ตอนที่ 233 โผเข้าสู่อ้อมกอด / ตอนที่ 234 มีพยานรู้เห็นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 233 โผเข้าสู่อ้อมกอด 

 

 

พระอาทิตย์… 

 

 

เมื่อได้ยินสามคำนี้ นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานก็มืดครึ้มขึ้นทันใด 

 

 

พ่อบ้านถอยหลังไปหลายก้าว เพราะหวาดกลัวความเยือกเย็นที่เขาแผ่ออกมาจากร่างกาย แต่ก็ยังคงฝืนใจรายงานต่อไป “คุณชาย คุณนายใหญ่ให้คนมาบอกว่า เธออยากให้คุณหนูอยู่ที่บ้านเล็กกับเธออีกวันหนึ่ง” 

 

 

พอคุณหนูไม่อยู่ พ่อบ้านรู้สึกว่าคุณชายนิสัยไม่ดีกว่าเดิมอีก 

 

 

พ่อบ้านไม่ได้สังเกตเลยด้วยซ้ำ ว่าอวี๋เยว่หานนิสัยแย่ลงเพราะสามคำนี้! 

 

 

ขณะกำลังบอกเขาว่าเตรียมอาหารเช้าพร้อมแล้ว ก็เห็นอวี๋เยว่หานสาวเท้าออกจากคฤหาสน์ มุ่งตรงไปขึ้นรถ และสั่งให้คนขับรถออกรถทันที 

 

 

 

 

 

อีกด้านหนึ่ง 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ออกมาก่อน ขึงมาถึงบริษัทตระกูลอวี๋อย่างรวดเร็ว 

 

 

แต่เพิ่งลงจากรถ ก็เห็นเฉินจื่อซินยืนอยู่ริมทางแล้ว 

 

 

เขาไม่ได้สวมชุดสูท แต่สวมชุดไปรเวท ทำให้เขาดูเด็กลงไปอีก สองมือของเขาล้วงกระเป๋าเกงเกง และพิงอยู่บนรถสปอร์ตของตัวเอง 

 

 

หลังจากเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ลงจากรถ ชายหนุ่มก็รีบยืนตัวตรง แล้วเดินมาหาเธอด้วยความดีใจ 

 

 

รอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เมื่อได้แย้มเต็มที่ ก็ปรากฏให้เห็นลักยิ้มสองข้าง 

 

 

แสงแดดสาดส่องลงบนตัวเขา ราวกับเป็นแสงที่ออกมาจากตัวเขาเอง ดูอบอุ่นมาก 

 

 

เธอมองไม่เห็นนิสัยร้ายการแบบลูกคนรวยจากตัวเขาเลย มีเพียงความกระตือรือร้นที่จะมาต้อนรับเท่านั้น 

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน คุณมาคนเดียวเหรอครับ” เฉินจื่อซินหันไปมองรอบๆ ครั้งหนึ่ง แต่ไม่เห็นอวี๋เยว่หาย รอยยิ้มในสายตาก็ยิ่งชัดเจนขึ้น 

 

 

เดิมทีเมื่อวานเห็นอวี๋เยว่หานเรียกเธอกลับบ้าน เขาคิดว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกัน 

 

 

ขณะที่กำลังเสียใจ และเตรียมตัวยอมแพ้อยู่นั้น ผลปรากฏว่าได้รู้ความจริงเพราะไปดื่มคลายทุกข์กับเพื่อน 

 

 

ทีแรกเหนียนเสี่ยวมู่เป็นพยาบาลรับจ้างในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ คอยดูแลคุณหนูของตระกูล 

 

 

เพื่อการทำงานแล้ว เธอถึงได้อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ 

 

 

เขาเข้าใจผิดไปเอง! 

 

 

เฉินจื่อซินนอนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืน พอเช้าตรู่ ก็รีบลุกขึ้นทันที 

 

 

คราวนี้เห็นเหนียนเสี่ยวมู่แล้ว เขาจึงยื่นมือไปจับไหล่ของเธอ “ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนครับ ผมมีเรื่องอยากจะบอกคุณ!” 

 

 

เฉินจื่อซินมองเธอด้วยแววตาเป็นประกาย ราวกับว่ากำลังรวบรวมความกล้าอย่างมหาศาล 

 

 

“เรื่องเมื่อวาน ผมรู้แล้วครับว่าผมเข้าใจผิด ขอโทษครับ ความจริงแล้วผมชอบ…” 

 

 

“คุณรู้หมดแล้วเหรอคะ” เหนียนเสี่ยวมู่ได้ยินเขาพูด ก่อนจะขัดจังหวะคำของโทษของเขาพร้อมรอยยิ้ม แล้วยื่นไม่ไปตบไหล่ของเขา 

 

 

“ความจริงแล้วคุณไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ เรื่องเมื่อวานน่ะ อย่าว่าแต่คุณเลย ฉันก็ตกใจเหมือนกัน ปกติคุณชายหานไม่ได้เป็นอย่างนี้หรอกค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อวานเส้นประสาทเส้นไหนของเขาทำงานผิดพลาด อยู่ๆ ถึงได้พูดอะไรแปลกๆ ออกมา” 

 

 

“…” 

 

 

“ในเมื่อเป็นคลายความเข้าใจผิดไปได้แล้ว อย่างนั้นข้าวเช้าก็ไม่จำเป็นแล้วมั้งคะ?” เหนียนเสี่ยวมู่พูดพร้อมส่งรอยยิ้มให้เขา จากนั้นก็กลับหลังหันเตรียมเข้าไปในบริษัท 

 

 

เฉินจื่อซินเห็นอีกฝ่ายจะไป จึงร้อนใจยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ “ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ที่จริงแล้วผม…” 

 

 

“เอี๊ยด” รถหรูหราคันหนึ่งจอดอยู่ตรงริมถนน ซึ่งห่างจากพวกเขาแค่หนึ่งเมตร! 

 

 

เมื่อประตูรถเปิดออก ก็เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาล่มเมืองของอวี๋เยว่หาน 

 

 

นัยน์ตาสีดำเฉยชาทำให้เฉินจื่อซินปล่อยมือโดยไม่รู้ตัว 

 

 

“คุณชาย อรุณสวัสดิ์!” พอเหนียนเสี่ยวมู่เห็นอวี๋เยว่หาน เธอก็วิ่งเข้าไปหาเขาทันที 

 

 

ตอนนี้อวี๋เยว่หานเป็นเจ้าหนี้ของเธอ เอาใจเจ้าหนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่อันดับหนึ่งในชีวิต! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่วิ่งเร็วเกินไป จนไม่ได้มองทางข้างล่าง จึงสะดุด และโผเข้าหาอวี๋เยว่หานที่เพิ่งก้าวลงจากรถ 

 

 

หัวทิ่มใส่หน้าอกของเขาพอดี! 

 

 

ความรวดเร็วฉับไว มุมที่ได้มาตรฐาน เรียกได้ว่าเป็นการ ‘โผเข้าสู่อ้อมกอด’ ตามแบบฉบับ! 

 

 

ทันใดนั้นทั้งสามคนก็ตะลึงงันไป…  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 234 มีพยานรู้เห็นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน 

 

 

มือของอวี๋เยว่หานโอบเอวของเธอไว้โดยสัญชาตญาณ แล้วก้มหน้ามองหัวเล็กๆ ปุกปุยที่แนบอยู่ตรงหน้าอก 

 

 

บนนั้นมีผมสั้นๆ อยู่หลายเส้น มันลู่ลงตามลมเอื่อย แต่ก็พลิ้วไหวอย่างดื้อรั้น 

 

 

น่ารักอย่างน่าประหลาด 

 

 

ทำให้เขาอยากจะลูบหัวเธอเหลือเกิน 

 

 

เธอทำงานเก่งมาก แต่อยู่ต่อหน้าเขามักจะไม่คิดหน้าคิดหลังอยู่เสมอ เขาทำให้เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขนาดนั้นเลยเหรอ 

 

 

อวี๋เยว่หานเพิ่งคิดจะประคองเธอให้ยืนดีๆ แต่หางตาเหลือบไปเห็นเฉินจื่อซินที่ตะลึงงันอยู่ริมถนนเสียก่อน จึงกระชับมือที่โอบหญิงสาวไว้ให้แน่นขึ้นในทันใด กดเธออยู่ในอ้อมอกของตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัว 

 

 

ท่าทางตามสัญชาตญาณดูไหลลื่นมาก ไม่มีความลังเลเลยสักนิด 

 

 

แม้แต่เขาก็ไม่รู้ตัว ว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ 

 

 

เพียงแต่พริบตาที่เห็นใบหน้าประหลาดใจและผิดหวังของเฉินจื่อซิน ไฟที่สุมอยู่ในอกของเขาก็เบาลงไปมากทีเดียว 

 

 

เขาสังเกตแค่เฉินจื่อซิน แต่ไม่ได้สังเกตเลยว่า ตอนนี้ท่าทางของพวกเขาสองอบอุ่นมาก… 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ถูกเขากอดอยู่ในอ้อมอก ใบหน้าแนบสนิทอยู่บนหน้าอกของเขา มือข้างหนึ่งของเขาก็โอบเอวเธอไว้อย่างอ่อนโยน 

 

 

ดูท่าทางเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันกำลังกอดกันอยู่ 

 

 

อย่าว่าแต่เฉินจื่อซินจะเข้าใจผิดเลย ถ้าใครมาเห็นเข้า ก็ต้องตกใจจนพูดไม่ออกทั้งนั้น! 

 

 

“คุณชายหาน พะ…พวกคุณ…” เฉินจื่อซินเดินมาข้างหน้า อยากจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงสดใสกลับดังมาจากที่ไกลจากเขาไปอีก 

 

 

“คุณชายหาน!” 

 

 

เหวินหย่าไต้เพิ่งลงจากรถ เธอปิดประตูรถอย่างแรง แล้วหมุนตัวเดินมาข้างหน้า 

 

 

ทีแรกเธอจะหลังของอวี๋เยว่หานได้ คิดจะเข้ามาทักทายเขาด้วยความตื่นเต้น คิดไม่ถึงว่าเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วถึงพบว่าเขากอดใครคนหนึ่งอยู่ในอก… 

 

 

หลังจากเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ชัดเจน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็แข็งทื่อไปในทันที 

 

 

กลับกลายเป็นสีหน้าไม่น่ามองในพริบตา… 

 

 

“ผู้จัดการเหวิน คุณกลับมาแล้วเหรอคะ” เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นจากในอ้อมกอดของอวี๋เยว่หาน เธออยากจะถอยหนีหลังจากดึงสติกลับมาได้ แต่อวี๋เยว่หานยังโอบเอวเธออยู่ ทำให้เธอขยับเขยื้อนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ 

 

 

เธอรีบยื่นมือไปตีแขนของเขา ก่อนจะพูดเสียงเบา “รีบปล่อยมือสิ!” 

 

 

ก่อนหน้านี้ไม่ต้องลำบากอธิบายให้เฉินจื่อซินเข้าใจแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีเหวินหย่าไต้เพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง 

 

 

อวี๋เยว่หานได้ยินเธอพูดแล้ว จึงชำเลืองมองดวงหน้าเล็กที่กำลังกระวนกระวาย แล้วเลิกคิ้วขึ้น “คุณโผเข้ามาให้อ้อมกอดของผมเอง คราวนี้โทษผมเหรอเนี่ย” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” 

 

 

ใช่ๆ เธอผิดเองแหละ 

 

 

คุณชายเจตนาดีช่วยเธอไว้ เธอควรจะรู้จักบุญคุณ 

 

 

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดเรื่องนี้ ขืนเขายังไม่ปล่อยมืออีก ทั้งโลกต้องเข้าใจผิดว่าเขาคิดอะไรกับเธอแน่! 

 

 

“คุณหกล้มตรงไหนหรือเปล่า” อวี๋เยว่หานเหมือนจะไม่ใส่ใจความคิดของคนอื่น เขาปล่อยมืออย่างช้าๆ แล้วหลุบตาลงมองตรวจตราเธอ 

 

 

เมื่อเห็นเธอส่ายหน้า เขาถึงจะหันไปมองเหวินหย่าไต้ที่เรียกเขาเมื่อครู่ ก่อนจะพูดอย่างเฉยชา “กลับมาก่อนกำหนดเหรอ” 

 

 

เหวินหย่าไต้ได้ยินดังนั้นแล้ว ก็ปั้นสีหน้ามั่นใจขึ้นมาทันที จากนั้นก็กล่าวอย่างเย่อหยิ่ง “ค่ะ ฉันไปอิตาลีครั้งนี้ ติดต่อกับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีได้อย่างยากลำบาก เขายอมให้โอกาสบริษัทของเราสักครั้งค่ะ ถ้าการตรวจสอบผ่านไปได้ด้วยดี ก็จะตกลงร่วมงานกับพวกเรา” 

 

 

มิสเตอร์ลอมบาร์ดี เป็นนักออกแบบชั้นนำของอิตาลี 

 

 

มีห้องทำงานของตัวเอง ร่วมกับกลุ่มที่มีความสามารถโดดเด่น 

 

 

บริษัทตระกูลอยากให้เขามาร่วมงานด้วยกันมาตลอด แต่ลอมบาร์ดีไม่รับปากเสียที 

 

 

คิดไม่ถึงเลยว่า เหวินหย่าไต้จะเชิญเขามาได้! 

 

 

ก็ไม่แปลกที่เธอจะเผยรอยยิ้มมั่นใจออกมาอย่างนั้น ถ้าเป็นเรื่องงานแล้ว เหวินหย่าไต้ทำออกมาได้ดีเยี่ยม และไม่มีจุดบกพร่องจริงๆ 

 

 

“ทำได้ไม่เลว” นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานแลดูราบเรียบ เมื่อพูดจบ เขาก็เตรียมตัวเดินเข้าไปในบริษัท 

 

 

เหวินหย่าไต้กลับขวางเขาไว้อย่างร้อนรน “คุณชายหาน ฉันรีบร้อนกลับมา ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ในเมื่อคุณชมว่าฉันทำงานได้ไม่เลวแล้ว ช่วยเห็นแก่หน้าฉัน ไปกินข้าวกับฉันได้ไหมคะ”