ตอนที่ 720 นกกระจอกก็คือนกกระจอกอยู่วันยังค่ำ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ระหว่างทางกลับบ้าน ซ่งซินไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธของเธอเอาไว้ได้ หญิงสาวบังคับให้เซียวอวี่เหอหยุดรถแล้ววิ่งลงไปทำลายแปลงดอกไม้ที่อยู่ข้างถนน

 

 

เซียวอวี่เหอเดินตามหญิงสาวไป เมื่อเห็นเธอกำลังบันดาลโทสะใส่ดอกไม้เหล่านั้น เขาจึงเข้าไปหยุดเธอไว้ “อย่าเป็นแบบนี้เลยครับ…”

 

 

“ฉันไม่มีสิทธิ์ระบายความโกรธของฉันเหรอคะ ผู้จัดการและเพื่อนสนิทที่สุดของฉันแอบไปเดบิวต์ลับหลังฉันและอนาคตของหล่อนก็สดใสกว่าอนาคตของฉันนะคะ ขอระบายสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ” ซ่งซินหมุนตัวกลับไปทุบอกเซียวอวี่เหอ “ฉันรู้ว่าถังหนิงวางแผนเรื่องทั้งหมดนี่ มันอยากให้พวกเราหันมาสู้กันเองในขณะที่มันนั่งรับผลประโยชน์อยู่เฉยๆ แต่นังสารเลวต้วนจิ่งหงก็ยังตัดสินใจที่จะไว้ใจมัน!”

 

 

“ไม่ว่าจะทางไหน ต้วนจิ่งหงก็เดบิวต์ไปแล้วนะครับ ทำไมคุณถึงทำใจยอมรับมันไม่ได้ล่ะ”

 

 

“ฉันจะยอมรับมันได้ยังไงล่ะคะ จู่ๆ เงาที่ติดตามฉันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็กลับมีชื่อเสียงมากกว่าฉันขึ้นมา จะให้ฉันยอมรับได้ยังไง” ซ่งซินโอดครวญ

 

 

เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาเห็นเข้า เซียวอวี่เหอแสดงความเข้าใจแล้วพยุงซ่งซินกลับเข้าไปในรถก่อนจะพาเธอไปส่งที่บ้าน

 

 

ทว่าหลังจากที่ซ่งซินกลับถึงบ้านแล้ว หญิงสาวก็ยังคงเหวี่ยงอารมณ์โกรธใส่คนอื่นไปทั่ว อันที่จริง เธอหยาบคายแม้กระทั่งกับผู้อาวุโสซ่ง

 

 

“เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ” ผู้อาวุโสซ่งเอ่ยถาม

 

 

เซียวอวี่เหอถอนหายใจแล้วอธิบายไปแค่ว่าซ่งซินกำลังอารมณ์ไม่ดี

 

 

ชายชราพยักหน้าแล้วโบกมือใส่เซียวอวี่เหออย่างสบายๆ “ฉันชินแล้วล่ะ ไม่ต้องแก้ตัวแทนเธอหรอก”

 

 

ชายทั้งสองเข้าใจนิสัยของซ่งซินดี เธอจะไม่มีวันปล่อยให้ใครทำเธอเจ็บปวดเพราะเธอไม่เคยคิดถึงและอดทนกับคนอื่นๆ

 

 

ดังนั้นเธอจะไปยอมรับเรื่องที่ต้วนจิ่งหงเดบิวต์แล้วได้อย่างไร

 

 

หลังจากผ่านไปสักพัก เซียวอวี่เหอก็อธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้ผู้อาวุโสซ่งอย่างละเอียด ดังนั้นหลังจากที่ชายชราได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น เขาก็ยิ้มเยาะ “ไม่เคยคิดเลยว่าจิ้งหงจะเป็นคนที่ทะเยอทะยานเช่นนี้ ดูเหมือนว่าปู่จะต้องสั่งสอนบทเรียนแบบเดียวกับถังหนิงให้แก่เด็กคนนี้เสียแล้ว”

 

 

เซียวอวี่เหอไม่ตอบ ผู้อาวุโสซ่งสามารถสร้างผลกระทบต่อภาพยนตร์ของถังหนิงได้ แต่เขาจะสร้างผลกระทบต่ออัลบั้มของต้วนจิ่งหงอย่างไรกันล่ะ ผู้หญิงสองคนนี้อยู่คนละวงการกันโดยสิ้นเชิง

 

 

อีกอย่าง เหล่าคนที่เคยช่วยผู้อาวุโสซ่งนั้นก็ดูไม่เต็มใจจะเสี่ยงอีกครั้งเท่าไหร่

 

 

“สยายปีกอย่างเต็มที่แล้วสินะ แต่อย่าลืมสิว่านกกระจอกก็คือนกกระจอกอยู่วันยังค่ำ! ถึงจะเปลี่ยนลักษณะภายนอกไป เธอก็ไม่มีวันได้เป็นหงส์หรอก!”

 

 

จากคำพูดของผู้อาวุโสซ่งแล้ว เซียวอวี่เหอนั้นดูออกว่าเขาจะไม่ปล่อยต้วนจิ่งหงไป แต่อีกปัญหาหนึ่งก็คือ ต้วนจิ่งหงรู้ความลับของซ่งซินเยอะเกินไป

 

 

หากชายชราลงมือกดดันต้วนจิ่งหงจนเกินพอดี คนที่จะเจ็บปวดก็คือซ่งซิน

 

 

อันที่จริง ผู้อาวุโสซ่งยังไม่รู้เรื่องกรรมชั่วของซ่งซิน เขายังคงสันนิษฐานว่าหลานสาวของตัวเองถูกคนในวงการรังแกอย่างไม่หยุดหย่อน ทว่าชายชราไม่เคยพินิจเลยว่าด้วยอารมณ์ของซ่งซินแล้ว มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย

 

 

ทว่าเซียวอวี่เหอกลับไม่พูดอะไร…

 

 

การแสดงของวงเอโอบีนั้นคือความสำเร็จครั้งใหญ่ เป็นผลให้สาวๆ ได้แสดงความสามารถของพวกเขาให้คนทั้งประเทศได้เห็น เพราะถึงอย่างไร ไห่รุ่ยก็ทุ่มเทไปมากกับการฝึกเด็กหน้าใหม่และใช้ทรัพยากรทั้งหมดของพวกเขาอย่างไม่มีกั๊ก

 

 

ดังนั้นต้วนจิ่งหงจึงได้ลิ้มรสชาติของชื่อเสียงและไม่มีเหตุผลที่จะยอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อกลับไปมีชีวิตเหมือนเมื่อก่อน แม้ซ่งซินจะกำลังหาทางชำระแค้น เธอก็จะสู้ด้วยทั้งชีวิตของเธอ

 

 

 

 

คืนนั้นต้วนจิ่งหงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ถังหนิงฟังผ่านทางโทรศัพท์ หญิงสาวเพิ่งจะพาเด็กแฝดทั้งสองเข้านอน หลังจากได้ฟังต้วนจิ่งหงแล้ว เธอก็ตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ ว่า “ฉันรู้แล้วล่ะว่าวันนี้เธอทำได้ดีมาก”

 

 

“ซ่งซินดูโกรธมาก ฉันมั่นใจว่าเธอจะหาทางชำระแค้นแน่ๆ”

 

 

“อย่าห่วงเลย ตอนนี้เธอคือศิลปินของไห่รุ่ยแล้ว ไห่รุ่ยจะปกป้องเธอเอง” ถังหนิงตอบนิ่งๆ “เธอไม่ต้องทำอะไรเลย สนใจแค่การแสดงของตัวเองก็พอ นั่นคือการโจมตีซ่งซินที่ดีที่สุดแล้วล่ะ

 

 

“เพราะถึงยังไง ผู้หญิงคนนั้นก็ทนไม่ได้เวลามีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเธอ ไม่มีทางเลยที่หล่อนจะรับมือการข่มเหงจากเธอได้!”

 

 

“แล้วคุณล่ะคะ คุณจะปล่อยเธอไปทั้งแบบนี้เหรอ” ต้วนจิ่งหงเอ่ยถาม ตอนนี้ถังหนิงเป็นแม่คนแล้ว เธอจะไม่แยแสต่อปัญหานี้ไหมนะ

 

 

“ทุกครั้งที่ฉันมองดูลูกๆ ทั้งสองคน ฉันก็คิดอยู่ตลอดว่าพวกเขาเกือบจะไม่ได้ออกมาลืมตาดูโลกนี้เพราะอะไร”

 

 

ถังหนิงจำความแค้นนี้ได้เสมอ

 

 

“แต่เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับเธอ ทำตามที่ฉันบอกแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อยเอง อีกอย่าง ในเมื่อเธอตัดสินใจจะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นแล้ว ก็อย่ามีความคิดร้ายๆ ขึ้นมาเชียวล่ะ อย่าใช้วิธีการสกปรกที่เคยใช้มาก่อนแม้ว่าเธอจะกำลังรับมือกับซ่งซินอยู่ มันไม่ง่ายเลยที่เธอจะฉีกตัวออกมาจากการควบคุมของซ่งซินได้ อย่าทำพลาดซ้ำสอง ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้”

 

 

“รับทราบค่ะ!” ต้วนจิ่งหงจะจดจำสิ่งนี้เอาไว้เสมอ “ฉันไม่ได้โง่นะคะ ฉันจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีก อย่าห่วงเลยค่ะ เมื่อเทียบกับการใช้วิธีการอันโหดเ**้ยมและมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวแล้ว ฉันพอใจที่จะมีชีวิตในแบบตอนนี้มากกว่า!”

 

 

ถังหนิงไม่ต้องการให้ต้วนจิ่งหงเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะการมีอยู่ของต้วนจิ่งหงนั้นก็มาพอที่จะกระตุ้นและเยาะเย้ยซ่งซินได้แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นที่หญิงสาวจะต้องมาเสียเวลากับศัตรูของเธอ

 

 

แม้ต้วนจิ่งหงจะไม่ทำอะไรเลย แต่ตราบใดที่เธอเป็นที่นิยมมากกว่า ซ่งซินก็เจ็บปวดแล้ว

 

 

ครู่ต่อมา ถังหนิงวางสายแล้วหันกลับไปมองโม่ถิง ตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มกำลังอุ้มลูกคนหนึ่งขึ้นมาอย่างระมัดระวังแล้วปลอบโยนเขา

 

 

“นี่ฉันกวนลูกหรือเปล่าคะ”

 

 

“ไม่เป็นไรครับ กล่อมเขาอีกสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว” โม่ถิงตอบนิ่งๆ แม้ว่าเขาเพิ่งจะเป็นพ่อคนได้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ชายหนุ่มก็ได้รับประสบการณ์มามากมายแล้ว

 

 

แน่นอนว่าในฐานะนายใหญ่แห่งเอเจนซี่ระดับโลก ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะเข้าใจอารมณ์ของเด็กน้อยทั้งสอง ดังนั้นโม่ถิงจึงเข้าใจอารมณ์และนิสัยการเข้านอนของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มทำให้ถังหนิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชื่นชมในความสามารถของเขา

 

 

เมื่อเห็นวิธีที่โม่ถิงอุ้มลูกของพวกเขา ถังหนิงก็อยากจะเอาตัวเข้าไปซุกใกล้ๆ ด้วยเหลือเกิน ภาพตรงหน้านี้มันสมบูรณ์แบบมากเกินไป

 

 

อันที่จริง หญิงสาวสามารถจินตนาการภาพที่เด็กๆ วิ่งรอบตัวโม่ถิงหลังจากที่พวกเขาโตจนเดินได้กันแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น ภาพที่ว่าคงดูอบอุ่นไม่น้อยเลย

 

 

“ซ่งซินได้รับของขวัญแล้ว…ถึงเวลาที่ตระกูลซ่งจะได้รับของขวัญบ้างแล้วล่ะครับ”

 

 

“อ่อนโยนกว่านี้อีกหน่อยสิคะ ถึงยังไงคุณก็เริ่มอายุเยอะแล้ว และพวกเราก็ไม่รู้ว่าคุณจะรับมือกับเรื่องดราม่าได้อีกมากแค่ไหนนะ!” ถังหนิงพูดกับโม่ถิงพลางลูบแก้มของลูกน้อยอย่างอ่อนโยน

 

 

“ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ครับ” โม่ถิงกล่าวพลางวางลูกน้อยลงในเปลแล้วดึงตัวถังหนิงมาไว้ในอ้อมแขน “ในอีกสองสามวันต่อจากนี้ ผมจะพาคุณทั้งสามคนกลับบ้านครับ

 

 

“ในเมื่อมีโชว์ให้ดู จะสนุกกว่าถ้าได้ดูกับตาตัวเองนะ”

 

 

“ฉันรอแทบไม่ไหวเลยค่ะ” ถังหนิงตอบอย่างจริงจังพลางซบลงที่แผ่นอกของโม่ถิง

 

 

มีบางสิ่งที่หญิงสาวจะยอมปล่อยผ่าน แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่เธอจะไม่มีวันปล่อยไป แม้พวกเขาจะลงหลุมไปแล้วก็ตาม!

 

 

ในขณะเดียวกันนั้น สิ่งเดียวที่หญิงสาวทำได้ก็คือรอดูโชว์ดีๆ