ตอนที่ 89 : ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
ก่อนที่หวังเย่าจะมาที่นี่ เป็นธรรมดาที่เขาจะทำการบ้านและทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมของภูเขาและสัตว์อสูรที่นี่ก่อน
สกังค์นั้นเป็นสัตว์ท้องถิ่นในภูเขาจานน้อย ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง มันมักจะถูกพบเห็นอยู่ที่นี่บ่อย ๆ ตอนนี้สกังค์คือเจ้าของที่นี่ก็ว่าได้
เนื่องจากไม่มีสัตว์อสูรตัวใหญ่ในภูเขานี้ มันมีแค่แกะ, หมา, แมว ดังนั้นสถานะของสกังค์จึงไม่ธรรมดา
ตอนนี้หวังเย่าได้เห็นเงายาวกว่า 3 เมตร เขาไม่ได้ไล่ตามไป เขารู้ว่ามันคือสกังค์กลายพันธุ์ ความสามารถในการต่อสู้และความฉลาดของมันต้องเพิ่มขึ้นอย่างมาก หากเขาไล่ตามไป เขาอาจจะหลงไปในกับดักของมัน
ยังไงซะสกังค์พวกนี้ก็เจ้าเล่ห์ เคยมีข่าวเกี่ยวกับพวกมันอยู่บ้างว่าพวกมันหลอกคนเข้าไปในกับดักและกินพวกเขา
“มันมีสกังค์อยู่ที่นี่ ฉันต้องระวังตัวไม่ให้หลงเข้าไปในกับดักของพวกมัน” หวังเย่าใช้สกิลเนตรอัคคีเพื่อที่จะมองทุกอย่างได้อย่างชัดเจน แม้แต่กับดักเขาก็ยังมองเห็น
เขาเดินผ่านพุ่มไม้ไป ที่นั่นไม่ได้มีหิมะปกคลุมมากนัก ส่วนมากเป็นหิมะที่ไหลตกลงมาจากยอดเขา
“มาอีกแล้วหรือ ? ” ที่ด้านข้างนั้นมีสกังค์อีกตัวแต่ตัวเล็กกว่า มันน่าจะยังเป็นตัวลูกอยู่ มันไม่ได้เร็วมากนัก หวังเย่า ไม่ได้สนใจมัน เขารู้ว่าพวกมันต้องเคลื่อนไหวเป็นกลุ่ม
หวังเย่ายังคงเดินทางไปที่เขตลับต่อ ระหว่างทางเขาเจอกับเห็ดอากาศ เมื่อกินมันเข้าไปจะทำให้เขาหายใจได้เป็นปกติในเขตลับได้ช่วงหนึ่ง
ภูเขาจานน้อยนั้นไม่ได้กว้างนัก แต่ก็ถือว่าใหญ่พอตัว มันยังมีสันเขาที่ยืดออกไปไกลหลายร้อยไมล์
หลังจากที่เดินมาได้ 1 ชั่วโมง หวังเย่า ก็พบเห็ดอากาศต้นใหม่ มันขาวราวกับหิมะและบางราวกับตะเกียบ มันดูสวยและแผ่กลิ่นหอมออกมา แต่ใกล้ ๆ มันนั้นมีเจ้าของของเห็ดนี่อยู่ มันคือลิงภูเขาที่ตัวสูงกว่า 10 ฟุต มันเป็นสัตว์อสูรระดับทองเลเวล 39
หวังเย่าไม่ได้ใช้เวลามากในการจัดการกับลิง ก่อนจะเก็บเห็ดอากาศรวมถึงถุงน้ำดีและลูกปัดพลังงานในตัวลิงภูเขา
ถุงน้ำดีนี้สามารถใช้งานได้ มันพอขายได้ราคาในตลาดอยู่บ้าง
สำหรับผิวของมันแล้ว หวังเย่าไม่ได้ลอกหนังของมันเพราะผิวของลิงภูเขานั้นไม่ได้แข็งนัก มันมีชั้นไขมันอยู่ใต้ท้องซึ่งทำให้การลอกผิวนั้นยาก เมื่อรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันแล้ว คุณภาพของมันจึงถือว่าไม่ดีเท่าไหร่
เขายังคงเดินหน้าต่อ
“ท่าจะไม่ดีเสียแล้ว” หวังเย่ารับรู้ได้ถึงวิกฤตผ่านการ์ฟิลด์ มันเหมือนกับก่อนหน้านี้ การ์ฟิลด์รับรู้ได้ถึงอันตรายและหยุดเดินทันที
หลังจากนั้นสักพักก็มีเสียงดังขึ้นมาจากพุ่มไม้รอบตัว ชัดแล้วว่ามีสัตว์อสูรมากกว่าหนึ่งตัวอยู่ที่นี่
สีหน้าของหวังเย่าเปลี่ยนไป เขาไม่กล้าจะประมาทอีกต่อไป การ์ฟิลด์กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อคอยสังเกตการณ์
ไม่นานสกังค์เกือบ 10 ตัวก็โผล่ขึ้นมาล้อมเขาเอาไว้
“พวกนี้คงเห็นฉันเป็นเหยื่อ โชคดีที่ฉันไม่ลงมือก่อนหน้านี้ ไม่งั้นแล้วคงตกลงไปในกับดักของพวกมัน” สายตาของ หวังเย่าดูเย็นชา ในใจเขาเริ่มมีความอาฆาตก่อตัวขึ้นมา เขากลับเป็นเหยื่อของพวกมัน เขาที่เป็นมนุษย์กลับต้องกลายเป็นเหยื่อของสกังค์ เมื่อคิดเรื่องนี้ทำให้เขาโมโหขึ้นมา
การดมกลิ่นและสายตาของสกังค์นั้นถือว่าดี ตอนที่มันปรากฏตัวขึ้นมามันก็เห็นต้นไม้ที่หวังเย่ายืนอยู่ และตอนนี้เองที่หวังเย่าได้ยิงธนูออกมา
ด้วยระยะที่ใกล้แบบนั้นลูกธนูก็พุ่งไปถึงพื้นแทบจะทันที แม้ว่าสกังค์จะรู้ตัวเร็ว แต่ก็มีตัวหนึ่งที่ถูกยิง
จี๊ดดด…
กลุ่มสกังค์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หวังเย่าไม่ได้ใส่ใจ เขาได้ตรวจสอบพวกมันและพบว่าพวกมันไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ มันแค่ฉลาด สำหรับความสามารถในการต่อสู้นั้น ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก มันก็แค่เก่งในการซ่อนตัว
แน่นอนว่ายังมีอีกจุดหนึ่งที่เป็นอาวุธสำคัญของพวกสกังค์ นั่นก็คือตดของมัน
หลังจากที่โลกนี้เปลี่ยนแปลงไป สกังค์ก็ได้กลายเป็นสกังค์เพชฌฆาตระดับเงิน ตดของมันหนาราวกับควันและมีกลิ่นที่เหม็นเอามาก ๆ
ผลก็คือสกังค์พึ่งตดของพวกมันในการหนี เมื่อพบกับศัตรูที่แข็งแกร่ง
แน่นอนว่าหวังเย่าไม่อยากดมตดของพวกมัน ลือกันว่าทหารรับจ้างถึงกับสลบเมื่อได้กลิ่นตดนี่ เขาจึงตัดสินใจยิงธนูใส่พวกมันต่อ เขาไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ในการจัดการกับพวกมันแล้ว
สกังค์เองก็มีความสามารถในการปีนต้นไม้อยู่บ้าง มันโจมตีระยะไกลไม่ได้จึงต้องสร้างกับดักขึ้นมา
พวกมันอยากฆ่าหวังเย่า แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่
“การ์ฟิลด์ กระโดด” หวังเย่ายิงธนูออกไปก่อนที่เขาจะโดดขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับการ์ฟิลด์
แต่พวกสกังค์ก็ยังไม่ยอมง่าย ๆ พวกมันไม่คิดจะปล่อยหวังเย่าไป ดังนั้นพวกมันจึงตามไปด้วย
หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที หวังเย่าก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากมีเรื่องกับพวกมันเพราะกลัวตดของพวกมัน และไม่อยากหลงเข้าไปในกับดักของพวกมัน แต่ตอนนี้เมื่อเขาหนีออกมาจากที่นั่นแล้ว เขาก็ไม่เชื่อว่าพวกมันจะสร้างกับดักไว้ทั่วภูเขา เขาหันกลับไปมองที่พวกสกังค์ด้วยสายตาเย็นชา
“แค่พวกเลเวล 30 การ์ฟิลด์ แกจัดการพวกมันให้หมด” หวังเย่าเริ่มแค้น ในเวลาเดียวกันเขาก็เอาปืนไรเฟิลออกมา จ้าวเมิ่งซีคือลูกสาวของผบ. และได้อาวุธมาเยอะ เขาที่เป็นแฟนของจ้าวเมิ่งซีจึงเป็นธรรมดาที่จะมีปืนติดตัวบ้าง
“ทันทีที่ฉันยิง เสียงมันจะดังไปทั่วภูเขาซึ่งหมายความว่าถึงฉันจะจัดการสกังค์พวกนี้ได้ แต่ก็จะถูกสัตว์อสูรอื่นไล่ตามอีก” หวังเย่าคิด
สกังค์พวกนี้ถือว่าโชคดีมาตลอดที่อาศัยจำนวนในการจัดการกับเหยื่อ
การ์ฟิลด์กระโดดขึ้นไปอีกด้านก่อนจะใช้ใบมีดลมออกมา หวังเย่าเองก็เริ่มยิงปืนออกมาด้วย
ทักษะการยิงปืนของเขถือว่าดีอย่างมาก ยังไงซะมันก็ไม่เหมือนกับธนูที่ต้องสนใจวิธียิง เขาแค่ปรับวิถีของปืนก็พอแล้ว
ปัง….
เขายิงออกไปรัว ๆ จนแทบไม่มีช่องว่างให้พักหายใจ ที่สำคัญกว่านั้นคือเขายิงแม่นซะด้วย
ใบมีดของการฟิลด์นั้นทรงพลัง ความเร็วก็ถือว่าสูง ภายในระยะ 300 เมตรนั้น อัตราความแม่นยำก็สูงเป็นอย่างมาก
ไม่นานพวกสกังค์ก็ตกใจกลัวกันขึ้นมา แม้จะมีหลายตัวที่บาดเจ็บ แต่ก็ไม่ถึงกับชีวิต ดังนั้นพวกมันจึงไม่คิดที่จะหนี แต่กลับมองมาที่หวังเย่าด้วยสายตาดุร้าย
“พวกแกคงไม่กลัวตายกันสินะ” หวังเย่าโกรธจัด สัตว์พวกนี้ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง “ฉันเองก็ไม่ได้รีบอะไร ดังนั้นจะอยู่เล่นกับพวกแกก็ได้”