ตอนที่ 167 โหรวโหรว สุขสันต์วันเกิด

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เธอนั่งอยู่บนโซฟาอยู่สักพักหนึ่ง ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจที่จะไปอาบน้ำและเข้านอน พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาทำความสะอาด

เพียงแต่เดินไปแค่สองก้าว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เมื่อเธอมองไปก็เห็นว่าหลินจือเซี๋ยวโทรเข้ามา เธอจึงหยิบมากดรับสายก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องน้ำ

“โหรวโหรว สุขสันต์วันเกิด! ฉันงานยุ่งมากเลย เพิ่งจะว่างเมื่อกี้นี่เอง!” หลินจือเซี๋ยวเอ่ยขอโทษขณะที่พูด

“ไม่เป็นไร วันเกิดฉลองทุกปี วันนี้ไม่มา ปีหน้าก็มาได้! เธอทำงานมาน่าจะเหนื่อยมาก พักผ่อนเร็ว ๆ เถอะ” เธอเองก็คิดอยากจะนอนแล้วเหมือนกัน เพียงแต่เมื่อครู่นี้คิดอะไรเพลินไปหน่อยเลยเริ่มรู้สึกง่วง

“ได้ ได้ ราตรีสวัสดิ์นะ พักผ่อนเยอะ ๆ!” หลินจือเซี๋ยวเองก็ไม่คิดจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเพื่อน จึงรีบวางสายไปทันที

อันโหรวที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็รีบเข้าไปนอนทันที ก่อนจะหลับสนิทไปพร้อมกับฝัน

เธอรู้สึกว่าเปลือกตาของตัวเองหนักมาก พอคิดอยากจะเปิดเพื่อลืมตาก็เปิดไม่ได้ ทันใดนั้นเธอก็ได้เสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้เข้ามา เป็นเสียงฝีเท้าที่ช่างฟังดูคุ้นเคยมาก

มันเหมือนกับว่า…..เป็นจิ่งเป่ยเฉิน

ทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกว่าคางของเธอนั้นถูกบีบไปด้วยแรงของเขา เธอพยายามฝืนยกเปลือกตาหนัก ๆ ขึ้นก่อนจะเปิดออก

สิ่งที่เห็นเป็นใบหน้าที่หล่อเหลาของจิ่งเป่ยเฉินที่ทุกคนต่างชื่นชมและเฝ้ามอง ดวงตาสีดำที่มืดสนิทจับจ้องมาที่ตัวเธอโดยไม่กะพริบตาแต่อย่างใด

ใบหน้าของเธอค่อย ๆ เขยิบใกล้เขาเข้าไปเรื่อย ๆ เธอรู้สึกได้ถึงใบหน้าและหูที่เริ่มรู้สึกร้อนและแดงขึ้น ก่อนจะเริ่มหายใจติดขัด เขายังคงทำท่าโน้มตัวเข้ามาไม่หยุด เข้าไปใกล้ ๆ ที่หูของเธอและพูดขึ้น “โหรวโหรว เธอซ่อนตัวนานแบบนี้ คิดจะชดเชยให้ฉันยังไงดี? ฉันรอเธอมาตั้งห้าปีแล้วนะ”

“นายปล่อยฉันนะ!” เธอรู้สึกว่าหลังจากนี้ผู้ชายคนนี้คงต้องทำให้เธอจบชีวิตแน่ ๆ มันน่าอึดอัดจริง ๆ ทำอะไรก็ไม่ได้

“ไม่ปล่อย ครั้งนี้ฉันจะไม่ปล่อยเธอจนกว่าฉันจะตาย จำไว้นะ เธอเป็นของฉัน จิ่งเป่ยเฉินคนนี้!” เขาเอียงศีรษะด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะกัดเข้าไปที่ติ่งหูของเธออย่างแรง

“อา…….”

เธอกรีดร้องออกมา ก่อนจะลืมตาขึ้นท่ามกลางห้องที่มืดมิด เธอรู้สึกตัวว่านั่นเป็นแค่ความฝัน ก่อนจะถอนหายใจออกมายาว ๆ ด้วยความโล่งอก

โชคดีที่เป็นแค่ความฝัน

แต่ความเป็นจริง จิ่งเป่ยเฉินคงไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอกใช่ไหม?

ดูเหมือนคืนนี้น่าจะอีกยาวไกล แต่เธอไม่กล้านอนหลับ เพราะกลัวว่าหากเธอนอนแล้วจะฝันต่อจากเมื่อครู่นี้อีก

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เก็บข้าวของและทำความสะอาดห้องนั่งเล่นแล้วก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงพอดี เธอรู้สึกเหนื่อยมาก จึงนั่งลงบนโซฟาไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

หยางหยางที่เดินออกจากห้องหนังสือ เขาเดินมาอยู่ตรงน่องของเธอ “แม่จ๋า เมื่อวานแม่กับลุงถังมีอะไรคืบหน้ากันบ้างหรือเปล่า?”

“หยางหยาง แม่จ๋ากับคุณลุงไปด้วยกันไม่ได้หรอก รู้ใช่ไหม?” เธอลูบผมสีดำของเขา พลางยิ้มอย่างอ่อนโยน

“ทำไม? แม่จ๋าไม่ได้ชอบคุณลุงถังเลยเหรอ ลองพิจารณาดูไหม? ผมเคยถามนะ คุณลุงถังเขา……” หยางหยางนั่งลงข้าง ๆ เธอ ใบหน้าเล็ก ๆ จ้องมองมาด้วยท่าทีที่จริงจัง “เขาชอบแม่จ๋ามากเลยนะ”

เธอเหลือบมองไปยัง iPad ที่อยู่ในมือของหยางหยาง อย่าบอกนะว่าพวกเขาสองคนคุยกัน?

“หยางหยาง ลูกคงไม่ใช่รู้สึกเจ็บปวดหรอกใช่ไหม?” เธอมองเขาด้วยความกังวล หรือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนอนุบาลครั้งนั้นจะทำให้หัวใจเล็ก ๆ ของเขารู้สึกเจ็บ เพราะเหตุนี้เลยอยากให้ถังซั่วอยู่ด้วยแบบนี้?

อันหยางส่ายหน้า เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด พูดให้ถูกต้องละก็ เขาก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องการพ่อแต่อย่างใด เพียงแค่อยากให้แม่จ๋ามีคนดี ๆ มาคอยดูแลเท่านั้นเอง

ส่วนคุณลุงนิสัยไม่ดีนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะยังรังแกแม่จ๋าอยู่อีกหรือเปล่า ตอนนี้เขายังเด็กอยู่ จึงไม่อาจดูแลแม่จ๋าได้ เพราะงั้นเขาจึงพยายามหาคนที่เชื่อใจได้มาดูแลปกป้องแม่แทน

ซึ่งในส่วนนี้ถังซั่วนั้นตรงกับคุณสมบัติที่เขาตั้งไว้จริง ๆ

ถ้าหากพวกเขาสามารถชอบพอกันได้ มันก็คงจะดีกว่านี้ ถ้าหากไม่ชอบละก็ เขาก็จะไม่บังคับ เพราะงั้นเขาหวังว่าแม่จ๋าจะให้โอกาสคุณลุงถังบ้าง

“แม่จ๋า ผมคิดว่าคุณลุงถังนั้นดีกับพวกเรามาก ผมเองก็ชื่นชอบเขา หน่วนหน่วนเองก็ชอบเหมือนกัน แต่ถ้าแม่จ๋าไม่ชอบละก็ พวกเราก็ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปก็ได้นะ” ดูเหมือนว่าเขาคงต้องตรวจสอบคุณลุงนิสัยไม่ดีคนนั้นสักหน่อย เพราะแม่จ๋าดูจะสนใจเขาเป็นพิเศษ

“อืม พวกเราอยู่ด้วยกันแบบนี้แหละ ไม่ต้องการคนอื่นแล้ว!” เธอเอื้อมมือไปกอดเขา

แสงแดดที่นอกหน้าต่างผ่านทะลุมาในห้อง ทำให้เกิดความอบอุ่น บรรยากาศในเดือนนี้ช่างเงียบสงบ

วันชาติได้ผ่านไปกว่าครึ่งวันอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลานี้เธอทำงานเป็นแม่บ้านเกือบทั้งหมด ก่อนจะหาเวลาเข้าอินเทอร์เน็ตเพื่อตรวจสอบเรื่องราวของตระกูลอันเมื่อปีนั้น ซึ่งก็มีข้อมูลน้อยมาก น้อยเสียจนน่าสมเพช นอกจากข่าวทั่วไปแล้ว อย่างอื่นแทบไม่มีอะไรเลย

ดูเหมือนข้อมูลมันจะถูกคนลบไปเกือบหมด

ซึ่งคนคนนั้นเป็นใคร เธอไม่จำเป็นต้องตรวจสอบก็พอจะรู้ได้ คงเป็นคนของพวกตระกูลโอวหยางแน่ ๆ

ในขณะนี้เธอกำลังถือแก้วน้ำยืนอยู่ที่ระเบียง ทันใดนั้นเองที่ประตูกระจกด้านหลังถูกเปิดออก เธอเหลือบไปเห็นหยางหยางกำลังเดินเข้ามาด้วยท่าทีที่เย็นชา

“หยางหยาง”

“แม่จ๋า พวกเรามาคุยเรื่องผมกับหน่วนหน่วนกันหน่อยได้ไหม? ” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเผยท่าทีที่เย็นชามากขึ้น

หลายวันมานี้เขาได้ตรวจสอบข้อมูลของบริษัทจิ่งมาโดยตลอด จิ่งเป่ยเฉินดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัทจิ่ง พูดได้เลยว่าเป็นคนแรกที่เข้ามาอยู่ในสายตาของเขา

แต่ชายคนนั้นเพียงแค่มองจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็รู้สึกได้ถึงความสง่างามและท่าทีที่สูงส่ง ดวงตาสีดำก็เผยให้เห็นถึงความหยิ่งยโสที่มองทุกอย่างเป็นเพียงแค่เปลือก ท่าทีของเขาดูเย่อหยิ่งไม่ใช่น้อย

คนที่สูงส่งขนาดนั้นกลับมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับเขาถึงหกเจ็ดส่วน ก่อนหน้านี้เคยได้ยินที่พวกเขาพูดคุยกัน แต่ตอนนี้ได้มาเห็นด้วยตาของตัวเองก็ยิ่งตกใจมากขึ้น

หลายวันมานี้เขาค่อย ๆ อ่านข้อมูลไปเรื่อย ๆ และตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของเขา ความสามารถของเขานั้นเป็นที่ยอมรับมากจริง ๆ แต่ข่าวลือว่าเจ้าชู้อะไรนั่นก็ค่อนข้างเยอะพอสมควร เห็นว่าเปลี่ยนผู้หญิงไปมาราวกับเสื้อผ้า ต่อให้เป็นพ่อแท้ ๆ ของเขา เขาก็ไม่อาจให้อภัยได้

ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ในใจของเขานั้นรู้สึกไม่ดีกับจิ่งเป่ยเฉินไปแล้ว

“หนูรู้แล้วเหรอ?” ถึงแม้ว่าเธอจะสงสัย แต่จากการมองสีหน้าของเขา และการยืนยันถึงคำพูดพวกนั้น

เธอวางแก้วน้ำในมือของเธอลงบนโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะเดินไปหาเขา และนั่งย่อตัวมองไปที่เขา “หยางหยาง แม่ไม่ได้จงใจจะปิดบังหนูนะ”

“ผมเชื่อแม่จ๋า” เขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับเรื่องใหญ่โตขนาดนั้น อย่างเรื่องที่ลุงนิสัยไม่ดีคนนั้นเป็นพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง

“หยางหยาง เด็กดีของแม่” เธอเอื้อมมือไปกอดเขา ก่อนที่หัวใจของเธอจะยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น

“แล้วแม่จ๋าวางแผนจะทำยังไงต่อ?” พวกเขาทำงานด้วยกันแบบนี้ ทุกวันก็ต้องเจอหน้ากัน ยิ่งคิดว่าแม่จ๋าต้องถูกรังแก หัวใจของเขาก็ใช่ว่าจะรู้สึกสบาย

ทำยังไงเหรอ? แต่ก่อนแผนเดิมของเธอคือการซ่อนตัวจากเขา แต่คิดแล้วไม่น่าจะซ่อนตัวได้นานแน่ ๆ

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม่จ๋าจะอยู่กับพวกหนู จะปกป้องพวกหนูเอง ความจริงแล้วพ่อเขา แม่จ๋าหมายถึงผู้ชายคนนั้น หยางหยางไม่ชอบผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ?” เมื่อครู่นี้เธอคงเป็นบ้าแล้วแน่ ๆ ถึงได้หลุดคำว่าพ่อออกมาได้

“ถ้าหากพูดความจริงละก็ ผมคงไม่ชอบจริง ๆ” หยางหยางพยักหน้าอย่างหนักแน่น สีหน้าและแววตาของเขาจริงจังมาก “เขามีข่าวเจ้าชู้เกินไป ไม่ดี!”

“อืม อืม แม่จ๋าก็คิดเหมือนกัน!” เธอยิ้มและลุกขึ้นจับมือน้อย ๆ ของเขา ก่อนจะพูดว่า “สัญญากับแม่นะว่าจะไม่บอกหน่วนหน่วน ตกลงไหม?”

“อืม!”