บทที่ 67 ปัญหาอันใหญ่หลวง

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

ยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์ขณะนี้ติดอยู่ในน้ำแข็ง ดังนั้นสิ่งที่พวกผู้เล่นต้องทำก็เพียงแค่ใช้สกิลทั้งหลายใส่มันเท่านั้น ทำให้กลุ่มผู้เล่นนักบวชนั้นไม่มีประโยชน์ในตอนนี้ เช่นเดียวกับหัวหน้าของผู้เล่นกลุ่มนักบวชที่ไม่มีอะไรต้องทำเช่นกัน ดังนั้นจืออี้จึงออกมาจากที่นั่นพร้อมกับเซียวเฟิงหลังจากที่เธอบอกลากับสกายแล้ว

ซึ่งทางด้านสกายก็ไม่คัดค้าน เขาตกลงที่จะให้คนทั้งสองออกเดินทางในทันที แต่ดูเหมือนว่าสกายกังวลเล็กน้อยที่จะส่งจืออี้ไป เขาหันไปมองเซียวเฟิงสักพัก ราวกับว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับชายหนุ่มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

“แล้ว NPC คนนี้อยู่ที่ไหน?”

เซียวเฟิงเดินตามหลังจืออี้ พวกเขากำลังจะเดินทางไปในทิศทางของทุ่งหิมะแทนที่จะเป็นเมืองเซิงสุ่ย และเพราะเมืองเซิงสุ่ยตั้งอยู่ในบริเวณทางเหนือของดินแดนแห่งพระเจ้า สภาพอากาศที่นี่จึงหนาวเย็นและมีภูเขาหิมะมากมายอยู่ภายนอกของเมือง

ทว่าเซียวเฟิงไม่มีเวลามาชื่นชมรูปร่างอันอรชรของจืออี้หรือบรรยากาศที่สวยงามโดยรอบแม้แต่น้อย ชายหนุ่มเอาแต่กระวนกระวายและเร่งเร้าจืออี้ต่อไป

“อย่ารีบร้อน อดทนไว้หน่อยสิ” จืออี้ไม่สบอารมณ์ หญิงสาวกลอกตาที่สวยงามของเธอวนจนครบรอบอยู่หลายครั้ง ก่อนจะหันกลับมาจ้องมองไปที่เซียวเฟิงด้วยความไม่พอใจ

“มันไม่ใช่ภารกิจของเธอ ดังนั้นแน่นอนว่าเธอจะไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรกับมัน แต่ฉันเนี่ยซิ ฉันไม่มั่นใจเลยว่า NPC คนนี้จะรู้ถึงตำแหน่งภารกิจของฉันแน่นอนหรือเปล่า” เซียวเฟิงพูดอย่างไร้ความรู้สึก แม้หญิงสาวที่เดินนำหน้าจะมีเสน่ห์ แต่เธอช้าเกินไป สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือหญิงสาวไม่มีม้าประจำตัว และสามารถเดินทางได้โดยการเดินเพียงเท่านั้น!

เส้นตายของภารกิจใกล้เข้ามาทุกที และมันก็เกือบจะถึงเวลาที่เซียวเฟิงต้องออกจากเกมไปเตรียมอาหารให้กับเซียวหลิงแล้ว ชายหนุ่มวางแผนที่จะออกจากเกมในทันทีหลังจากที่เขาทราบถึงตำแหน่งของภูเขาเจิดจรัส จากนั้นจึงจะกลับมาทำภารกิจให้สำเร็จทีหลัง

“ก็เห็นอยู่ว่านายเก่งเทพขนาดไหน และนายก็สามารถฆ่าบอสได้สบายๆ ทำไมนายถึงไม่ช่วยกิลด์ของเราฆ่าบอสนั่นให้เร็วกว่านี้ล่ะ? เราจะได้ไม่ต้องสละชีวิตมากขนาดนั้น” จืออี้หยุดเดินและหันหลังกลับไปจ้องตาของเซียวเฟิง ดวงตาที่สวยงามของหญิงสาวเต็มไปด้วยความสงสัย

“ฉันไม่ใช่สมาชิกของกิลด์เธอ แล้วทำไมฉันต้องพยายามขนาดนั้นเพื่อจะช่วยพวกเธอด้วยล่ะ? ยิ่งกว่านั้นพวกผู้เล่นอีกหลายคนก็ต้องถูกฆ่าในการต่อสู้กับบอสอยู่แล้ว ฉันคิดว่าเธอจะชาชินกับการเสียสละแบบนี้ไปแล้วเสียอีก” เซียวเฟิงมองเธอแบบแปลกๆ

จืออี้เงียบ เซียวเฟิงกำลังพูดความจริง เขาไม่ใช่สมาชิกของกิลด์วอร์สปิริตฮอล์และไม่จำเป็นที่จะต้องช่วยพวกเธอ นอกจากนั้นผู้เล่นบางส่วนก็จะต้องถูกฆ่าจากการต่อสู้กับบอสไม่ว่าอย่างไรก็ตามอยู่แล้ว ทว่าโลกเสมือนจริงนี้เหมือนจริงเกินไป และเธอก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมทีมของเธออย่างที่เธอไม่ได้คาดคิด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมหญิงสาวถึงรู้สึกหดหู่อย่างมากในระหว่างที่พวกเขาเข้าโจมตีบอส

“เธอช่วยรีบๆ หน่อยได้ไหม?” เซียวเฟิงเริ่มหงุดหงิด เขาจ้องไปที่จืออี้ที่กำลังยืนอยู่นิ่งๆ เพราะกังวลว่าผู้หญิงคนนี้กำลังหลอกลวง เธอคงไม่รู้จัก NPC คนใดที่รู้ถึงตำแหน่งของภูเขาเจิดจรัสแน่ๆ

“ก็ที่นี่ไง” หญิงสาวรู้สึกถึงความไม่ไว้วางใจในดวงตาของเซียวเฟิง จืออี้เบือนหน้าหนีอย่างหมดความอดทนก่อนจะชี้ไปข้างหน้าพร้อมพูดออกมา

“แล้วตัว NPC อยู่ที่ไหนกัน?” เซียวเฟิงหันไปมองข้างหน้า เขาพบว่าพวกตนได้มาถึงหมู่บ้านหิมะเล็กๆ ที่มีบ้านซึ่งหลังคาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอยู่ที่นี่ประมาณสิบหลัง แผนที่ของระบบแสดงให้เห็นว่าที่นี่มีชื่อเรียกว่าหมู่บ้านทุ่งหิมะ

หญิงสาวไม่สนใจเซียวเฟิงและเดินเข้าไปในหมู่บ้านหิมะ ก่อนจะมาหยุดที่ NPC ที่ดูมีอายุคนหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหัวหน้าของหมู่บ้านหิมะแห่งนี้

“คุณปู่คะ คุณปู่กำลังสวดภาวนาถึงภูเขาเจิดจรัสอยู่เหรอคะ?” หัวหน้าหมู่บ้านที่ดูมีอายุกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นราบในหมู่บ้านหิมะและกำลังสวดภาวนาให้ภูเขาหิมะที่อยู่ห่างออกไป เป็นจังหวะเดียวกับที่จืออี้เดินเข้าไปหาและถามเขาโดยตรง

“อ่า.. เจ้าคือนักผจญภัยคนนั้นนี่ เจ้าได้ช่วยพวกเราไล่หมาป่าหิมะเมื่อครั้งที่เจ้ามาที่นี่ครั้งล่าสุด ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ข้ากำลังสวดภาวนาไปถึงภูเขาเจิดจรัส… เพราะภูเขาได้ส่องแสงสว่างเมื่อไม่นานมานี้ และจะต้องมีเหตุการณ์สำคัญบางอย่างกำลังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นข้าจึงภาวนาให้แสงศักดิ์สิทธิ์จากที่นั่นปกป้องหมู่บ้านของพวกเรา” หัวหน้าหมู่บ้านยิ้มและพูดกับจืออี้ เห็นได้ชัดว่าจืออี้เคยเข้ามาทำภารกิจที่นี่มาแล้วก่อนหน้านี้ หัวหน้าหมู่บ้านจึงเป็นมิตรกับเธอ

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน ตาของเซียวเฟิงพลันลุกวาว เขารีบถามคำถามกับหัวหน้าหมู่บ้านในทันที “หัวหน้าหมู่บ้าน คุณรู้ไหมว่าภูเขาเจิดจรัสอยู่ที่ไหน?”

“ท่านนักผจญภัย ทำไมท่านถึงถามเกี่ยวกับภูเขาเจิดจรัสล่ะ? ภูเขาเจิดจรัสเป็นอาณาเขตของเทพธิดาแห่งแสงสว่าง ภูเขาลูกนั้นศักดิ์สิทธิ์นัก นักผจญภัยแบบท่านไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปที่นั่นหรอก” หัวหน้าหมู่บ้านมองเซียวเฟิงและส่ายหัวของเขา

“ผมเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมที่เชื่อในพลังแสงสว่าง ผมต้องการเพียงแค่ทราบถึงตำแหน่งของภูเขาเจิดจรัสเพราะอยากจะบูชาด้วยความนับถือจากหัวใจ” เซียวเฟิงโกหกกับหัวหน้าหมู่บ้านและแสดงฉายาสาวก ผู้เลื่อมใสบนศีรษะของเขาไปพร้อมกัน

“ท่านคือสาวกผู้เลื่อมใสอันสูงส่ง! ผู้นับถือที่อุทิศตนเพื่อเผยแผ่แสงสว่าง! โปรดให้อภัยข้าที่ทำตัวไม่มีมารยาท” หัวหน้าหมู่บ้านก้มหัวให้เซียวเฟิงแล้วพูดต่อ “ภูเขาเจิดจรัสคือภูเขาหิมะที่อยู่ตรงหน้าของพวกเรา ภูเขานี้ถูกปกป้องด้วยภูเขาหิมะอีกหลายลูกโดยมีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งมากมายอยู่รอบๆ ภูเขาหิมะ ดังนั้นท่านสาวกโปรดอยู่ห่างจากเขานั่นไว้”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน เซียวเฟิงก็มองไปยังภูเขาที่อยู่ห่างออกไปและเปิดแผนที่ของระบบขึ้นมาพร้อมกันเพื่อค้นหาตำแหน่งของภูเขานั้นบนแผนที่

หลังจากนั้นไม่นานเซียวเฟิงก็ค้นพบตำแหน่งคร่าวๆ ของภูเขาเจิดจรัส และเมื่อวัดระยะทางด้วยสายตาก็พบว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงถ้าขี่ม้าไป ว่าแล้วชายหนุ่มก็ขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านและออกจากเกมภายในหมู่บ้านนั้นทันที

“เฮ้..” จืออี้ตาเหลือก เพราะเซียวเฟิงออกจากเกมไปในทันทีโดยไม่ได้ขอบคุณเธอด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจผู้นำทางคนนี้เลย หญิงสาวจึงได้แต่กระทืบเท้าระบายความหงุดหงิดใจ

แต่ว่าเซียวเฟิงนั้นหายออกไปแล้ว และมันก็เปล่าประโยชน์ที่จะมามีอารมณ์โกรธในตอนนี้!

หลังจากที่เขาถอดหมวกที่ใช้เล่นเกมออก เซียวเฟิงก็เดินเข้าไปในห้องครัวอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะล้างมือและเตรียมทำอาหารเย็น

“พี่! รีบย้ายออกจากที่นี่กันเถอะ!” เซียวหลิงที่กำลังดูทีวีอยู่ดันตัวยกศีรษะของเธอโผล่ออกมาจากโซฟาแล้วตะโกนใส่เซียวเฟิง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เซียวเฟิงถามเธออย่างประหลาดใจ เขาเคยวางแผนที่จะย้ายออกไปยังเมืองอื่น แต่เซียวหลิงกลับไม่สนใจแผนนั้นเลย… ดังนั้นแล้วทำไมเธอถึงมาเปลี่ยนใจเอาตอนนี้กัน?

“ผู้หญิงบ้าคนนั้นกลับมาอีกน่ะสิ! แต่ฉันไล่เธอไปแล้ว!” สีหน้าแห่งชัยชนะปรากฏขึ้นบนในหน้าอันประณีตของเซียวหลิง ทำเอาเซียวเฟิงอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะนึกได้ว่าเธอกำลังพูดถึงซือเยี่ยจิ๋ง

“แต่เธอจะต้องกลับมาที่นี่อีกแน่ๆ ฉันว่าเราต้องรีบย้ายออกไปในเร็วๆ นี้ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเจอหน้านางผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้น!” เซียวหลิงยังคงพูดต่อไป ดูๆ แล้วเธอคงจะไม่ชอบไนท์ คูนเนอร์เอามากๆ ทีเดียว

เซียวเฟิงเงียบ ไม่แม้แต่จะพูดเปลี่ยนแนวคิดของเธอ เพราะเขาได้วางแผนจะย้ายออกไปที่อื่นไว้เช่นกัน ก็ในเมื่อศัตรูของเขาหาอพาร์ทเม้นท์ที่นี่จนพบ และเซียวเฟิงก็ไม่อยากที่จะเจอหน้าไนท์ คูนเนอร์เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะพูดถึงกิลด์มิดซัมเมอร์ต่อหน้าเซียวหลิง

“ได้ งั้นเราสองคนจะย้ายออกภายในไม่กี่วันข้างหน้า” เซียวเฟิงสัญญากับเซียวหลิง ก่อนหน้านี้เขาค้นเจอบ้านพักตากอากาศหลังเล็กบนอินเทอร์เน็ต ทำให้ชายหนุ่มจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นสิ่งง่ายมากในการที่จะทำเงินจากการเล่นเกมนี้ เพราะในปัจจุบันราคาของอุปกรณ์ระดับสูงหนึ่งชิ้นนั้นมีค่ามากกว่า 1,000 หยวนเสียอีก

ตัวอย่างเช่นอุปกรณ์คุณภาพน้ำเงินเลเวล 10 ที่มีผู้เล่นหลายคนในหมู่บ้านเริ่มต้นต่อแถวกันเพื่อที่จะจับจองมันให้ได้ ทำเอาราคาของมันพุ่งสูงขึ้นเพราะมีคนขายอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ทว่าเซียวเฟิงมีแผนที่ใหญ่กว่านั้น ในเมื่อเกมเสมือนจริงเกมนี้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก และเซียวเฟิงก็ได้วางแผนการพัฒนาของตัวเองเอาไว้แล้ว ทำให้มันคงไม่ยากนักที่เขาจะประสบความสำเร็จ และเมื่อผนวกกับที่เฉียนโตวโตวมีศาลาขุมทรัพย์นั่นอีก มันก็แทบจะเป็นไปได้มากเลยว่าเขาจะสามารถทำเงินได้มากมาย!!

เซียวเฟิงทานอาหารเย็นเสร็จอย่างรวดเร็ว และทำความสะอาดโต๊ะกินข้าว จากนั้นเขาก็รีบล็อกอินเข้าไปในเกมทันที

ชายหนุ่มไม่สามารถที่ล้มเหลวในภารกิจเนื้อเรื่องนี้ได้ ไม่อย่างนั้นผู้เล่นคนอื่นจะเล่นตามเขาทัน!

“แล้วทำไมเธอยังอยู่ที่นี่อีกเนี่ย?” เซียวเฟิงออนไลน์และปรากฏขึ้นในหมู่บ้านหิมะอีกครั้ง ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นจืออี้ยืนอยู่ไม่ห่างจากตนเองมากนัก!!

เซียวเฟิงตระหนักได้ทันทีว่าเขาจะต้องหาพื้นที่ที่ปลอดภัยก่อนที่เขาจะออกจากเกมในครั้งต่อไป เพราะถ้ามีใครบางคนซุ่มโจมตีตอนที่กลับเข้ามาในเกมอีกครั้ง ชายหนุ่มก็อาจจะถูกฆ่าได้เลยเพราะไม่มีเวลาเตรียมตัวรับมือ!

“ก็ฉันรอนายอยู่ไง” จืออี้ขยิบดวงตากลมโตของเธอแล้วตอบกลับ

เธอเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์ รูปร่างของหญิงสาวนั้นเยี่ยมยอด ผ้าคลุมของนักบวชที่เปิดบริเวณหน้าอกเปิดเผยสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอมีให้เห็นจนเด่นชัด เป็นเต้าโตๆ ที่ขาวนวลเนียนของเธอนั่นเอง!

ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีใบหน้าเรียวรูปไข่ที่มีเสน่ห์ และก็มักยิ้มอยู่ตลอดเหมือนกับสุนัขจิ้งจอก ไม่ว่าผู้ชายคนใดก็คงจะถูกดึงดูดได้โดยไม่รู้ตัวเมื่อหญิงสาวใช้ดวงตากลมโตมองไปที่คนๆ นั้น

จืออี้จัดได้ว่าเป็นสาวที่สวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์ ร้อยทั้งร้อยผู้ชายคงจะถูกเธอดึงดูด แม้นักบุญก็คงไม่สามารถสงบนิ่งได้เมื่อได้มาอยู่ตรงหน้าของเธอไม่ว่าเขาจะมีความอดทนอดกลั้นเท่าไรก็ตาม

แต่เซียวเฟิงกลับไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย “เธอจะอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่ฉันต้องไปทำภารกิจของฉัน”

เซียวเฟิงไม่ต้องการที่จะเสียเวลาของอีกต่อไป เขาเรียกม้าดำออกมาแล้วขึ้นขี่มันออกไปจากหมู่บ้านหิมะในทันทีก่อนที่จืออี้จะได้พูดอะไรออกมาเสียอีก

“เฮ้! ภารกิจอะไรนั่นของนายขอฉันเข้าร่วมด้วยได้ไหม?” เซียวเฟิงได้ยินเสียงหวานๆ ของจืออี้ดังมาจากข้างหลังเขา ชายหนุ่มจึงหันกลับไปมอง และใบหน้าของเขาก็ดูหงุดหงิดขึ้นมาทันที เพราะอีกฝ่ายกำลังขี่ม้าสีขาวอยู่!

…ผู้หญิงคนนี้ยืนยันว่าเธอไม่มีม้าส่วนตัวตอนที่พวกเขาเดินทางมาที่หมู่บ้านหิมะ แต่ตอนนี้!!

เซียวเฟิงไม่คิดเลยว่าเธอจะจงใจกลับไปที่เมืองเซิงสุ่ยเพื่อไปซื้อม้าส่วนตัวในตอนที่เขาออกจากเกมไป

แต่ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจกับภาพที่จืออี้กำลังขี่ม้า เพราะขณะที่ม้าสีขาวกำลังวิ่งอยู่ หุ่นสมส่วนโค้งเว้าได้รูปของจืออี้ก็ได้ส่ายไปมาตามความเร็วที่ม้าวิ่งไปด้วย หน้าอกโตๆ ของเธอจึงขยับขึ้นลงช้าๆ ราวกับภาพวาดที่เคลื่อนไหวได้ และแม้จะเป็นถึงเซียวเฟิง แต่เขาก็ยังถูกหน้าอกคู่นั้นดึงดูดเอาไว้อยู่ดี!

“มันเป็นภารกิจคนเดียว จะให้สำเร็จฉันต้องทำมันคนเดียว” เซียวเฟิงปฏิเสธเธอโดยไม่ต้องคิด ภารกิจเนื้อเรื่องนั้นมีความสำคัญมาก และเขาไม่มีทางที่จะให้คนอื่นมามีส่วนร่วมด้วยเด็ดขาด!

“ช่วยพาฉันไปที่ภูเขาเจิดจรัสด้วย ฉันสงสัยเกี่ยวกับภูเขาลูกนั้น เพราะหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่ามันคือสำนักงานใหญ่ของวิหารแห่งแสง และหลังจากที่ฉันเปลี่ยนคลาสกลายเป็นผู้ประกอบพิธีกรรม ฉันก็ไม่สามารถเข้าไปในโบสถของเมืองหลักได้เลย”

จืออี้ยังคงรบเร้าเขาอยู่ ดูเหมือนว่าเธอมุ่งมั่นที่จะติดตามเซียวเฟิงไปให้ได้

“มีมอนสเตอร์อยู่บนหุบเขาหิมะมากเกินไป และพวกมันก็เป็นมอนสเตอร์ระดับสูง เธอสวมแค่เสื้อเกราะผ้าแบบนี้จะถูกพวกมันฆ่าเอาง่ายๆ ได้นะ” เซียวเฟิงเองก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะไล่เธอไปให้พ้นเช่นกัน

“ฉันเป็นผู้หญิงอ่อนแอ นายช่วยปกป้องฉันทีสิ”

“ความเป็นความตายของเธอไม่ใช่เรื่องของฉัน”

“นายเป็นผู้เล่นระดับเทพ ถ้านายไม่สามารถที่จะปกป้องผู้เล่นหญิงคนหนึ่งได้ ชื่อเสียงของนายจะเสื่อมเสียเอานะ”

“แล้วทำไมถึงไม่ฟังฉัน? กิลด์เธอฆ่าบอสตัวนั้นได้แล้วเหรอ? ทำไมถึงไม่กลับไปสั่งการกลุ่มนักบวชของเธอกันล่ะ?”

“บอสยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์ถูกฆ่าไปแล้ว แต่มันไม่ดรอปกิลด์โทเคน ทว่ากิลด์ของเราคงจะไม่สู้กับบอสที่มีเลเวลสูงในช่วงนี้อีก เพราะอย่างแรกเราไม่มีเป้าหมายที่จะโจมตี อย่างที่สองเราจะเริ่มต่อสู้กับบอสก็ต่อเมื่อผู้เล่นส่วนใหญ่ของเราเปลี่ยนคลาสสำเร็จ เพราะฉะนั้นเราถึงไม่มีการเรียกรวมตัวกันในตอนนี้ พวกเราเพียงแค่ต้องต่อสู้กับมอนสเตอร์เพื่อเพิ่มเลเวล ดังนั้นฉันจึงบอกกับหัวหน้ากิลด์ว่าฉันต้องการที่จะติดตามนายเพื่อช่วยทำภารกิจ แล้วเขาก็ให้วันหยุดหนึ่งวันกับฉันทันทีโดยไม่ถามอะไรซักคำ!”