บทที่ 103 หมาป่าลมกรด

ราชาซากศพ

บทที่ 103
หมาป่าลมกรด

“ขอบคุณมาก…ท่านอาจารย์” หลินเว่ยกล่าวอย่างมีความสุข แต่มีร่องรอยของความกังวลใจ ที่อธิบายไม่ได้อยู่ในใจ หลังจากที่ได้รู้จักกับชายชราหมิง

ในวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ประดักประเดิดไปเล็กน้อย ไร้ซึ่งความสนิทสนมระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ สำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา หลินเว่ยแทบไม่รู้สึกตัวถึงสายสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์ เนื่องจากช่วงเวลาที่ชายชราหมิงตื่นนั้นน้อยเกินไป

หลังจากที่หลินเว่ยกล่าวขอบคุณ อาจารย์หมิงก็ไม่ได้ตอบรับอะไร แต่หลินเว่ยนั้นคุ้นชินกับท่าทีของชายชราแล้ว สำหรับแร่ธาตุเหล่านั้น พวกมันถูกทิ้งไว้ในจวนหยางฝู
และหลินเว่ยมัวแต่วิ่งวุ่นเพื่อเอาชีวิตรอด แทบไม่ได้ล่าสัตว์อสูรเลยแม้แต่น้อย และไม่พบแร่ทองคำใด ๆ ดังนั้น หลินเว่ยจึงไม่รีบร้อนที่จะดูดซับแร่ทองคำ

อีกสองวันต่อมา ด้วยผลของเม็ดยาจำนวนมหาศาลของหลินเว่ย ทั้งเสี่ยวหลงและเสี่ยวไป๋ ก็หายจากอาการบาดเจ็บ หลังจากกินยาระดับสูงเข้าไปจำนวนมาก

ในตอนนี้ หลินเว่ยรู้สึกโล่งใจ และพร้อมที่จะออกจากถ้ำ เพื่อออกไปล่าเหยื่อ และเสริมทัพโครงกระดูกชุดใหม่
…………

“ฮ่าๆ วันนี้ช่างโชคดีเสียจริง! หลินเว่ยพบหมาป่าจำนวนหนึ่ง มีหลายตัวที่มีความแข็งแกร่งขั้นหก เหมาะเป็นกำลังเสริมให้กองทัพโครงกระดูกของเรา” หลินเว่ยนอนหมอบอยู่บนพื้นหญ้า มีเสี่ยวไป๋หมอบอยู่ข้าง ๆ เขา หลินเว่ยมองไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม และพูดกับเสี่ยวไป๋อย่างตื่นเต้น

“หมาป่าลมกรดขั้นหก จำนวนหกตัว, หมาป่าลมกรดขั้นห้า จำนวนยี่สิบเอ็ดตัว, หมาป่าลมกรดขั้นสี่ จำนวนสามตัว, และราชาหมาป่าลมกรดขั้นเจ็ด หนึ่งตัว ” หลินเว่ยมองดูพวกมันอย่างระมัดระวัง เขาพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลังจากการตัดสินใจ หลินเว่ยก็เอื้อมมือไปและส่งโครงกระดูกมากกว่า 40 โครง พุ่งโจมตีไปที่หมาป่าลมกรดเหล่านั้น จากเดิมมีโครงกระดูกเพียง 20 โครงเท่านั้น หลังจากนั้น หลินเว่ยจึงหาสัตว์โครงกระดูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และมีความแข็งแกร่งขั้นที่หกเป็นส่วนใหญ่

“โฮก!” เสียงคำรามดังลั่นสนั่นป่า ทันทีที่สัตว์อสูรโครงกระดูกปรากฏตัว หมาป่าลมกรดเหล่านี้ก็ค้นพบทันที ราชาหมาป่าลมกรดส่งเสียงคำรามออกมาทันที จากนั้น หมาป่าลมกรดที่อยู่โดยรอบตัว ของมันก็เริ่มหันหน้าเข้าโจมตีโครงกระดูก
แต่ละร่างเปล่งพลังงานที่ผันผวนอย่างรุนแรง

โดยทั่วไปแล้ว หมาป่าลมกรดจะใช้ใบมีดลม ในการต่อสู้เป็นหลัก เนื่องจากมีความคล่องแคล่วและรวดเร็วในการใช้งาน อีกทั้งยังทรงพลัง ใบมีดหลายสิบใบ ก่อตัวเป็นกำแพงใบมีดลมทันที แล้วพุ่งไปในแนวนอนไปที่เหล่ากองทัพโครงกระดูก
ในด้านของสัตว์โครงกระดูกนั้น เปิดใช้ทักษะการโจมตีที่หลากหลาย และเป็นทักษะพื้นฐานแต่เดิมของมัน ทั้งในด้านกำลังพล และพลังของพวกนั้นนั้นดีกว่าฝูงหมาป่าลมกรดมาก หลังจากใบมีดลมของทั้งสองฝั่งปะทะกันก็พังทลายลงไป

ไร้ซึ่งพลังการทำลายล้าง อย่างไรก็ตามทักษะของสัตว์โครงกระดูก ยังคงกระหน่ำโจมตี และระลอกคลื่นพลังในครั้งที่สองก็ถาโถมเข้าไปที่ฝูงหมาป่าลมกรด จากนั้นเหล่าฝูงหมาป่าลมกรดเรียกใช้งานการโจมตีเป็นครั้งที่สองอย่างต่อเนื่อง

และอีกครั้งที่พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน และจากนั้นพลังก็หายไปเหมือนเช่นครั้งก่อนหน้า

หลังจากที่พลังของฝูงหมาป่าทลายลงไปแล้ว สัตว์อสูรโครงกระดูกนั้น ฉวยโอกาสเข้าใกล้ฝูงหมาป่าลมกรดทีละน้อย และพุ่งโจมตีเหล่าหมาป่าลมกรดที่มีระดับขั้นพลังที่อ่อนแอ ถูกใบมีดลมทำร้ายจนบาดเจ็บล้มตายไปกว่าครึ่ง

ในส่วนของหมาป่าลมกรดที่ไม่โดนโจมตี มันไม่แม้แต่จะชำเลืองสายตาเพื่อไปมองสหายของมัน แต่พุ่งเป้าการโจมตี กระโจนเข้าฟาดฟันกับสัตว์อสูรโครงกระดูกที่อยู่ตรงหน้า

เมื่อเผชิญกับการโจมตีของหมาป่าลมกรด สัตว์อสูรโครงกระดูกได้โจมตีโดยใช้ทักษะขั้นต่ำออกไปหลายระลอก จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนเป็นทักษะขั้นกลาง ด้วยทักษะขั้นกลางมากกว่า 40 ทักษะ พวกมันกระโจนเข้าหาหมาป่าลมกรดอย่างรวดเร็ว

ด้วยความผันผวนของพลังงานที่น่ากลัว หมาป่าลมกรดเหล่านี้ สามารถใช้ใบมีดลมได้ทีละครั้ง และแม้แต่การโจมตีครั้งก่อน มันก็ยังไม่สามารถหลบได้อย่างสมบูรณ์ และพวกมันกำลังจะโดนโจมตีด้วยทักษะระดับกลางทั้ง 40 ทักษะเหล่านี้

ในเวลานี้ ฝูงหมาป่าลมกรดใช้สลายวายุ พุ่งโจมตีไปที่เหล่าสัตว์อสูรโครงกระดูกทันที

สลายวายุ คือ ทักษะการโจมตีแบบกลุ่มที่ออกคำสั่งโดยราชาหมาป่าลมกรด มันเป็นทักษะระดับกลางของการใช้แรงลมในการโจมตี
ประกอบด้วยมีสัตว์อสูรขั้นเจ็ด จึงทำให้มีพลังงานที่ทรงพลัง และแรงดูดกลืนที่ไร้รูปร่าง มันสามารถดูดซับทุกสิ่งรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะทันได้สัมผัสกับสลายวายุ ทักษะการโจมตีของสัตว์โครงกระดูกได้สลายไปจนหมดสิ้น

มันสลายตัวเป็นหมอกแสงพลังงานอย่างรวดเร็ว และถูกดูดกลืนโดยสลายวายุที่ถูกส่งออกมา

ซึ่งในการดูดกลืนพลังงานจากสัตว์อสูรโครงกระดูกจะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตีของสลายวายุให้ดียิ่งขึ้น แม้จะมีสัตว์อสูรขั้นเจ็ดในการช่วยโจมตี แต่หากต่อเผชิญหน้ากับการโจมตีมากมาย ไม่อาจคาดคะเนว่าจะมีชัยในการต่อสู้

“หวิววว!” ราชาหมาป่าลมกรดยืนอยู่เบื้องหน้าของฝูง ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก มันสามารถสกัดกั้นการโจมตีมากกว่าสิบครั้งติดต่อกัน แม้ว่าจะเป็นเพียงใบมีดลมทักษะพื้นฐาน แต่มันก็ยังสามารถพุ่งเข้าโจมตีสัตว์อสูรโครงกระดูกได้อีกด้วย

ในเวลานี้ ระยะห่างระหว่างหมาป่าลมกรดและสัตว์อสูรโครงกระดูกนั้นอยู่ใกล้กันมาก สัตว์โครงกระดูกที่ถนัดในการต่อสู้ระยะประชิด พุ่งเข้าโจมตีเหล่าหมาป่าลมกรด แม้แต่ราชาแห่งหมาป่าลมกรด ก็ไม่สามารถต่อสู้กับสัตว์อสูรโครงกระดูก

อย่างไรก็ตาม ราชาหมาป่าลมกรดยังคงมีความคล่องแคล่วว่องไว มันสามารถหลบหลีกสัตว์อสูรโครงกระดูก และไปโผล่อีกด้านหนึ่ง

หากว่าสัตว์อสูรโครงกระดูกนั้นมีจิตใต้สำนึก พวกมันอาจจะถูกอีกฝ่ายจัดการได้ แต่เนื่องจากมันถูกควบคุมโดย หลินเว่ย จึงมีสัตว์โครงกระดูกสี่ตัวในการต่อสู้ระยะประชิดตัว พวกมันล้อมรอบราชาหมาป่าลมกรด และสกัดกั้นหมาป่าลมกรดตัวที่เหลือไม่ให้เข้ามาช่วยเหลือราชาหมาป่าได้ สัตว์โครงกระดูกที่ถนัดการโจมตีระยะไกลตัวอื่น เริ่มโจมตีเหล่าหมาป่าลมกรดทันที เพื่อทำให้พวกมันสับสน

หลังจากนั้นไม่นาน หมาป่าลมกรดเหล่านั้นก็ตกลงอยู่กลางพายุของใบมีดลม มันถูกโจมตีทีละตัว แม้ว่าจะไม่มีตนใดสิ้นชีพแต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ราชาแห่งหมาป่าลมกรด ผู้ซึ่งมีสติปัญญาระดับหนึ่ง มันอดทนต่อการโจมตีเหล่าสัตว์อสูรโครงกระดูกมากขึ้นเรื่อย ๆ ความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นมากกว่าครึ่ง แต่ทำได้แต่เพียงทิ้งรอยขีดข่วนบนโครงกระดูกของสัตว์อสูรโครงกระดูกเท่านั้น

“กึก
“โฮก … !” ภายใต้การควบคุมของหลินเว่ย สัตว์โครงกระดูกที่มีความสูงมากกว่า 10 เมตร ถูกราชาหมาป่าลมกรดทำร้ายจนกระดูกซี่โครงหักจำนวนสามชิ้น แต่มันก็ยังมีโอกาสเข้าโจมตีราชาหมาป่าลมกรดอย่างต่อเนื่อง

นี่คือสัตว์อสูรวานรขั้นหกที่ทรงพลังมากกว่าสัตว์อสูรวานรขั้นสี่ หลังจากหลบการโจมตีของราชาหมาป่าลมกรดไปได้หลายครั้งมันก็ฉวยโอกาสเหวี่ยงแขนข้างหนึ่งออกไปอย่างรวดเร็ว จับหางของราชาหมาป่าลมกรดแล้วเหวี่ยงลงกับพื้น

“ตูม หลังจากฝังร่างของราชาหมาป่าลมกรดไว้ในดิน สัตว์อสูรวานรก็ยกร่างของมันออกมา และทุบลงกับพื้นอีกครั้ง

หลังจากถูกทุบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลำตัวกระแทกพื้นดินมากกว่าสิบครั้ง สภาพของราชาหมาป่าลมกรดก็กลายเป็นที่น่าสังเวชใจ โครงกระดูกทั้งหมดของมันหักและร้าวทั่วร่าง ใบหน้าของมันบิดเบี้ยว ขนสีเงินของมันถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยโลหิต

และดวงตาของมันมืดสนิท บ่งบอกว่าสิ้นชีพ

สัตว์อสูรโครงกระดูกกำลังแบกร่างราชาหมาป่าลมกรด และหลินเว่ยพร้อมที่จะใช้คาถาอัญเชิญ แต่ในเวลานี้ เกิดคลื่นลมปราณที่รุนแรงกับร่างของราชาหมาป่าลมกรด และร่างกายของอีกฝ่ายก็เริ่มขยายตัวตามคลื่นพลัง

และโลหิตจำนวนมากก็ไหลออกมาจากร่างของมัน

“มัน…ระเบิดตนเองงั้นหรือ ? โอ้! ช่างเป็นความคิดที่บ้าระห่ำ ทันทีทันใดหลินเว่ยค้นพบว่าราชาหมาป่าลมกรด มีความคิดที่จะระเบิดร่างตนเองและสลายไปพร้อมกับแก่นคริสตัล และสังหารสัตว์อสูรโครงกระดูก ดังนั้นหลินเว่ยจังไม่ยอมปล่อยให้มันทำตามปรารถนา
เขาไม่พร้อมที่จะสูญเสีย ดังนั้นเขาจึงจัดการสถานการณ์ตรงหน้าอย่างใจเย็น