ตอนที่ 88 : ภูเขาจานน้อย
ภายใต้พลังธรรมชาติจึงทำให้พลังของธนูระดับ B นั้นเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
ฟุ่บ !
ลูกธนูได้พุ่งทะลวงอากาศด้วยความเร็วสูงและในพริบตามันก็พุ่งไปปักกำแพงอิฐแล้วเกิดกการระเบิดขึ้นมา
ตูมมม !
แมงปอน้ำแข็งได้พุ่งออกมา ตัวของมันยาวกว่า 10 เมตร มันมีขนสีขาวและเกล็ดสีแดงที่ดูแข็งแกร่ง ตาของมันส่องแสงสีแดงออกมา ปากของมันมีขนาดใหญ่ มันได้แผ่พลังระดับราชาออกมา
หวังเย่าแปลกใจที่แมงปอนี่แข็งแกร่งและเร็วกว่าธนูของเขา
“ฉันเจอกับสัตว์อสูรระดับทองเลเวล 47 งั้นหรือ ? ” หวังเย่าได้เรียกหงอคงออกมาทันที ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งไม่ใช่น้อย เขาต้องเอาจริงแล้ว
มันมีสกิล 4 อย่างซึ่งก็คือสายตา, ซ่อนตัว, พ่นน้ำแข็งและปกปิดมุมมอง
หวังเย่ารู้สึกคึกคักขึ้นมา ที่เขาออกจากเมืองมาในครั้งนี้ก็เพื่อต่อสู้และพัฒนาทักษะของตัวเอง
หวังเย่าได้ยิงลูกธนูออกไปอีกครั้ง ก่อนจะเก็บธนูลงแล้วดึงเอามีดและโล่ออกมา เขานั่งอยู่บนหลังการ์ฟิลด์และได้สั่งให้มันพุ่งออกไปทันที โดยที่มีหงอคงตามมาติด ๆ
ด้วยพลังจิตที่แข็งแกร่งขึ้นมา มันจึงง่ายที่เขาจะควบคุมอสูร 2 ตัวพร้อมกันได้ และเพราะระบบที่ทำให้เขาสามารถใช้สกิลของอสูรทั้งสองพร้อมกันได้
ทั้งสองได้พุ่งเข้าหาจากทางซ้ายและขวา
“ตายซะ” หวังเย่ากระโดดขึ้น ด้วยสกิลของหงอคง เขาจึงโดดไปด้านหลังแมงปอโดยมีการ์ฟิลด์โผล่มาข้าง ๆ และปล่อยให้หงอคงรับมือกับแมงปอไป
แมงปอน้ำแข็งและหงอคงได้ปะทะกัน เพราะเลเวลที่ต่างกัน หงอคงจึงกระเด็นออกไปทันที แต่ก็ยังป้องกันการโจมตีของแมงปอน้ำแข็งเอาไว้ได้
การ์ฟิลด์ได้สะบัดใบมีดออกไป เมื่อใบมีดลมกว่าสิบอันได้พุ่งเข้ามา แมงปอน้ำแข็งจึงพ่นน้ำแข็งออกมาสร้างโล่เอาไว้ตรงหน้า
เกิดเสียงร้าวดังขึ้น โล่น้ำแข็งเกิดรอยร้าวขึ้นมาแต่ก็กันใบมีดลมเอาไว้ได้
การ์ฟิลด์ใช้โอกาสนั้นพุ่งไปด้านหลังของมัน ก่อนจะเผาไหม้พลังงานเพื่อใช้สกิลตบ กรงเล็บของมันได้กลายเป็นใบมีดขนาดใหญ่ตัดผ่านผิวของแมงปอน้ำแข็ง จนเกิดแผลยาวกว่า 3 เมตรขึ้นมา
แมงปอน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่การ์ฟิลด์ โดยหวังว่าจะฉีกการ์ฟิลด์เป็นชิ้น ๆ แต่การ์ฟิลด์ก็หนีออกมาได้อย่างง่ายดาย
ตอนนั้นหวังเย่าได้พุ่งเข้ามา เขากระโดดขึ้นก่อนจะใช้มีดฟันเข้าใส่ที่สะโพกของแมงปอจนทำให้เกิดแผลลึกขึ้นมา
แมงปอน้ำแข็งนี่มีขนาดใหญ่ แต่ต่อหน้าการโจมตีของศัตรูที่ว่องไว้ทั้งสอง มันก็ใช่ว่าจะรับมือได้ง่าย มันบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง เลือดไหลออกมาจนย้อมหิมะเป็นสีแดง
แต่ในการต่อสู้ระยะประชิดนั้น แมงปอนั้นน่ากลัวจริง ๆ การตอบสนองของมันเร็วมาก และสัญชาตญาณของสัตว์อสูรก็สูง แม้ว่าหวังเย่าและการ์ฟิลด์จะใช้กลยุทธต่าง ๆ แต่แมงปอก็สามารถทำให้ทั้งสองบาดเจ็บได้อยู่
การ์ฟิลด์ระวังตัวขึ้นกว่าเดิม มันเว้นระยะห่างออกมาก่อนจะทำการโจมตีออกไป
10 นาทีต่อมาแมงปอน้ำแข็งก็บาดเจ็บหนัก เลือดของมันไหลออกมาอย่างรวดเร็ว สุดท้ายพลังของมันก็ลดลง เมื่อรวมกับความหิวโหยที่มีแล้ว ในที่สุดมันก็ขาดใจตาย
หวังเย่าปักมีดลงไปที่พื้นแล้วหอบหายใจออกมา นี่คือการต่อสู้ที่แทบปลิดชีวิตเขาเลยก็ว่าได้
ตาของเขาเป็นประกายและกลับมาเยือกเย็นดังเดิม เขาเริ่มเก็บเศษซากที่เป็นประโยชน์ แต่เพราะกระเป๋ามิตินั้นมีพื้นที่จำกัด บวกกับตัวของแมงปอนี้ใหญ่เกินไป จึงไม่อาจจะใส่เข้าไปได้ หวังเย่าคิดสักพัก ก่อนจะเอาแค่หัวใจและอวัยวะภายในของมันออกมา ส่วนเนื้อที่เหลือนั้นเขายกให้การ์ฟิลด์กิน
เนื้อแมงปอน้ำแข็งนี้มีพลังงานที่สูง หลังจากที่การ์ฟิลด์กินมันเข้าไป ค่าประสบการณ์ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
“กลิ่นเลือดของมันกระจายไปตามลม อีกไม่นานมันจะล่อสัตว์อสูรตัวอื่นมาที่นี่” หวังเย่าไม่กล้ารอช้า เขารีบออกจากที่นั่นโดยเร็วที่สุด
หลังจากที่เดินทางมาได้กว่า 1 ชั่วโมง สุดท้ายท้องฟ้าก็มืดลง การ์ฟิลด์ไม่มีแรงเดินทางต่อ มันเหนื่อยล้านิด ๆ และต้องการพักผ่อน
หวังเย่าคือนักเรียนระดับสูงของฝ่ายตรวจสอบ เขาเชี่ยวชาญทักษะเอาตัวรอดเป็นอย่างมาก
ไม่นานเขาก็ไปที่เนินเขาซึ่งมีถ้ำ ก่อนจะเอาใบไม้และกิ่งไม้มาปิดปากถ้ำเอาไว้และก่อกองไฟขึ้นมา
กองไฟนั้นไม่ได้ใหญ่มากนัก อีกทั้งเขาก็ไม่ได้ใช้ไม้ที่มีควัน แต่เป็นก้อนพลังงานที่ให้ความร้อนอยู่บ้าง
หวังเย่าได้ตั้งเต็นท์ก่อนจะกินบางอย่างแล้วนอนพักไป
หูของเขาไวต่อเสียง เขาได้ให้การ์ฟิลด์ไปนอนพักในหลุมที่ขุดไว้พร้อมกับใช้สกิลอำพราง แม้ว่าตัวของมันจะยาวกว่า 4 เมตรแต่หลังจากที่ใช้สกิลแล้ว มันก็ตัวยาวแค่ครึ่งฟุต มันกินพื้นที่ไม่มาก
ในคืนนั้น หวังเย่าหลับสบายก่อนจะตื่นขึ้นมาและออกเดินทางอีกครั้ง เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้คือระยะทาง 200 ไมล์จากเมืองไปที่ภูเขาจานน้อย
มันมีเขตลับใกล้กับภูเขาจานน้อยซึ่งโดนยึดครองไปแล้ว แต่เพราะอากาศด้านในนั้นไม่เหมาะกับมนุษย์ และสภาพแวดล้อมที่นั่นก็แย่รวมถึงไม่มีน้ำมันและน้ำ ดังนั้นที่นั่นจึงถูกทิ้งร้างเอาไว้
เส้นทางไปยังภูเขาจานน้อยนั้นเต็มไปด้วยสัตว์อสูร มันไม่ค่อยมีมนุษย์มาที่นี่
แน่นอนว่ามันยังพอมีทหารรับจ้างไปที่นั่นอยู่บ้าง แม้ว่าภูเขาจานน้อยนั้นจะอันตรายและเส้นทางก็เต็มไปด้วยอันตราย แต่ตราบใดที่ทำเงินได้มากพอ งั้นปัญหาพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
เมื่อวานหวังเย่าเดินทางได้มากกว่า 100 ไมล์ เช้าวันนี้เขาเดินทางแค่ 30 นาทีก็มาถึงที่หมายแล้ว
เมื่อมองไปยังภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยเมฆและหิมะ หวังเย่าก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ยังไงซะการเดินทางนี้ก็เต็มไปด้วยอันตราย
เมื่อเขามาถึงตีนภูเขาจานน้อย หวังเย่าก็ได้ลงจากหลังการ์ฟิลด์แล้วเดินเข้าไปใกล้
“นั่นคือทางเข้าเขตลับของภูเขาจานน้อย” ไม่ช้าหวังเย่าก็พบกับกลุ่มเมฆสีเทาที่ลอยอยู่เหนือภูเขาจานน้อย และได้พบกับหลุมดำที่ซ่อนอยู่ใต้หมู่เมฆ ตำแหน่งนั้นสูงจากพื้นกว่า 100 เมตร
“ฉันได้ยินมาว่าในภูเขาจานน้อยมีของมีค่าไม่กี่ชนิด หนึ่งในนั้นเรียกว่าเห็ดหลุมศพ ตอนเติบโตจะดูคล้ายกับหลุมศพ ตัวของมันจะฝังอยู่ใต้ดิน แต่พอมันเติบโตขึ้นมา พื้นดินก็จะนูนขึ้นมาคล้ายกับหลุมศพ“
เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ของหวังเย่านั้นนอกจากจะหาประสบการณ์แล้ว ก็เพื่อจะเก็บเห็ดนี่ ว่ากันว่ามันมีสารลึกลับอยู่ เมื่อกินมันเข้าไปแล้ว มันจะทำให้กระดูกของคนแข็งขึ้นมา
เห็ดหลุมศพนั้นเป็นของมีค่าในตลาด เห็ดอายุ 1 ปีก็เป็นเงิน 500 เครดิตแล้ว เห็ดอายุ 10 ปีก็ราคา 50,000 เครดิต เห็ดอายุ 100 ปีนั้นหาได้ยาก แต่คุณค่าและราคาของมันก็สูงอย่างมาก มันอาจจะต้องใช้เงินถึง 5 ล้านเครดิตเพื่อซื้อมัน
หวังเย่าฝึกฝนร่างกายมาตลอด แม้ว่าอวัยวะภายในทั้งห้ารวมถึงกล้ามเนื้อจะพัฒนาขึ้นมาแล้ว แต่กระดูกของเขายังธรรมดาอยู่ มันไม่อาจจะทนรับแรงกระแทกได้มากนัก
ในโลกก่อน เขารู้ว่ามีอาการบาดเจ็บที่เรียกว่าบาดเจ็บภายใน แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องกังวลว่าจะบาดเจ็บภายในแล้ว แต่กลัวแรงกระแทกจากการโดนโจมตีนั้นจะทำให้กระดูกของเขาหัก อีกอย่างเห็ดนี่แม้แต่อสูรก็กินได้ด้วย
ตอนนั้นเองกลับมีเงาสีเหลืองพุ่งผ่านสายตาเขาไป หวังเย่ารีบทำการดมกลิ่นมันทันที
“สกังค์” หวังเย่าคิ้วขมวด ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง สกังค์นั้นเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ล่า เพราะความฉลาดของมัน
ตอนนี้หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงกับพวกสัตว์แล้ว สกังค์เองก็เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก มันฉลาดขึ้นและจัดการได้ยากกว่าเดิม