บทที่ 199 สวยไหม? / บทที่ 200 แก่แล้วยังทำตัวไม่น่าเคารพ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 199 สวยไหม? / บทที่ 200 แก่แล้วยังทำตัวไม่น่าเคารพ โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 199 สวยไหม?

เจียงเยียนหรานที่อยู่ข้างๆ ก็พูดไม่ออก “เป็นถึงขนาดนี้แล้ว เธอแต่งหน้าไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก”

เยี่ยหวั่นหวันอึ้งไป สุดท้ายก็เอากระเป๋าเครื่องสำอางใบใหญ่นั้นเก็บเข้าตู้

บาปกำเนิดของเธอไม่ใช่ใบหน้านี้ แต่เป็นความอ่อนแอ

ปิดบังมานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรก ที่เยี่ยหวั่นหวันไม่แต่งหน้า

เธอมาร์สหน้าให้ตัวเองก่อน จากนั้นเอาเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงและประหลาดๆ ทั้งหมดเก็บเข้าไป

ที่มาแทนที่คือ ชุดหนึ่งที่ฝุ่นจับอยู่ด้านล่างลัง ชุดกระโปรงสวยงามอ่อนหวานสารพัดแบบที่เธอเคยชอบมากที่สุด เป็นของเวลาของหญิงสาวที่เธอเคยสูญเสียไปแล้วครั้งหนึ่ง

เยี่ยหวั่นหวันหวีผมยาวอย่างนุ่มนวล เลือกผมเสียข้างๆ ออกมา แล้วติดกิ๊ปตัวเล็กขึ้นไป จากนั้นเลือกชุดเดรสกระโปรงสีแดงเข้มมาใส่

ชุดแบบคอปาด แขนผีเสื้อที่กว้าง ชายขอบเหมือนดั่งดอกไม้บาน การตัดเย็บที่ประณีตแสดงให้เห็นถึงเอวบางและสัดส่วนโค้งเว้า สีของกระโปรงยิ่งขับให้ผิวขาวของเธอแต่เดิมยิ่งขาวราวหิมะขึ้นไปอีก

มองดูตัวเองสวมชุดเดรสกระโปรงนี้ในกระจก สีหน้าเยี่ยหวั่นหวันดูเหม่อลอย

นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่พี่เยี่ยมู่ฝานให้เธอเมื่อสองปีที่แล้ว

สายตาของเยี่ยมู่ฝานยอดเยี่ยมไม่มีที่ตีอยู่แล้ว ถึงแม้จะผ่านมาสองปีแล้ว แต่ชุดกระโปรงนี้ยังไม่เชยเลย

น่าเสียดาย ตอนนั้นความสัมพันธ์ของเธอและคนที่บ้านกับเยี่ยมู่ฝานเริ่มบีบคั้นมากขึ้น หลักจากนั้นไม่นานก็ทะเลาะกันครั้งใหญ่ ตัดความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก กับเยี่ยมู่ฝานก็ทะเลาะกับราวกับจะพลิกแผ่นดิน ชุดกระโปรงนี้ ภายหลังเธอไม่เคยได้ใส่อีกเลยสักครั้ง

พ่อแม่ต้องการปกป้องเธอถึงได้สูญเสียทุกอย่าง แต่เธอกลับถูกครอบงำโดยคำพูดไม่กี่คำของเฉินเมิ่งฉี กล้าพูดคำพูดที่ตัดขาดจากพ่อแม่แบบนั้นออกมา

เขาต้องโกรธแค้นที่มีน้องสาวที่ทั้งโง่และจิตใจโหดร้ายแบบนี้สินะ…

เพราะเธอ ตระกูลเยี่ยเปลี่ยนเจ้าของ พ่อแม่ต่อสู้จนไม่เหลืออะไร เขาก็สูญเสียสภาพแวดล้อมการเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลเยี่ย สูญเสียคุณสมบัติที่จะรักคนๆ หนึ่ง

ที่บ้านโดนเธอทำจนกลายเป็นแบบนี้ แล้วยังกลัวว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจเธอ ทุกคนจึงปกปิดความจริงกับเธอ

มีเพียงเธอที่เป็นตัวหายนะไม่รู้เรื่องราวอะไร มีชีวิตอยู่อย่างไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น โดยชายชั่วเข้าหาด้วยเรื่องสัญญาแต่งงานกับพ่อเธอหลังสูญเสียอำนาจไปแล้ว

จะโทษก็โทษที่เธอไม่ได้เรื่องอ่อนแอเกินไป ครอบครัวต้องเสียสละถึงขั้นนี้เพื่อเธอ…

เยี่ยหวั่นหวันดึงความคิดกลับมาจากความทรงจำ เปิดประตูห้องน้ำเดินออกมา

“สวยไหม?” เยี่ยหวั่นหวันถาม

วินาทีที่เจียงเยียนหรานหันไปเห็นหญิงสาว ในสมองก็มีประโยคหนึ่งลอยขึ้นมา: ‘ผิวขาวราวหยกสีขาว งามดั่งดอกไม้’

บนโลกใบนี้ มีบางคนที่ได้รับความเอ็นดูจากพระเจ้าจริงๆ

“สวย… สวยมาก…” เจียงเยียนหรานตอบด้วยความตะลึง

เมื่อคืนเยี่ยหวั่นหวันแค่สวมชุดกระโปรงขาวสบายๆ และปล่อยผมยาวลงมาลวกๆ ก็ทำให้ทุกคนอึ้งตะลึงกันหมดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงหลังจากที่เธอตั้งใจแต่งตัวเลย

เยี่ยหวั่นหวันให้กำลังใจ “ฉันไปเรียนแล้วนะ!”

“อ้อ…”

วินาทีนี้ จู่ๆ เจียงเยียนหรานก็เข้าใจจิตใจของแฟนเยี่ยหวั่นหวันขึ้นมาทันที

มีแฟนสาวแบบนี้ กลัวว่าจะไม่สบายใจอยู่ทุกชั่วขณะสินะ…

………………………………………………….

บทที่ 200 แก่แล้วยังทำตัวไม่น่าเคารพ

เมื่อเยี่ยหวันหวั่นปรากฎตัวที่ประตูห้อง F ทั้งชั้นเรียนต่างพากันเงียบกริบ

เฉิงเสวี่ยเตรียมการป้องกันไม่ให้สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก วันนี้จึงลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้าตรู่ แม้แต่รอยยับทุกกลีบล้วนถูกจัดการอย่างพิถีพิถัน ใครจะรู้เพียงเยี่ยหวันหวั่นปรากฎตัวก็สามารถแย่งสายตาของทุกคนไปได้อย่างง่ายดาย

เดิมทีซือเซี่ยหน้าตาดูกระวนกระวายเหมือนเขากำลังรออะไรอยู่ เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นที่หน้าประตู มือที่เท้าคางอยู่พลันหลุดออก ใบหน้าไถลลงเกือบชนกับโต๊ะ ดวงตาไม่วอกแวกเลยสักนิด

เมื่อคืนรวดเร็วเพียงชั่วพริบตามองไม่เห็นอะไรเลย จึงไม่อาจแน่ใจได้

แต่ผู้หญิงสวมกระโปรงแดงตรงหน้าเป็นภาพซ้อนทับกับเงาร่างของคนบางคนอย่างไม่ทันตั้งตัว

ใบหน้าของเยี่ยนหวันหวั่นนี้ให้ความรู้สึกของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอสวมกระโปรงแดง ยิ่งดูเหมือนกับคนในความทรงจำคนนั้น…

เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้สังเกตถึงสายตาสงสัยของซือเซี่ย ดึงเก้าอี้ออกมานั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง

ได้เห็นหญิงสาวนั่งลงที่ตำแหน่งข้างกายซือเซี่ย จึงแน่ใจแล้วว่าเธอก็คือเยี่ยหวันหวั่นไม่มีผิด พลันเกิดกระแสเดือดทั่วทั้งชั้น

“ช่ะ…เชี่ย! ดูดีมากเหลือเกิน!”

“ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ เยี่ยหวันหวั่นยัยตัวประหลาดคนนั้นจะสวยได้ขนาดนี้! สวยกว่าเมื่อคืนอีก!”

“เทียบกับพี่เฉิงดาวโรงเรียน…ไม่ถูก ต้องเป็นสวยกว่าพี่เฉิงอดีตดาวโรงเรียน! แล้วจะยังไม่เรียกว่าสวยอีกเหรอ!”

ได้ยินเสียงอุทานตกตะลึงเป็นระลอกของห้องเรียน โดยเฉพาะประโยคนั้น “อดีตดาวโรงเรียน” เฉิงเสวี่ยโมโหจนกัดริมฝีปากแทบแตกแล้ว

เวลานี้ นักเรียนหญิงสองคนแถวหน้าเฉิงเสวี่ยโต้ตอบกลับไปทันควัน “สวยตรงไหน ก็ดูธรรมดา! ยังห่างชั้นกับเสี่ยวเสวี่ยอีกไกล!”

“ใช่แล้วใช่แล้ว! ผู้ชายแบบพวกนายมีสายตาแบบไหนกัน? ถึงได้พากันชอบยัยจิ้งจอกประเภทนี้!”

“ว้ายๆ! ความริษยาทำให้คนน่าเกลียดได้!” นักเรียนชายเอ่ยความหมายลึกซึ้งทำให้เกิดความสนใจ

นักเรียนหญิงได้ยินก็กรีดเสียงแหลมร้องลั่น “ใครน่าเกลียด นายสิน่าเกลียด! ครอบครัวนายล้วนน่าเกลียดทั้งหมด!”

“ใครตอบกลับคนนั้นก็น่าเกลียดไง! ไม่เพียงน่าเกลียดนะ เดาว่าคงตาบอดด้วย!”

“นาย…”

ในขณะที่คนกลุ่มหนึ่งกำลังทะเลาะกันอยู่นั้น เยี่ยหวันหวั่นกำลังยัดกระเป๋าหนังสือเข้าในลิ้นชักใต้โต๊ะ ทว่ายัดอยู่นานก็ยังยัดไม่เข้า

เกิดอะไรขึ้น?

ในลิ้นชักมีของอะไรอีก?

เยี่ยหวันหวั่นก้มหน้าไปมอง จึงได้พบว่าด้านในมีสิ่งของสีสันสวยงามอยู่เต็มไปหมด…

จดหมายรัก ช็อคโกแลต ลูกกวาด…

มันช่างน่าประหลาดใจเพราะได้รับความโปรดปรานอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ

เมื่อก่อนถ้าไม่ใช่หนูตายก็จะหนอน

เยี่ยหวันหวั่นสังเกตเห็นนานแล้วว่าคนบางคนข้างกายส่งสายตาจดจ้องมาโดยตลอด ครั้งนี้เธอทำทีท่านิ่งใจเย็น

อย่างไรแล้วตอนนี้เธอก็มีคดีท่วมตัวมากพอแล้ว

“ต๊อก…” เสียงกระดกลิ้นของซือเซี่ยดังมาจากด้านข้าง

เยี่ยหวันหวั่นหาถุงมาใบหนึ่งเก็บของเหล่านั้นขึ้นมาเพื่อให้มีพื้นที่ว่าง ถึงจะยัดกระเป๋าเก็บเข้าไปได้ หันหน้าไปถลึงตาใส่เขา “นายคิดจะทำอะไรอีก?”

ซือเซี่ยเท้าศีรษะมองเธอ แค่นเสียงเย็นชา ทำสีหน้าเหมือนได้ไม่คุ้มเสีย “ทำแบบนี้แต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว ทำไมต้องให้คนอื่นหัวเราะเยาะตั้งนาน?”

เยี่ยหวันหวั่นกรอกตาขาวใส่เขา “ที่รักที่บ้านฉันชอบก็พอแล้ว เพื่อที่รักของฉันแล้ว อย่าว่าแต่แต่งตัวน่าเกลียดเลย ต่อให้แต่งเป็นผีฉันก็ยอม นายยุ่งอะไรด้วย!”

ที่รัก…?!

พวกนิยมคนหน้าตาดีบางคนได้ยินเยี่ยหวันหวั่นเรียกซือเยี่ยหานแบบนี้ คงแทบจะกระอักเลือดออกมา “เธอ…”

เยี่ยหวันหวั่นหยักคิ้วข้างหนึ่ง ใบหน้าสดใสดุจดวงอาทิตย์ “ฉันทำไมเหรอ?”

ซือเซี่ย “เธอ…แก่แล้วทำตัวไม่น่าเคารพ”

เยี่ยหวันหวั่น “…”

นับว่านายหยาบคาย! โจมตีเรื่องหน้าตาเธอไม่ได้ ก็เปลี่ยนมาโจมตีเรื่องอายุของเธอใช่ไหม?

………………………………….