บทที่ 84 ใช้พลังปราณเที่ยงแท้ทำเนื้อตุ๋นตำรับจีน

ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก: GOURMET OF ANOTHER WORLD

ปู้ฟางไม่ได้คาดคิดว่าสูตรการทำเนื้อตุ๋นตำรับจีนจะโผล่มาตอนนี้ เขายังจำรสชาติของเนื้อหมูอสูรเวทตุ๋นที่ร้านปักษาเพลิงนิรันดร์ได้เป็นอย่างดี แม้จะพบข้อผิดพลาดมากมาย แต่ก็ต้องยอมรับว่ารสชาติอร่อยใช้ได้

ด้วยความที่เขาเป็นพ่อครัว แน่นอนว่าปู้ฟางย่อมเคยกินเนื้อตุ๋นตำรับจีนมาก่อน และคุ้นเคยกับวิธีการทำเป็นอย่างดี แต่เขาก็ยังไม่เริ่มทำทันที เนื่องจากสูตรเนื้อตุ๋นตำรับจีนที่ระบบมอบให้แตกต่างจากสิ่งที่เขาเคยทำมาก่อน

ปู้ฟางเปิดสูตรเนื้อตุ๋นตำรับจีนจากระบบออกมาอ่าน

“สูตรการทำเนื้อตุ๋นตำรับจีน: สูตรอาหารนี้จำเป็นต้องใช้พลังปราณเที่ยงแท้ในการทำ โดยถือเป็นการทดสอบความสามารถในการควบคุมพลังปราณเที่ยงแท้และการจัดการวัตถุดิบ เนื้อที่เลือกใช้มาจากกวางสวรรค์ลงทัณฑ์ อสูรเวทระดับห้า เนื้อของกวางชนิดนี้มีกลิ่นเข้ม แต่เสียหายได้ง่าย หากนายท่านทำผิดพลาดระหว่างการเตรียมวัตถุดิบจะทำให้กินไม่ได้ทันที”

สูตรการทำเนื้อตุ๋นตำรับจีนของระบบนั้นแตกต่างจากสูตรทั่วไป ปู้ฟางประหลาดใจเล็กน้อยที่ต้องใช้พลังปราณเที่ยงแท้ในการทำอาหารจานนี้ด้วย นี่มิได้แปลว่าอาหารที่ระบบจะให้หลังจากนี้ต้องใช้พลังปราณเที่ยงแท้ในการทำทั้งหมดหรือ

ยิ่งไปกว่านั้นชนิดของเนื้อที่ใช้ในจานนี้กลับเป็นเนื้อกวางแทนเนื้อหมู ซึ่งเป็นเนื้อที่ใช้ในสูตรดั้งเดิมทั่วไป ชนิดของเนื้อที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจเป็นอันมาก

ปู้ฟางไปหยุดอยู่หน้าตู้ใส่ของแล้วเปิดประตูตู้ออก ข้างในตู้มีเนื้อกวางสีแดงก้อนหนึ่ง อาจเป็นเพราะมันเป็นเนื้อกวางจากอีกโลกหนึ่ง แต่ปู้ฟางก็สังเกตว่าไขมันใต้ผิวหนังของกวางที่นี่หนากว่ากวางที่เขาเคยเห็นมาก่อน มันมีลักษณะค่อนข้างคล้ายเนื้อหมูมากทีเดียว แต่แน่นอนว่าความนุ่มของเนื้อสองชนิดนี้ก็ย่อมแตกต่างกัน

เนื้อกวางก้อนนี้มีกลิ่นประหลาด เป็นกลิ่นที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกอยากอาหาร แต่ทำให้อยากสูดดมเข้าไป

ปู้ฟางหยิบเนื้อกวางมาวางบนเขียงอย่างระมัดระวัง เขาส่งจิตเพื่อเรียกมีดทำครัวกระดูกมังกรทองออกมาไว้ในมือ

มีดทำครัวหมุนวนอยู่บนฝ่ามือสักพัก จากนั้นปู้ฟางก็ใช้มีดหั่นผิวเนื้อกวางเพื่อเอาไขมันจำนวนหนึ่งออก เมื่อเสร็จแล้วชายหนุ่มก็เทน้ำจากบ่อน้ำพุสะอาดบริสุทธิ์ออกมาแช่เนื้อกวางไว้ครู่หนึ่ง

ปู้ฟางเอาสันมีดทุบเนื้อกวางก่อนยกมีดขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

การเตรียมเนื้อกวางสวรรค์ลงทัณฑ์นั้นมีข้อควรระวังเขียนไว้เพียงข้อเดียว คือจะต้องทำทั้งหมดอย่างรวดเร็วและดูให้แน่ใจว่าแต่ละชิ้นมีผิวที่เรียบเนียนดี ซึ่งจะทำให้ทั้งกลิ่นและพลังปราณที่อยู่ภายในเนื้อกวางอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัวและทำให้เนื้อไม่เหม็นหืน

นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มใช้มีดทำครัวกระดูกมังกรทองประกอบอาหาร แต่กลับดูช่ำชองเหมาะมือเป็นอย่างมาก เขาหั่นเนื้อด้วยความเร็วสูง เนื่องจากได้ฝึกทักษะการใช้มีดฝนดาวตกจนเกือบสำเร็จระดับแรกแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด

ป๊อก ป๊อก ป๊อก ป๊อก ป๊อก!

เสียงมีดทำครัวกระดูกมังกรทองกระทบเขียงดังกังวานในห้องครัว ไม่นานนักเนื้อกวางก็ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ แต่ละชิ้นเรียบเนียนสวยงาม เรียกได้ว่าเกือบสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

ชายหนุ่มเทน้ำเดือดพล่านลงในชามที่ใส่เนื้อกวาง จนทุกชิ้นจมน้ำร้อนมิด

จากนั้นปู้ฟางก็เริ่มเตรียมวัตถุดิบอื่น เขาไม่ได้ใส่น้ำมันในกระทะเนื่องจากสามารถใช้ไขมันกวางแทนได้ หากใช้น้ำมัน กลิ่นที่แตกต่างของน้ำมันจะทำให้รสชาติของเนื้อเปลี่ยนไป

หลังจากที่รอกระทะให้ร้อนได้ที่ ชายหนุ่มก็ตรวจดูให้แน่ใจว่าอุณหภูมิร้อนพอลวกมือ เขาหยิบเนื้อกวางออกจากน้ำร้อน แล้วใช้พลังปราณเที่ยงแท้ดูดซับความชื้นของน้ำออกจากเนื้อก่อนโยนลงกระทะ

ทันทีที่ชิ้นเนื้อกระทบผิวกระทะ เสียงฉ่าก็ดังขึ้นพร้อมด้วยกลิ่นหอมหวนที่โชยออกจากชิ้นเนื้อกวาง

ปู้ฟางไม่ได้มัวแต่ยืนดมกลิ่นหอมนั้นอยู่ แต่หยิบก้อนน้ำตาลสีน้ำตาลที่ระบบเตรียมไว้ให้มาบดให้เป็นผงแล้วหันไปสนใจกระทะอีกครั้ง

เมื่อไขมันไหลออกจากเนื้อกวาง ชายหนุ่มก็เทผงน้ำตาลลงไปในกระทะ แล้วเริ่มผัดโดยใช้ตะหลิวทันที

การผัดของปู้ฟางมีจังหวะของตัวเองอยู่ เนื่องจากเขาเป็นพ่อครัวที่มากด้วยประสบการณ์

หลังจากที่น้ำตาลสีน้ำตาลละลายกลายเป็นน้ำเชื่อมเรียบร้อยและปกคลุมเนื้อกวางทุกชิ้นอย่างทั่วถึงกัน เนื้อกวางที่ก่อนหน้านี้เป็นสีขาวจากการลวกน้ำร้อนก็เปลี่ยนเป็นสีแดงสด กลิ่นของเนื้อฟุ้งกระจายออกมาอย่างชัดเจน เข้าปกคลุมทั้งห้องครัวอย่างไม่ปราณี

หลังจากที่เทน้ำจากบ่อน้ำพุใส่ในกระทะ ปู้ฟางก็เอาฝามาปิดกระทะไว้ สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เนื่องจากขั้นต่อไปเป็นการใช้พลังปราณเที่ยงแท้ในการทำอาหาร

เขาบังคับพลังปราณเที่ยงแท้ในลมหมุนให้เริ่มหมุนวนในเส้นปราณ จากนั้นก็ผลักพลังปราณเข้าสู่กระทะให้คลุมเนื้อทุกชิ้นเอาไว้

ซอสในกระทะที่เดือดปุดทำให้เนื้อแต่ละชิ้นกระเด้งกระดอนไปมา ไขมันที่ปกคลุมชิ้นเนื้อเอาไว้ทอประกายเหมือนหยกล้ำค่า เนื้อกวางปล่อยกลิ่นหอมออกมาอย่างไม่บันยะบันยัง

เมื่อซอสในกระทะระเหยไปจนเกือบหมด ปู้ฟางก็เลิกปล่อยพลังปราณเที่ยงแท้ เขาเปิดฝากระทะออกแล้วเริ่มผัดอีกครั้ง ซอสที่ข้นกว่าเดิมมากเคลือบเนื้อกวางเอาไว้ครบถ้วนทุกชิ้น

หลังจากที่ใส่เกลือและซีอิ๊วลงไป กลิ่นเนื้อก็เข้าที่ในที่สุด กลิ่นหอมของเนื้อกวางควบคู่มากับกลิ่นหวานของน้ำตาล… แค่ดมปู้ฟางก็รู้สึกหิวจนน้ำลายสอแล้ว

จากนั้นเขาก็หยิบจานกระเบื้องสีฟ้าขาวออกมาเทเนื้อตุ๋นตำรับจีนลงไป เพียงเท่านี้อาหารจานใหม่ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

แม้ครั้งนี้จะต้องใช้พลังปราณเที่ยงแท้ในการปรุงด้วยเช่นกัน แต่ปู้ฟางก็ช่ำชองขึ้นมากกว่าตอนที่เขาทำน้ำแกงสมุนไพรไก่ปักษาเพลิง อาจเป็นเพราะเขาเพิ่งบรรลุขั้นปราณด้วยก็เป็นได้

ขณะที่ชายหนุ่มเดินถือจานเนื้อตุ๋นตำรับจีนออกมาจากครัว เพื่อเข้าไปนั่งกินในบริเวณห้องอาหาร เขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น

เจ้าดำมานั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งเรียบร้อย มันกะพริบตาปริบจ้องมาที่ปู้ฟาง… หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือจ้องไปที่จานเนื้อตุ๋นตำรับจีนในมือเขา พร้อมทำลิ้นห้อยหอบแฮ่กๆ

มุมปากของชายหนุ่มกระตุก “ไอ้หมาขี้เกียจนี่ แค่ได้กลิ่นเนื้อก็รีบพุ่งมาเตรียมจะกินแล้ว แต่กลิ่นเนื้อตุ๋นตำรับจีนจานนี้ก็ยั่วน้ำลายเป็นพิเศษจริงๆ หอมน่ากินยิ่งกว่าซี่โครงเปรี้ยวหวานเสียอีก”

ปู้ฟางหยิบจานออกมาอีกใบนึงแล้ววางลงตรงหน้าเจ้าดำ ก่อนเริ่มพิจารณาเนื้อตุ๋นตำรับจีนในจานอย่างถี่ถ้วน ถ้าจะเรียกให้ถูกน่าจะเป็นเนื้อกวางตุ๋นตำรับจีนมากกว่า

ควันขาวฉุยลอยออกจากเนื้อตุ๋นในจาน ภายนอกของเนื้อกวางเป็นสีกุหลาบ ชั้นต่อมาคือส่วนของไขมันที่เป็นสีขาวแต่ไม่มันจนเกินไป และชั้นสุดท้ายเป็นเนื้อไร้มันสว่างใสสวยงามเหมือนผลึกแก้ว

เขาแบ่งเนื้อชิ้นหนึ่งให้เจ้าดำ จากนั้นก็ยัดเนื้อกวางตุ๋นตำรับจีนอีกชิ้นเข้าปาก

รสชาติของอาหารจานนี้มีเอกลักษณ์มาก ทันทีที่เนื้อผ่านริมฝีปากเข้าไป รสชาติหวานอ่อนของซอสก็เบ่งบานในปากของชายหนุ่ม เขากัดลงที่ชั้นนอกของเนื้อโดยไม่รู้ตัว รสชาติของเนื้อกวางระเบิดออกมาภายในปาก เข้าเกาะกุมทุกพื้นที่ในปากและต่อมรับรสทุกต่อม จากนั้นชายหนุ่มก็กลืนเนื้อชิ้นนั้นลงไปทั้งก้อน และรู้สึกถึงหัวใจที่เรียกร้องอยากกินชิ้นต่อไปทันที

ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงกินเนื้อกวางเข้าไปครึ่งจาน แต่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจและหยุดกินไม่ได้ ราวกับว่ารสชาติที่แท้จริงของเนื้อจานนี้ส่งไปไม่ถึงต่อมรับรสของเขาเสียที จนต้องหยิบมากินใหม่อยู่เรื่อยไป

เจ้าดำเองก็กินเนื้อกวางอย่างเอร็ดอร่อย ดวงตาเล็กหยีอย่างมีความสุข คนและสุนัขต่างช่วยกันกินเนื้อจนหมดจาน

ชายหนุ่มนอนขดตัวอยู่บนเก้าอี้ พ่นลมร้อนออกจากปาก

ส่วนเจ้าดำก็กลับไปประจำที่หน้าร้านแล้วนอนหลับไปดังเดิม นอนหลังจากที่กินทันที… เป็นวิถีชีวิตของเจ้าดำอย่างแท้จริง

“พอใช้พลังปราณเที่ยงแท้ปรุง รสชาติของเนื้อกวางก็อร่อยมากเสียจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยทีเดียว! กลิ่นของกวางสวรรค์ลงทัณฑ์และรสชาติของมันหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว! รสชาตินี้ทำให้หยุดกินไม่ได้เลย!” เมื่อนึกย้อนไปถึงรสชาติของเนื้อตุ๋นตำรับจีน ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตน

หลังจากนั่งพักอยู่สักครู่ ปู้ฟางก็หยิบจานไปใส่เครื่องล้างจาน แล้วเดินกลับห้องไปด้วยอารมณ์พึงพอใจ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการนอนหลังจากได้กินอิ่มนั้นเป็นความสุขอย่างหนึ่ง

แต่ตอนที่ชายหนุ่มเดินไปถึงประตูห้องนั่นเอง เสียงของระบบก็ดังขึ้นในจิตใจอีกครั้ง

ภารกิจฉุกเฉิน: วันพรุ่งนี้นายท่านโปรดเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการออกหาวัตถุดิบครั้งแรก จุดเครื่องย้ายจะเริ่มทำงานวันมะรืน

(ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ หากไม่เคยเจอฝนมาก่อน พ่อหนุ่ม จงใช้มีดทำครัวของท่านสยบวัตถุดิบทุกชนิดไว้แทบเท้าเถิด)

รางวัลจากระบบ: วิธีการทำก๋วยเตี๋ยวหลอด

……………………