บทที่ 97 จางจื้อซินอาจจะตกงาน...

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

หลังจากต้วนปัวกลับมาที่แผนกก็ตรงไปยังห้องเวรก่อนจะปิดประตู จากนั้นจึงโทรหาจางโหย่วฝู

“หัวหน้าแผนก ตอนนี้อีกฝ่ายรับมือไม่ไหวแล้วครับ!” ต้วนปัวกล่าวเคล้าเสียงหัวเราะ

จางโหย่วฝูได้ยินดังนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า “อ้อ? ฮ่าๆ เร็วขนาดนี้เชียวหรือ? ผมยังไม่ได้ลงมือเลย! อธิบายสถานการณ์มาให้ละเอียดหน่อยสิ”

ต้วนปัวตอบไปว่า “วันนี้สือน่าให้ผมไปช่วยตรวจน่ะครับ พอผมไปเลยรู้ว่าตอนนี้เคสผ่าตัดถุงน้ำดีอักเสบในแผนกฉุกเฉินมีเกือบสามสิบเคสแล้ว! ต้องนับถือความสามารถของหัวหน้าแผนกหลี่เป่าซานจริงๆ!”

จางโหย่วฝูพยักหน้า เขาเข้าใจความหมายในคำพูดของต้วนปัวดี ความจริงการส่งตัวผู้ป่วยของศูนย์ฉุกเฉิน 120 มีระเบียบขั้นตอนค่อนข้างดี

ผู้ป่วยที่มีอาการแตกต่างกันไปจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาลที่แตกต่างกัน โดยจะพูดคุยกับโรงพยาบาลนั้นก่อน เมื่อจัดการเรียบร้อยจึงค่อยส่งตัวเข้าไป เช่นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันอาจจะให้สิทธิ์กับโรงพยาบาลหัวใจและหลอดเลือดแห่งมณฑลหรือโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑล โรคเลือดออกในสมองจะให้ติดกับโรงพยาบาลตงต้าเป็นต้น…

จางโหย่วฝูคิดว่าอาจเป็นเพราะระยะนี้แผนกฉุกเฉินเพิ่งได้ห้องผ่าตัดใหม่ หลี่เป่าซานจึงติดต่อกับศูนย์ฉุกเฉิน 120 เพื่อให้มีผู้ป่วยมากขึ้น

ต้วนปัวกล่าวต่อไป “แน่นอนครับ แล้วก็หัวหน้าครับ เมื่อวานคุณก็ออกตรวจด้วยไม่ใช่หรือ? ผมส่งผู้ป่วยหลายคนไปที่แผนกฉุกเฉินแล้วนะครับ ตอนนี้แผนกฉุกเฉินมีเคสผ่าตัดหกถึงเจ็ดเคสในเวลาสั้นๆ ผู้ป่วยสามสิบกว่าคนนี้จะต้องผ่าตัดภายในเวลาสามวัน!”

“แค่เฉินปิ่งเซิงคนเดียว ต่อให้ไม่กินไม่ดื่มก็ยังผ่าตัดไม่หมด! ดูสิว่าเขาจะรับมือยังไง!”

จางโหย่วฝูยิ้มออกมาโดยพลัน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงค่อยเก็บรอยยิ้มของตนกลับไป กล่าวอย่างจริงจังว่า “อืม แล้วก็…เสี่ยวต้วน การแข่งขันก็เป็นแค่การแข่งขัน คุณต้องใส่ใจหน่อยนะครับ พวกเราต่างก็เป็นหมอ ถ้าอีกฝ่ายรับมือไม่ไหวต้องรีบปกป้องผู้ป่วยให้ทันเวลา รีบผ่าตัดให้เสร็จ อย่าทำให้เกิดปัญหาอะไรเป็นอันขาด”

ต้วนปัวพยักหน้า “วางใจเถอะครับหัวหน้าแผนก อีกอย่าง…ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา พวกเรายังต้องเพิ่มภาระให้อีกฝ่ายสักหน่อย เพิ่มผู้ป่วยให้เขาอีกสักหน่อย พอถึงเวลาประชุมรวมของโรงพยาบาล คุณก็ค่อยพูดในที่ประชุมว่าแผนกฉุกเฉินขาดคนมีความสามารถ มีห้องผ่าตัดมากขนาดนั้นแต่ไม่ได้ใช้งานทำให้สิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ สู้มอบให้แผนกศัลยกรรมทั่วไปของพวกเรายังจะดีกว่า ให้พวกเราช่วยเหลือเคสผ่าตัดของแผนกฉุกเฉิน ทำแบบนี้จะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยแก้ปัญหาความสามารถไม่เพียงพอของแผนกฉุกเฉินในทางอ้อมอีกด้วย แบบนี้ดีหรือเปล่าครับ?”

จางโหย่วฝูได้ยินดังนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้

เขาออกตรวจเช้าวันจันทร์ ซึ่งตอนนั้นจะมีผู้ป่วยมากที่สุด เมื่อถึงตอนนั้นก็ส่งผู้ป่วยไปที่แผนกฉุกเฉินสักหน่อย พอถึงการประชุมใหญ่วันพุธค่อยพูดเรื่องพวกนี้ออกไปให้หมด!

…………

…………

ขณะเดียวกันในห้องผ่าตัดของแผนกฉุกเฉิน จู่ๆ เฉินชางก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ

[ติ๊ง! ภารกิจผ่าตัดต่อเนื่องสิบเคสสำเร็จ ฉายามือใหม่แห่งห้องผ่าตัดเลื่อนขั้นเป็นรุกกี้[1]แห่งห้องผ่าตัด]

[รุกกี้แห่งห้องผ่าตัด

  1. เมื่อเป็นผู้ช่วยมีโอกาสห้าเปอร์เซ็นต์ที่จะได้รับทักษะของศัลยแพทย์หลัก

  2. เมื่อเป็นศัลยแพทย์หลักจะได้รับประสบการณ์สองเท่า (สามารถซ้อนทับกับโบนัสค่าประสบการณ์อื่นๆ ได้)]

[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจต่อเนื่อง: ผ่าตัดให้สำเร็จ 100 เคส จะกระตุ้นฉายาต่อเนื่อง]

เฉินชางมองรางวัลที่ได้รับ รู้สึกเหนือคาดจนแปลกใจ!

อัตราห้าเปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นห้าเท่าเลยทีเดียว!

ยิ่งไปกว่านั้น…รุกกี้แต่งห้องผ่าตัดโกงกว่าฉายามือใหม่แห่งห้องผ่าตัดซะอีก ถึงกับได้รับค่าประสบการณ์เป็นสองเท่าเลยทีเดียว!

นี่มันน่าดีใจสุดๆ

ตอนนี้เขายังมียาเพิ่มค่าประสบการณ์สามเท่าอยู่อีกห้าเม็ด แล้วยังได้โบนัสเพิ่มค่าประสบการณ์อีกสองเท่า นี่เป็นจังหวะชีวิตที่พามุ่งไปสู่จุดสูงสุดโดยสิ้นเชิง

ไม่เลว!

เฉินชางรู้สึกว่าระบบฉายามีประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

รีบผ่าตัดคนหนึ่งร้อยคนให้เสร็จก็แล้วกัน

ขณะนั้นเอง ฉินเยว่และหวังหย่งเดินเข้ามาพร้อมกัน เมื่อเห็นเฉินชางก็กล่าวทักทาย

เฉินชางยิ้ม “พวกคุณมาแล้วหรือครับ รีบไปล้างมือเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เคสต่อไปกำลังจะเริ่มแล้ว วันนี้ต้องผ่าตัดทั้งหมดหกเคส เวลาเร่งด่วน งานหนัก ทุกคนรีบทำเวลาหน่อยนะครับ!”

การผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้องหนึ่งเคสใช้เวลาอย่างเร็วที่สุดก็หนึ่งชั่วโมงกว่า ตอนนี้บ่ายสามกว่าแล้ว ยังมีผ่าตัดอีกห้าเคส…คงเสร็จงานดึกแน่ๆ

ฉินเยว่ผู้รู้รักการประจบได้ยินดังนั้นก็กรอกตาขึ้นมาทันที “โธ่ วันหยุดของฉันจบสิ้นแล้ว!”

ส่วนหวังหย่งกลับกระตือรือร้น อย่างไรก็ใกล้สอบบรรจุแล้ว เขาคาดว่าคงเป็นสัปดาห์หน้าหรือไม่ก็สัปดาห์ถัดไป เหลือเวลาอีกไม่มาก ดังนั้นหากได้เข้าร่วมการผ่าตัดมากหน่อยย่อมเป็นเรื่องดี

หากเรียนรู้การผ่าตัดถุงน้ำดีได้ เมื่อถึงเวลาสอบต้องไม่มีปัญหาแน่

เมื่อเฉินชางคิดได้ว่าตลอดช่วงบ่ายของวันนี้ต้องผ่าตัดทั้งวันจึงใช้ยาเพิ่มค่าประสบการณ์สามเท่าไปหนึ่งเม็ด เตรียมลงมือผ่าตัด!

[ติ๊ง! กระตุ้นค่าประสบการณ์ 3 เท่า ตอนนี้เหลือเวลาอีก 9 ชั่วโมง 59 นาที…

ปัจจุบันเป็นศัลยแพทย์หลัก

ค่าประสบการณ์ด้านทักษะการผ่าตัดเพิ่มขึ้น 6 เท่า ค่าประสบการณ์ด้ายการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น 3 เท่า!]

โอ้!

ที่แท้ค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นจากฉายารุกกี้แห่งห้องผ่าตัดก็บวกเพิ่มแค่ค่าประสบการณ์ทักษะเกี่ยวกับการผ่าตัด ไม่เพิ่มค่าประสบการณ์เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลทั่วไป แต่เท่านี้ก็มากพอแล้ว

การผ่าตัดเริ่มขึ้นแล้ว ผู้ป่วยมีอาการถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน

เฉินชางเป็นศัลยแพทย์หลัก ยังคงเป็นการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง ครั้งนี้ตอนที่เฉินชางจะเจาะรูที่ท้อง เขาจงใจใช้มีดผ่าเปิดแผลโดยเลือกมุมและใช้แรงที่สะดวกต่อการเย็บ

ต่อไปเป็นการอัดแก๊ส

เฉินชางมองหวังหย่ง “การผ่าตัดด้วยการส่องกล้องจะต้องให้ความสำคัญกับการใช้แรงในการเจาะ อย่าทำให้อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย…แล้วก็ต้องระวังความเร็วในการอัดแก๊สด้วย อย่าให้เกิดโรคข้างเคียงเช่นอาการปอดบวม”

“โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องมีมาก ตอนผ่าตัดต้องพยายามหลีกเลี่ยงอย่างสุดความสามารถนะครับ”

เฉินชางเพิ่งจะพูดจบ ก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน! เขาคิดถึงการปรับปรุงวิธีการผ่าตัดไส้ติ่งโดยแผลเล็กให้ดียิ่งขึ้น

การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กเป็นการผ่าตัดที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อชดเชยข้อเสียจากการผ่าตัดแบบธรรมดาและข้อด้อยจากการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง จนทำให้เกิดการผ่าตัดชนิดใหม่ขึ้น เขาจะใช้เรื่องนี้เป็นแบบอย่างเพื่อปรับปรุงการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กให้ดีขึ้นได้หรือไม่?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของเฉินชางก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา!

อีกเดี๋ยวจะต้องคิดเรื่องนี้ให้ดี

ตอนนี้จำเป็นต้องทำการผ่าตัดตากฎเกณฑ์ไปก่อน

จุด a ใช้สอดกล้อง จุด b และ c ใช้สอดอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการผ่าตัดและอุปกรณ์ช่วยเหลือ

ตอนแรกเขาจะให้หวังหย่งเป็นคนถือกล้อง แต่เมื่อใคร่ครวญดูอีกครั้งจึงหันไปพูดกับฉินเยว่ว่า “ถือกล้องให้ผมหน่อยครับ”

พูดจบก็ให้หวังหย่งเข้ามาดูการผ่าตัด

ความจริงถ้าเฉินชางทำด้วยตัวเองจะเร็วกว่า แต่ถึงอย่างไรหวังหย่งก็ต้องฝึกฝน เฉินชางตัดสินใจให้โอกาสเขาสักครั้ง

เมื่อหวังหย่งได้ยินดังนั้นดวงตาพันสว่างวาบ ใช้มือซ้ายถือคีมเริ่มเข้ามาดู

เฉินชางมองไปที่หน้าจอแสดงผล รู้สภาพภายในช่องท้องประหนึ่งรู้ฝ่ามือของตัวเอง พูดกับหวังหย่งว่า “ใช้คีมแบบเรียบหนีบถุงน้ำดีแล้วผลักไปด้านบน ยกขึ้นมาแบบนั้นแหละครับ ใช่แล้ว แบบนี้แหละ จะเปิดพื้นที่บริเวณตับออกมา เห็นหรือเปล่าครับ? นั่นก็คือบริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดี”

หวังหย่งระมัดระวังเสมือนตอนเรียนกับอาจารย์อาวุโส เฉินชางพูดอย่างไรเขาก็ทำอย่างนั้น ที่สำคัญก็คือเขาพบว่าวิธีการที่เฉินชางพูดตรงประเด็นมาก รวบรัดดี! ไม่เหมือนคลิปวีดีโอการเรียนการสอนบนอินเตอร์เน็ตที่ยุ่งยากและจืดชืด ประเด็นเดียวแต่พูดไปร้อยกว่าประโยค ไม่มีจุดสำคัญเลยสักประโยคเดียว ทำให้คนดูอยากจะหลับ

เขาไม่รู้เลยว่านี่คือการสรุปรวมประสบการณ์การผ่าตัดถุงน้ำดีระดับสูงของเฉินชาง ทุกประโยคต่างเป็นของชั้นยอด!

ตอนนี้ปากของฉินเยว่ที่อยู่ภายใต้หน้ากากอนามัยขยับขมุบขมิบ ทำไมต้องให้ฉันมาถือกล้องด้วย ฉันก็อยากผ่าตัดเหมือนกันนะ!

หลังจากบ่นเสร็จก็ถลึงตาใส่เฉินชางที่กำลังมองหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่

เฉินชางมีสีหน้าไม่เข้าใจ คิดว่าฉินเยว่ลอบส่งสายตาสื่อความนัยอะไรบางอย่างให้ตน คิดว่าจะอย่างไรก็ไม่ค่อยถูกกาละเทศะเลยส่งสายตากลับไป

จากนั้นก็ทอดถอนใจออกมา กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ถือกล้องดีๆ หน่อยครับ อยู่ในห้องผ่าตัด อย่าคิดอะไรมาก”

ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นพลันโกรธจนปอดแทบระเบิด

เฉินชางเห็นดังนั้นก็ดวงตาเปล่งประกายแวววาว

ถ้าผู้หญิงมีความสามารถแบบนี้กันหมด ต่อไปจางจื้อซินจะต้องตกงานแน่นอน

[1]รุกกี้ (Rookie) หมายถึง มือใหม่ที่มีความสามารถโดดเด่น น่าจับตามอง