เล่ม 1 ตอนที่ 92 หยอกล้อกันไป หยอกล้อกันมา ก็เลย...

ราชินีพลิกสวรรค์

แม่งเอ้ย…..

 

 

เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อนี้มาเปิดได้ไม่เป็นเวลาเอาซะเลย!

 

 

เจียงหลีอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา เห็นได้ชัดว่าอีกนิดเดียว นางก็จะสามารถจูบความงดงามที่อยู่ใกล้ได้อีกครั้ง จะได้ลิ้มรสดื่มด่ำกลิ่นที่หอมและหวานนั้นอีกครั้ง มีความเสียใจเล็กน้อยปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง ทำให้นางอยากจะหนีออกจากการควบคุมของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ

 

 

แน่นอนว่า เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อไม่ให้โอกาสนี้กับนาง เมื่อนางกำลังรู้สึกว่าร่างกายเบา ตัวนางก็มาถึงที่สนามฝึกของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อเสียแล้ว

 

 

สถานที่ที่คุ้นเคย ความรู้สึกคุ้นเคย ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคืออารมณ์

 

 

“คราวนี้จะทดสอบอะไร” เจียงหลีพึมพำด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

 

 

เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อไม่ปล่อยให้นางรอ ทันใดนั้น มี ‘เจียงหลี’ สองคนยืนอยู่ตรงข้ามนาง ดวงตาขอเจียงหลีจมลง และก็ตื่นขึ้นอย่างระวังตัว

 

 

ครั้งที่แล้ว นางล้มเหลวในการท้าทายของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ และครั้งนี้ยังคงเป็นความท้าทายเดิมอยู่หรือไม่

 

 

นางเม้มริมฝีปากและยิ้ม ดวงตาของนางคมขึ้นอย่างรวดเร็ว และนางกระซิบกับตัวเองทั้งสองว่า “ครั้งที่แล้วข้าแพ้พวกเจ้า ครั้งนี้ ข้าจะทวงมันคืนพร้อมกับกำไร!”

 

 

ตูม!

 

 

ทันใดนั้นแสงสีทองก็ปรากฏขึ้น เงาร่างที่ว่างเปล่าของเลี่ยเทียนซื่อ ลอยอยู่ข้างหลังเจียงหลี

 

 

สำหรับทั้งสองคนที่อยู่ตรงข้ามนาง พวกเขาก็ปล่อยเงาร่างของเลี่ยเทียนซื่อเช่นกัน ในทันใดนั้น ร่างที่เหมือนกันทั้งสาม ก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่ในสนาม

 

 

ในสนามฝึกฝนของเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ มีเสียงดังและน่ากลัวเกิดขึ้นเป็นระลอกๆ

 

 

…….

 

 

คนที่อยู่ในอ้อมแขน สงบลงอย่างกะทันหัน ทำให้หมอกได้จางหายไปอย่างเงียบๆ จากดวงตาของลู่เจี้ย

 

 

“หลีเอ๋อร์” ในดวงตาที่สวยงามแวววาวคู่นั้น เปื้อนไปด้วยความสงสัย ลู่เจี้ยจับคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน ลมหายใจของนางได้สัดส่วน หลับตาแน่น ราวกับว่า… เคลิ้มหลับไป

 

 

เขาขมวดคิ้ว ความเกรงใจปรากฏในดวงตาคู่สวย การไตร่ตรองปรากฏขึ้นในดวงตาที่สวยงาม

 

 

ในท้ายที่สุด ลู่เจี้ยก็ไม่ได้ปลุกเจียงหลีเพียงแค่ใช้ปลายนิ้วเรียว ลูบไปที่มุมริมฝีปากของนางเบาๆ และพึมพำว่า “ดูเหมือนว่าตัวเจ้ายังมีความลับอีกมาก”

 

 

ลู่เจี้ยลุกขึ้นจากเตียงน้ำแข็ง อุ้มเจียงหลีไว้ในอ้อมแขน และเดินออกจากห้องไปข้างนอก

 

 

เมื่อกลับไปถึงที่พัก ลู่เจี้ยไม่ได้เรียกสาวใช้มา เพียงแต่แค่วางเจียงหลีที่กำลังนอนหลับลงบนเตียงของเขาอย่างเบามือ

 

 

และเขาก็ไม่ได้จากไปไหน นอนตะแคงอยู่ข้างๆ นาง โดยเอามือข้างหนึ่งหนุนศีรษะไว้จ้องมองดูใบหน้าที่หลับใหลของเจียงหลี

 

 

ผมของเขานุ่มและเรียบลื่นราวกับเส้นไหม ได้กระจัดกระจายอยู่บนเตียง ผมสีดำเข้มยิ่งขับให้ใบหน้าของเขาขาวขึ้น เหมือนดั่งหยกที่ไม่มีตำหนิ ทำให้ผู้คนนั้นแตะต้องไม่ได้

 

 

ร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ เขาในขณะนี้ดูอ่อนแอไร้ที่พึ่ง ไม่มีความแข็งแกร่งและเผด็จการเหมือนอย่างปกติ

 

 

แน่นอนว่า เมื่อมองไปที่เจียงหลีในเช่นนี้แล้ว ดวงตาของลู่เจี้ยก็เยือกเย็นสงบ ไม่มีคลื่นใดๆ ราวกับว่าเขาต้องการค้นหาอีกหนึ่งใบหน้าผ่านการจ้องมองใบหน้าเรียวเล็ก นี้

 

 

…….

 

 

ในเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ แสงที่พราวสว่างแสบตาส่องไปทั่วทุกพื้นที่

 

 

ร่างกายของเจียงหลี ลอยออกมาจากแสงสีทอง และกระแทกลงไปที่พื้นอย่างแรง ทำให้อิฐสีเขียวบนสนามฝึก มีรอยแตกปรากฏขึ้น

 

 

แต่ว่า เมื่อนางยืนขึ้นจากพื้น รอยแตกเหล่านั้นก็หายไปทันที ราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

 

ปัดฝุ่นบนชุดซ้อม แม้ว่าเจียงหลีฟกช้ำที่จมูกและใบหน้าก็บวม แต่ดวงตาของเขาก็สว่างสดใสมาก ราวกับว่าได้เปล่งแสงแผดจ้าออกมา

 

 

ในสนามฝึก ไม่มีร่างของ ‘เจียงหลี’ อีกสองคนนั้นแล้ว

 

 

“เป็นไปตามคาด เมื่ออยู่ในสนามการต่อสู้จึงจะสามารถฝ่าฟันตัวเองได้ดีขึ้น!” ดวงตาของเจียงหลีฉายแววด้วยความยินดี นางกุมกำปั้นเล็กๆ ของตน และเมื่อกี้นี้ นางก็ได้ประสบความสำเร็จ และกลายเป็นหลิงซือระดับที่หกแล้ว

 

 

การฝ่าฟันอุปสรรคในแต่ละระดับ ทำให้นางรู้สึกแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น!

 

 

‘ยินดีด้วย! ผ่านการทดสอบ! รางวัลคือหุนหยวนลี่หนึ่งอัน!’

 

 

หุนหยวนลี่?

 

 

เมื่อเห็นอักขระสีทองค่อยๆ หายไป เจียงหลีก็ประหลาดใจ หุนหยวนลี่คืออะไร นางไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่อย่างไรก็ตาม รางวัลจากเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ ต้องเป็นสิ่งที่ดีแน่!

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน บนสนามฝึกซ้อม ทันใดนั้นก็มีแสงดั่งอัญมณีใสขาวนวลส่องไปที่เจียงหลี

 

 

ในเวลาเดียวกัน เจียงหลีนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นหลับตาลง และเริ่มดูดซับหุนหยวนลี่ เมื่อหุนหยวนลี่ เข้าสู่ร่างกายของเจียงหลี รู้สึกได้ทันทีว่า หุนหยวนลี่ แท้จริงแล้วก็คือพลังวิญญาณ

 

 

เพียงแต่ว่า เมื่อเทียบกับพลังวิญญาณที่ดูดซับในวันธรรมดา มันบริสุทธิ์กว่าไม่รู้กี่เท่า

 

 

ราวกับว่า เพียงแค่นางหายใจครั้งเดียว มันก็เทียบเท่ากับการดูดซับพลังของหินวิญญาณนับร้อยอัน!

 

 

สิ่งนี้ทำให้เจียงหลีแอบตกใจ นางไม่รู้ว่าตนจะถูกระเบิดด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้หรือไม่ แน่นอนว่า ที่จริงแล้ว ดูเหมือนว่านางจะประเมินศักยภาพร่างกายของนางต่ำเกินไป

 

 

หลังจากที่นางดูดซับพลังวิญญาณแล้ว ร่างกายของนางไม่เพียงแต่ไม่ระเบิดแต่ในการฝึกฝนของนาง ก็กลายเป็นหลิงซื่อระดับที่แปดแล้วด้วย

 

 

ระดับแปด! แค่เข้าไปในเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อเพียงครั้งเดียว ข้าได้รับการเลื่อนขั้นอีกสามระดับ! เสี่ยวหมีเจี้ยจื่อเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ! เจียงหลีมีความปีติยินดีอยู่ในใจ

 

 

แต่ว่า ก่อนที่นางจะมีเวลามองเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อด้วยความรักใคร่ นางก็ถูกดึงตัวออกจากอากาศ

 

 

สติที่ถูกพรากไป คืนกลับมาสู่ร่างของตนเอง

 

 

!

 

 

เจียงหลีที่นอนอยู่บนเตียง ลืมตาขึ้นทันที

 

 

สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ไม่ได้ทำให้นางประหลาดใจ นางแค่งงงวยกับความงามที่อยู่ตรงหน้า

 

 

ใบหน้าที่สวยงามอยู่ใกล้แค่เอื้อม ดวงตาที่ดูเหมือนว่าจะงีบ ขนตายาวและหนา สั่นเล็กน้อย ราวกับผีเสื้อบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน

 

 

เป็นความงามที่หาชมได้ยากจริงๆ! เจียงหลีถอนหายใจ

 

 

น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความหยิ่งผยอง ทำให้คนงามค่อยๆ ลืมตาขึ้น และจ้องมองดวงตาที่สดใสของนาง

 

 

“หลีเอ๋อร์ทำไมถึงหลับไปอย่างกะทันหัน” หลู่เจี้ยพูดเบาๆ และดูเหมือนจะผิดใจนิดๆ

 

 

ดวงตาของเจียงหลีเปล่งประกาย นางรู้ว่าชายคนนี้พูดโดยเจตนา แต่ยังลังเลที่จะเจาะจง เพียงแค่เอื้อมมือออกไปจับคางเขาเบาๆ และมองด้วยสายตาประหม่าอย่างไร้ยางอาย มองเห็นทิวทัศน์ที่ชวนให้หลงใหลผ่านเสื้อหลวมๆ ของเขา

 

 

“หลีเอ๋อร์” ทันใดนั้นลู่เจี้ยก็คว้ามือของนาง และมองนางด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง “มีบางเรื่องไม่ควรทำอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า”

 

 

“ตัวอย่างเช่น?” เจียงหลีเลิกคิ้ว ดึงมือของตนออกมา และยิ่งเอื้อมมือเข้าไปในเสื้อผ้าอย่างประมาทและอย่างไร้ยางอาย เพื่อสัมผัสผิวกายที่ร้อนของเขา

 

 

ตูม!

 

 

หัวใจของลู่เจี้ยเต้นอย่างรุนแรง และไฟในร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะถูกจุดขึ้นอย่างง่ายดายโดยใครบางคน และมันก็เผาไหม้ทั้งหมดในคราวเดียว

 

 

“เจ้าบังอาจเกินไปแล้ว” ลู่เจี้ยจับมือที่ล้วงเข้าไปในเสื้อ และเสียงก็เปลี่ยนเป็นแหบต่ำ

 

 

เจียงหลีไม่ยอมรับการเตือน ดวงตาภายใต้เปลือกตาที่ยังปิดอยู่ แปรเปลี่ยนไปนับพันครั้ง ใบหน้าเรียวเล็กนั้นดูเหมือนจะหายไป และถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่มีเสน่ห์อันไร้ที่ติ ใบหน้าที่ลู่เจี้ยลุ่มหลงคุ้นเคยแต่มองไม่เห็น “ข้าบังอาจยังไงมิทราบ”

 

 

ดวงตาของลู่เจี้ยมืดลง และในส่วนลึกของดวงตา ดูเหมือนว่าพายุร้ายกำลังก่อตัวขึ้น “ทาสนี้ช่างกล้าเสียจริง!”

 

 

“ความกล้าหาญนั้นมีไม่น้อยเลย” เจียงหลีเม้มริมฝีปากและยิ้ม โดยจงใจยกเท้าขึ้นไปเกี่ยวที่เอวของลู่เจี้ย

 

 

ดวงตาของหลู่เจี้ยเป็นประกาย และหัวใจที่สงบ กำลังปั่นป่วนจากการล้อเล่นของหญิงสาวคนนี้

 

 

ในขณะนี้เอง เจียงหลีสะดุ้งอย่างกะทันหัน พลังลึกลับในร่างของลู่เจี้ยรั่วไหลออกมาอีกครั้ง และถูกนางดูดซับ!

 

 

เจียงหลีปีติยินดีอย่างมาก หรือว่า…