บทที่ 68 ความรักของบิดากับบุตร โอสถลบความจำ

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 68 ความรักของบิดากับบุตร โอสถลบความจำ
เถ้าแก่ซ่งถือมีดผ่าหินเดินไปหาเสิ่นเอ้าช้าๆ

นัยน์ตาเสิ่นเอ้าเต็มไปด้วยความตื่นกลัว

เถ้าแก่ซ่งเองก็ลมหายใจกระชั้นขึ้น ดูตึงเครียดมาก คิดๆ แล้วก็หมุนตัวกลับมาพลิกมือตบหน้าคุณชายซ่งอีกที

“ไอ้ลูกอกตัญญู เจ้าเป็นคนหาเรื่องมา เจ้าก็ต้องจัดการเอง”

เอ่ยจบ เถ้าแก่ซ่งก็ยัดมีดใส่มือบุตรชายตน

“เจ้าไม่ต้องกลัวนะ นี่เป็นโอกาสให้เจ้าฝึกฝน”

คุณชายซ่งมุมปากกระตุก โอกาสฝึกฝนบ้าบออะไรกัน ใครจะอยากได้โอกาสฝึกฝนเช่นนี้

ร้านวิญญาณสวรรค์เราทำการค้าอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ร้านโจรสักหน่อย!

แม้คุณชายซ่งจะเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญ ทว่าผู้บำเพ็ญมีความต่างกัน ผู้บำเพ็ญบางคนสังหารปีศาจสะสมเงินทอง มีประสบการณ์ต่อสู้สูง กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งมือ

ผู้บำเพ็ญบางคนอาศัยมันสมองทำการค้าทำกำไรจากโอสถวิญญาณ สมบัติวิญญาณและหินแร่

ตระกูลซ่งทำการค้าแร่วิญญาณมาทุกรุ่น ปกติยังไม่เชือดไก่เลย จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงสังหารคนเป็นๆ ต่อหน้า

“ท่านพ่อ ข้าก็ไม่กล้าฆ่าเหมือนกันนะ!”

……..

เสิ่นเทียนมองบุรุษที่มีสีหน้าตื่นกลัวทั้งสามพลางรู้สึกปวดหัวยิ่งนัก แต่ต่อให้ปวดหัวกว่านี้ก็จะเบิกตามองเจ้าสองคนนี่ลงมีดกับพี่หกจริงๆ ไม่ได้หรอก!

เสิ่นเทียนถอนหายใจ ว่าจะเอ่ยปรามพ่อลูกเถ้าแก่ซ่ง ถึงเขาจะรู้สึกว่าถ้าตนไม่ห้าม เจ้าสองคนนี้ก็จะไม่กล้าลงมือจริงๆ ก็เถอะ

แต่ทันใดนั้นเอง เสิ่นเอ้าตะโกนเสียงแหบแห้ง “อย่าฆ่าข้า!”

ทุกคนมองเสิ่นเอ้าพร้อมกัน ก่อนจะเห็นว่าตอนนี้ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตื่นกลัวและหวาดผวา

เสิ่นเอ้ากลืนน้ำลายอึกหนึ่งก่อนยิ้มแหยๆ เหมือนจะร้องไห้ “น้องสิบสาม บุรุษทั้งสองท่าน พวกเจ้ากลัวว่าปล่อยข้าแล้วข้าจะพาคนมาล้างแค้นพวกเจ้ารึ?

พวกเจ้าวางใจเถอะ ข้าขอสาบานด้วยเกียรติว่าจะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด ถ้าพวกเจ้ายังไม่วางใจจริงๆ ก็ให้ข้ากินโอสถลบความจำก็ได้นะ!”

คำพูดของเสิ่นเอ้าทำให้พ่อลูกเถ้าแก่ซ่งกับเสิ่นเทียนอึ้งไป

จริงด้วย!

ถ้ากลัวว่าเสิ่นเอ้าจะมาล้างแค้น ก็ให้กินโอสถลบความจำก็สิ้นเรื่องไม่ใช่รึ

…….

โอสถลบความจำเป็นโอสถที่พบเห็นได้บ่อยมากในโลกบำเพ็ญ สรรพคุณของมันก็ง่ายมาก สามารถลบความทรงจำช่วงสั้นๆ ที่ผ่านมาของผู้กินได้

บำเพ็ญเซียนคือการฝึกจิตใจ

บ่อยครั้งที่ผู้บำเพ็ญเจอกับโศกนาฏกรรมบางอย่างที่กระทบถึงสภาพจิตใจ อย่างเช่นคู่ชีวิตขอเลิกรากับตน อาจารย์และสำนักถูกคู่อาฆาตสังหาร หรือคนอื่นมาตบแต่งบุตรสาวอันเป็นที่รักออกเรือนไป

เรื่องเหล่านี้ทำให้สภาพจิตใจของผู้บำเพ็ญสั่นคลอนและเกิดผลกระทบที่ไม่ดีนัก ถ้าการฝึกฝนวิชามีเงื่อนไขด้านสภาพจิตใจสูงมาก ก็อาจจะถึงขั้นเกิดจิตมารได้เลย

ดังนั้น หลังจากนักหลอมโอสถศึกษาและทดสอบอย่างหนักมาหลายยุคหลายสมั ยถึงได้กำเนิดโอสถลบความจำขึ้น

…..

เจ้าเลิกรากับคู่ชีวิตหรือ

คืนนั้น สายฝนเย็นฉ่ำราดผ่านหัวใจเจ้าหรือ

เจ้าเจ็บปวดเจียนตาย มีแต่ภาพนั้นลอยมาในความคิดตลอดเวลาหรือ

ไม่เป็นไร กินโอสถลบความจำหนึ่งเม็ด มันจะลบความทรงจำในวันนั้นให้เจ้า

อาจารย์ บุพการี คู่ชีวิต หรือบุตรชายบุตรสาวโดนสังหารอย่างโหดเหี้ยมล่ะ

คืนนั้น สีแดงโลหิตข้นบดบังดวงตาเจ้าหรือ

เจ้าเจ็บปวดเจียนตาย มีแต่ภาพนั้นลอยมาในความคิดตลอดเวลาหรือ

ไม่เป็นไร กินโอสถลบความจำหนึ่งเม็ด มันจะลบความทรงจำในวันนั้นให้เจ้า

ขอแค่เขียนหมายเหตุเอาไว้ให้ดี บันทึกผลเอาไว้ จากนั้นกินโอสถลบความจำ ก็จะลืมความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุด เช่นนั้นแล้วก็จะเลี่ยงผลจิตมารพันกายจากเรื่องเศร้าในการฝึกบำเพ็ญได้

ทุกตระกูลมีคัมภีร์ลืมยากหนึ่งเล่ม อายุขัยของผู้บำเพ็ญเหนือกว่าคนธรรมดาไปไกลมาก ในกาลเวลาเป็นร้อยเป็นพันปีอันยาวนาน ใครเล่าจะไม่มีเรื่องเจ็บปวดเลย?

ด้วยเหตุนี้เมื่อมีโอสถลบความจำจึงเป็นที่นิยมของผู้ฝึกบำเพ็ญจำนวนมาก

ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์จิตมารก่อกวนจนเกิดธาตุไฟเข้าแทรกน้อยลมาก

แน่นอน มีบางคนใช้โอสถลบความจำทำเรื่องแปลกๆ อย่างเช่นผู้บำเพ็ญหญิงลัทธิชั่วร้ายบางคนจะชอบกินผงโอสถลบความจำ ทุกคืนจะกินแปดถึงสิบครั้ง ผู้บำเพ็ญหญิงพวกนี้ฝึกวิชามาร มักจะมีความก้าวหน้าไวเป็นพิเศษ

เมื่อเห็นเถ้าแก่ซ่งกับคุณชายซ่งเหมือนจะสนใจ

เสิ่นเอ้าก็รีบพูด “น้องสิบสาม ข้ากับเจ้าเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันนะ!

เจ้าจะมองดูพวกเขาวางแผนฆ่าพี่ไม่ได้นะ! แค่พวกเจ้าให้ข้ากินโอสถลบความจำจากนั้นก็ปล่อยข้าไป จนข้าฟื้นแล้วก็จะลืมความทรงจำในวันนี้หมด แบบนั้นพวกเจ้าก็ไม่ต้องกลัวว่าข้าจะมาแก้แค้นแล้ว

น้องสิบสามกับบุรุษทั้งสองท่านคิดว่าอย่างไรบ้าง”

เสิ่นเอ้าในตอนนี้อยากจะมีชีวิตรอดมากเหลือเกิน

ตลกแล้ว ข้าเป็นอัจฉริยะที่พานพบได้ในรอบร้อยปีของอาณาจักรต้าเหยียน จากนี้จะได้เข้าแดนเทวาดาวประกายพรึก อนาคตอันสว่างรุ่งโรจน์กำลังรอข้าอยู่

ข้าจะมาตายที่นี่ได้อย่างไร ซ้ำยังตายด้วยความคับอกคับใจเพราะความเข้าใจผิด!

นี่มันเรื่องตลกที่สุดเลย!

ฟังเสิ่นเอ้าพรรณนาจบแล้ว เสิ่นเทียนคิดว่าก็มีเหตุผล

ตามหลักไมตรีจิตของพี่น้องในด้านมนุษยธรรมแล้ว เขาตัดสินใจว่าจะพูดให้ความเป็นธรรมกับพี่หก

“พี่หกพูดมีเหตุผล เข้าใจผิดแค่เล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตกัน ไม่ทราบว่าจะรบกวนเถ้าแก่ซ่งซื้อโอสถลบความทรงจำมาสักเม็ดได้หรือไม่”

เถ้าแก่ซ่งพยักหน้าก่อนควักขวดหนึ่งมาจากอกเสื้อ

เขากล่าวขึ้น “ไม่ต้องซื้อ ข้ามีโอสถลบความจำอยู่”

เห็นโอสถหลายเม็ดในขวดของเถ้าแก่ซ่งแล้ว ทุกคนพากันตะลึงงัน

แม้โอสถลบความจำจะไม่ได้มีราคาถือว่าสูงมาก แม้แต่ผู้บำเพ็ญช่วงหลอมปราณยังกินได้ ทว่าสรรพคุณหลักของโอสถชนิดนี้คือรักษาความทรงจำที่เจ็บปวด ขับไล่จิตมาร

เถ้าแก่ซ่งเจ้าพกโอสถลบความจำขวดใหญ่ขนาดนี้ไว้กับตัว เพื่อจะทำอะไรกัน

เฮือก ได้ยินว่ามีผู้ฝึกบำเพ็ญอธรรมบางคนเดินแยกทางไปเป็นโจรปล้นสวาท

พวกเขาจะพกโอสถลบความจำติดตัว เสร็จกิจแล้วก็ให้กินหนึ่งเม็ด

แม่นางท่านนั้นหลับตื่นมาในวันที่สองก็จำอะไรไม่ได้แล้ว

หรือว่าเถ้าแก่ซ่งเจ้าก็เป็นโจรปล้นสวาทเช่นนี้กัน?

…………

พอเห็นทุกคนทำหน้าแปลกๆ เถ้าแก่ซ่งจึงรีบอธิบาย “ท่านเซียนอย่าเข้าใจผิด ข้าเตรียมโอสถลบความจำไว้ก็เพื่อให้ไอ้ลูกชายไม่รักดีนี่กิน

ไอ้ลูกชายข้านี่ไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวไม่ทันไรก็ไปหาเรื่องข้างนอก รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี ข้าโบยแส้สั่งสอนไอ้ลูกบ้านี่เป็นประจำอยู่แล้ว”

คุณชายซ่งมีสีหน้าแปลกประหลาดขึ้นมาทีละน้อย “ท่านพ่อเคยใช้แส้โบยข้าด้วยรึ เหตุใดข้าจำไม่ได้เลย? บ้า หรือทุกครั้งที่ท่านพ่อโบยแส้ข้าเสร็จแล้วจะให้ข้ากินโอสถลบความจำ ให้ข้าลืมเรื่องนี้รึ”

คุณชายซ่งมีสีหน้าโมโหอย่างยิ่ง

ข้าก็ว่าแล้วไง!

เหตุใดตื่นมามักจะรู้สึกเจ็บไปทั้งตัวจากนั้นจำอะไรไม่ได้เลยตั้งแต่เล็กจนโตแล้ว พอถามท่านพ่อเขาก็บอกว่าข้าไปก่อเรื่องข้างนอกเยอะเลยโดนคนอาฆาตแค้น

ถึงได้โดนคนเอาไม้ตี โดนสั่งสอนหนักๆ สักยกแล้วหนีกลับบ้านมา อีกทั้งคนพวกนั้นทุบตีข้าเสร็จแล้วยังให้ข้ากินโอสถลบความจำเพื่อไม่ให้ข้ากลับมาแก้แค้นอีก

ตาแก่นี่ใช้วิธีนี้มาสอนข้าว่าโลกบำเพ็ญนั้นโหดร้ายมาก จะรู้จักใครข้างนอกก็ต้องเป็นมิตรเข้าไว้อย่าไปล่วงเกิน ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกคลุมถุงทุบตีเอาได้ตลอดเวลา

ที่แท้ท่านก็สร้างเรื่องพวกนี้ขึ้นมา

เป็นท่านที่ทุบตีข้าเองอย่างนั้นรึ

เวลานี้ สภาพจิตใจของคุณชายซ่งพังทลายลงแล้ว

………………………………