บทที่ 112 ใครจะออกเงิน

จางซิ่วเอ๋อกล่าวเสียงกังวาน “ชาวบ้านทุกท่าน ทุกคนช่วยบอกหน่อยว่าเงินนี่ข้าต้องออกหรือไม่”

พูดมาถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็ทอดสายตาไปที่ผู้ใหญ่บ้านซ่ง

ผู้ใหญ่บ้านซ่งกระแอมเบาๆ ที่จริงเขาไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ หากล่วงเกินแม่เฒ่าจางไม่รู้ว่าหลังจากนี้นางจะสร้างปัญหาอะไรอีกบ้าง แต่ถ้าไม่ล่วงเกินแม่เฒ่าจางก็ต้องล่วงเกินจางซิ่วเอ๋อ

ผู้ใหญ่บ้านซ่งยังอยากได้ผลประโยชน์จากจางซิ่วเอ๋ออยู่ จางซิ่วเอ๋อในใจผู้ใหญ่บ้านซ่งเป็นคนในหมู่บ้านที่รู้จักวางตัวอย่างหาได้ยาก ถ้าครั้งนี้ตัวเองช่วยจางซิ่วเอ๋อแล้ว ไม่รู้ว่าจางซิ่วเอ๋อจะเอาอะไรให้บ้าง

คิดไปคิดมา สุดท้ายผู้ใหญ่บ้านซ่งก็เอ่ยขึ้น “คนบ้านจาง เจ้ายังขายหน้าไม่พออีกรึ? ชีวิตซิ่วเอ๋อก็ลำบากเหมือนกัน มีผู้ใหญ่อย่างเจ้าที่ไหนกัน? ไม่ช่วยลูกช่วยหลานแล้วยังเอาเท้าราน้ำอีก!”

สวี่อวิ๋นซานอีกด้านก็พูดขึ้น “เงินนี่จะให้ซิ่วเอ๋อออกไม่ได้ ช่วงนี้ซิ่วเอ๋อไม่อยู่ในหมู่บ้านกลับต้องมาเจอเคราะห์กรรมทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องชดใช้อะไรก็นับว่าดีแล้ว! ยังจะให้นางออกเงินอีกรึ?”

แม่เฒ่าหลิวที่ชอบหาเรื่องแม่เฒ่าจางก็เอ่ยขึ้น “ใช่! แม่เฒ่าจาง เจ้ารักษาหน้าเหี่ยวๆ ของเจ้าไว้บ้างได้หรือไม่? ตัวเองไร้สมองโดนหลอกแล้ว ยังจะโทษคนอื่นอีกรึ?”

แม่เฒ่าจางไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนในหมู่บ้านอยู่แล้ว เวลานี้จึงไม่มีใครเข้าข้างนาง

นอกจากคนที่เงียบ ที่เหลือช่วยจางซิ่วเอ๋อหมด

แม่หลินมีความคิดอยากช่วยแม่เฒ่าจางเรียกเงิน แต่พอเห็นสายตาสวี่อวิ๋นซานแล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก กลัวว่าสวี่อวิ๋นซานจะไม่ไว้หน้านางต่อหน้าทุกคน แล้วนางต้องอับอาย

แม่เฒ่าจางหน้าเสีย ตอนนี้นางรู้แล้วว่าคงจะเรียกเงินไม่ได้อีก

นางกลอกตา ก่อนจะมองรถลากที่จอดอยู่ข้างๆ ซึ่งบนรถลากมีของหลายอย่าง

จางซิ่วเอ๋อระแวงคนตระกูลจาง จึงยัดเนื้อที่ตัวเองซื้อมาไว้ใต้ตะกร้าแล้วเอาพวกผักวางทับ ส่วนผักที่เกินออกมาก็ใส่ในตะกร้าสานที่ซื้อมาใหม่

ใต้ตะกร้ายังมีเสื้อชั้นในที่ซื้อให้จางซานหยาและแม่โจว

ดังนั้นในสายตาคนอื่น ของพวกนี้ก็คือผักทั้งหมด

แม่เฒ่าจางมองผ่านไปไม่ได้สนใจมาก นางทอดสายตาไปที่ห่อผ้าห่อหนึ่งขนาดไม่เล็ก ดูก็รู้ว่าข้างในมีของเยอะ

แม่เฒ่าจางยื่นมือพลางเอ่ยปากไปพลาง “ข้าไม่เรียกแปดตำลึงเงินจากเจ้าแล้ว แต่หนนี้เจ้าต้องเอาอะไรมาตอบแทนข้าบ้าง ผักที่ท่านยายเจ้าให้มาเจ้าเก็บไว้บำรุงร่างกายเถอะ ส่วนของในห่อผ้านี้เอาให้ข้า!”

จางซิ่วเอ๋อมีสีหน้าประหลาด “ท่านย่า ของนี่ให้ท่านไม่ได้จริงๆ”

“ทำไม ข้าโดนกระทำขนาดนี้เพราะเจ้า เจ้าตอบแทนข้าหน่อยจะเป็นอะไรไป?” แม่เฒ่าจางทำหน้าตาพาลใส่

แม่เถาเองก็เอ่ยขึ้น “ซิ่วเอ๋อ เจ้าทำแบบนี้เกินไปหน่อยนะ เจ้าให้ของปลอบใจย่าเจ้าหน่อยจะเป็นอะไรไป?”

จางต้าหูอีกด้านก็เดินออกมา “ซิ่วเอ๋อ เจ้าเลิกใช้อารมณ์กับย่าเจ้าได้แล้ว วันนี้ย่าเจ้าก็หวังดี เอาของให้ย่าเจ้าเร็ว”

ตอนยังไม่เห็นจางต้าหู จางซิ่วเอ๋อไม่ได้โกรธมาก แต่วินาทีที่เห็นจางต้าหู จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกเหมือนมีเพลิงโทสะสุมอยู่ในอก

จางต้าหูใช่พ่อแท้ๆ ของเจ้าของร่างไหมเนี่ย? ตอนได้รับความอยุติธรรมเขาไม่ยืนหยัดออกมา แต่กลับเสนอหน้ามาตอนช่วยแม่เฒ่าจางแย่งของ!

จางอวี่หมินก็พูดบ้าง “ซิ่วเอ๋อ เจ้าทำแบบนี้ได้อย่างไร แม่ข้าอายุเยอะแล้ว เจ้าไม่เห็นใจนางบ้างเหรอ?”

จางอวี่หมินพูดพลางเข้าไปช่วยแม่เฒ่าจางแย่งของ

ไม่ทันที่จางซิ่วเอ๋อจะทำอะไร จางชุนเถาก็ฉุดห่อผ้าไว้ “ไม่ได้! ของพวกนี้ให้พวกท่านไม่ได้!”

“อะไรนะ? มีอะไรที่ให้ข้าไม่ได้บ้าง? เจ้าอายุแค่นี้ทำไมถึงงกขนาดนี้? ใช่ว่าเอาไปให้คนอื่นเสียหน่อย!” แม่เฒ่าจางตำหนิ

“อย่างไรซะของพวกนี้ก็ให้พวกท่านไม่ได้!” จางชุนเถาสีหน้าแน่วแน่

จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง “ท่านย่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเอาของพวกนี้ให้ท่าน ถ้าวันหน้าท่านอยากได้ ข้าให้ย่าเท่าไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้….ต่อให้ข้ายอมให้ ย่าก็คงไม่กล้ารับ!”

ทุกคนได้ฟังคำจากจางซิ่วเอ๋อก็นึกสงสัยในใจตาม ของในนั้นคืออะไรกันแน่?

และในตอนนั้น ระหว่างที่ยื้อยุดฉุดแย่งกัน ห่อผ้าคลายออก ของในนั้นตกลงมาเกลื่อนพื้น

พอจางอวี่หมินเห็นของข้างในก็ตกใจจนกระโดดไปด้านหลังหนึ่งก้าว!

แม่เฒ่าจางเองก็หน้าเสีย นางเข้าใจความหมายที่จางซิ่วเอ๋อพูดเมื่อครู่นี้แล้ว เพราะในห่อผ้านี้คือของพวกเทียนและกระดาษเงินกระดาษทอง แถมมีป้ายวิญญาณอยู่ในนั้นด้วย!

จางอวี่หมินเอ่ยเสียงโกรธเกรี้ยว “เจ้าซื้อของพวกนี้มาทำไม ข้าว่าหูครึ่งเซียนพูดไม่ผิด เจ้าถูกวิญญาณร้ายพัวพัน คิดจะทำร้ายคนในหมู่บ้าน!”

จางซิ่วเอ๋อแอบหยิกตัวเองให้มีน้ำตารื้น ก่อนจะเก็บป้ายวิญญาณขึ้นมากอด มองแม่เฒ่าจางและจางอวี่หมินด้วยสายตาตำหนิ

“พวกท่านทำอย่างนี้ได้อย่างไร! สามีข้าตาย พวกท่านอยากให้วิญญาณเขาไม่สงบงั้นรึ?” จางซิ่วเอ๋อหน้าตาเศร้าโศก

นางมองป้ายวิญญาณและพึมพำ “สามี หย่วนเฉียว ข้ามันไร้ประโยชน์ แค่จะตั้งป้ายวิญญาณให้ท่านยังทำได้ไม่ดี”

ขณะนั้นมีคนที่อ่านหนังสือออกอ่านป้าย “ป้ายวิญญาณแห่งสามีเนี่ยหย่วนเฉียว? เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ลูกชายเจ้าของที่ตระกูลเนี่ยหรอกหรือ?”

ทุกคนจึงตระหนักขึ้นได้ว่าตอนนี้จางซิ่วเอ๋อเป็นแม่หม้าย ที่กลายเป็นแม่หม้ายเพราะแต่งงานกับเนี่ยหย่วนเฉียว

ด้วยความที่จางซิ่วเอ๋อถูกตระกูลเนี่ยส่งตัวกลับ ทุกคนจึงแทบไม่เคยเห็นจางซิ่วเอ๋อเป็นภรรยาของเนี่ยหย่วนเฉียวเลย

“นี่มัน…..” แม่เฒ่าจางก็พูดอะไรไม่ออก

จางอวี่หมินยิ่งหน้าตากระอักกระอ่วน

ป้ายวิญญาณนี่ตั้งให้เนี่ยหย่วนเฉียว ที่จางซิ่วเอ๋อซื้อของพวกนี้มามีแต่จะทำให้คนอื่นรู้สึกว่านางเป็นคนให้ความสำคัญกับญาติมิตร

“ก่อนหน้านี้ไม่นานข้าเจอคนตระกูลเนี่ยที่แคว้น พวกเขาดูแลข้า และอยากให้ข้าตั้งป้ายวิญญาณให้สามีข้า ข้าก็ต้องใส่ใจสิ วันนี้ขากลับจึงตั้งใจไปให้เขาเขียนป้ายวิญญาณแผ่นนี้ เพื่อกลับมาไหว้วิญญาณสามีข้า” จางซิ่วเอ๋ออธิบาย

แม่หลิวที่ก่อนหน้านี้ได้กินไก่ย่างของจางซิ่วเอ๋อออกมาพูด “เรื่องนี้ข้ารู้ ครั้งนั้นคนตระกูลเนี่ยยังใจกว้างเอาของกินที่อิ๋งเค่อจวีให้จางซิ่วเอ๋อด้วย”

“ซิ่วเอ๋อเป็นเด็กดี แบ่งพวกเรากินด้วย” แม่หลิวกล่าวต่อ

แม่เฒ่าจางฉุนขึ้นมาทันที “อะไรนะ? มีของอร่อยเจ้ากลับเอาไปให้คนนอกกินแต่ไม่เอามาให้ข้า?”

จางซิ่วเอ๋อมองแม่เฒ่าจางอย่างดูแคลน ทำไมแม่เฒ่าจางถึงหน้าด้านขนาดนี้นะ? พูดอะไรแบบนี้ไม่กลัวขายหน้าบ้างเหรอ?

………………………………