ตอนที่ 168 หยางหยางไม่ชอบจิ่งเป่ยเฉินจริง ๆ
อันโหรวได้ยินคำตอบที่แน่วแน่ของเขา ในใจก็ยืนยันเรื่องหนึ่งได้ว่าหยางหยางไม่ชอบจิ่งเป่ยเฉินจริง ๆ
สองพี่น้องคนหนึ่งชอบ อีกคนไม่ชอบ แต่สำหรับถังซั่วแล้ว พวกเขาทั้งสองคนชื่นชอบกันมาก
บิ๊กบอสดูเหมือนว่านิสัยของคุณนั้นน่าเป็นห่วงจริง ๆ
ตอนนี้จิ่งเป่ยเฉินกำลังอ่านหนังสืออยู่ที่ไกล ๆ จามออกมาหลายครั้งหลายครา
เขาวางหนังสือลงก่อนจะดึงกระดาษทิชชูออกมาเช็ดจมูก ดวงตาของเขามองไปที่ไกล ๆ เหมือนจะมีใครสักคนคิดถึงเขาอยู่ หรือมีใครด่าเขากันแน่นะ?
พริบตาเดียวก็เข้าสู่เดือนที่สิบ วันที่แปด หลังจากที่กลับมาจากวันหยุด เช้าวันทำงานก็ยุ่งยากเสียจนอันโหรวแทบไม่มีเวลาดื่มน้ำ
หลังจากวันหยุดทำไมมันถึงเป็นแบบนี้กันนะ งานมันดูกองเพิ่มเยอะขึ้นหรือเปล่า?
กว่าจะผ่านช่วงเช้ามาได้นั้นไม่ง่ายนัก เมื่อกินข้าวเที่ยงเสร็จก็คิดจะพักเสียหน่อย เธอได้งีบหลับอยู่ที่ห้องทำงาน พอหลับตาไปได้สักพักหนึ่ง
จิ่งเป่ยเฉินเคาะประตูห้องทำงานและเปิดประตูเข้าไป ก่อนจะมองเห็นอันโหรวที่กำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะทำงาน
พอเข้าไปก็รู้สึกถึงไอเย็น เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางของเครื่องปรับอากาศ ยี่สิบสององศา? นี่เธอไม่กลัวเป็นหวัดบ้างเลยเหรอ?
สายตาของเขามองไปที่รอบ ๆ โต๊ะ แต่กลับไม่เห็นรีโมต จึงมองไปที่ลิ้นชักของเธอ รีโมตน่าจะอยู่ในลิ้นชักนั้น…
เขาก้าวเท้าไปอย่างเบา ๆ ก่อนที่ตัวของเขาจะยืนอยู่ที่ด้านหลังของเธอ คิดจะหยิบรีโมตออกมา แต่พอเห็นใบหน้าข้าง ๆ ของเธอที่กำลังหลับสนิทอยู่แบบนั้น เขาก็แทบจะลืมไปเลยว่ากำลังจะทำอะไร ถ้าหากวันข้างหน้าหลังจากนี้เธอเงียบแบบนี้บ้าง เขาก็คงไม่รู้สึกเบื่อ
ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ได้สติกลับคืน ก่อนจะก้มลงไปเล็กน้อย และเอื้อมมือเข้าไปด้านล่าง ผ่านหน้าอกของเธอ ก่อนจะเปิดลิ้นชักออก
ทันใดนั้นอันโหรวก็รู้สึกถึงไอร้อนที่อยู่ใกล้ ๆ พลันนึกได้ว่าตัวเองต้องทำงาน เธอจึงตื่นขึ้นมาทันที แต่เมื่อก้มหน้าลงมองก็เห็นมือใหญ่ข้างหนึ่งกำลังอยู่บนหน้าอกของเธอ
“เพียะ!” เสียงตีมือดังขึ้นหลังจากที่เธอรู้สึกตัว ก่อนจะพูดว่า “เจตนาไม่ดี”
“อันอีหาน นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่?” จิ่งเป่ยเฉินคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะตื่นขึ้นมา ต่อให้ตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่ได้ทำอะไร แล้วทำไมถึงต้องตีมือของเขาด้วย
เธอที่กำลังยุ่งอยู่กับการลุกจากที่นั่งเงยหน้ามองไปยังจิ่งเป่ยเฉินด้วยท่าทีที่โกรธเคือง “ประธานจิ่ง คำถามนั้นฉันควรถามมากกว่า ทำไมมือของคุณถึงได้มาอยู่ตรงนี้ คิดจะทำอะไรกันแน่?”
เขาที่ถูกพูดถึงแบบนั้น เธอคงไม่ได้ล้อเล่นแล้วแน่ ๆ ก่อนจะพูดไปว่า “ผมแค่มาดูว่าคุณหลับอยู่หรือเปล่า ในเมื่อคุณตื่นแล้ว มากับผมที่ห้องทำงานที!”
“ค่ะ ประธานจิ่ง” เธอยิ้มและเดินตามหลังเขาไป ส่วนเรื่องเมื่อครู่นี้เธอทำได้แค่อดทน!
เขาได้สัมผัสในที่ที่ควรสัมผัสแต่แรกอยู่แล้วละนะ
เมื่อมาถึงห้องทำงานของจิ่งเป่ยเฉิน เธอก็ยืนนิ่งรอฟัง ก่อนที่กุญรถแจสีดำจะถูกวางลงตรงหน้าเธอ “บริษัทมอบรถให้คุณ นี่คือกุญแจ”
เมื่อเธอมองไปยังกุญแจรถ ก่อนจะกลอกตาไปมาถึงสี่รอบ ในใจเริ่มรู้สึกไม่ดี
หลินจือเซี๋ยวทำงานเป็นเลขาเขามาตั้งหลายปียังต้องซื้อรถเอง แต่เธอเพิ่งมาเป็นตัวแทนไม่กี่ครั้ง บิ๊กบอสถึงขนาดยอมซื้อรถให้แบบนี้ มันดูลำเอียงเกินไปหน่อยหรือเปล่า
“ไม่อยากได้งั้นเหรอ?” จิ่งเป่ยเฉินเอากุญแจอีกพวงหนึ่งขึ้นมา และพูดว่า “คุณลองเลือกด้วยตัวเองดูละกัน”
เมื่อเธอมองไปที่กุญแจอีกพวงก็เห็นสัญลักษณ์ ‘BMW’ อยู่บนกุญแจ อยู่ทันใดนั้นรอยยิ้มก็ยกขึ้นเล็กน้อยบนใบหน้าที่ซีดเหลืองที่ชวนดูน่าเกลียด
เธอดันแว่นตาขึ้น ก่อนจะพูดอย่างมีหลักการว่า “ประธานจิ่ง เลขาหลินอีกไม่นานคงกลับมาเร็ว ๆ นี้แน่ ฉันคงต้องรีบกลับไปที่แผนกวางแผนทันที พนักงานเล็กถ้าหากได้รถแบบนี้ รับรองว่าต้องมีผลต่อแรงจูงในในการทำงานของพนักงานคนอื่น ๆ แน่นอน”
“เลือกมาหนึ่งคัน” จิ่งเป่ยเฉินไม่ขยับไหวติงใด ๆ
ในวันเกิดเธอบอกว่าเธอต้องขับรถของหลินจือเซี๋ยวเพื่อกลับบ้าน เขาจึงได้วางแผนเอาไว้ อยากให้โหรวโหรวได้สิ่งนี้เป็นของขวัญวันเกิด เขาถึงจะมีความสุข
เมื่อเธอมองไปยังใบหน้าที่จริงจังของคนที่อยู่ตรงหน้า เธอลังเลอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบกุญแจดอกแรกมา “ประธานจิ่ง บ่ายนี้ฉันจะไปที่สตูดิโอ วันนี้เหอเฉ่ามีถ่ายโฆษณา ถ้าหากคุณต้องการอะไรแล้วละก็ ไปหาผู้จัดการฉีหรืออิงหยู่แทนนะคะ”
อิงหยู่คือเลขาอีกคน เพียงแต่ว่าปกติแล้วเธอมักทำงานเป็นผู้ช่วยของผู้จัดการฉี ซึ่งถ้าหากมีเรื่องอะไรแล้วจริง ๆ ก็ไปหาเธอได้ ซึ่งนี่เป็นวิธีหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับตัวจิ่งเป่ยเฉินอีกทางหนึ่ง
แต่เรื่องของหยกที่อยู่ในแผนที่เธอต้องรับผิดชอบ แม้ว่าตัวเธอจะไม่ค่อยชอบมันเท่าไร แต่การถ่ายโฆษณาเองก็ค่อนข้างสำคัญมาก เธอจึงต้องไปดูด้วย
จิ่งเป่ยเฉินเหลือบมองไปยังกุญแจที่อยู่ในมือของเธอ ฟังจากคำพูดของเธอแล้วดูท่าน่าจะยากที่จะทำให้เธอเชื่อฟัง ก่อนจะค่อย ๆ ยกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อยและพูดออกมาแค่คำเดียว “อืม”
อันโหรวเมื่อเห็นดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พูดง่ายถึงขนาดนี้มันใช่แล้วแน่เหรอ จริงสิ ยังไงนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการบริษัทจิ่ง
เมื่อหันหลังกลับมาก็นึกถึงเครื่องสำอางที่อยู่ที่บ้าน ฝีเท้าก็พลันชะงักไปเล็กน้อย คิดอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร มันไม่ใช่เครื่องสำอางกันน้ำ และอาจจำเป็นในบางครั้ง
เมื่อคิดแบบนั้น ของขวัญวันเกิดชิ้นนี้ดูท่าน่าจะได้ใช้จริง ๆ
มือขวากำลังเปิดประตู ขณะที่กำลังออกแรงก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำจากด้านหลังว่า “ของขวัญที่ซื้อให้ คุณไม่ใช้ยังงั้นเหรอ?”
เธอไม่ได้ปล่อยมือ ก่อนจะชำเลืองตามองไปที่เขาเล็กน้อย และพริบตาเดียวเธอก็ยิ้มออกมา “ประธานจิ่งมอบของขวัญให้แน่นอนว่าต้องใช้ เพียงแต่ว่าก่อนหน้านั้นยังใช้ไม่หมด ใช้หมดแล้วต้องใช้แน่นอนค่ะ”
เขามองออกด้วยเหรอว่าเธอใช้เครื่องสำอางอะไรแบบไหน? ต่อให้บริษัทจิ่งจะทำธุรกิจในด้านนี้ แต่ดวงตาของเขานี่มันก็เหมือนกับพิษร้ายที่สาดส่องไปทั่วเลยหรือเปล่า?
จิ่งเป่ยเฉินมองไปที่ใบหน้าของเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังหลอกเขาอยู่ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลามาเล่นกับเธอ จึงได้เอ่ยอย่างเรียบ ๆ ไปว่า “ออกไปได้แล้ว!”
“ค่ะ ประธานจิ่ง” เธอรีบเปิดประตูและมองไปที่กุญแจที่อยู่ในมือ อารมณ์ตอนนี้มันเหมือนมีความรู้สึกที่ทับซ้อนกันอยู่
……
การถ่ายภาพโฆษณานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะงั้นตอนบ่ายเธอจึงต้องไปที่สตูดิโอ ซึ่งตอนนี้เป็นเวลากว่าบ่ายโมงครึ่งแล้ว หนึ่งชั่วโมงที่ถ่ายภาพถ้าหากมีปัญหาอะไรเธอจะได้แก้ไขมันได้ทัน
ทันทีที่เธอเดินเข้าไป ผู้ช่วยก็ได้รีบวิ่งออกมาหากันอย่างลนลาน ทั้งสองคนเกือบจะพุ่งชนกันเข้าเสียแล้ว
“เป็นยังไงบ้าง?” เธอพยุงผู้ชายตัวน้อยที่เกือบจะล้มลงตรงหน้า
เมื่อผู้ช่วยพบเธอ ก่อนหน้านั้นเธอเคยเป็นผู้รับผิดชอบมาก่อน จึงได้คุยกับผู้กำกับและช่างภาพมาแล้ว ทันทีที่เธอช่วยจับแขนแบบนี้ก็เหมือนกับฟางที่ช่วยชีวิตเอาไว้ “พวกเราหาเหอเฉ่าไม่พบเลย ครึ่งชั่วโมงแล้ว เราส่งข้อความไปเห็นบอกว่าอยู่บนถนน แต่ตอนนี้ไม่รับโทรศัพท์เลยค่ะ เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งชั่วโมง ไหนจะต้องแต่งหน้าและให้ลองเสื้อผ้าอีก หนึ่งชั่วโมงมันจะพอที่ไหน! ทั้งยังต้องถ่ายภาพอีก ถ้าเกิดไม่แต่งหน้าออกมาให้เสร็จทันเวลา มีหวังพวกเราโดนด่าแน่ ๆ เลยค่ะ!”
“เดี๋ยวฉันลองโทรดู” อันโหรวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลก่อนจะโทรไปหาเหอเฉ่า
โทรศัพท์ไม่ได้ปิดเครื่อง สายก็ว่าง แต่กลับไม่มีคนรับโทรศัพท์
เธอเดินเข้าไปข้างในระหว่างที่กำลังรอโทรศัพท์ ทุกอย่างถูกจัดแจงไว้เรียบร้อยหมดแล้ว พนักงานทุกคนต่างก็ดูเหมือนจะไม่ว่าง ทุกอย่างพร้อมถ่ายทำ ขาดแต่เพียงตัวเอกที่ตอนนี้กลับหายไปไหนก็ไม่รู้
แผนนี้แต่แรกเธอเป็นคนเลือกมา นับตั้งแต่ที่เข้ามายังบริษัทจิ่ง ปกติทั่ว ๆ ไปเธอมักจะมีแผนสำรองเอาไว้เผื่อกรณีอื่น ๆ แต่เธอกลับคิดไม่ถึงเลยว่าเหอเฉ่าจะหายตัวไปแบบนี้
ด้วยผู้สมัครที่มีเยอะมาก เธอกลับเลือกเหอเฉ่า ส่วนคนอื่น ๆ นั้นดูแล้วยังไม่เหมาะสม ยังไม่เหมาะกับตัวโฆษณา หรือว่าโฆษณาตัวนี้เหอเฉ่านั้นเธอไม่คิดอยากจะถ่ายทำกันแน่?
หลังจากที่โทรไปถึงสามครั้งก็ไม่มีคนรับ ในที่สุดเธอก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น ก่อนจะพูดว่า “ส่งคนออกไปตามหาที!”
“ค่ะ ค่ะ จะส่งไปหาเลย!” ผู้ช่วยที่อยู่ด้านหลังเรียกคนอีกสองสามคน ก่อนจะออกไปจากสตูดิโอ