บทที่ 96 แนวคิดใหม่

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เมื่อหมอตรวจสอบเรียบร้อยแล้วผู้ป่วยก็จะได้รับการเย็บแผล

เฉินชางหยิบเข็มสำหรับใช้เย็บแผลขึ้นมาเย็บอย่างพิถีพิถันทีละชั้นจนกระทั่งผิวหนังถูกเย็บเรียบร้อยแล้ว เฉินชางจึงคิดถึงปัญหาหนึ่งขึ้นมาได้

เขาจะใช้วิธีการเย็บแผลมาช่วยเพิ่มระดับความพึงพอใจที่ผู้ป่วยมีต่อการผ่าตัดได้หรือไม่?

การผ่าตัดด้วยแผลขนาดเล็กมีจุดเด่นที่สำคัญก็คือสร้างความเสียหายน้อย หากตนพัฒนาจุดเด่นนี้จนกลายเป็นไร้ความเสียหายจะได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ตรวจสอบบาดแผลต่อไปอย่างใจเย็น!

ทันใดนั้นเขาพลันคิดขึ้นมาได้ว่า การเย็บแผลเจาะรูและการเย็บแผลทั่วไปอาจไม่เหมือนกัน หากเป็นการผ่าตัดโดยการผ่าเปิดท้องจะต้องใคร่ครวญถึงการแข็งตัวของบาดแผล และต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลฉีกขาด หากรอบตัวของผู้ป่วยมีเพื่อนอย่างเหล่าเฉินอยู่สักหลายคนจะไม่แย่หรือ? ดังนั้นในการเย็บแผลจะต้องคำนึงถึงความมั่นคงของแผล และระวังไม่ให้ติดเชื้อเป็นสำคัญ

แต่การเจาะรูเพื่อผ่าตัดไม่เหมือนกัน บาดแผลชนิดนี้มีโอกาสฉีกขาดอยู่ในระดับต่ำ ยิ่งไปกว่านั้น บาดแผลยังแคบและเล็ก ผิวสัมผัสไม่มาก โอกาสในการติดเชื้อจึงต่ำลงไปด้วย

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้ความสำคัญเพียงอย่างเดียวก็พอแล้ว นั่นก็คือความสวยงาม!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็เริ่มใคร่ครวญ

ไม่นานเฉินชางก็คิดวิธีการเย็บแผลที่มีประโยชน์ในการฟื้นตัวและช่วยซ่อนบาดแผลเอาไว้ได้ ซึ่งจะนำมาใช้ร่วมกับเทคนิคพิเศษในการเย็บผิวหนังของตนเพื่อซ่อนรอยแผลเป็น และหากใช้กับไหมละลายคงไม่ทิ้งรอยแผลเป็นใดๆ ไว้!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็พูดกับนางพยาบาลว่า “ใช้ไหมละลายเบอร์เล็กนะครับ”

สือน่าเห็นเฉินชางจ้องมองผิวหนังของผู้ป่วยอยู่ครู่ใหญ่

ผิวหนังมีอะไรน่าดูกัน?

ตอนนี้ เมื่อเธอได้ยินเฉินชางบอกว่าต้องการไหมละลายเบอร์เล็กจึงชะงักไปโดยพลัน “เย็บท้องต้องใช้ไหมละลายด้วยหรือ?”

เฉินชางพยักหน้า “ผมมีวิธีทำให้ผู้ป่วยหาแผลตัวเองไม่เจอน่ะครับ!”

คำพูดนี้ทำให้สือน่าตกตะลึงไปแล้ว!

ทำให้ผู้ป่วยหาแผลตัวเองไม่เจอ!

ความหมายคือ…

ไม่มีแผลเป็นจนทำให้ลืมความเจ็บปวด?

จะเป็นไปได้อย่างไร!

แม้จะบอกว่าการผ่าตัดด้วยวิธีการส่องกล้องสร้างความเสียหายน้อย แต่ส่วนที่ถูกเจาะไม่ต้องเย็บได้หรือ? เมื่อเย็บแล้วจะต้องเหลือรอยแผลเป็นไว้แน่นอน

สือน่าเม้มปาก คนหนุ่มสาวชอบสิ่งแปลกใหม่ อยากทำอะไรไม่เหมือนใคร แต่อย่างไรการผ่าตัดเสร็จไปโดยราบรื่นแล้ว สือน่าจึงไม่กังวลนัก ไม่ว่าเฉินชางจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น

เฉินชางเริ่มเย็บแผล มือถือคีมถือเข็มขยับพลิ้วไหวไม่หยุด ใช้เวลาไม่นานปมภายนอกก็ถูกผูกอย่างสวยงาม จากนั้นจึงใช้กรรไกรตัดไหม

ในตอนที่สือน่าได้สติกลับมาอีกครั้งและกำลังคิดจะกล่าวว่าเฉินชางทำอะไรเกินตัวอยู่นั่นเอง เธอก็ต้องมองจนอึ้ง!

เอ๋?

แผลอยู่ไหนกัน?

ทำไมฉันหาแผลไม่เจอ?

สือน่าตื่นตะลึง เมื่อมองให้ดีจึงค่อยเห็นปมด้านนอกที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างดี

ทันใดนั้นเธอก็นิ่งไป!

นี่…นี่เป็นไปได้อย่างไร?

เมื่อคิดถึงตรงนี้สือน่าก็รีบก้มตัวลง จ้องมองบาดแผลอย่างจริงจัง

ในที่สุดเธอก็พบความแตกต่าง!

นั่นก็คือในตอนที่เฉินชางเย็บแผล เขาเลือกใช้วิธีการเย็บที่สอดคล้องกับกายวิภาคศาสตร์ ตลอดจนใช้ฝีเข็มที่ซ่อนไปตามรอยย่นของผิวหนังได้

วิธีการเย็บ การเลือกมุมและจุดเย็บแบบนี้ จะ…ยอดเยี่ยมเกินไปหรือเปล่า?

สวยก็สวยอยู่หรอก…แต่แบบนี้มันจะยากเกินไปหรือเปล่า?

ที่สำคัญก็คือทำให้การเย็บแผลธรรมดากลายเป็นวิธีการระดับสูงที่ฉันทำไม่ได้…

ทันใดนั้นสือน่าเพิ่งรู้สึกตัวว่าเฉินชางที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้เพิ่งจะได้สัมผัสกับโลกของศัลยแพทย์เพียงสองปีเท่านั้น

สองปีก็ก้าวหน้าขนาดนี้แล้ว

เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง?

ในสมองของเธอย้อนคิดไปถึงการผ่าตัดที่เฉินชางทำเมื่อครู่นี้ไม่หยุด

เชี่ยวชาญ!

คล่องแคล่ว!

เต็มไปด้วยความมั่นใจ!

นี่เป็นคุณลักษณะที่ศัลยแพทย์ผู้เก่งกาจเท่านั้นถึงจะมีได้

แม้แต่เฉินปิ่งเซิงก็ไม่แน่ว่าจะมีระดับถึงขนาดนี้?

แม้ว่าสือน่าไม่เคยผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยตัวเอง แต่ไม่เคยทำก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็น!

ทุกกระบวนการที่เฉินชางกระทำเมื่อครู่นี้เรียกได้ว่าคล่องแคล่วหาที่เปรียบไม่ได้ ราบรื่นไร้อุปสรรค ดูเหมือนจะไม่มีส่วนไหนให้จับผิดได้เลย

การแยกอวัยวะบริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดีซึ่งเป็นจุดที่สือน่ากังวล กลับกลายเป็นว่าในการผ่าตัดเฉินชางไม่ได้ติดขัดตรงนี้แม้แต่น้อย ทำรวดเดียวจนเสร็จสมบูรณ์

เป็นคนหนุ่มที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้สื อน่าก็อดปลงอนิจจังไม่ได้

มิน่าล่ะ เมื่อกี้นี้เขาถึงกล้าพูดว่าตัวเองผ่าตัดได้ ที่แท้ก็ซ่อนฝีมือเอาไว้

เมื่อคิดถึงตรงนี้สือน่าพลันดวงตาสว่างวาบ

ใช่แล้ว!

ในเมื่อเฉินชางผ่าตัดถุงน้ำดีได้ดีก็ไม่จำเป็นต้องโอนย้ายผู้ป่วยเหล่านั้นไปที่โรงพยาบาลอื่นอีก และไม่ต้องพูดดีกับพวกแผนกศัลยกรรมทั่วไปด้วย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ สือน่าก็รู้สึกเบิกบานขึ้นมา

ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดจะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าผู้ป่วยธรรมดาทั่วไป ผู้ป่วยเมื่อครู่นี้มีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดประมาณหนึ่งหมื่นหยวน เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์สิ้นเปลืองจำพวกคลิปไทเทเนียมแล้วยังคุ้มค่ากว่ามาก ทั้งยังเป็นการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องอีกด้วย

ยิ่งผู้ป่วยจ่ายเงินมาก ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็ยิ่งสูง ในฐานะที่สือน่าเป็นหัวหน้าฝ่ายย่อยย่อมได้เงินมากขึ้น!

ทันใดนั้นสายตาที่สือน่าใช้มองเฉินชางก็แปรเปลี่ยนเป็นสนิทสนมขึ้น

“เสี่ยวเฉิน! คุณเรียนการผ่าตัดมาจากที่ไหน? เหล่าเฉินเป็นคนสอนคุณหรือ?”

เฉินชางยิ้มอย่างคลุมเครือ “ครับ ใช่แล้ว”

เฉินปิ่งเซิงเคยสอนเฉินชางหรือเปล่า?

เคยสอน!

เขาบอกเฉินชางว่าการผ่าตัดถุงน้ำดีเกิดปัญหาง่าย ถ้าคุณไม่รู้วิธีก็อย่าทำมั่วซั่ว ให้ดูให้มาก

สือน่าฟังจบก็ยิ้มออกมา “คราวนี้โชคดีที่มีคุณ ไม่งั้นแผนกฉุกเฉินของพวกเราคงเจอปัญหาใหญ่แล้ว”

เฉินชางยิ้มเล็กน้อย “อาจารย์สือ คุณเกรงใจไปแล้วครับ แผนกฉุกเฉินเป็นเหมือนบ้านของทุกคน ผมก็แค่ทำงานในส่วนของตัวเองให้ดีเท่านั้น กลับไปแล้ว งานจำพวกประวัติผู้ป่วยอะไรพวกนั้น ก็ต้องให้อาจารย์สือช่วยดูแลอยู่ดีน่ะครับ”

สิ่งที่เฉินชางพูดคือความจริง ต่อไปเฉินชางคงเขียนประวัติผู้ป่วยทุกวันไม่ได้อีก เพราะเขาไม่มีเวลามากขนาดนั้น ในฐานะที่สือน่าเป็นหัวหน้าฝ่ายย่อยของเฉินชางและหวังหย่ง หากเธอคอยดูแลประวัติผู้ป่วยจะทำให้เกิดปัญหาน้อยลง!

ถึงอย่างไรสำหรับแพทย์เจ้าของไข้แล้ว การถูกหักเงินเพราะประวัติผู้ป่วยเป็นเรื่องที่พบอยู่บ่อยๆ หากมีอาจารย์แพทย์ระดับสูงคอยดูแลอย่างจริงจังจึงจะนับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน

สือน่าพยักหน้า “พูดได้ดี!”

“ต่อไปคุณก็ตั้งใจผ่าตัดไปให้ดีนะคะ เสี่ยวเฉิน ฉันว่าคุณมีพรสวรรค์ในด้านการผ่าตัดมากเลยทีเดียว ถ้ามีเวลามากพอคงประสบความสำเร็จได้!”

ทั้งสองคุยกันกันจนบรรลุข้อตกลงร่วมกันแล้ว! เรียกได้ว่าได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

สือน่าเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวฉันจะให้ฉินเยว่และหวังหย่งลงมาเป็นผู้ช่วย ฉันยังต้องเข้าเวรอีก”

พูดจบสือน่าก็เดินจากไป

ขณะเดียวกัน ภายในห้องทำงาน ฉินเยว่และหวังหย่งซุบซิบกันมาชั่วโมงกว่าแล้ว เมื่อสือน่าเดินเข้ามาก็เห็นทั้งสองกำลังนั่งฟุบกับบนโต๊ะ “พวกคุณว่างมากหรือไง? รีบไปช่วยเสี่ยวเฉินสิ วันนี้มีการผ่าตัดหกเคส พวกคุณคอยเรียนรู้ให้ดีๆ”

ฉินเยว่มีสีหน้าแปลกใจ “อาจารย์คะ เฉินชางผ่าตัดถุงน้ำดีได้จริงๆ หรือ?”

แม้แต่หวังหย่งก็มีท่าทีสงสัย เพราะถ้าอีกฝ่ายทำเป็นทุกอย่าง มันยิ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทั้งสองเหมือนคนงี่เง่า

สือน่ามีท่าทางคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง หลังจากคิดดีแล้วจึงวิจารณ์อย่างจริงจัง “จะพูดยังไงดีล่ะ? คงต้องบอกว่าทำได้ดีและละเอียดกว่าเหล่าเฉินซะอีก ฉันคิดว่าพวกคุณควรติดตามเรียนรู้ไปกับเสี่ยวเฉินให้ดี”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ทั้งสองก็เหวอไปแล้ว

ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง!

เฉินชาง คุณแอบไปฝึกฝนลับหลังพวกเรา แอบพัฒนาฝีมือลับๆ จนตอนนี้ดูเหมือนฝีมือจะไร้ขอบเขตแล้ว!

ใบหน้าของฉินเยว่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและไม่อยากจะเชื่อ

ฝีมือของเหล่าเฉินเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่กับตา เขามีฝีมือสูงอยู่แล้ว การผ่าตัดยอดเยี่ยมเป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าจะการผ่าตัดเล็กใหญ่ก็ทำได้ทั้งหมด แต่เสี่ยวเฉินเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง?

ถึงกับดีกว่าเหล่าเฉินเชียวหรือ!

นี่ไม่ใช่ว่า…ไม่ใช่ว่า…ไม่ใช่ว่ากำลังล้อเล่นอยู่หรอกนะ!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉินเยว่ก็อดหัวเราะไม่ได้ “อาจารย์ คุณนี่มีอารมณ์ขันจริงๆ เลยนะคะ”

สือน่าชะงักไป “อารมณ์ขัน? อารมณ์ขันอะไร? ฉันจะบอกอะไรให้นะ เสี่ยวฉิน คุณเป็นบัณฑิตยอดเยี่ยมจากเซียงหย่าก็ต้องเก่งอยู่แล้ว แต่คำพูดของฉันเป็นความจริง เสี่ยวเฉินนำพวกคุณไปแล้วโดยที่พวกคุณไม่รู้ตัว!”

“แล้วก็คุณด้วย เสี่ยวหวัง คุณอย่าไม่พอใจเสี่ยวเฉินอีกนะคะ วันนี้ฉันจะขอพูดไว้ตรงนี้เลย ถ้าพวกคุณสองคนติดตามเฉินชางจะไม่ผิดหวังแน่นอน อนาคตไร้ขีดจํากัดแน่!”

ประโยคนี้ถือว่าประเมินฝีมือของเฉินชางไว้สูงทีเดียว!

ทำให้ฉินเยว่และหวังหย่งถึงกับต้องสบตากัน