ตอนที่ 165 กลับไปห้องรับรอง
ทั้งสองคนกลับไปที่ห้องรับรอง เธอรีบเดินไปหยิบกระเป๋าทันที เมื่อเปิดโทรศัพท์ดูบันทึกประวัติการโทรเข้าออกที่ขึ้นชื่อหยางหยาง หัวใจเธอก็เต้นรัว แม้จะเป็นเวลาโทรสั้น ๆ แต่ก็สามารถพูดอะไรได้มากมายในเวลาสั้น ๆ นั้น
เธอกำโทรศัพท์แน่นและเดินไปหาเขา “ประธานจิ่ง ลูก ๆ ของฉันไม่ได้ทำอะไรให้คุณขุ่นเคืองใจใช่ไหมคะ?”
จิ่งเป่ยเฉินยืนขึ้น พลางหยิบกล่องของขวัญสีฟ้ามายื่นให้เธอและพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “คุณว่าคำพูดแบบไหนที่ทำให้ขุ่นเคือง?”
หรือว่าจะพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดไปจริง ๆ?
“ประธานจิ่ง ของขวัญชิ้นใหญ่แบบนี้ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ ประธานจิ่งเก็บไว้ใช้เองดีกว่าค่ะ!” เธอเอามือไพล่หลังไว้ ปฏิเสธที่จะรับ
มือที่ถือกล่องของขวัญยื่นมาที่เธออีกครั้ง “ฉันใช้ไม่ได้หรอก”
“มันคืออะไรเหรอคะ?” เธอมองอย่างสงสัย แต่เธอก็เดาไม่ออกว่าข้างในกล่องนั้นคืออะไร ยิ่งไปกว่านั้นบนกล่องของขวัญก็มีริบบิ้นสีฟ้าบังตัวอักษรอยู่บนหน้ากล่อง
จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้ตอบคำถามของเธอ แต่พูดเบา ๆ ว่า “รับไป เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้าน”
“ค่ะ! ขอบคุณประธานจิ่งนะคะ!” เธอไม่คิดว่ากล่องของขวัญจะมีน้ำหนักมาก แต่เมื่อเธอรับมาถึงกับต้องใช้สองมือประคองกอดเอาไว้ทันที ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทีที่เคียดแค้น
ตอนนี้เธอคิดแต่เรื่องที่พวกเด็ก ๆ โทรมาพูดว่าอะไร ดูท่าทางของจิ่งเป่ยเฉินแล้วถามไปก็คงไม่มีทางบอก คงต้องถามจากปากของหยางหยางเอง
ความจริงหากไม่ได้หลุดปากพูดอะไรออกไปก็คงไม่คิดมาก แต่นั่นคือบทสนทนาพ่อลูกนะ เธออยากรู้อย่างไม่อาจจะอธิบายได้ ทำให้เธอยิ่งอยากกลับบ้านไปถามอย่างเร่งด่วน
ทันทีที่ขึ้นรถของจิ่งเป่ยเฉิน เธอก็หันหน้าไปมองเขาและพูดว่า “ประธานจิ่ง คุณไม่ต้องไปส่งฉันก็ได้ รถของฉันจอดอยู่หน้าประตูทางเข้า ถ้าไม่เอารถของหลินจือเซี๋ยวกลับไป เธอได้ฆ่าฉันแน่!”
น้ำเสียงที่เด็ดขาดพูดขึ้นมาอย่างแน่วแน่ “ก็ลองดูสิ!”
น้ำเสียงนั้นทำเธอตกใจเล็กน้อย ทันทีที่รถออกเธอก็มองทิวทัศน์ด้านข้างและหันกลับมามองเขาอีกครั้ง น้ำเสียงเมื่อกี้ออกมาจากปากหรือเปล่านะ?
โชคดีที่หลินจือเซี๋ยวไม่ได้มาได้ยินด้วยตัวเอง มันน่ากลัวเกินไปแล้ว เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมา แน่นอนว่าอารมณ์โกรธของเขานั้นน่ากลัวมาก
“ประธานจิ่ง หากเป็นรถของฉันก็ช่างมันเถอะค่ะ จอดทิ้งไว้นานแค่ไหนก็ได้ แต่ว่านั่นเป็นของหลินจือเซี๋ยว มันมีค่านะคะ!” ความจริงแล้วเธอแค่ไม่อยากให้จิ่งเป่ยเฉินตามเธอกลับไป
เขาต้องเข้าไปในบ้านแน่ ๆ ส่วนถังซั่วก็คงจะยังไม่กลับ ไหนจะหยางหยางอีก และวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ หากหน่วนหน่วนเห็นเขาขึ้นมา ต้องให้เขาฉลองวันเกิดด้วยแน่ ๆ
ทุกคนที่อยู่ที่บ้านไม่ควรมีใครเจอเขาสักคน เพราะฉะนั้นบิ๊กบอสกลับบ้านตัวเองไปดีกว่า!
จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้พูดอะไร ดวงตาสีดำของเขาเป็นประกายอย่างอธิบายไม่ได้ เขาเคยเข้าใจความหมายของเธอที่ไหนกัน ขอแค่เขาได้เจอหยางหยาง และเปิดเผยตัวตนของเธอก็พอ
ตอนนี้เขายังคงทนได้ แต่ทางที่ดีอย่ารอจนเขาทนไม่ไหวจะดีกว่า จริง ๆ แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นจะอดทนได้อีกนานแค่ไหน
หลังจากนั้นไม่นาน รถก็จอดตรงด้านหน้าอาคารบริษัทจิ่ง รถสีแดงยังจอดสนิทรอเจ้าของอยู่ที่เดิม
เธอเอื้อมมือปลดเข็มขัดนิรภัย มือขวาจับประตูรถเตรียมเปิดออก แต่ทันทีที่เธอเอี้ยวตัวก็ถูกดึงตัวกลับไป ริมฝีปากที่เร้าร้อนประกบกับริมฝีปากอันเรียวบางของเธอ ลมหายใจของเขาทั้งหมดคือด้านภายในปากของเธอ
จูบนั้นเริ่มรุกเร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับว่าเขากำลังจะขย้ำเธอเข้าไปในเนื้อ ราวกับจะกลืนกินตัวเธอเข้าไปทั้งตัว
เธอพยายามรวบรวมสติอย่างเต็มที่ แต่จู่ ๆ ภายในสมองของเธอกลับว่างเปล่า ปล่อยให้เขาจูบไปตามอารมณ์ มือของเขาลูบไล้ไปตามร่างกายของเธออย่างอิสระ เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป ร่างกายของเธอตอนนี้ไร้เรี่ยวแรงราวกับไม่มีกระดูก
หลังจากนั้นฉากจูบที่เร้าร้อนก็จบลง จิ่งเป่ยเฉินกลัวว่าจะไม่จบลงง่าย ๆ ทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้เธอไป
อันโหรวสูดหายใจเฮือกใหญ่ หากไม่ใช่แสงยามค่ำคืนและเครื่องสำอางบนใบหน้าเธอที่ปกปิดเอาไว้ละก็ เขาจะต้องเห็นใบหน้าที่ร้อนผ่าวอย่างแน่นอน และเขาก็จะหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ
เธอรีบเปิดประตูรถและลงไปทันที ขณะที่มือขวาเอื้อมไปปิดประตู เสียงจากด้านในก็ดังขึ้น “สุขสันต์วันเกิด”
สุขสันต์วันเกิดโหรวโหรว
มือของเธอหยุดชะงัก เธอโน้มตัวมองใบหน้าหล่อเหลาของเขา ก่อนจะยิ้มตอบ “ขอบคุณประธานจิ่งนะคะ ฉันมีความสุขมาก ฉันไปก่อนนะคะ เจอกันในอีกหกวันค่ะ!”
เธอปิดประตูรถทันทีที่พูดจบ เสียงรถยนต์ที่ดังมาจากด้านหลัง แต่เธอไม่ได้ก้าวถอยหลบแต่อย่างใด ในมือถือกล่องของขวัญเดินไปที่รถของหลินจือเซี๋ยว เปิดประตูและเข้าไปนั่ง
ระหว่างทางกลับบ้าน เธอเปิดกระจกหน้าต่างรับลมจากด้านนอก เธอรู้สึกว่าบลัชออนบนใบหน้าดูจางหายไป เธอจึงปิดกระจกรถ ก่อนจะจอดรถข้างทางเพื่อเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าออก
ไม่ว่าถังซั่วจะยังอยู่หรือไม่ เพื่อความปลอดภัย เธอจึงควรเช็ดเครื่องสำอางออกดีกว่า
หลังจากที่เช็ดเครื่องสำอางเสร็จเรียบร้อยก็ต้องตกตะลึง กระจกที่ถืออยู่ในมือมองไม่เห็นภาพรวมที่ชัดเจนเท่าไร ตอนนี้ริมฝีปากของเธอบวมแดงขึ้นมาเล็กน้อย คนที่รู้ไม่พูดก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
จิ่งเป่ยเฉิน นายทำไมถึงจูบโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ ทำแบบนี้เธอกลับบ้านไปจะอธิบายยังไง แบบนี้จงใจชัด ๆ
เธอเก็บกระจกและน้ำยาล้างเครื่องสำอางลงในกระเป๋าและโยนไปเบาะที่นั่งด้านข้าง สายตาเหลือบไปมองกล่องของขวัญสีฟ้า เพราะกระเป๋าที่เพิ่งโยนไปโดนริบบิ้นที่เปิดออก คล้ายรอให้เธอเปิดมัน
ราวกับว่าถูกมนตร์สะกด เธอหยิบกล่องนั้นขึ้นมาแกะออก
น้ำหนักที่ดูหนัก แต่เธอกลับเดาไม่ออกว่าอะไรอยู่ข้างใน ด้วยความสงสัยเธอจึงแกะริบบิ้นและเปิดกล่องออก ภายใต้แสงไฟที่ส่องประกาย เธอเห็นของที่อยู่ด้านในอย่างชัดเจน ชุดเครื่องสำอางเต็ม ๆ หนึ่งเซ็ต
จิ่งเป่ยเฉิน นายแน่มาก นายมันแน่จริง ๆ!
จู่ ๆ ให้เครื่องสำอางกับเธอ คิดว่าบนใบหน้าเธอยังซีดไม่พองั้นเหรอ?
เธอรีบปิดกล่องและโยนมันลงไปที่เบาะนั่งด้านข้างทันที ก่อนจะเหยียบคันเร่งขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ขับรถออกไปได้ไม่นาน ความเร็วของเครื่องยนต์ก็ค่อย ๆ ลดลง
เธอโกรธมากจนต้องหยิบของที่อยู่ในกล่องนั้นขึ้นมาดูอีกครั้ง หยิบบลัชออนที่อยู่ด้านในกล่องขึ้นมาดูป้าย กันน้ำซะด้วย
เธอดูและมองไปที่ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด มาสคาร่า และอายแชโดว์ต่างก็กันน้ำได้หมด
บิ๊กบอสช่างห่วงใยขนาดนี้ ต้องแสดงความขอบคุณเขาอย่างจริงใจ เธอแทบอยากจะทุบหัวเขาอย่างที่สุด
เมื่อเก็บของทุกอย่างเสร็จเธอก็ขับรถต่อ เธออารมณ์ดีตลอดทาง ทันทีที่จอดรถก็ลงมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
เธอเดินเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ เตรียมหยิบกุญแจออกมาไขประตู แต่ประตูห้องกลับเปิดอยู่ก่อนแล้ว ถังซั่วอุ้มหน่วนหน่วนออกมาต้อนรับเธอ “ได้ยินเสียงรถ คิดว่าคุณคงกลับมาแล้ว!”
“แม่จ๋า อุ้ม ๆ” หน่วนหน่วนกางแขนทั้งสองข้างออก เธอรีบเข้าไปอุ้มหน่วนหน่วนจากอ้อมแขนของถังซั่วทันที
“รบกวนคุณแล้วจริง ๆ!” เธอหัวเราะอย่างเขินอาย หน่วนหน่วนกอดเธออย่างอบอุ่น
“แม่จ๋ากลับมาดึกจังเลย!”
“แม่จ๋าผิดเอง ปีหน้าจะไม่เป็นแบบนี้แน่” เธออุ้มหน่วนหน่วนเข้าไปในบ้าน ถังซั่วปิดประตูบ้านและเดินเข้าไปพร้อมกัน
……………………………
ตอนที่ 166 Happy Birthday
ภายในห้องเต็มไปด้วยลูกโป่งสีม่วงและสีขาว บนลูกโป่งมีคำว่า ‘Happy birthday’ เขียนเอาไว้อยู่ตรงกลางลูกโป่ง บนโต๊ะก็มีเค้กผลไม้ขนาดใหญ่วางอยู่ เธอยังไม่ทันได้เข้ามา ถังซั่วก็ได้สวมหมวกสุขสันต์วันเกิดให้กับเธอเสียแล้ว
“แม่จ๋า!” หยางหยางหยิบพวงดอกคาร์เนชั่นมาให้เธอ “แม่จ๋า ให้แม่ครับ!”
“ขอบคุณนะลูกรัก!” เธอวางหน่วนหน่วนลง ก่อนจะก้มลงไปหอมที่หน้าผากของหยางหยางและรับช่อดอกไม้มา
“สุขสันต์วันเกิดค่ะแม่ สวยวันสวยคืน! อายุน้อยลงนะคะ!” หน่วนหน่วนยิ้มอย่างร่าเริงกับคำพูดของเธอ
เธอรู้สึกหัวใจเต้นอย่างรุนแรง ตลอดชีวิตมานี่นับว่าเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ๆ ลูก ๆ สองคนของเธอคือหัวแก้วหัวแหวนจริง ๆ
“แม่จ๋ามาเป่าเทียนขอพรเร็ว!” หยางหยางดึงเธอเดินไปที่โต๊ะ ใบหน้าที่เย็นชาของเขาเผยรอยยิ้มบาง ๆ ออกมา
เมื่อก่อนมีแค่พวกเขาสามคน แต่แล้วทันใดนั้นก็มีถังซั่วปรากฏตัวขึ้น แสงที่จดจ่อบนร่างกายนั้นดูเด่นจนเกินไป เธอคิดว่าเรื่องพวกนี้มันยากที่จะปฏิเสธ
“ของพวกนี้คุณถังซื้อมา ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะที่ทำให้คุณวุ่นวาย” ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าจิ่งเป่ยเฉินที่คิดอยากให้เธอกินข้าว ในตอนนั้นมันเหมือนกับการทำงานล่วงเวลาจริง ๆ
“ไม่วุ่นวายหรอก แต่ว่านานขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่คิดว่าผมเป็นเพื่อนอีก ถ้าหากคุณไม่พูด ผมก็คงโกรธจริง ๆ นะ” ถังซั่วยิ้มและมองไปที่เธอ จากนั้นก็ยื่นมือหยิบไฟแช็กออกมาและจุดไปที่เทียนตรงกลาง
“แน่นอนเป็นเพื่อนค่ะ คุณถังช่วยพวกเราไว้เยอะขนาดนี้” เธอมองลงไปที่เทียนที่อยู่บนเค้ก เทียนพวกนี้คงเป็นหยางหยางเลือกมาแน่ แต่ดูตรงคำว่า ‘18’ เธอรู้สึกว่าอายเล็กน้อย เด็กทั้งสองคนนี่จริง ๆ เลย คิดว่าแม่ของเธออายุสิบแปดหรือยังไงกัน
“แม่จ๋าจะอายุสิบแปดไปตลอดกาล! รีบเป่าเค้กเร็ว!” หยางหยางเงยหน้าขึ้นไปมองเธอ ใบหน้าน้อย ๆ นั้นจับจ้องไปที่แม่
ในที่สุดก็รอจนแม่กลับมาบ้านได้ ทั้งยังไม่ถูกคุณลุงนิสัยไม่ดีรังแกอีก
เธอหลับตาลง สงบจิตใจที่อยู่ในหัวก่อนจะคิดทุกอย่างเกี่ยวกับหยางหยางและหน่วนหน่วน ความปรารถนาของเธอนั้นเรียบง่าย หวังแค่ว่าพวกเขาจะเติบโตอย่างมีความสุขและสุขภาพร่างกายแข็งแรง
เมื่อเธอกำลังจะลืมตาขึ้นมา เธอก็เห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของจิ่งเป่ยเฉินแวบลอยมา เธอส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะทำท่าตบไปมาในอากาศ
หลังจากที่ลืมตาขึ้น เธอก็เห็นใบหน้าเล็ก ๆ ของพวกเขา หัวใจของเธอก็ถูกเติมเต็ม จิ่งเป่ยเฉินที่แวบเข้ามาในหัว ก่อนที่เธอจะสลัดความคิดนั้นออกและพูดว่า “เอาล่ะ”
“หนึ่ง สอง สาม…..” หน่วนหน่วนนับตัวเลข ทั้งสามคนก็เป่าเทียนที่อยู่ตรงหน้าพร้อมกัน
ถังซั่วเคยเห็นงานวันเกิดที่ยิ่งใหญ่กว่านี้มาแล้ว แต่ทันใดนั้นกลับรู้สึกว่าภาพเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้านี้มันดูอบอุ่นและรู้สึกให้กำลังใจเขาเป็นอย่างมาก
เมื่อมองไปยังรอยยิ้มของพวกเขา เขาเองก็รู้สึกว่าภาพบรรยากาศพวกนี้มันช่างน่าประทับใจไม่ลืมไปชั่วชีวิตเลย
“คุณถัง” อันโหรวถือเค้กที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ มายื่นให้เขา
ถังซั่วรับมันมาด้วยรอยยิ้ม นี่เป็นเวลากว่าหลายปีแล้วที่เขานั้นแทบไม่ได้กินเค้กวันเกิด แต่หลังจากที่ดูพวกเขาแม่ลูกสามคนที่ช่วยกันแบบนี้ มีสายสัมพันธ์แบบนี้ เขารู้สึกได้เลยว่าเค้กวันเกิดที่อยู่ในมือของเขานั้นมันต้องอร่อยมาก ๆ แน่
“แม่จ๋าขอพูดก่อนนะคะ อย่ากินเลอะเทอะบนตัวนะ และห้ามเอาเค้กมาเล่นกับแม่ด้วย” เธอจำได้ว่าปีที่แล้วเธอเล่นเค้กก้อนโต ทั้งยังเอาครีมทาไปบนหน้า ทำให้ผมของเธอเหนียว กว่าจะล้างออกใช้เวลานานมาก
“ไม่ ไม่มีทางหรอก!” หยางหยางรีบพยักหน้าอย่างจริงจัง ก่อนจะรับปากแม่จ๋าเพราะตอนนี้มีคุณลุงถังอยู่ เขาอยากให้แม่จ๋ามีแต่ภาพประทับใจเท่านั้น เขาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่
“อืม อืม หน่วนหน่วนก็ไม่เล่น” หน่วนหน่วนกินเค้กด้วยความอร่อย ครีมสีขาวที่อยู่บนหน้าเค้กเลอะเปื้อนไปที่มุมปาก แต่ยิ่งมองก็ยิ่งดูน่ารัก
เธอดึงทิชชูมาเช็ดเบา ๆ ให้เธอ หน่วนหน่วนได้แต่หัวเราะเอิ้กอ้าก เมื่อเช็ดให้เธอเสร็จ เธอก็รีบเข้าไปในอ้อมกอดของแม่ทันทีและพูดว่า “แม่จ๋า หนูรักแม่ที่สุด!”
“แม่จ๋าเองก็รักลูก กินดี ๆ กินเสร็จแล้วจะได้นอนเร็ว ๆ นะ”ความนุ่มนวลที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอทำให้รู้สึกสบายและอบอุ่นใจมาก เพราะเด็กคนนี้แม้ว่าจะทำท่าเหมือนขายเธอ แต่เธอก็รักพวกเขาอยู่ดี มันทำให้หัวใจของเธอนั้นอบอุ่นมากขึ้น
“ค่า!” หน่วนหน่วนที่ได้ยินก็เชื่อฟัง ก่อนจะกินทีละเล็กทีละน้อยจนกินเสร็จ
หยางหยางเองก็เช่นกัน เขาไม่ได้กินอะไรมากมายจนกินเสร็จ เธอหันหน้าไปมองถังซั่วที่กำลังกินเค้กด้วยท่าทีที่อร่อยแต่ดูสง่างาม เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ได้พาหยางหยางกับหน่วนหน่วนไปล้างมือในห้องน้ำเสียก่อน
ถังซั่วมองไปที่ด้านหลังของพวกเขา มือของเขาค่อย ๆ กินอย่างช้า ๆ ลิ้มรสความหวานหอมของตัวเค้ก ไม่รู้เลยว่ามันหวานแต่แรกอยู่แล้ว หรือหวานขึ้นจากการที่ได้เห็นพวกเขาทำท่าทางน่ารักแบบนั้น
ห้องที่ถูกตกแต่งไปด้วยแสงไฟอบอุ่น เขาที่ได้อยู่กับพวกเขานั้น เริ่มรู้สึกว่าพวกเขาต่างก็ชื่นชอบแม่ของพวกเขามาก ๆ ส่วนเธอก็รู้สึกจะชื่นชอบพวกเขาเหมือนกัน
อันโหรวรีบจัดการดูแลเด็ก ๆ ทั้งสองคนให้ไปเข้านอน ในตอนแรกก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่พวกเขาให้ความร่วมมืออย่างดีในค่ำคืนนี้ เมื่อเธอออกไปข้างนอกเพื่อดูว่าถังซั่วออกไปหรือยัง ก็เห็นว่าเขายังไม่กลับไป จึงเริ่มเข้าใจได้มากขึ้น
หยางหยางลูกรัก ถึงแม้ว่าลูกจะสร้างโอกาสอะไรมากมาย แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ในวันเกิดก็ได้นี่! เธอรู้สึกง่วงจริง ๆ และคิดว่าควรนอนได้แล้ว
อีกอย่างเธอเองก็ไม่ได้คิดอยากจะมีแฟนจริง ๆ นะ!
“คุณถัง วันนี้ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่ช่วยดูแล แต่นี่ก็ดึกแล้ว ฉันขอส่งคุณนะ!” เธอลุงขึ้น ถังซั่วเองก็ลุกขึ้นตาม
เธอที่ได้เดินนำหน้าออกไป เมื่อพูดจบก็หันหลังและเดินไปที่ประตู
พวกเขาเดินออกไปทีละคน เดือนนี้เป็นเดือนตุลาคมที่เริ่มรู้สึกถึงลมหนาวที่พัดผ่าน หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะตัวเธอเพิ่งพาลูกน้อยอาบน้ำไป มันเลยทำให้ลมเย็น ๆ ที่พัดมานั้นไม่ค่อยหนาวมากเท่าไร
รถของถังซั่วจอดอยู่ตรงด้านประตูหลัง หลังจากที่พวกเขาเดินผ่าน เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นรถแต่อย่างใด แต่กลับหยุดอยู่ข้าง ๆ ที่นั่งของคนขับ
โคมไฟถนนสีเหลืองสลัวสาดส่องมาที่ร่างของเขา เนื่องจากมุมแสงไฟที่สาดส่องลงมา ทำให้เห็นใบหน้าของเขาไม่ชัดเจนมากนัก เห็นแต่เพียงเงาและท่าทางที่ดูหล่อเหลาและไม่ธรรมดาเท่านั้น
“คุณถัง?” เธอเอ่ยเรียกอย่างไม่แน่ใจ
ถังซั่วหยิบกล่องสีแดงขนาดเล็กและดูสวยงามออกมา ก่อนจะยื่นมันให้กับเธอ “ของขวัญวันเกิด”
กล่องขนาดเล็กและดูสวยงามขนาดนี้ ข้างในจะต้องเป็นของที่มีราคาแพงมากแน่ ๆ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อให้มันเป็นของที่ไม่แพงหรือว่าอะไรก็ตาม เธอก็คงไม่อาจรับได้
“คุณถัง คุณสุภาพเกินไปแล้ว ของขวัญพวกนี้ฉันไม่อาจรับได้หรอกค่ะ วันนี้คุณพาหยางหยางกับหน่วนหน่วนมาด้วย ก็นับว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว” เธอส่ายหน้าปฏิเสธและเอ่ยอย่างจริงจัง
ถังซั่วคิดว่าเธอคงปฏิเสธ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะปฏิเสธออกมาตรง ๆ แบบนี้
“มันก็แค่ของขวัญชิ้นเล็ก ๆ พวกเราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอครับ?” เขาแค่อยากจะมอบของขวัญให้เธอ หรือว่ามันยังเร็วเกินไปกันนะ
“เป็นเพื่อนค่ะ แต่มันไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับของขวัญเลย” เธอรู้สึกคลุมเครือว่าถ้าหากเธอรับของขวัญมา คงต้องผูกติดกับเขาแน่ ๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่ต้องการ
เธอรีบเอ่ยคำพูดโดยไม่รอแม้แต่จะให้ถังซั่วตอบ “นี่ก็ดึกมากแล้ว ขับรถระวังด้วยนะคะ ขอบคุณที่จัดงานฉลองวันเกิดให้ฉันนะคะ”
เธอก้าวถอยหลังอย่างช้า ๆ ก่อนจะพยักหน้าและหันหลังกลับไปที่ประตูอพาร์ตเมนต์ ก่อนจะปิดประตูอพาร์ตเมนต์อย่างแผ่วเบา
ถังซั่วเหลือบมองไปที่กล่องเล็ก ๆ ในมือก่อนจะเก็บลงไป อย่างน้อยสิ่งที่เธอพูดในตอนท้ายก็ไม่ใช่แค่ขอบคุณที่เขาดูแลเด็ก ๆ แต่ขอบคุณที่เขาจัดงานฉลองวันเกิดให้เธอด้วย
มันเลยทำให้ถังซั่วได้แต่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ คนเดียว
อันโหรวเมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็นั่งลงบนโซฟา ก่อนจะมองดูของตกแต่งที่อยู่ในห้องนั่งเล่น พลันรู้สึกคิดถึงหลินจือเซี๋ยว เพราะอย่างน้อยก็ยังมีอีกคนที่มาช่วยทำความสะอาด
มันดูดีไม่เบา แต่ก็ยากที่จะทำความสะอาดจริง ๆ เธอนั่งอยู่สักพัก ก่อนจะได้ยินเสียงรถที่อยู่ด้านนอก ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็พลันเบิกกว้าง มองไปที่ตรงนั้น ดูเหมือนถังซั่วเพิ่งจะขับรถออกไป นี่เขาทำอะไรนานขนาดนั้นกันนะ?