ตอนที่ 127 ร้อยล้าน...เฉินฝานซิง / ตอนที่ 128 เธอควรจะดีใจนะ

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 127 ร้อยล้าน…เฉินฝานซิง 

 

 

“ร้อยล้าน…เฉินฝานซิง” 

 

 

กริ๊บ! 

 

 

เงียบกริบกันทั้งห้องจัดเลี้ยง 

 

 

นาทีต่อจากนั้นทั้งงานก็ระงมไปด้วยเสียงฮือฮา! 

 

 

ร้อยล้าน! 

 

 

เพื่อเต้นรำเปิดงานแค่ครั้งเดียว! 

 

 

ตกลงว่าเป็นใครกันแน่! 

 

 

นี่มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว! 

 

 

“แม่เจ้า พอเปิดปากก็ร้อยล้านเลย! ไม่เคยพบไม่เคยเจอ!” 

 

 

“ผู้ชายคนนั้นคือใครกันถึงได้อู้ฟู่ขนาดนี้!” 

 

 

“คงไม่ได้อำกันหรอกนะ ร้อยล้านเพื่อการเต้นรำแค่ครั้งเดียว นี่ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ!” 

 

 

“เมื่อกี้เฉินเชียนโหรวได้ไปล้านนึงฉันก็อิจฉาแล้วนะ! หากว่าจริงล่ะก็ คงจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว! เทียบกัน เฉินเชียนโหรวก็ดูจะเป็นเรื่องโจ๊กไปเลย” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนเมินเฉยต่อความแตกตื่นของทุกคน เขายืนอยู่ตรงหน้าของเฉินฝานซิง ดวงตาสีดำขลับที่ฉาบไปด้วยรอยยิ้มจางๆ คู่นั้นจ้องเธอไม่วางตา 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงจากข้างหลังหลินเฟยเฟยก็ถึงกับหน้าถอดสี เธอรีบหันกลับไป แต่สิ่งที่เห็นคือชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลากำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเฉินฝานซิง! 

 

 

ในสมองของเธอมีเสียงดัง ฟี่ พร้อมกับร่างกายที่สั่นไหวเล็กน้อย 

 

 

ผู้ชายที่โดดเด่นเช่นนี้ จู่ๆ ก็ถลันเข้าหาเฉินฝานซิง?! 

 

 

ยัยเฉินฝานซิงกล้าดียังไง? 

 

 

กล้าดียังไง?! 

 

 

ผู้หญิงฉาวโฉ่พรรค์นั้น มีสิทธิ์อะไรได้ใกล้ชิดกับผู้ชายแบบนี้! 

 

 

จู่ๆ จะมาทุ่มเงินร้อยล้านเพื่อเต้นรำกับคนอย่างยัยนั่น?! 

 

 

เธอขยำชายกระโปรงตัวเองแน่น สายตามองไปยังป๋อจิ่งชวนที่อยู่ข้างๆ เฉินฝานซิงอย่างสงสัยไม่ได้ 

 

 

การที่ได้มองชายหนุ่มในระยะประชิด แม้จะแค่ซีกหน้าเพียงข้างเดียวเท่านั้นก็ยังทำให้เธอรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะขาดอากาศ 

 

 

ความสูงศักดิ์ซึ่งไร้ที่ติที่แผ่ออกมาจากร่างกายนั้น รูปร่างที่เพอร์เฟคและบุคลิกสุขุม ทำให้เธอรู้สึกหลงใหลราวกับถูกยาพิษที่ไม่อาจต้านทานได้สะกดให้ต้องลุ่มหลงในตัวเขาจนโงหัวไม่ขึ้น 

 

 

ไม่ได้การล่ะ ผู้ชายคนนี้ เธอจองแล้ว! 

 

 

เธอจองแล้ว! 

 

 

เขาจะคบกับเฉินฝานซิงไม่ได้ เธอจะไม่ยอมให้เฉินฝานซิงมาแย่งไปเขาไปจากเธอเด็ดขาด! 

 

 

เธอพยายามข่มไฟโทสะและความตื่นเต้นในอกลงอย่างสุดกำลัง มือของเธอกำเข้าหากันแน่นจนสั่นเทา 

 

 

เธอขยับขึ้นไปเล็กน้อยเพื่อเข้าใกล้พวกเขาทั้งคู่ 

 

 

“นี่คุณคะ คุณคงไม่ได้ล้อเล่นหรอกใช่ไหมหรือว่าคุณกำลังเข้าใจอะไรผิด” 

 

 

เฉินฝานซิงหันไปกวาดสายตามองเธอหนึ่งครั้ง แล้วเม้มปากเงยหน้ามองป๋อจิ่งชวนด้วยดวงตาที่ซุกซ่อนด้วยรอยยิ้มละเ**่ยใจ พลางส่ายหน้าไปมาเบาๆ 

 

 

ป๋อจิ่งชวนยกคิ้วขึ้นน้อยๆ ก่อนจะหันไปมองหลินเฟยเฟย นัยน์ตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มนั่นล่ะจากใบหน้าของเฉินฝานซิงชั่วขณะ ความเยือกเย็นได้กลับมายึดครองบรรยากาศครึ่งหนึ่งไว้ได้อีกครั้ง ยามที่สายตาจับจ้องไปที่หลินเฟยเฟยสายตาคู่นั้นก็เยือกเย็นเสียจนสามารถแช่คนถูกมองให้แข็งตายได้ 

 

 

“เธอว่าไงนะ” 

 

 

หลินเฟยเฟยถูกดวงตาสีดำขลับอันหนาวเหน็บคู่นั้นทำเอาตกใจจนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว 

 

 

ลมหายใจของเธอแทบจะขาดห้วงไปชั่วขณะ 

 

 

“ฉัน…ฉันพูดว่า…คุณคงจำคนผิดแล้ว…” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนยกคิ้วขึ้นอย่างคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก เขาเม้มปากแน่นแล้วมองเธอด้วยสีหน้าเย็นชา 

 

 

หลินเฟยเฟยคิดว่าเขากำลังรอให้เธอพูดต่อ นั่นยิ่งเสริมความมั่นใจให้เธอไม่น้อย เธอหันไปมองเฉินฝานซิงที่ยืนทำตัวเย็นชาอยู่ข้างๆ เธอกัดฟันกรอดก่อนจะยกมือขึ้นชี้หน้าเฉินฝานซิง 

 

 

“คุณคงจะยังไม่รู้สินะ ว่าผู้หญิงที่ชื่อเฉินฝานซิงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่ไร้หัวใจและต่ำช้า ใครๆ เขาก็รู้กิตติศัพท์ของเธอกันไปทั่ว! แย่งของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง เพื่อสิ่งที่เธอต้องการไม่ว่าหนทางไหนก็ไม่เกี่ยงจนถึงขั้นยอมปล่อยเนื้อตัวปล่อยตัวเพื่อยั่วผู้ชาย…” 

 

 

อวี๋ซงที่ตามหลังป๋อจิ่งชวนมาอย่างติดๆ ตอนนี้เขาได้ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างเงียบๆ เมื่อได้ฟังถ้อยคำเหล่านั้น เขาถึงกับขมวดคิ้วยุ่งแล้วยกมือขึ้นกุมหน้าตัวเอง! 

 

 

ยัยโง่เอ๊ย!  

 

 

เขาลอบมองสีหน้าของคุณผู้ชายของตัวเองผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วมือ 

 

 

ก็พบว่าความงดงามที่ยากจะหาผู้ใดเหมือนบนใบหน้านั้น จากเดิมที่มีท่าทีเย็นชาอยู่แล้วก็ยิ่งดิ่งลงสู่ความมืดครึ้มเข้าไปทุกชั่วขณะ 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 128 เธอควรจะดีใจนะ 

 

 

หากพูดถึงความสามารถในการรนหาที่ตายแล้ว ตอนนี้เขาคงรู้สึกชื่นชมยัยผู้หญิงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงคนนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ! 

 

 

ห้องจัดเลี้ยงที่เดิมก็เงียบอยู่แล้ว เสียงในลำคอของหลินเฟยเฟยที่สั่นเคลือเล็กน้อยแม้จะไม่ได้สูงแต่ก็เสียงดังฟังชัดจนได้ยินกันทั้งห้องจัดเลี้ยงใหญ่ 

 

 

รอบๆ เริ่มมีการกระซิบกระซาบเกิดขึ้น 

 

 

“เกิดอะไรขึ้น” 

 

 

“ยังไงซะชื่อเสียงก็ไม่ค่อยน่าฟัง แว่วๆ มาว่าตอนที่ถูกสถานศึกษาไล่ออกน่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องขโมยงานนะ ได้ข่าวว่า ในงานแข่งเปียโนปีนั้นน่ะ ผู้หญิงคนนั้นดันไปให้ท่ากรรมการนะสิ…” 

 

 

“ว๊าย?! พระเจ้าช่วย ดูก็ออกจะเป็นผู้ดีปานนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนแบบนี้…” 

 

 

แม้ตอนนี้ผู้คนจะพูดกันให้ทั่ว แต่นั่นยังเป็นเพียงส่วนน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นแขกที่มาจากต่างบ้านต่างเมือง ซึ่งอันที่จริงคนส่วนใหญ่เองก็ยังไม่รู้ลึกตื้นหนาบางเรื่องข่าวลือของเฉินฝานซิงมากนัก 

 

 

การประมูลเมื่อครู่ ก็ได้ยินไปแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ก็แค่หญิงชั่วคนนึง 

 

 

แม้จะไม่มีหลักฐาน แต่ในเมื่อคนส่วนใหญ่ต่างก็เห็นตรงกัน พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคิดให้มากความ 

 

 

ยังไงซะก็แค่ผู้หญิงชั่วคนนึง 

 

 

นึกไม่ถึงเลยว่า จะเป็นผู้หญิงที่ต่ำช้าได้ขนาดนี้! 

 

 

คนเราดูกันแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ! 

 

 

ถ้อยคำระคายหูต่างๆ นานาทยอยกันแว่วดังออกมา จนเสียงสนทนายิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ 

 

 

ในที่สุดสีหน้าของเฉินฝานซิงก็เริ่มซีดขาว เธอรู้สึกเย็นวาบไปตั้งแต่หัวจรดเท้าและด้านในไปสู่ด้านนอก 

 

 

เธอยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ สองมือที่ทิ้งอยู่ข้างลำตัวอ่อนแรงจนแม้แต่จะกำเข้าหากันยังทำไม่ได้ 

 

 

เมื่อเห็นว่าในที่สุดเฉินฝานซิงก็เผยท่าทีจนตรอกต่อหน้าชายหนุ่ม หลินเฟยเฟยก็ยกยิ้มกระหยิ่ม 

 

 

“เพราะงั้นนะคะคุณ คุณแน่ใจไหมว่ายังอยากจะประมูลให้ผู้หญิงคนนี้แบบนี้ ร้อยล้าน? คุณลองถามเธอดูสิว่า ตัวเองมีค่าพอสำหรับราคานี้รึเปล่า” 

 

 

“แบบนี้นี่เอง” 

 

 

ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาและอึมครึม ดวงตาขุ่มมัวไร้ความรู้สึก ริมฝีปากบางของเขาที่เผยอขึ้นเล็กน้อยกรีดเป็นรอยยิ้มมุมปากที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น 

 

 

หัวใจของเฉินฝานซิงก็สั่นคลอนไปชั่ววูบ จู่ๆ สองมือนั้นก็บีบเข้าหากัน 

 

 

เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาสุกใสดั่งแสงดาวนั้นสั่นไหวภายใต้แสงไฟ ปากรูปกระจับเผยอขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมา 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากป๋อจิ่งชวน หลินเฟยเฟยก็รู้สึกชอบใจ เธอพยักหน้าหงึกๆ แล้วเชิดคางขึ้นเล็กน้อยก่อนหันไปมองเฉินฝนซิงด้วยสายตาถากถางและได้ใจ 

 

 

“ใช่แล้ว! เธอเป็นผู้หญิงแบบนี้แหละ!” 

 

 

เพี๊ยะ จู่ๆ แก้มของหลินเฟยเฟยก็ถูกประทับด้วยฝ่ามือหนักๆ หนึ่งฉาด! 

 

 

รอบข้าง ระงมไปด้วยเสียงอุทานด้วยความตกใจ! 

 

 

หลินเฟยเฟยเหวออยู่นาน หลังจากที่สัมผัสได้เพียงความรู้สึกชาๆ ที่ซีกหน้าด้านซ้าย สิ่งที่ตามมาก็คือความรู้สึกแสบร้อน 

 

 

เธอตอบโต้กลับด้วยการถลึงตามองหญิงสาวที่ยืนประจันหน้าเธออยู่! 

 

 

“แกกล้าตบฉันงั้นเหรอ!” 

 

 

สวี่ชิงจือกุมข้อมือของตัวเองแล้วสะบัดมันเบาๆ เพื่อไล่ความเจ็บปวด จากนั้นก็เหลือบมองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น 

 

 

“ฆ่าศัตรูได้หนึ่งพันแลกกับทหารของตัวเองห้าร้อย [1] การตบคนที่เป็นเรื่องหยาบคายและไร้ประโยชน์แบบนี้ ไม่เคยอยู่ในหัวของฉัน! แต่หลินเฟยเฟย นับว่าเธอมีฝีมืออยู่พอตัว ที่ทำให้คุณหนูอย่างฉันระเบิดได้!” 

 

 

“แก…” หลินเฟยเฟยยกมือขึ้นกุมแก้มที่ทั้งเจ็บและบวม อกของเธอแทบจะระเบิดออกมา! 

 

 

มีแวบหนึ่งที่เธอคิดจะกระโจนเข้าไปฉีกสวี่ชิงจือให้เป็นชิ้นๆ! 

 

 

แต่เพราะเห็นแก่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอจึงเลือกที่จะข่มมันเอาไว้แล้วหันไปบีบน้ำตามองป๋อจิ่งชวนด้วยสายตาเว้าวอน 

 

 

ท่าทางแบบนั้นดูก็รู้ว่าเธอกำลังเรียกคะแนนความสงสาร 

 

 

“คุณดูสิคะ ยัยนี่เป็นเพื่อนของเฉินฝานซิง พวกพันธุ์เดียวกันก็ไม่ใช่จะดีเด่อะไร!” 

 

 

มุมปากที่กระตุกขึ้นของป๋อจิ่งชวนยิ่งเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ นัยน์ตาสีดำสนิทลึกล้ำดั่งห้วงธาราไร้ซึ่งเงาของรอยยิ้ม 

 

 

“งั้นเหรอ” ยามที่เขาเอ่ยปาก คางของเขาไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อน สายตาเยือกเย็นหลุบลงต่ำโดยไม่แม้ที่จะก้มหน้าลงคุยกับเธอ 

 

 

“เธอควรจะดีใจนะที่เขาเป็นคนลงมือ ไม่งั้นวันนี้เธออาจต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ก็ได้” 

 

 

 

 

 

—— 

 

 

[1] ฆ่าศัตรูได้หนึ่งพันแลกกับทหารของตัวเองห้าร้อย หมายความว่าแม้จะกำจัดศัตรูได้แต่ตัวเองก็สูญเสียไม่น้อยเช่นเดียวกัน