ตอนที่ 57 ศัตรูของศัตรูคือเพื่อน

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

ร่างกายของเธอที่ถูกโอบกอดไว้แน่นในอ้อมแขนของฮ่อหยุนเฉิง ทำให้ใบหน้าของซูฉิงเปลี่ยนเป็นสีแดง
แขนที่แข็งแรงของเขาโอบเธอไว้แน่น ลมหายใจอุ่นๆ ของเขารินรดใส่เธอ ระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้กันมาก เธอได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวใจเต้นแรงของเขาอย่างชัดเจน
เมื่อผ่านประตูของสตูดิโอออกไป ซูฉิงก็ได้รับแววตาพยาบาทจากสวีหว่านเอ๋อร์
ซูฉิงจงใจพิงหน้าอกของฮ่อหยุนเฉิง โอบแขนของเธอรอบคอของเขา
“หยุนเฉิง คุณจะไปไหน?” สวีหว่านเอ๋อร์ยืนอยู่ที่ประตูห้องสตูดิโอ และเธอสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นที่ฝั่งตรงข้าม
ตอนที่โคมไฟตักลงมาแต่ สวีหว่านเอ๋อร์กลับรู้สึกสะใจรู้สึกเบิกบานในใจ คราวนี้ที่กระเด็นใส่ตัวขิงซูฉิง และไม่ตายก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ใครจะคิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะปกป้องซูฉิง
ตอนนี้เขากอดเธอแน่นกว่าเดิม
ความอิจฉาริษยาลุกโชนอยู่ในหัวใจของสวีหว่านเอ๋อร์เธอต้องการดึงฮ่อหยุนเฉิงไว้ แต่ฮ่อหยุนเฉิงกวาดสายตาผ่านเธอไปอย่างเย็นชา สวีหว่านเอ๋อร์จึงต้องปล่อยมือทันที
ฮ่อหยุนเฉิงอุ้มซูฉิงไปที่รถ และกำลังจะขับรถไปโรงพยาบาลแต่ซูฉิงห้ามเขาไว้ “ฉันไม่เป็นไร แค่แผลเล็กน้อย ฉันจัดการเองได้”
ฮ่อหยุนเฉิงยืนกรานว่า “ไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่า”
ซูฉิงไม่สามารถเถียงกับเขาได้ จึงทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เขาพาเธอไปโรงพยาบาล
หมอตรวจดูซูฉิงเบื้องต้น “โชคดีที่แผลไม่ลึก ทายานิดหน่อยไม่กี่วันเดี๋ยวก็หายแล้วครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ซูฉิงยิ้ม อันที่จริงมันเป็นแค่แผลเล็กน้อย ฮ่อหยุนเฉิงไม่เห็นต้องเวอร์เลย
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” เมื่อเห็นว่าซูฉิงได้รับบาดเจ็บแค่ภายนอก ใบหน้าหล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“วันนี้ไม่ต้องกลับไปที่บริษัท ฉันจะส่งเธอกลับไปพักผ่อนก่อน” ฮ่อหยุนเฉิงอุ้มซูฉิงเข้าไปในรถอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าซูฉิงไม่ขัดขืน แววตาของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย
เขาก้มศีรษะลงเพื่อคาดเข็มขัดนิรภัยให้ซูฉิง และกำลังจะสตาร์ทรถ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงนิ่งๆของซูฉิง “ฮ่อหยุนเฉิงนายคิดว่าเหตุการณ์วันนี้เป็นอุบัติเหตุไหม?”
ซูฉิงหรี่ตาลงและถาม
เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์วันนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา
อุปกรณ์ของตระกูลฮ่อกรุ๊ปได้รับการซ่อมแซมทุกปี และโคมไฟระย้าในสตูดิโอก็ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว มันจะตกลงมาง่ายๆ ได้อย่างไร?
และมันบังเอิญหล่นลงมาใส่เธอ?
ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดกันแน่นะ?
ตอนแรกซูฉิงคิดว่าเป็นสวีหว่านเอ๋อร์ที่พยายามจะทำร้ายเธอ แต่เมื่อเธอคิดอีกที ตอนที่เธอขึ้นไปบนเวทีเพื่อทำเป็นตัวอย่าง ก็เพราะแอนนี่แสดงออกมาไม่ดี ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นชั่วคราว
เป็นไปไม่ได้ที่สวีหว่านเอ๋อร์จะรู้ล่วงหน้าได้
และวันนี้คนที่ต้องยืนอยู่ตำแหน่งนั้นคือแอนนี่และเฉินจุนเหยียน
หรือว่ามีคนจงใจมุ่งเป้าหมายไปที่แอนนี่?
แต่แอนนี่มาจากฝรั่งเศส ไม่น่ามีใครต้องการจะทำร้ายเธอ
ส่วนเฉินจุนเหยียนเขาจะมีศัตรูงั้นเหรอ? แม้ว่าจะมีพวกเขาคงจะไม่เลือกลงมือที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ปหรอกมั้ง?
เพราะยังไงที่นั่นก็คืออาณาเขตของฮ่อหยุนเฉิง และผลที่ตามมาของการรุกรานฮ่อหยุนเฉิงต่างก็รู้กันดี
ซูฉิงรู้สึกงงงวย
สิ่งที่ซูฉิงคิด เห็นได้ชัดว่าฮ่อหยุนเฉิงก็คิดเช่นเดียวกัน
นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุแน่นอน
ดวงตานุ่มลึกของเขามองลงไปที่บาดแผลที่ขาของซูฉิง และฮ่อหยุนเฉิงจึงกล่าวด้วยเสียงเข้ม “ฉันจะให้คนไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด”
ซูฉิงพยักหน้า
ฮ่อหยุนเฉิงอุ้มซูฉิงไปโรงพยาบาล จึงต้องหยุดการถ่ายทำโฆษณา
วันนี้แอนนี่ถูกซูฉิงวิพากษ์วิจารณ์ต่อหน้าผู้คนมากมาย เธออารมณ์เสียมาก เธอที่กำลังต้องการให้บรูซปลอบใจเธอ แต่เธอกลับได้ยินบรูซพูดว่า “ไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บของซูฉิงจะเป็นยังไงบ้าง พวกเราไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลกันเถอะ”
อะไรนะ?
ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมซูฉิง?
ใบหน้าสวยของแอนนี่บูดบึ้ง
ทำไมบรูซถึงสนใจซูฉิงมากขนาดนี้?
เธอคว้าแขนของบรูซมาและพูดอย่างออดอ้อน “ฮันนี่ วันนี้เค้าถ่ายโฆษณามาทั้งวันแล้ว เหนื่อยมากเลย”
“งั้นเหรอ งั้นเธอรีบกลับไปพักผ่อนก่อนนะ” บรูซพูดอย่างครุ่นคิด
“แล้วคุณล่ะ? คุณจะไม่กลับไปพักผ่อนที่โรงแรมกับฉันเหรอ?” แอนนี่ถาม
ดวงตาของบรูซครุ่นคิด “ฉันจะไปเยี่ยมซูฉิงสักหน่อย ยังไงเธอก็ได้รับบาดเจ็บเพราะถ่ายโฆษณาวันนี้”
หลังจากบรูซพูดจบ เขาก็ทิ้งแอนนี่ไว้ที่นี่และหันหลังเดินออกไปทันที
เมื่อเห็นร่างของบรูซหายไป แอนนี่จึงกำหมัดแน่น
ครั้งนี้เธอมาจากฝรั่งเศส และเห็นได้ชัดว่าบรูซไม่ค่อยสนใจเธอเหมือนเมื่อก่อน
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?
วันนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย เธอถูกซูฉิงเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถึงกับขู่ว่าจะหาคนมาแทนที่เธอ ซูฉิงทำให้เธออับอายขายหน้า แต่สิ่งที่บรูซคิดกลับมีแค่อาการบาดเจ็บของซูฉิง
ยิ่งแอนนี่คิดเรื่องนี้เธอก็ยิ่งไม่พอใจ เธอเดินออกจากสตูดิโอด้วยใบหน้าเย็นชา
“คุณแอนนี่คะ” ทันทีที่แอนเดินออกมาจากสตูดิโอ เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียก
เธอหยุดเดิน เธอเห็นหญิงสาวร่างสูงที่มีใบหน้าสวยยืนอยู่ที่หน้าประตูสตูดิโอ
เธอคือสวีหว่านเอ๋อร์นั่นเอง
“คุณเป็นใครคะ?” แอนนี่มองไปที่สวีหว่านเอ๋อร์อย่างสงสัย
สวีหว่านเอ๋อร์ยิ้ม และแนะนำตัวเอง “สวัสดีค่ะคุณแอนนี่ ฉันสวีหว่านเอ๋อร์ คุณหนูของตระกูลสวีค่ะ”
“คุณมีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่า?” แอนนี่ถามอย่างสงสัย
“ฉันได้ยินชื่อคุณแอนนี่มานานแล้ว วันนี้ได้เจอแล้วสวยสมคำร่ำลือเลยนะคะ” ใบหน้าของแอนนี่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น “ไม่ทราบว่าคุณแอนนี่จะสะดวกไปดื่มกาแฟด้วยกันสักแก้วไหมคะ?”
แอนนี่กำลังครุ่นคิด ตระกูลสวีถือว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมือง A หลายคนต้องการมีความสัมพันธ์กับตระกูลสวี และสวีหว่านเอ๋อร์ก็ดูเหมือนจะสนใจที่จะทำความรู้จักกับเธอ
แอนนี่ต้องการถามสวีหว่านเอ๋อร์เกี่ยวกับเรื่องซูฉิงเพิ่มเติมอยู่พอดี ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า และตอบตกลงว่า “ได้ค่ะ”
ทั้งสองเข้าไปนั่งที่ร้านกาแฟข้างตึกฮ่อกรุ๊ป
สวีหว่านเอ๋อร์กระแอมในลำคอและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันเห็นโฆษณาที่คุณกำลังถ่ายทำอยู่เมื่อกี้ อันที่จริงคุณแอนนี่ก็ทำได้ดีมากแล้วนะคะ ซูฉิงก็ว่าคุณเกินไป”
สวีหว่านเอ๋อร์พูดอย่างเข้าข้าง
ศัตรูของศัตรูคือเพื่อน แอนนี่ดูเหมือนเธอเป็นพวกหน้าอกใหญ่แต่ไม่มีสมอง สวีหว่านเอ๋อร์มั่นใจว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำจากเธอ จะทำให้แอนนี่เกลียดซูฉิงได้
เมื่อเห็นสวีหว่านเอ๋อร์พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสตูดิโอเมื่อครู่นี้ ใบหน้าของแอนนี่ที่ดูเขินอายก็ปรากฏขึ้น เธอจิบกาแฟแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ซูฉิงก็เป็นแค่คนนอกเธอจะไปรู้อะไรล่ะ?”
“คุณรู้ไหมว่าทำไมซูฉิงถึงมุ่งเป้าไปที่คุณ?” สวีหว่านเอ๋อร์ตั้งใจพูดอย่างลังเล
แอนนี่ถาม “ทำไม?”
“ฮ่อหยุนเฉิงและคุณบรูซอยู่ที่นั่นด้วยไง ลองคิดดูสิ ซูฉิงจงใจดูถูกคุณต่อหน้าพวกเขาเพื่อยกตัวเองขึ้น” สวีหว่านเอ๋อร์เป่ากาแฟที่อยู่ตรงหน้าเธอ และพูดอย่างไม่เป็นทางการ
“คุณหมายถึง… ซูฉิงจงใจโจมตีฉันต่อหน้าบรูซ?” แอนนี่กัดฟันของเธอ
สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้าและยังคงหว่านความบาดหมางกันต่อไป “ซูฉิงเป็นจิ้งจอกตัวเมียที่อยากจะกระโจนใส่ผู้ชาย
เธอเป็นคู่หมั้นของฮ่อหยุนเฉิง แต่ลับหลังก็ไม่รู้ว่าแอบอ่อยผู้ชายไปกี่คนแล้ว
คุณก็เห็นว่าเธออ่อยเฉินจุนเหยียนต่อหน้าฮ่อหยุนเฉิง คุณก็น่าจะรู้แล้วว่าเธอเป็นคนยังไง ”
เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของแอนนี่ สวีหว่านเอ๋อร์ก็ยังคงเติมเชื้อเพลิงต่อ “และวันนี้เธอก็ตั้งใจล้ม ทำให้คุณบรูซต้องรีบไปช่วยเธอ”
เมื่อคิดถึงฉากนั้น และคิดถึงความห่วงใยของบรูซที่มีต่อซูฉิง หัวใจของแอนนี่ก็ร้อนรุ่มด้วยความอิจฉาริษยา