บทที่ 98 หลินซีเหยียน เจ้ากล้างั้นเหรอ?

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 98

หลินซีเหยียน เจ้ากล้างั้นเหรอ?

จนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นสูง อากาศที่เย็นอยู่เมื่อสักครู่ก็ได้เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ

ไม่นานนักฮูหยินอวี้ก็เริ่มเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผาก และพูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ทำไมแม่นมถึงยังไม่กลับมาอีก?”

พูดจบไม่ทันไร แม่นมก็ได้ผลักทั้งสามคนเข้ามาในตำหนักเชียนเหยียน ซึ่งทั้งสามคนประกอบด้วยสวี่หงอิง, สาวใช้รั่วฉุ่ยและจิ่งชุน ที่เหลืออีกคนก็น่าจะคือแม่นมของนาง

ในขณะเดียวกันกับที่ทุกคนมาถึง ลูกไฟสีขาวทั้งสองลูกก็ได้กลับเข้ามาในแขนเสื้อของหลินซีเหยียน จากนั้นหลินซีเหยียนก็รู้ว่าแม่นมนั้นถูกขังอยู่ที่ใด นางจึงได้กระซิบกระซาบกับจี๋เฟิงแล้วจี๋เฟิงก็ได้ออกไป

“ข้าพาคนของเจ้ามาแล้ว เจ้าก็ไปพาลูกสาวของข้ามาได้แล้ว!” ฮูหยินอวี้ก็ได้หรี่สายตา แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงเชิงบังคับ

หลินซีเหยียนไม่ตอบอะไร แล้วก็มองไปที่แม่ครัว, จิ่งชุน และรั่วฉุ่ยจากนั้นก็ได้พูดออกมาเบาๆด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เจ้ากล้าทำร้ายพวกเขาอย่างนั้นเหรอ?”

จิ่งชุนมีรอยแผลที่แขน สวี่หงอิงมีรอยที่ใบหน้า ส่วนรั่วฉุ่ยนั้นมีรอยแผลเกือบทั่วทั้งตัว รั่วฉุ่ยนั้นมีร่างกายที่อ่อนแอ นางไม่สมควรที่จะโดนทำร้ายเช่นนี้

แต่ก่อนที่ฮูหยินอวี้จะได้กล่าวอะไร หลินซีเหยียนก็ได้ให้ ชิงอวี่ไปลากหลินหัวเยว่มา

หลินหัวเยว่นั้นได้พากลุ่มมือสังหารมาลอบฆ่า หลินซีเหยียน ในเวลานั้นนางเต็มไปด้วยความมั่นใจมาก แต่นางไม่นึกเลยว่านางจะพลาดและไม่อยากที่จะนึกถึงตอนที่เหล่ามือสังหารถูกจัดการอย่างเหี้ยมโหด

เมื่อใดที่นางนึกถึงเหตุการณ์ที่น่าสลดของคนเหล่านั้นเมื่อคืนนี้แล้ว ท้องของนางก็รู้สึกปั่นป่วนขึ้นมา

“หลินซีเหยียน แลกเปลี่ยนคนได้แล้ว!” ฮูหยินอวี้เห็นสภาพผมที่กระเซอะกระเซิง, ใบหน้าที่ซีดเซียว, ซูบซีดและดูกระวนกระวายของหลินหัวเยว่แล้ว นางก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน

หลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มอย่างประชดประชัน นางได้ลุกขึ้นยืนและเดินไปยังต้นไม้ต้นหนึ่งแล้วหักกิ่งไม้มากิ่งหนึ่ง แล้วจากนั้นก็ค่อยๆเดินไปหาหลินหัวเยว่

“เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ?” ฮูหยินอวี้ถามอย่างเป็นกังวลเพราะนางไม่รู้ว่าหลินซีเหยียนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่

หลินหัวเยว่เองก็มองไปที่หลินซีเหยียนอย่างหวาดกลัว มีความตื่นตระหนกในสายตาของนางอย่างเห็นได้ชัด “เจ้า….คิดที่จะทำอะไรกับข้าน่ะ?”

“จะทำอะไรอย่างนั้นเหรอ?” หลินซีเหยียนก็ได้หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วจากนั้นก็พูดตวาดออกมาอย่างโมโห “แน่นอนข้าก็จะเอาคืนจากบาดแผลที่พวกนางได้รับกับเจ้ายังไงล่ะ! แล้วก็ข้าน่ะต่างจากแม่ของเจ้าอยู่แล้ว ข้าน่ะเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้นมากที่สุดเลยล่ะ”

“ไม่….อย่านะ ท่านแม่ช่วยข้าด้วย!” หลินหัวเยว่ร้องตะโกนอย่างสุดเสียง และในเวลานี้นางไม่มีท่าทีมาดมั่นเหมือนเมื่อวานนี้

แน่นอนว่าหลินซีเหยียนเองก็ไม่หยุดเพียงเพราะนางร้องขอ ถึงแม้กิ่งไม้นั้นจะเล็กและอ่อนแต่ก็ยังรุนแรงพอๆกับหวายอยู่ดีเมื่อฟาดลงไป ไม่นานนักหลินหัวเยว่ก็ได้เริ่มกลิ้งไปมาบนพื้นห้องและร้องขอความปรานี

“หลินซีเหยียนเจ้าทำมากเกินไปแล้วนะ เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะทำอะไรกับพวกเขารึไง?” ฮูหยินอวี้ก็ได้เตะรั่วฉุ่ยทันทีที่นางกล่าว

รั่วฉุ่ยที่บาดเจ็บอยู่ จึงไม่อาจที่จะต้านทานการเตะอย่างแรงของฮูหยินอวี้ได้ จึงลงไปกองกับพื้นทันทีแต่รั่วฉุ่ยก็ไม่ได้กรีดร้องอะไรออกมาเพราะนางไม่ต้องการให้คุณหนูของนางถูกควบคุมโดยคนอื่นเพราะนาง

หลินซีเหยียนที่เห็นดังนั้นดวงตาของนางก็ได้แดงขึ้นมา แล้วนางก็ได้ฟาดกิ่งไม้หนักมากขึ้นเรื่อยๆ หลินหัวเยว่จึงได้มีรอยแผลช้ำมากขึ้นเรื่อยๆอย่างรวดเร็วแต่นางก็ทำได้แค่โกรธแค้นอยู่ในใจ

ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้ฮูหยินอวี้ไม่กล้าที่จะทำอะไรกับคนในตำหนักเชียนเหยียนอีก ทำได้แต่มองดูลูกสาวของนางทุกข์ทรมาน

“หลินซีเหยียน เจ้าพอได้แล้ว เรามาแลกเปลี่ยนกันได้แล้ว” ฮูหยินอวี้ถือผ้าเช็ดหน้าปิดหน้าของนางเอาไว้แล้วพูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ

หลินซีเหยียนก็ได้มองไปที่หญิงสาวที่หายใจอย่างรวยรินที่อยู่ตรงหน้านางแล้วก็รู้สึกได้ว่าน่าจะพอได้แล้ว นางจึงได้โยนกิ่งไม้ในมือของนางทิ้งไปแล้วหันหน้าไปยิ้มให้กับฮูหยินอวี้ “ก็ได้ มาแลกเปลี่ยนกัน!”

ฮูหยินอวี้นั้นไม่กล้าที่จะไปยั่วโมโหหลินซีเหยียน จึงได้ตอบตกลงด้วยวาจาที่ไพเราะ

หลังจากที่การแลกเปลี่ยนของทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้น ฮูหยินอวี้ก็ได้สะบัดมือของนางแล้วเหล่าข้ารับใช้ที่อยู่ด้านหลังของนางก็ได้พากันรุมล้อมหลินซีเหยียนและคนอื่นๆทันที หลินซีเหยียนก็ได้มองด้วยความสงบนิ่งแล้วถาม “ฮูหยินอวี้คิดที่จะทำอะไรไม่ทราบ?”

“หลินซีเหยียนเจ้าทำร้ายลูกสาวของข้าขนาดนี้ เจ้าคิดเหรอว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปง่ายๆน่ะ?” ฮูหยินอวี้มองไปที่ หลินซีเหยียนด้วยสายตาที่ชั่วร้าย และเมื่อสักครู่นางก็ได้ตรวจดูรอยแผลของลูกสาวนางแล้ว และพบว่ามีรอยแผลเกือบทั่วทั้งตัวของนาง จึงทำให้ฮูหยินอวี้โมโหอย่างมาก

“ฮูหยินอวี้จะไม่ปล่อยข้าไปจริงๆเหรอ?” หลินซีเหยียนถามอย่างสนใจ

“ข้าจะทำให้เจ้าต้องได้ลิ้มรสการโดนฟาด 100 ครั้ง” ฮูหยินอวี้ก็ได้แสยะยิ้มเห็นฟันออกมา

หลินซีเหยียนก็ได้ยักไหล่อย่างไม่เห็นด้วย “ถ้าฮูหยินอวี้คิดว่าสามารถทำได้ก็ลองทำดู!”

ในขณะที่ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากันอยู่ จนกระทั่งมาถึงจุดวิกฤติ จี๋เฟิงก็ได้กลับมาพร้อมกับคนคนหนึ่งในอ้อมแขนของเขาและคนคนนั้นก็คือแม่นมจ้าวนั่นเอง

หลินซีเหยียนก็ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อนางเห็นเช่นนี้ แล้วนางก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลอีกต่อไป นางก็ได้หยิบเอาขวดยาออกมาจากที่เอวแล้วโปรยมันท่ามกลางเสียงกรีดร้องของฮูหยินอวี้ หลังจากนั้นสักพักเหล่าข้ารับใช้ทั้งหมดในตำหนักก็ลุกขึ้นยืนไม่ได้

ฮูหยินอวี้ก็ได้กรีดร้องและรีบวิ่งหนีไปและพาตัวหลินหัวเยว่ไปด้วย ซึ่งหลินซีเหยียนก็ไม่ได้รั้งนางเอาไว้เมื่อเห็นเช่นนั้น

จนกระทั่งมหาเสนาบดีหลินกลับมาถึงบ้าน เขาก็ได้รีบมาหาฮูหยินอวี้ที่ตื่นตระหนกและหลินหัวเยว่ที่กรีดร้อง เขานั้นคิ้วขมวดและถามอย่างใจเย็น “เกิดอะไรขึ้น ใครทำพวกเจ้าจนเป็นอย่างนี้?”

“ท่านพี่” ฮูหยินอวี้ที่เห็นมหาเสนาบดีหลินมาหาก็เหมือนกับมีพระมาโปรด นางจึงได้รีบไปหามหาเสนาบดีหลินแล้วร้องห่มร้องไห้ “ท่านพี่ต้องช่วยข้านะเจ้าคะ หลินซีเหยียนมันจะฆ่าพวกเราเจ้าค่ะ”

“ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นคนที่กักบริเวณหลินซีเหยียนไว้ในตำหนักเชียนเหยียนหรอกเหรอ? นางจะไปทำร้ายพวกเจ้าเช่นนี้ได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่านางน่าจะกลัวว่าพวกเจ้าจะไปฆ่านางเสียมากกว่าอีกเหรอ?” มีแววตารังเกียจปรากฏขึ้นมาในดวงตาของมหาเสนาบดีหลิน เดี๋ยวนี้ฮูหยินอวี้นั้นร้องห่มร้องไห้อยู่ตลอดจนไม่มีความเป็นนายหญิงเหลืออยู่แค่ครึ่งเดียว นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นภรรยาของเขา เขาคงจะโยนนางออกนอกจวนไปนานแล้ว

ฮูหยินอวี้นั้นไม่เห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของมหาเสนาบดีหลินไม่พอ แล้วนางยังเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ให้เขาฟังอีก แล้วนางก็ได้มองไปที่มหาเสนาบดีหลินอย่างเต็มไปด้วยความหวัง และรอให้อีกฝ่ายตัดสินใจที่จะช่วยนาง

มหาเสนาบดีหลินก็ได้ยืนนิ่งๆอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างหมดความอดทน “นังโง่ เจ้าปล่อยให้ไพ่ในมือหลุดออกไปหมดเลยงั้นเหรอ? เดิมทีหลินซีเหยียนก็อยู่เหนือการควบคุมของข้าอยู่แล้ว แล้วตอนนี้เจ้ายังจะทำหมากต่อรองของข้าเสียไปหมดอีก”

“แต่ท่านพี่เจ้าคะ ท่านพี่เป็นถึงหัวหน้าของครอบครัวเลยนะเจ้าคะ!” ฮูหยินอวี้คิดไม่ถึงและมองไปที่มหาเสนาบดีหลินที่กำลังโกรธและท้อใจ จึงได้พยายามพูดเพื่อปลุกใจสู้ของเขา

ในขณะที่ฮูหยินอวี้ร้องห่มร้องไห้ถึงความทรพีของ หลินซีเหยียนอยู่นั้น ภรรยาคนที่สี่ของมหาเสนาบดีหลิน เฉิงเหยียนก็เดินอุ้ยอ้ายท้องโตออกมา

“ข้าก็ว่าใครที่ร้องห่มร้องไห้ใหญ่โตอยู่ได้ ที่แท้ก็เป็น ฮูหยินอวี้นี่เอง!” ถึงแม้ว่าเฉิงเหยียนนั้นตั้งท้องอยู่ แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผลกับร่างกายและรูปโฉมของนางมากนัก

ในเวลานี้เมื่อทั้งสองคนมาเทียบกันแล้ว ฮูหยินอวี้นั้นดูด้อยไปเลย

เมื่อฮูหยินอวี้นางความยั่วยวนของนางแล้วนางก็รู้สึกรังเกียจขึ้นมา จากนั้นนางก็ได้หยุดร้องห่มร้องไห้แล้วก็มองไปที่เฉิงเหยียนและกล่าวอย่างดูหมิ่น “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ เจ้าไม่เห็นเหรอว่าข้ากำลังคุยกับท่านพี่อยู่น่ะ!”