ผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกเป็นสาวลูกครึ่งผมทองตาสีฟ้า ร่างสูงหุ่นเพรียว ผิวขาว สวมชุดเดรสสีแดงเพลิงดูมีสไตล์มาก
“แอนนี่ ทำไมเธอถึงได้มาได้ล่ะ”บรูชรู้สึกแปลกใจ
แอนนี่เป็นคนฝรั่งเศสและเป็นแฟนของเขา เป็นดาราโนเนม ทั้งสองคบกันยังไม่นาน
“ก็คิดถึง เลยรีบบินมาหาคุณไงคะ”แอนนี่ส่งสายตาให้กับบรูช แล้วก็จูบเขา
บรูชรู้สึกประหม่า พยายามยู่ปาก “มีแขกอยู่นะ อย่าเสียมารยาท”
แอนนี่พึ่งสังเกตเห็นว่ามีซูฉิงนั่งอยู่ หล่อนเลยปล่อยบรูช แล้วก็ถามอย่างสงสัย”เธอเป็นใคร”
“ผมขอแนะนำ “บรูชยักคิ้วพูด”นี่คือแอนนี่ แฟนของผมเอง”
เขาพูดแนะนำแอนนี่ต่อว่า “นี่คือซูฉิง เป็นคู่ค้าจากตระกูลฮ่อกรุ๊ป”
“คุณแอนนี่ สวัสดีค่ะ”ซูฉิงยิ้มทักทาย “คุณบรูชคะ ในเมื่อคุณมีธุระแล้ว งั้นพวกเราจะนัดเวลาใหม่ดีมั้ยคะ.
“ไม่ต้องหรอก”บรูชนั่งลงข้างซูฉิง “ความคิดของพบแต่ไหนแต่ไรมาคือเรื่องงานต้องมาที่หนึ่ง พวกเราคุยกันต่อเถอะ”
ซูฉิงพยักหน้า แล้วก็นำเอกสารข้อมูลออกมา “นี่คือตัวเลือกนักแสดงที่จะมาถ่ายโฆษณาคอลเลคชั่นน้ำแข็งและไฟ เชิญคุณบรูชดูก่อนค่ะ ว่าใครจะเหมาะสม”
“ถ่ายโฆษณาหรอ ฉันได้มั้ย “แอนนี่ถือโอกาสเสนอตัวทันที
แอนนี่ที่เป็นนักดาราหนังแต่ก็ไม่ดังเปรี้ยงปร้างสักที จนได้มาเจอกับบรูช แล้วเอาตัวเข้าแลกจนได้เป็นแฟนกับเขา แอนนี่ถึงได้พอมีชื่อเสียงบ้าง
และชื่อเสียงของตระกูลฮ่อแล้ว ถ้าหากว่าเป็นตัวแทนถ่ายโฆษณาของตระกูลฮ่อละก็จะต้องโด่งดังและสามารถเพิ่มเรทค่าตัวได้เป็นร้อยเท่าแน่
แอนนี่เลยคิดอยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้
บรูชที่เริ่มหงุดหงิด “แอนนี่ อย่าวุ่นวาย”
“ฉันพูดจริงนะ ” แอนนี่หยิบเอาเอกสารข้อมูลถ่ายโฆษณามาจากซูฉิงแล้วเปิดดู “โฆษณาอันนี้เหมาะกับฉันนะ ก็ตัดชุดให้เข้ากับฉัน บรูช ก่อนหน้านี้คุณเคยสัญญากับฉัน ตอนวันเกิดของฉันว่าฉันอยากได้อะไรก็ได้ ตอนนี้ฉันอยากเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของตระกูลฮ่อกรุ๊ป คุณพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำสิคะ”
“เรื่องนี้………”บรูชหันไปมองซูฉิงอย่างลำบากใจ “คุณซู คุณคิดว่าแอนนี่เป็นยังไงบ้าง”
ซูฉิงกระตุกใจ “ลองดูก็ได้ค่ะ”
ที่จริงแล้วรูปหน้าหน้าตาของแอนนี่ก็ไม่เลว แต่ว่าดูมีเสน่ห์เกินไป คำว่าไฟก็ถือว่าเหมาะสม แต่ว่าน้ำแข็ง นั้นยังห่างกันมาก
แอนนี่พยักหน้าอย่างพอใจ แล้วก็ถาม”แล้วนายแบบที่จะมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คู่กับฉันเป็นใคร ฉันหวังว่าจะเป็นเฉินจุนเหยียนนะ”
เฉินจุนเหยียนหรอ?
ซูฉิงคิ้วกระตุก
ตามที่จริงแล้ว เฉินจุนเหยียนเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว แต่ว่า……
“พระเอกหนังชื่อดังอย่างอาเฉิน ผมเคยดูผลงานแสดงหนังของเขา สุดยอดมาก “บรูชพูดชม “ผมก็คิดว่าเขาเหมาะที่จะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของน้ำแข็งและไฟ”
โอเค…..
“ในเมื่อคุณบรูชคิดว่าเฉินจุนเหยียนเหมาะสม งั้นดิฉันจะไปคุยกันเขาเองค่ะ “ซูฉิงพูดตามหลังการลูกค้าคือพระเจ้า แล้วก็พูดบอก
ซูฉิงเดินออกมาจากโรงแรมรอยัลคอร์ท แล้วก็ต่อสายโทรหาเฉินจุนเหยียน
“ซูฉิง “เฉินจุนเหยียนได้รับสายจากซูฉิงก็รู้สึกเซอร์ไพรส์
ซูฉิงเอ่ยเสียงเรียบ”ฉันเอง ฉันโทรหานายมีเรื่องจะคุยกับนางสองเรื่องหวังว่านายจะช่วยได้”
“พูดมาเลย “เฉินจุนเหยียนพูดเสียงนิ่ง “อย่าว่าแต่สองเรื่องเลย จะเป็นร้อยเป็นพักเรื่องฉันก็รับปากช่วย”
ซูฉิงถอนหายใจออกมาเบาๆ หล่อนรับไม่ได้ที่เฉินจุนเหยียนมีท่าทีรักอย่างนี้ ทำให้หล่อนรู้สึกว่าหล่อนปฏิเสธเขาทำให้รู้สึกแย่
แต่ว่าเรื่องที่ควรพูดก็ต้องพูด
ซูฉิงกระแอมแล้วพูด”เรื่องแรก เรื่องที่เราถูกแอบถ่ายที่ร้านกาแฟวันนั้น นายรู้มั้ยว่าเป็นฝีมือใคร”
“แอบถ่ายงั้นหรอ”
“ใช่ และยังส่งรูปให้กับฮ่อหยุนเฉิงอีก”ซูฉิงคิดถึงเรื่องวันนั้น ก็รู้สึกเครียดขึ้นมา
“ฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจใช่มั้ย “เฉินจุนเหยียนถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่หรอก นายลองคุณหน่อย ว่าเป็นแฟนคลับของนายถ่ายมั้ย “ซูฉิงถาม
เฉินจุนเหยียนหรี่ตา นึกภาพวันนั้นรูปในโทรศัพท์ของไป๋หลาน หรือว่าจะเป็นเธอ?
แต่ว่าเขาก็ตรวจดูอย่างละเอียดแล้วนี่ รูปพวกนั้นเขาก็ลบหมดแล้ว
“ฉันจะให้คนไปสืบดู ฉันขอเวลาหน่อยนะ “เฉินจุนเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ถ้าหากว่าเป็นแฟนคลับของเขาทำให้ซูฉิงพลอยลำบากไปด้วย
“อืม”ซูฉิงพยักหน้า “อีกเรื่องก็คือ ฉันอยู่ที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ปรับผิดชอบโปรเจคน้ำแข็งและไฟที่จะทำการโปรโมทสู่ตลาดฉันหวังว่านายจะมาเป็นแอมบาสเดิอร์ให้ได้ นายมีคิวให้รึเปล่า”
“มี “เฉินจุนเหยียนตอบรับปากอย่างไม่ลังเล
ของแค่ซูฉิงเอ่ยปาก ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็ไม่ปฏิเสธ
แม้จะไม่ว่าง เขาก็จะเลื่อนสัญญา
“ขอบคุณนะ พรุ่งนี้ตอนบ่ายนายมาเทสหน้ากล้องที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ป ได้มั้ย”ซูฉิงถาม
“ไม่มีปัญหา “พอคิดว่าพรุ่งนี้ว่าจะได้เจอซูฉิงเฉินจุนเหยียนก็ยิ้มกว้างออกมา
ซูฉิงก็ได้นัดเวลากับแอนนี่ที่จะลองเทสหน้ากล้องเป็นวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย จากนั้นก็ถึงกลับไปตระกูลฮ่อกรุ๊ป
และเมื่อถึงแผนก ยังไม่ทันได้นั่ง ไป่เสี่ยวซู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นว่า”เลขาซู ประธานฮ่อบอกว่าถ้าคุณกลับมาแล้วให้เขาไปหาที่ห้องทำงาน”
“เข้าใจแล้ว”ซูฉิงพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบ
แต่ภายในใจกลับรู้สึกระวังตัว ฮ่อหยุนเฉิงเรียกหาเธอ มีธุระอะไรหรอ
ซูฉิขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องประธานพร้อมกับความสงสัยจนถึงงหน้าประตู
นึกถึงใบหน้าเคร่งขรึมและเคร่งขรึมของฮ่อหยุนเฉิงที่ปรากฏต่อหน้าเธอ ซูฉิงก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมา
เธอสูทลมหายใจ แล้วก็ยื่นมือออกไปเคาะประตู
“เข้ามา”ฮ่อหยุนเฉิงส่งเสียงเรียบดังออกมา
ซูฉิงก็ผลักประตูเข้าไป
ฮ่อหยุนเฉิงที่นั่งอยู่โต๊ะทำงาน กำลังก้มหน้ามองเอกสารที่อยู่ในมือ เงยหน้าขึ้นมองด้วยท่าทีดูดีมีระดับ ทีรัศมีอันทรงพลังที่แผลออกมาจากตัวของเขา ทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ราวกับว่าเขาเกิดมเพื่อเป็นราชาที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิด
“ฮ่อหยุนเฉิง นายเรียกฉันมีธุระอะไรรึเปล่า”ซูฉิงหลบสายตาแล้วเอ่ยถาม
ฮ่อหยุนเฉิงได้ยินเสียงเธอก็เงยหน้าขึ้นมา ด้วยท่าทางที่ดูโดดเด่น ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา”เธอไปไหนมา”
เขาที่พึ่งประชุมเสร็จเมื่อกี้ และก็เดินไปที่แผนกเลขา กลับไม่พบซูฉิง
ถามพนักงานที่อยู่แถวนั้น ก็ได้เรื่องว่าหล่อนออกไปข้างนอก
เวลางาน กลับไม่ลาเขา
“อย่างคอลเลคชั่นน้ำแข็งกับไฟออกมาแล้ว เมื่อกี้ฉันไปให้คุณบรูชดูที่โรงแรมรอยัลคอร์ท”ซูฉิงตอบตามความจริงเสียงเรียบ
“หรอ “ฮ่อหยุนเฉิงที่ทำหน้าเย็นชา “ในเมื่อตัวอย่างออกมาแล้ว ทำไมไม่เอามาให้ฉันดู”
ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิงด้วยสายตาสำรวจ เขานั้นรู้ว่าซูฉิงกำลังหลบเขาอยู่
ซูฉิงที่มองสบตานิ่งลึกยากจะคาดเดาของฮ่อหยุนเฉิงก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เลยยิ้มบาง”เพราะว่าประธานฮ่อไม่ได้บอกให้ฉันเอามาให้ดูไง”
“ดังนั้น เธอก็เลยคิดเองเออเอง การที่เป็นผู้รับผิดชอบโปรเจคหนึ่ง หรือว่าเธอไม่รู้ว่าจะต้องรายงานเจ้านายให้ทราบถึงความคืบหน้าหรอ”ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตามอง ถามเสียงเคร่งแฝงอารมณ์โมโห
ผู้หญิงคนนี้เพื่อที่จะหลบหน้าเขา แม้แต่รายงานความคืบหน้าก็ไม่ต้องแล้วงั้นหรอ
“ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องให้ประธานฮ่อต้องสนใจ เพราะสำหรับประธานฮ่อแล้ว โปรเจคน้ำแข็งกับไฟก็เป็นเพียงโปรเจคเล็กๆ เท่านั้น อีกอย่างฉันได้เคยถามความคิดเห็นของคุณบรูชแล้ว หากมีปัญหาอะไรก็จะแจ้งมาทางนายอีกที ก็ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมนี่ “ซูฉิงตอบแบบ
ที่จริงแล้วซูฉิงก็พูดไม่ผิด
สินค้าที่เป็นอัญมณีนี้ ไม่ได้เป็นโปรเจ็คหลักของตระกูลฮ่อกรุ๊ป เมื่อก่อนฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้สนใจโปรเจคนี้มาก่อนเลย
แต่ตั้งแต่ซูฉิงมารับผิดชอบหน้าที่นี้ เขากลับให้ความสนใจ
เขาไม่อยากยอมรับว่า ที่จริงแล้วสิ่งที่เขาสนใจคือซูฉิงต่างหาก
“แล้วคุณบรูชมีความคิดเห็นยังไง”ฮ่อหยุนเฉิงเม้มปากถาม
ซูฉิงส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ”