ตอนที่ 107 ร่างที่ทรงพลัง / ตอนที่ 108 กำเนิดใหม่จากกองไฟ

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 107 ร่างที่ทรงพลัง

 

 

ก่อนหน้านี้ไม่นาน หลินเยียนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากมีเรื่องมีราวกับหลินซูหย่าและหันอี้เซวียน ทำให้วงการบันเทิงเกิดความสับสนวุ่นวายขนานใหญ่ และเธอก็ยังเสียแฟนๆ ไปอีกจำนวนหนึ่งด้วย!

 

 

หลังจากนั้น หลินเยียนหวนกลับสู่อาชีพนักแสดงและทำให้วงการบันเทิงลุกเป็นไฟจากข่าวฉาวแทบจะทันทีที่เธอกลับมา

 

 

คราวนี้ เธอตกเป็นข่าวกับดาราตัวท็อปอย่าง เผยหนานซวี่ และยังมีรูปถ่ายยืนยันอีกด้วย

 

 

แต่ถึงกระนั้น ทางต้นสังกัดของทั้งสองฝ่ายต่างให้การปฏิเสธในทันทีเมื่อข่าวนั้นกลายเป็นที่สนใจในวงกว้าง อีกทั้งยังไม่มีใครกล้าเขียนข่าวที่จะทำให้เผยหนานซวี่เสียหาย ดังนั้น ข่าวนี้จึงถูกฝังกลบไปอย่างเงียบๆ ในท้ายที่สุด

 

 

ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าหลินเยียนที่เคยปฏิเสธการสัมภาษณ์ทุกรูปแบบในอดีตจะก้าวออกมาประชันหน้ากับสื่อแบบนี้

 

 

ร่างเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังของหญิงสาวอาจสร้างข่าวอื้อฉาวได้ในชั่วพริบตาเพียงแค่อ้าปากพูดอะไรสักอย่างเท่านั้น!

 

 

เหล่านักข่าวคิดว่า การถ่อมาถึงกองถ่ายครั้งนี้นั้นคุ้มค่าสุดๆ!

 

 

ด้วยเหตุนี้เอง นักข่าวทุกคนจึงตื่นเต้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวที่มาจากสื่อซุบซิบดาราหรือผู้สื่อข่าวจากสถานีใหญ่ๆ ต่างก็ให้ความสนใจหลินเยียนและพากันแทรกตัวเข้าห้อมล้อมเธออย่างเอาเป็นเอาตาย ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเจี่ยงซือเฟยอีกแล้ว

 

 

แน่นอนว่าไม่มีสื่อเจ้าไหนกล้าปล่อยโอกาสได้ข่าวใหญ่ที่ดึงดูดนักอ่านขนาดนี้ให้หลุดมือไป

 

 

แม้แต่ทีมงานของกองถ่ายเองก็พากันทิ้งงานแล้วมาร่วมเขย่งยืดคอเพื่อให้มองเห็นหลินเยียนได้ชัดเจนขึ้น

 

 

บัดนี้ เจี่ยงซือเฟยทีเคยเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจกลับถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังอย่างหงอยเหงาและน่าสงสาร เธอยืนเก้ๆ กังๆ ในชุดแบรนด์หรู

 

 

จูมั่นเชี่ยนไม่เคยคิดว่าดาราปลายแถวที่จ้าวหงหลิงเป็นคนดูแลและร้างวงการไปนานจะสามารถฉกชิ้นปลามันไปจากพวกเธอได้เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ เธอตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “นี่! คุณผู้สื่อข่าวเจียง…คุณผู้สื่อข่าวเฝิง…จะไปไหนไม่ทราบ?”

 

 

เธอจ่ายเงินไปมากโขเพื่อจ้างเหล่านักข่าว อีกทั้งยังใช้เส้นสายในการเชิญนักข่าวมาใช้โปรโมทเจี่ยงซือเฟย แต่สุดท้ายแล้วทุกคนกลับหันไปหาหลินเยียนกันหมด!

 

 

หลินเยียนตั้งใจจะเก็บดอกเก็บผลของเมล็ดที่เธอเป็นคนหว่านลงไปอย่างยากลำบากหรือยังไงกัน

 

 

นังแพศยาคนนี้กล้าดียังไงถึงได้มาลูบคมเธอแบบนี้

 

 

จูมั่นเชี่ยนไม่คิดว่าหลินเยียนจะหน้าด้านได้ถึงเพียงนี้ ถ้าเป็นคนทั่วไปคงขุดหลุมกลบตัวเองเพื่อหนีบรรดาคำด่าทอรุนแรงและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปแล้ว

 

 

แต่หล่อนกลับวางมาดอวดดี แถมยังสวมชุดเห่ยๆ เพื่อดึงดูดความสนใจแบบนั้นอีก!

 

 

แม้ว่าจะมีแต่เรื่องไม่ชอบมาพากล แต่หลินเยียนก็สามารถหลอกล่อนักข่าวได้สำเร็จ…

 

 

หลินเยียนส่งยิ้มกว้างอย่างผู้มีชัยให้จูมั่นเชี่ยนจนผู้จัดการสาวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในทันที

 

 

ต้องขอขอบคุณหลินซูหย่าที่สรรหาทุกวิธีมาทำลายชื่อเสียงของพี่สาว หลินเยียนจึงไม่ลังเลที่จะหยิบชื่อเผยหนานซวี่มาอ้างเพื่อเปลี่ยนเรื่องวุ่นๆ ชวนปวดหัวให้กลายเป็นโอกาสอันโอชะที่ฟ้าประทานมาให้

 

 

หลินเยียนจะใช้มีดเล่มที่หลินซูหย่าแทงเธอเป็นเครื่องมือเพื่อนำความดีความชอบของเธอกลับมาให้สาแก่ใจ!

 

 

ตัวตัวมองเหล่านักข่าวที่มีท่าทางตื่นเต้นพลางคิดถึงกองทัพแอนตี้แฟนของหลินเยียน เธอรู้สึกสับสน

 

 

ผู้กำกับเจียงอีหมิงและโปรดิวเซอร์เฝิงอันหวาเดินเข้ามาในห้อง พวกเขาเดาว่าบรรดานักข่าวน่าจะมารอสัมภาษณ์นางเอกที่ทางทีมงานตั้งใจจะปิดเป็นความลับโดยไม่ได้คาดคิดเลยว่าเจี่ยงซือเฟยจะกำลังยืนอยู่คนเดียวอย่างน่าเวทนาอยู่ที่มุมหนึ่ง

 

 

คำพูดไม่กี่คำของหลินเยียนล่อลวงเหล่านักข่าวทั้งหมดให้มารุมตอมเธอได้

 

 

“โปรดิวเซอร์เฝิง! ดูเข้าสิ…น่ากลัว! วุ่นวายกันไปหมด!” เจียงอีหมิงขมวดคิ้วอย่างไม่เห็นด้วย

 

 

แววตาของเฝิงอันหวาเปล่งประกายราวกับมีความคิดดีๆ เขาพูดอย่างสบายๆ ว่า “ช่างเถอะครับ ไม่เป็นไรหรอก ให้เธอสัมภาษณ์ต่อไปแหละ ไหนๆ เราก็ได้โปรโมตฟรีๆ ไปด้วยนะ…”

 

 

ดาราหญิงคนนี้ปล่อยข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอและหันอี้เซวียน ใส่ร้ายป้ายสีหลินซูหย่า และยังถูกแบนจากสังกัดไทรอัมพ์เอนเตอร์เทนเมนต์อีกด้วย

 

 

ว่ากันตามตรงแล้ว กองถ่ายไหนๆ ก็คงไม่อยากยุ่งกับดาราเจ้าปัญหาอย่างเธอแน่

 

 

แต่ถ้าเธอสามารถโปรโมตกองถ่ายนี้ได้ดีกว่าทั้งฝ่ายที่รับผิดชอบเรื่องการประชาสัมพันธ์ นั่นก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

 

 

 

ตอนที่ 108 กำเนิดใหม่จากกองไฟ

 

 

นักข่าวทุกคนต่างผลักและกระแทกกันและกันขณะที่พยายามหันกล้องไปทางหลินเยียน

 

 

ตั้งแต่ที่หลินเยียนกลับมาอีกครั้ง เธอได้เก็บเงียบเรื่องที่เธอป่วยด้วยโรคนอนไม่หลับอย่างรุนแรงเป็นความลับจากทุกคน อีกทั้งภาวะซึมเศร้ายังส่งผลให้สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่อย่างมาก

 

 

อาการของเธอค่อยๆ ทุเลาขึ้นอย่างช้าๆ แม้ว่าจะไม่ได้รักษาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน อาจเป็นเพราะเธอลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่และหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนวิชาการแสดง เธอเริ่มอยากอาหารและปรับเวลานอนให้เป็นตามปกติได้ อาการนอนไม่หลับของเธอดีขึ้นอย่างมาก และผิวพรรณก็สดใสเปล่งปลั่งขึ้นแม้ว่าจะไม่ได้ประโคมครีมบำรุงผิวก็ตาม

 

 

นักข่าวสังเกตเห็นว่าหลินเยียนสวมเสื้อแขนยาวสีดำธรรมดาๆ ตัวหนึ่งกับกางเกงยีนส์เข้ารูปที่เผยรูปร่างของขายาวๆ คู่นั้น ผมสีดำนุ่มลื่นดุจเส้นไหมของเธอถูกรวบไว้อย่างหลวมๆ และประอยู่บนบ่า ไม่มีเครื่องสำอางใดๆ อยู่บนใบหน้าของเธอเลยแม้แต่น้อย เธอจึงไม่ดูซีดเซียวราวกับผีเหมือนแต่ก่อน ใบหน้าดูสะอาดราวกับหยกขาวและแทบไม่มีรูขุมขน ผิวพรรณของเธอเรียบเนียนและมีเลือดฝาดเล็กน้อย

 

 

หลินเยียนถอดหมวกออกเพื่อเผยให้เห็นใบหน้าทั้งหมด จมูกของเธอเล็กและโด่ง ปากเป็นกระจับและมีสีชมพูราวกลีบดอกซากุระ คิ้วดกดำเหมือนถูกวาดด้วยน้ำหมึกอย่างคมชัดสวยงาม หางตารูปกลีบดอกท้อชี้ขึ้นเล็กน้อย มีประกายแวววาวที่ดูคล้ายกับดวงดาวอยู่ภายในดวงตาของเธอ รอยยิ้มจางๆ ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับใบหน้าของเธอได้เป็นอย่างดี

 

 

พวกตากล้องแอบถ่ายรูปของหลินเยียนในช่วงที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังมีเรื่องกับหลินซูหย่าและหันอี้เซวียนเอาไว้ สภาพของเธอดูรุงรัง และท่าทางล่องลอยน่ากลัวราวกับผี

 

 

นักข่าวทุกคนคาดหวังว่าจะได้เห็นหญิงสาวคนเดิมที่ดูกระเซอะกระเซิงและเศร้าซึมซึ่งพร้อมจะด่ากราดทุกอย่าง ไม่มีใครคิดเลยว่าหลินเยียนจะสวยขนาดนี้

 

 

ในวินาทีนั้นเอง ความเงียบก็เข้าครอบงำทั่วทั้งห้องสตูดิโออย่างประหลาด

 

 

หลินเยียนใช้หมวกปิดบังใบหน้ามาตลอดตั้งแต่เดินเข้ามาในสตูดิโอ จึงไม่มีใครเห็นหน้าตาของเธอได้อย่างชัดเจนจนกระทั่งตอนนี้

 

 

หากเธอไม่ประกาศตัวว่าคือหลินเยียนก็คงไม่มีนักข่าวหน้าไหนจำเธอได้อย่างแน่นอน ทุกคนในห้องต่างตะลึงขณะจับจ้องเธอด้วยความงุนงง และในไม่ช้า พวกเขาก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน

 

 

“พระเจ้าช่วย สุดสวยคนนั้นคือหลินเยียนเหรอ ทำไมเปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะ มีดหมอรึเปล่า”

 

 

“ดูดีๆ สิยะ หน้าตายังเหมือนเดิมเป๊ะเลยเหอะ แต่…จะว่าไงดี เธอให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลยนะ…”

 

 

“พูดแบบไม่อคติเลยนะ ที่จริงหลินเยียนก็เป็นคนสวยคนหนึ่ง จำตอนที่เธอขึ้นปกนิตยสารจนดังระเบิดในโลกออนไลน์ได้รึเปล่าล่ะ”

 

 

 

 

เมื่อตอนที่หลินเยียนเพิ่งเดบิวต์ใหม่ๆ เธอได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากรูปภาพรูปหนึ่ง

 

 

รูปนั้นเป็นรูปภาพของหลินเยียนที่กำลังนั่งอยู่บนรถแข่งรุ่นโบราณ มือหนึ่งก่ายหน้าผากอย่างเฉื่อยชาในขณะที่จ้องมองออกไปยังท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างและมีแสงระยิบระยับสะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอ

 

 

รูปภาพนี้สร้างความอัศจรรย์ใจให้แก่ทุกคนที่พบเห็น สีหน้าที่เฉยชาระคนเศร้าหมองของหญิงสาวขโมยหัวใจของทุกคนได้อยู่หมัด

 

 

แฟนๆ กลุ่มแรกของหลินเยียนเริ่มนิยมชมชอบเธอเพราะรูปนี้

 

 

แค่ภาพถ่ายธรรมดาๆ ของหลินเยียนก็สามารถดึงดูดใจผู้คนได้นับไม่ถ้วน ช่างเป็นใบหน้าที่งดงามดุจสวรรค์สร้าง และยังเป็นใบหน้าที่หลายๆ คนในวงการบันเทิงหลงใหลเป็นอย่างมาก

 

 

น่าเสียดายที่หลินเยียนเริ่มแย่ลงหลังจากนั้น น้ำหนักของเธอลดฮวบเพราะสูตรไดเอตสุดโต่ง ใบหน้าที่สวยงามกลับเศร้าหมองเพราะภาวะซึมเศร้า ความเปล่งประกายและความสดใสของผิวพรรณจางหายไปจนหมดสิ้น และที่แย่ที่สุดคือเธอมักแต่งหน้าให้ขาวซีดราวกับผี และยังสวมเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะกับบุคลิกเลย

 

 

แต่ตอนนี้ หลินเยียนปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอีกครั้งในแบบฉบับที่ต่างจากคนเก่าโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าเธอกำเนิดใหม่จากกองไฟ

 

 

แม้ว่าหลินเยียนคนเก่าและคนใหม่จะมีใบหน้าเดียวกันอย่างแน่นอน แต่ความงามของเธอในตอนนี้ทั้งน่าหลงใหลและน่าทึ่ง

 

 

เธอดูสวยกว่าเดิม สวยกว่าในรูปถ่ายที่เคยทำให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกเสียอีก