ตอนที่ 235 สั่งสอนเธอสักหน่อย / ตอนที่ 236 รู้สถานะตัวเอง

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 235 สั่งสอนเธอสักหน่อย

 

 

เหวินหย่าไต้พูดจบ ก็เหลือบมองเหนียนเสี่ยวมู่ครั้งหนึ่ง

 

 

เมื่อนึกถึงภาพที่เธอกอดอยู่กับคุณชายหานเมื่อครู่ นัยน์ตาของเหวินหย่าไต้ก็ดูมืดครึ้มขึ้นมาทันที

 

 

เธอทำงานหนักขนาดนี้ ก็เพื่อบริษัทตระกูลอวี๋ทั้งนั้น แต่นอกจากใช้หน้าตาล่อลวงชายหนุ่มแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ยังโผเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอีก ผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรอีกกันแน่!

 

 

ผู้หญิงคนนี้เทียบได้กับเธอเลยเหรอ!

 

 

ใจเหวินหย่าไต้ขอเพียงอวี๋เยว่หานตกลงไปกินข้าวเช้ากับตน ก็เท่ากับตบหน้าเหนียนเสี่ยวมู่อย่างแรงได้แล้ว

 

 

แต่รออยู่สิบกว่าวินาทีแล้ว เธอกลับไม่ได้คำตอบที่รอคอยจากอวี๋เยว่หาน จึงรู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่

 

 

เธอพูดถึงขนาดนี้แล้ว เขาจะไม่ยอมไปกินข้าวเช้ากับเธอสักมื้อเลยเหรอ

 

 

ถ้าถูกเขาปฏิเสธต่อหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ คนเสียหน้าก็ไม่ใช่เหนียนเสี่ยวมู่ แต่เป็นเธอ!

 

 

เหวินหย่าไต้กะพริบตา ก่อนจะยื่นมือไปลูบหน้าผากของตัวเอง “ดูเหมือนฉันจะหิวเกินไป รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อยแล้ว”

 

 

ท่าทางอ่อนแอแบบนั้น ทำให้คนเห็นอกเห็นใจได้ทีเดียว

 

 

ที่ตรงนี้ยังมีคนนอกอย่างเฉินจื่อซินอยู่ด้วย ถ้าเขารู้ว่าอวี๋เยว่หานปฏิบัติต่อพนักงานที่ทำความดีความชอบให้ ด้วยท่าทางเย็นชาไร้ความรู้สึกแบบนี้ ตัวเขาเองนั่นแหละที่ต้องผิดหวัง

 

 

“ได้” ริมฝีปากบางของอวี๋เยว่หานขยับเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมาเพียงคำเดียวอย่างเฉยชา

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น บนใบหน้าของเหวินหย่าไต้ก็ปรากฏรอยยิ้มในทันใด เป็นรอยยิ้มพิมพ์ใจที่เจือความเขินอายอยู่เล็กน้อย

 

 

ขณะกำลังจะถามอวี๋เยว่หานว่าจะไปกินที่ไหน ก็พบว่าเขาไม่ได้มองเธออยู่เลย แต่มองเหนียนเสี่ยวมู่อยู่ “คุณก็ไปด้วยกันสิ”

 

 

รอยยิ้มของเหวินหย่าไต้ที่เพิ่งปรากฏขึ้นมา แข็งทื่ออยู่ที่ข้างปากอีกครั้ง

 

 

สีหน้าของเธอเดี๋ยวเขียว เดี๋ยวม่วง

 

 

เธอคิดแทบล้มประดาตายยังไม่ได้ความดีความชอบ แต่เหนียนเสี่ยวมู่กลับได้มันไปโดยง่าย!

 

 

“ฉัน?” เหนียนเสี่ยวมู่ชี้จมูกตัวเอง พลางถามด้วยความประหลาดใจ

 

 

แต่เธอยังไม่ทันได้ตอบ เฉินจื่อซินที่ถูกมองข้ามอยู่ข้างๆ ก็รีบเดินเข้ามา “คุณชายหาน ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนมีนัดกับผมแล้วครับ”

 

 

พอเหวินหย่าไต้ได้ยินเฉินจื่อซินพูด นัยน์ตาของเธอก็เป็นประกาย แล้วเดินไปข้างๆ อวี๋เยว่หาน ก่อนจะยืนอยู่เคียงข้างเขา “คุณชายหาน ในเมื่อซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนมีนัดแล้ว คุณก็อย่าฝืนใจเธอเลย ดูท่าทางเธอไปได้ดีกับรองประธานเฉินมากเลยนะคะ”

 

 

ตอนที่เธอพูด ทุกอย่างดูปกติ แต่ถ้าไตร่ตรองโดยละเอียดแล้ว มันเหมือนเป็นการบอกนัยๆ ว่าเหนียนเสี่ยวมู่มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเฉินจื่อซิน

 

 

ถึงแม้เฉินจื่อซินจะเทียบไม่ได้เลยกับอวี๋เยว่หาน แต่เขาก็เป็นถึงคุณชายของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้า

 

 

ประวัติของเขาไม่เลวเลย นิสัยก็ดี ไม่มีนิสัยเสียแบบลูกคนรวยด้วย

 

 

ผู้หญิงที่ชอบเขาคงจะมีไม่น้อยทีเดียว

 

 

ในสายตาของเหวินหย่าไต้ เขาชอบเหนียนเสี่ยวมู่ได้ ก็ถือว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไต่เต้าได้แล้ว!

 

 

หลังจากเธอพูดจบ สีหน้าของอวี๋เยว่หานก็ดำคล้ำลง

 

 

พร้อมทั้งปล่อยกลิ่นอายเยือกเย็นออกมาจากร่างกาย

 

 

เขากวาดมองเฉินจื่อซิน และจับจ้องที่ใบหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่เป็นคนสุดท้าย ก่อนจะเอ่ยปากเสียงเบา “พอดีเลย ไปด้วยกันสิ”

 

 

จากสองคน เปลี่ยนเป็นสี่คน!

 

 

อย่าได้พูดถึงว่าในใจของเหวินหย่าไต้ไม่พอใจแค่ไหน เพราะเธอไม่กล้าปฏิเสธอยู่แล้ว

 

 

ตอนนี้หวังแค่ว่าเฉินจื่อซินจะไม่เห็นด้วย

 

 

เหวินหย่าไต้เพิ่งคิดจะถามความเห็นของเฉินจื่อซิน ก็เห็นอวี๋เยว่หานหมุนตัวเดินเข้าไปในร้านอาหารก่อนแล้ว

 

 

เธอกัดฟันกรอด แต่ก็ได้แต่เดินตามไป!

 

 

ร้านอาหารนี้เป็นร้านอาหารเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ห้องส่วนตัวครั้งนี้ ถูกเปลี่ยนเป็นห้องส่วนตัวพิเศษที่เหนียนเสี่ยวมู่เฝ้าฝัน

 

 

เมื่อเข้าไปในห้องส่วนตัว เธอก็กอดอก พลางพิจารณารอบๆ ห้อง

 

 

“ดูอะไรออกไหมล่ะ” สายตาของอวี๋เยว่หานจับจ้องอยู่ที่เธอตลอด เมื่อเห็นเธอมองภาพวาดสีน้ำมันบนผนัง เขาก็สาวเท้าเข้ามายืนข้างหลังเธอ ก่อนจะถาม

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันได้พูด เหวินหย่าไต้ก็แย่งพูดก่อน “คุณชายหาน ภาพนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่น่าภูมิใจที่สุดของอาจารย์โอลิวีโร ถึงแม้จะเป็นภาพเลียนแบบ แต่คนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องภาพวาดสีน้ำมัน ก็คงจะดูไม่รู้เรื่องอะไร นี่คุณตั้งใจทำให้ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนลำบากใจเหรอคะ”

 

 

 

 

ตอนที่ 236 รู้สถานะตัวเอง

 

 

เหวินหย่าไต้พูด พร้อมด้วยความลำพองใจที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้า

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เป็นแค่พยาบาลรับจ้างคนหนึ่ง เธอเข้ามาให้บริษัทตระกูลอวี๋ได้ ก็เพราะได้รับการแต่งตั้งเป็นพิเศษจากอวี๋เยว่หาน คนแบบนี้จะไปเข้าใจความรู้เรื่องศิลปะได้อย่างไร

 

 

เธอก็แค่ไม่เคยเห็นภาพวาดดีๆ แถมทำท่าทางชื่นชมภาพวาด เพื่อดึงดูดความสนใจของอวี๋เยว่หาน

 

 

วันนี้เหวินหย่าไต้จะขอใช้โอกาสนี้ ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่รู้สถานะของตัวเอง!

 

 

“ผู้จัดการเหวินเหมือนจะรู้จักภาพวาดสีน้ำมันดีจังเลยนะครับ?” เฉินจื่อซินได้ยินเหวินหย่าไต้พูดแล้ว ก็พูดต่อตามสัญชาตญาณ

 

 

หลังจากเขาพูดจบ ความลำพองใจบนใบหน้าของเหวินหย่าไต้ก็ยิ่งฉายชัดขึ้น แต่กลับแสดงท่าทางถ่อมตัวออกมา “รู้แค่นิดหน่อย”

 

 

เมื่อเห็นอวี๋เยว่หานมองมาทางเธอ สายตาของเธอก็มีความคาดหวังขึ้นมา

 

 

และรอคอยคำชมจากเขา

 

 

เธอคิดไม่ผิดจริงๆ ด้วย ผู้ชายชอบผู้หญิงที่สง่างามและมีรสนิยมทั้งนั้นแหละ

 

 

ผู้หญิงอย่างเธอ ถึงจะมีสิทธิ์ยืนอยู่ข้างกายอวี๋เยว่หาน

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ทำอะไรได้

 

 

ตอนที่ออกงานเลี้ยงกับอวี๋เยว่หาน เธอคงจะติดกล่องยาไปรักษาคนอื่นด้วยสินะ

 

 

ไม่มีเกียรติเลยจริงๆ!

 

 

ขอเพียงเธอแสดงฝีมือสักหน่อย ก็ฝังเหนียนเสี่ยวมู่ลงดินได้ทันทีแล้ว!

 

 

“ภาพนี้ไม่ใช่ภาพเลียนแบบหรอกค่ะ เป็นของจริง” เหนียนเสี่ยวมู่ที่มอภาพวาดและหันหลังให้เหวินหย่าไต้ พูดขึ้นมากะทันหัน

 

 

เธอกลับหลังหันมา แต่ไม่ได้มองเหวินหย่าไต้ เธอมองตรงไปยังอวี๋เยว่หาน คนที่ถามเธอเมื่อครู่

 

 

คำพูดที่เรียบง่าย แต่ตอกหน้าเหวินหย่าไต้ได้อย่างจัง

 

 

ทันใดนั้น สีหน้าของเหวินหย่าไต้ก็เปลี่ยนไป “คุณว่าอะไรนะ”

 

 

ผู้จัดการสาวหันไปมองภาพบนผนัง เมื่อมองอย่างละเอียดแล้ว ถึงจะพบว่าภาพวาดนี้เป็นของจริง

 

 

แต่ที่นี่เป็นเพียงห้องส่วนตัวในร้านอาหาร ผลงานของนักวาดภาพฝีมือฉมังที่มีราคาแพงหูฉี่ จะมาเป็นของตกแต่งอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

 

 

ดังนั้น เธอถึงได้ตัดสินว่าภาพนี้เป็นของเลียนแบบ

 

 

ตอนนี้ได้ยินเหนียนเสี่ยวมู่พูดใน เธอก็จิตใจว้าวุ่นขึ้นมา แต่เมื่อคิดถึงสถานะของเหนียนเสี่ยวมู่ เธอพลันนึกออกว่า อีกฝ่ายคงจะไม่เข้าใจภาพวดและกลัวเสียหน้า ถึงได้จงใจพูดออกมาว่าภาพวาดเป็นของจริงสินะ

 

 

มุมปากของเหวินหย่าไต้มีรอยยิ้มถากถางแล้ว

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ดูไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่คุณจะพูดเวอร์ขนาดนี้ไม่ได้ อย่าพูดว่าภาพวาดของปลอมเป็นของจริงเลยค่ะ”

 

 

“…” เหนียนเสี่ยวมู่มองผู้จัดการสาว เธอเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น ไม่ได้พูดอะไร

 

 

แต่รอยยิ้มสบายใจของเธอ กลับทำให้เหวินหย่าไต้ยิ้มไม่ออก

 

 

“คุณดูออกที่ตรงไหน ว่าภาพนี้เป็นของจริง”

 

 

เหวินหย่าไต้พูดจบ ชายหนุ่มอีกสองคนก็มองมาทางเธอ

 

 

นัยน์ตาสีดำของอวี๋เยว่หานหยั่งลึก ดูไม่ออกเลยว่าสายตาที่เรียบเฉยของเขากำลังคิดอะไรอยู่ เพียงแต่ในนั้นแสดงความต้องการที่จะสืบค้นออกมา

 

 

ราวกับกำลังรอหญิงสาวอธิบายอยู่

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยั่งไหล่ ก่อนจะพูดอย่างสบายใจเฉิบ “ของเลียนแบบทั่วไปจะเลียนแบบได้แค่งานวาด แต่เลียบแบบสไตล์เวลาวาดรูปของจิตรกรไม่ได้ อาจารย์โอลิวีโรเป็นคนแก่ซุกซนคนหนึ่ง เขาชอบทิ้งชื่อของตัวเองไว้บางจุดในงานของตัวเอง แล้วให้คนอื่นไปตามหาค่ะ”

 

 

“…”

 

 

“เมื่อกี้ฉันจ้องภาพวาดอยู่ตลอด อยากจะหาดูสักหน่อย ว่ามีชื่อของเขาซ่อนอยู่ในภาพวาดหรือเปล่า”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เดินข้างหน้าก้าวหนึ่ง แล้วใช้นิ้วมือชี้ลงตรงจุดหนึ่งบนภาพวาด “ฉันเจอตรงนี้พอดี ก็เลยเดาว่า ภาพนี้น่าจะเป็นของจริง”

 

 

หลังจากเธอพูดจบ เธอก็หันไปมองอวี๋เยว่หาน

 

 

ที่จริงทีแรกเธอก็ไม่ค่อยเชื่อ ว่าห้องส่วนตัวในร้านอาหารจะใช้ภาพวาดราคาแพงลิบลิ่วมาตกแต่ง แต่พอคิดได้ว่าที่นี่เป็นห้องส่วนตัวแบบพิเศษของอวี๋เยว่หาน เธอก็เข้าใจ

 

 

เขาน่าจะให้คนมาแขวนภาพนี้เองสินะ?

 

 

“เป็นไปได้ยังไง…” เหวินหย่าไต้มองเห็นชื่อที่ซ่อนอยู่บนรูปภาพจริงๆ สีหน้าพลันซีดขาว

 

 

เธออยากทำให้เหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกลำบากไป แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าหน้าแตกเองเสียแล้ว

 

 

ผู้จัดการสาวมองอวี๋เยว่หานพร้อมความหวังสุดท้าย “นี่ไม่ใช่ของจริง ใช่ไหมคะ”