ณ นครหลวงของจักรวรรดิวายุแผ่ว ที่ร้านเล็กๆ ของฟางฟาง
ลำแสงส่องสว่างขึ้นในพื้นที่โล่งของร้าน ลำแสงนั้นกระจัดกระจายไปมาในอากาศขณะกำลังก่อตัวเป็นวงแหวนปราณเคลื่อนย้าย ลมพายุพัดกรรโชก ตามมาด้วยร่างหนึ่งที่ปรากฏขึ้นกลางวงแหวนปราณ
ปู้ฟางกลับมาถึงร้านด้วยสภาพมึนงง เขารู้สึกเวียนหัวจนต้องนั่งแปะลงกับพื้นแล้วพะงาบเอาอากาศเข้าปอด
“นายท่านกลับมาถึงร้านเรียบร้อย ระบบจะปล่อยของรางวัลเดี๋ยวนี้” เสียงขรึมของระบบดังขึ้นในศีรษะของชายหนุ่ม
ทว่าปู้ฟางกลับไม่ได้สนใจข้อความนั้นแต่อย่างใด ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่สมุนไพรสีแดงสดในมือ สมุนไพรนั้นร้อนจี๋ราวกับว่าเขากำลังจับหินหลอมละลายจากปากปล่องภูเขาไฟอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“ขอบคุณสวรรค์ที่ข้าหยิบมาทัน มิเช่นนั้นแล้วคงเสียเที่ยวน่าดู อุตส่าห์ตรากตรำเสียขนาดนั้นแต่กลับเอาสมุนไพรระดับเจ็ดกลับมาไม่ได้” รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าแข็งทื่อของชายหนุ่ม
สมุนไพรโลหิตปักษาเพลิงเป็นสีแดงชาดตลอดทั้งต้น หลังจากที่เติบโตสมบูรณ์ สมุนไพรชนิดนี้ยิ่งดูสวยงามดึงดูดใจขึ้นไปอีก ราวกับทำมาจากพลอยสีแดงเลอค่า ผิวของมันเต็มไปด้วยจุดสีแดงเข้มเหมือนถูกเลือดกระเซ็นใส่
ปู้ฟางกำสมุนไพรเอาไว้ในมือ รู้สึกได้ถึงความร้อนมหาศาล แต่ความร้อนนั้นกลับไม่ได้เผาไหม้มือของเขา หากแต่เป็นจิตใจ
ชายหนุ่มหากล่องหยกมาใส่สมุนไพรโลหิตปักษาเพลิงเอาไว้ เขาไม่ได้ใส่กล่องนั้นไว้ในกระเป๋าคลังเก็บที่ระบบมอบให้ แต่เก็บเอาไว้ในตู้เก็บของ
ชายหนุ่มหยิบสมุนไพรสะระแหน่ที่เก็บมาได้ออกจากกระเป๋า สมุนไพรสะระแหน่ต้นอ้วนส่งกลิ่นหอมน่าหลงใหลออกมา
เขาพยายามต่อต้านความรู้สึกอยากกินแล้วเก็บสะระแหน่ใส่กล่องหยกในตู้เช่นกัน
หลังจากที่เก็บของเสร็จ ปู้ฟางก็ถอนหายใจหนักออกมา เขายืดเส้นยืดสาย ข้อต่อในกายส่งเสียงดังเป๊าะ ประสบการณ์การออกไปเก็บเกี่ยววัตถุดิบครั้งแรกนั้นยอดเยี่ยมแตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดไว้เป็นอันมาก
“สมแล้วที่เป็นอุปกรณ์พ่อครัวเทพ หากไม่มีมีดทำครัวกระดูกมังกรทอง ข้าคงไม่มีปัญญาทำสิ่งใดทั้งสิ้น ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดระบบจึงรอให้ข้าได้อุปกรณ์มาก่อนถึงส่งข้าไปทำภารกิจเก็บเกี่ยว” ชายหนุ่มยืดคอที่ปวดระบมก่อนเดินขึ้นชั้นสองไป
เขาอาบน้ำอาบท่าจนเรียบร้อยก่อนเป็นอันดับแรก ชายหนุ่มปล่อยผมยาวสยาย แล้วปล่อยให้น้ำหยดติ๋งๆ ออกจากปลายผม ขณะเดินกลับห้องไปด้วยความรู้สึกสดชื่น
หลังจากที่ใช้เวลาสองวันไปกับการตามหาวัตถุดิบที่หมายตา เขาก็รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอันมาก ถึงเวลาเข้านอนเสียที
แต่ก่อนที่จะล้มตัวลงนอน ชายหนุ่มก็ไม่ลืมที่จะเปิดดูรางวัลจากภารกิจที่เพิ่งได้มา
“วิธีการทำก๋วยเตี๋ยวหลอดรึ” เขาหรี่ตา รู้สึกสนใจอาหารจานใหม่นี้ไม่น้อย แน่นอนว่าในฐานะพ่อครัว ปู้ฟางคุ้นเคยกับอาหารจานนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นอาหารเช้าที่อร่อยมาก
ก๋วยเตี๋ยวหลอดเป็นอาหารที่ทำมาจากข้าว มีชื่อเรียกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวห่อเส้นสดรวมถึงชื่อภาษาจีนอื่นๆ จัดเป็นอาหารที่ค่อนข้างเรียบง่าย หลักๆ คือการทำแป้งห่อไส้บางเฉียบจากน้ำนมข้าวนึ่ง แล้วนำแป้งบางนั้นมาห่อไส้ที่ผัดสดใหม่
หลังจากที่ปู้ฟางอ่านวิธีทำก๋วยเตี๋ยวหลอดในใจเรียบร้อย ชายหนุ่มก็รู้สึกอยากลองทำขึ้นมา เขาอยากทำอาหารจานใหม่นี้ชิมดูทันที แต่หลังจากที่นั่งคิดดูสักพักก็ตัดสินใจพับความคิดนี้เก็บเข้ากระเป๋าไป
เหตุผลหลักคือการทำอาหารจานนี้ต้องใช้พลังปราณเที่ยงแท้มากเกินไป และตัวเขาเองก็เหนื่อยล้ามากแล้ว อีกเหตุผลคืออาหารจานนี้เป็นอาหารเช้า การตื่นแต่เช้าตรู่มาทำนั้นดูสมเหตุสมผลกว่ามาก
ด้วยเหตุนี้ปู้ฟางจึงสะกดความต้องการลุกออกจากเตียงมาฝึกทำลงไป แล้วล้มตัวลงบนเตียง ก่อนผล็อยหลับไปในที่สุด
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างสงบสุข
เช้าวันรุ่งขึ้น ปู้ฟางตื่นแต่ย่ำรุ่งมายืดเส้นยืดสาย หลังจากที่ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เดินเข้าครัวไปฝึกทักษะการใช้มีด ทักษะการใช้มีดฝนดาวตกระดับหนึ่งของเขาใกล้บรรลุแล้ว หากซ้อมมือต่ออีกหนึ่งวันคงสำเร็จผลพอดิบพอดี
หลังจากที่ฝึกใช้มีดเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เริ่มทำซี่โครงเปรี้ยวหวานตามกิจวัตร มันเป็นอาหารเช้าของเจ้าดำและเป็นอาหารจานที่ปู้ฟางชำนาญเป็นอย่างมาก ไม่นานนักกลิ่นหอมของเนื้อก็ลอยล่องออกจากห้องครัว
ชายหนุ่มเดินถือจานซี่โครงเปรี้ยวหวานเข้าไปในบริเวณห้องอาหาร เขาเปิดประตูร้าน ลมเย็นโชยผ่านทางเข้าทันที นครหลวงของจักรวรรดิวายุแผ่วเข้าสู่หน้าหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว ท้องฟ้าเบื้องบนเป็นสีทะมึนราวกับว่าหิมะกำลังจะตกหนัก
“เจ้าดำ ได้เวลากินข้าวแล้ว” ปู้ฟางเดินไปหยุดตรงหน้าเจ้าดำพร้อมจานซี่โครงเปรี้ยวหวานในมือ เจ้าสุนัขตะกละรีบกระโดดผางขึ้นทันที มันจ้องไปที่จานในมือปู้ฟางอย่างตื่นเต้น ลิ้นห้อยออกจากปาก
“ไม่ได้กินข้าวมาสองวันเต็ม… ท่านสุนัขผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้หิวจนจะบ้าตายแล้ว!” มันคิด ดวงตาที่เป็นประกายวาววับจ้องจานซี่โครงเปรี้ยวหวานไม่วางตา
กลิ่นหอมหวนน่ากินของเนื้อทำให้เจ้าดำแทบสติแตก ทันทีที่ปู้ฟางวางจานลงตรงหน้า มันก็พุ่งเข้ามากินอย่างตะกละตะกลาม
นี่มันอาหารจานเดิมที่รสชาติคุ้นเคย! นี่สิ… รสชาติของซี่โครงเปรี้ยวหวานที่แท้จริง!
มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเป็นรอยยิ้มขณะมองเจ้าดำที่ตั้งหน้าตั้งตากินพร้อมส่ายหางดุกดิก เขาหันหลังเดินกลับเข้าครัวไปเพื่อเริ่มทำก๋วยเตี๋ยวหลอด
อันดับแรกชายหนุ่มหยิบน้ำนมข้าวที่ระบบเตรียมไว้ให้ออกมาก่อน น้ำนมข้าวนั้นเป็นสีขาวเหมือนนมสด มีกลิ่นหอมจางๆ เห็นชัดว่าข้าวที่ใช้ทำไม่ใช่ข้าวปกติธรรมดาแน่นอน
เขาเทน้ำนมข้าวลงในถาดที่ทำมาเป็นพิเศษ ถาดนั้นไม่หนาจนเกินไป จึงทำให้ชั้นของน้ำนมข้าวไม่สูงจนเกินไปเช่นกัน มันมีความหนาอยู่ที่ประมาณครึ่งหุน[1]นิดๆ เท่านั้น หลังจากที่เทน้ำนมข้าวลงถาดเรียบร้อย ชายหนุ่มก็นำถาดไปนึ่งให้สุก
ขณะรอนึ่ง เขาก็เริ่มเตรียมไส้ก๋วยเตี๋ยวหลอด
“เนื้อหมูหรือเนื้อวัว กุ้ง ผักกาดฮ่องเต้ หัวไชโป๊สับ…” ชายหนุ่มพึมพำกับตนเองขณะเตรียมส่วนผสมให้พร้อม
แต่ก่อนที่จะหยิบหมูที่ระบบเตรียมไว้ให้ออกมา เขาก็ชะงักไปชั่วขณะ อดไม่ได้ที่จะมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในศีรษะ
“ระบบ ถ้าข้าใช้เนื้อวัวมังกรพเนจรแทนเนื้อหมูเล่า… จะเป็นไปได้หรือไม่” เขาถาม
“ได้ แต่การเปลี่ยนส่วนผสมจะทำให้ราคาของอาหารเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน” ระบบตอบเสียงเข้ม
“หือ เปลี่ยนไปอย่างไร” ปู้ฟางถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
เสียงของระบบตอบอยู่ในใจของเขาอีกครั้ง “ไส้ธรรมดาของก๋วยเตี๋ยวหลอดใช้เนื้อหมูอสูรเวทระดับสาม แต่หากนายท่านใช้เนื้อของวัวมังกรพเนจรที่เป็นอสูรเวทระดับเจ็ดแทน ราคาก๋วยเตี๋ยวหลอดจะเพิ่มจากสิบผลึกเป็นหกสิบผลึกต่อจาน”
เพิ่มจากสิบผลึกเป็นหกสิบผลึก… ชายหนุ่มกะพริบตาปริบ อดไม่ได้ที่จะอุทานในใจ “สมแล้วที่เป็นวัตถุดิบระดับเจ็ด ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ แต่ใครมันจะไปกินก๋วยเตี๋ยวหลอดแพงขนาดนี้กัน”
“ระบบ เจ้าทำให้ก๋วยเตี๋ยวหลอดที่ใช้เนื้อวัวมังกรพเนจรเป็นสูตรปรับปรุงของก๋วยเตี๋ยวหลอดธรรมดาได้หรือไม่”
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว” ระบบตอบ นี่เป็นวิธีการเดียวกับการเพิ่มข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงแยกจากข้าวผัดไข่สูตรธรรมดานั่นเอง
ปู้ฟางพยักหน้า ไอสีเขียวลอยออกจากข้อมือของเขาอีกครั้ง ตามมาด้วยมีดทำครัวกระดูกมังกรทองที่ปรากฏขึ้นในมือ ก่อนอื่นเขาเริ่มจากการทำไส้สูตรธรรมดาก่อน โดยปรุงเนื้อหมูระดับสามเพื่อทำไส้ปกติ หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ปู้ฟางจึงนำเนื้อชิ้นเล็กของวัวมังกรพเนจรออกมา ขนาดที่ใหญ่โตของอสูรวัวทำให้เนื้อชิ้นเล็กชิ้นนี้แทบจะไม่กระทบอะไรกับคลังเนื้อที่มีอยู่เลย
เมื่อเตรียมไส้ทั้งสองชนิดเสร็จเรียบร้อย แป้งห่อก็นึ่งสุกพอดี
ปู้ฟางหยิบถาดออกจากเตานึ่งพร้อมควันขาวโขมง ไอน้ำนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเข้มน่ากินของข้าว ทำให้เขาต้องสูดกลิ่นเข้าไปเต็มปอดตามสัญชาตญาณ
ชายหนุ่มลอกแป้งห่อเหนียวนุ่มออกจากถาด แป้งห่อนั้นมีสีใสแจ๋วเหมือนหยกแก้ว เรียบลื่นเหมือนกระจกวาววับ สวยงามน่ามองเป็นอันมาก
เขาหมุนมีดทำครัวกระดูกมังกรทองในมือสองสามครั้ง จากนั้นก็ตัดแผ่นแป้งให้ขาดออกเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดเท่าๆ กัน
ปู้ฟางใส่ไส้ที่ทำจากเนื้อหมูระดับสาม กุ้ง และหัวไชโป๊สับลงไปบนแป้งหนึ่งชิ้น จากนั้นก็ค่อยๆ ม้วนมันให้เป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดสวยงาม เพียงเท่านี้ก๋วยเตี๋ยวหลอดที่ “ขาวเหมือนหิมะ บางเหมือนแผ่นกระดาษ วาววับ หอมหวน เรียบลื่น และอร่อยล้ำ” ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
[1] หน่วยวัดของจีน 1 หุน เท่ากับ 3.18 มิลลิเมตร