดแสนจะเย็นชามองเจียงป่าวชิงด้วยแววตาที่คมเหมือนมีดขนาดเล็ก

ท่าทางของเจียงป่าวชิงจริงจังมาก “คุณชายกง ท่าทางแบบนี้ของเจ้าทำให้ข้าดูเหมือนเป็นโจรขโมยดอกไม้อย่างไรอย่างนั้น เจ้าช่วยปรับปรุงท่าทางของเจ้าหน่อยได้หรือไม่ ขานั้นเป็นหมอที่สุขุมรอบคอบ และในสายตาของคนเป็นหมอ ผู้ป่วยทุกคนล้วน…”

“เจียงป่าวชิง!” กงจี้ตวาดขึ้นอย่างน่ากลัว “เจ้าหุบปากประเดี๋ยวนี้เลย!”

เจียงป่าวชิงรับรู้ได้ถึงรังสีสังหารในคำพูดของกงจี้ นางกะพริบตาปริบ ๆ และปิดปากอย่างรู้งาน จากนั้นก็ล้วงเข็มเงินออกมาจากในเหล้าหนึ่งเล่ม ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้สะอาดและหนีบเข็มด้วยนิ้ว สุดท้ายก็จ่อเข็มไปที่จุดฝังเข็มตรงน่องและค่อย ๆ แทงลงไปอย่างช้า ๆ

สภาพจิตใจของกงจี้ดีอยู่พอสมควร หลายคนที่สัมผัสกับการฝังเข็มครั้งแรก กล้ามเนื้อมักจะเกร็งโดยไม่รู้ตัว เป็นเช่นนี้ ตอนที่ฝังเข็ม หมอก็จะสามารถรู้สึกได้ถึงความฝืด

แต่กงจี้นั้นกลับไม่มีความฝืดแม้แต่น้อย ตอนฝังเข็ม ความรู้สึกที่เจียงป่าวชิงรับรู้ได้ขณะฝังเข็มก็ดีมากเช่นกัน

เจียงป่าวชิงฝังเข็มราวกับได้รับความช่วยเหลือจากสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น ผ่านไปไม่นาน บนจุดฝังเข็มที่ขาของกงจี้ก็เต็มไปด้วยเข็มเงิน

ต่อมา เจียงป่าวชิงก็ทำความสะอาดมือ เมื่อเสร็จแล้วนางก็สังเกตอาการอยู่ด้านข้าง จากนั้นก็เอ่ยถามกงจี้ “ขอประทานโทษนะคุณชายกง ตอนนี้ข้าพูดได้หรือยัง ?”

กงจี้ชำเลืองมองเจียงป่าวชิงอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย

ดูเหมือนเจียงป่าวชิงจะเข้าใจความหมายของเขาขึ้นมาบ้างแล้ว นางจึงรีบพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “คุณชายกง ตอนนี้เจ้ารู้สึกอยากเป็นลมหรืออยากอาเจียนบ้างหรือไม่ ?”

กงจี้พูดเสียงแข็ง “ไม่มี”

เจียงป่าวชิงรู้สึกปลื้มใจมาก เห็นทีว่ากงจี้จะไม่มีอาการเมาเข็ม  นางเดินไปที่โต๊ะรักษาโรค จากนั้นก็นำหนังสือสองสามเล่มมาวางลงบนโต๊ะและหยุดเพื่อพลิกหนังสือไปมา

ไป๋จีรีบถามขึ้นทันที “แม่นางเจียง เจ้าต้องการหาหนังสืออะไรรึ ?”

เจียงป่าวชิงพลิกหาไปเรื่อย “มีหนังสือละครรักที่มีบททะเลาะกันเป็นส่วนใหญ่บ้างหรือไม่ ? ข้าจะเอามาอ่านฆ่าเวลา”

ไป๋จีและกงจี้ได้ยินคำพูดนาง พวกเขาทั้งสองก็ถึงกับอึ้งไป