บทที่ 84 เหลียนเอ๋อร์ ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 84 เหลียนเอ๋อร์ ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง!
เจ้าลูกศิษย์ เจ้าทำให้อาจารย์ปลื้มใจจริงๆ

คำพูดของผู้สูงศักดิ์จื่อหยางทำให้เสิ่นเอ้าถึงกับงุนงง

ส่วนคนอื่นๆ ในตำหนักไร้พรมแดนกลับตกใจยิ่งกว่าเดิม

ตกตะลึง!

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางแห่งแดนเทวาดาวประกายพรึกมาเยือนอาณาจักรต้าเหยียนด้วยตัวเอง

ตกตะลึง!

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางตกใจกับพรสวรรค์ของฝ่าบาทองค์ชายหก ถึงกับมารับด้วยตัวเอง

ตกตะลึง!

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางยอมรับพรสวรรค์ขององค์ชายหก คิดว่าจากนี้จะต้องเป็นดวงจิตดรุณไร้พ่าย!

……

ต้องรู้ว่าในแดนบูรพาตั้งแต่อดีตกาลมาจะมีแต่ศิษย์ไปคารวะอาจารย์ที่สำนักเอง น้อยครั้งที่อาจารย์จะลดศักดิ์ศรีตนเองลงมารับถึงหน้าบ้านก่อนเข้าสำนัก

ต้องพูดว่าจู่ๆ ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมาปรากฏมาในงานเลี้ยงส่งของเสิ่นเอ้ามันแปลกมากจริงๆ นี่ทำให้คนคิดโยงไปว่าฝ่าบาทองค์ชายหกเสิ่นเอ้าต้องมีพรสวรรค์สูงเพียงใดถึงให้เซียนจากแดนเทวาดาวประกายพรึกร้อนใจจนรอไม่ไหวเช่นนี้

เวลานี้แทบทุกคนต่างตั้งใจขบคิดกันว่าจะประจบเซียนอย่างไร

มีเพียงเสิ่นเทียนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

ใช่ พูดจริงก็คือเขาอยากแอบหนีไปนิดๆ แล้ว

……

“อาจารย์ ท่านมาด้วยตัวเองได้อย่างไรกัน”

เห็นผู้สูงศักดิ์จื่อหยางยิ้มแป้นแล้ว เสิ่นเอ้าก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รู้กันดีว่าครั้งก่อนที่ไปพบผู้สูงศักดิ์จื่อหยาง เขาเย็นชามาก ไม่พูดไม่ยิ้ม

เหตุใดครั้งนี้เจอหน้ากัน อาจารย์ถึงยิ้มจนเหมือนเก็บศิลาวิญญาณหลายหมื่นก้อนได้ นี่ยังใช่อาจารย์เขาอยู่รึ มั่นใจนะว่าไม่ได้เป็นปีศาจแปลงกายมา

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมองลูกศิษย์ตน ยิ่งมองยิ่งพอใจ

เขาพูดอย่างลึกลับว่า “ฮ่าๆ เจ้าลูกศิษย์ยังแสร้งโง่อีก หรือว่าเจ้าลืมเรื่องที่ทำกับยัยหนูหลี่เหลียนเอ๋อร์ที่สวนหมื่นวิญญาณไปแล้วรึ”

เสิ่นเอ้าอึ้งไป ข้าทำเรื่องอะไรกับหลี่เหลียนเอ๋อร์ในสวนหมื่นวิญญาณกัน

รอเดี๋ยว ข้าจำได้ว่าข้าเหมือนจะธาตุไฟเข้าแทรกเสียความทรงจำไปสองวันนี่

เฮือก หรือว่าสองวันนั้นข้าทำเรื่องที่สุดยอดลงไป

หรือว่าข้า…ข้ากับศิษย์พี่หญิงเหลียนเอ๋อร์!

พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเอ้าก็กลืนน้ำลายลงคอ

“อาจารย์ท่านพูดอะไร เหตุใดศิษย์ไม่เข้าใจ”

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมองค้อนเสิ่นเอ้าไปที “ยังต้องให้อาจารย์อธิบายอีกรึ”

พูดแล้วเขาก็หัวเราะสบายๆ เสียงดัง “ตอนนี้แม่หนูนั่นโวยวายใหญ่เลยว่าจะแต่งงานกับเจ้าให้ได้! อาจารย์จะบอกเจ้าให้นะ ถ้าเจ้าต้องได้เหลียนเอ๋อร์มาจริงๆ การกะเทาะแก่นออกมาเป็นดวงจิตดรุณก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!”

……

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก ไอคิวและอีคิวเขาสูงมาก พอจะเข้าใจคร่าวๆ แล้ว เขากุมหน้าขยับออกจากที่นั่งช้าๆ คิดจะแอบหนีไปเงียบๆ!

ตอนนี้เอง มีใบหน้ามีเมตตาโผล่มาตรงหน้าเขา “อย่าเพิ่งไป”

เสิ่นเซี่ยวอมยิ้ม “ตอนนี้ดูแล้วเอ้าเอ๋อร์คงสำคัญกับแดนเทวาดาวประกายพรึกมากนะ! ถ้าเป็นไปได้ ข้าว่าจะขอความเมตตาจากท่านเซียนให้เจ้ากับเอ้าเอ๋อร์เข้าแดนเทวาดาวประกายพรึกด้วยกัน ถ้าดวงดีบางทีอาจช่วยแก้ดวงชะตาเจ้าได้ จะได้ทำลายชะตาอับโชคนี่เสีย”

เสิ่นเทียนอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาซึ้งใจกับความห่วงใยของเสด็จพ่อมาก แต่เขาไม่กล้ารับ!

เดิมทีคิดว่าหลังแปลงโฉมแล้วจะเที่ยวเตร่ได้ตามใจในสวนหมื่นวิญญาณ แต่ไม่นึกเลยว่าคนจากแดนเทวาดาวประกายพรึกจะมาที่พระราชวัง!

ทำไม พวกเจ้าติดจีพีเอสบนตัวข้ารึ

เดี๋ยวก่อน!

จีพีเอสหรือ

เสิ่นเทียนพลันฉุกคิดขึ้นมาได้ จึงนึกย้อนไปถึงป้ายคำสั่งนั้นในอกเสื้อผู้สูงศักดิ์จื่อหยาง ตราคำสั่งนั้นมีรูปร่างคล้ายกับป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ในมือเขามาก เพียงแต่เป็นสีทอง

ตอนนี้ ไอคิวของเสิ่นเทียนออนไลน์ขึ้นมาแล้ว!

ดังนั้น ป้ายคำสั่งสองอันนี้เป็นแบบเดียวกัน ระหว่างป้ายคำสั่งสองอันมีฟังก์ชันระบุตำแหน่งหรือไม่

ซี้ด พอนึกถึงตรงนี้เสิ่นเทียนก็อดยกนิ้วให้กับความฉลาดของตนมิได้!

ไขคดีแล้ว ข้าฉลาดที่สุดจริงๆ!

…….

เห็นเสิ่นเอ้าที่ยิ่งคุยกับผู้สูงศักดิ์จื่อหยางก็ยิ่งแปลกใจแล้ว ฝ่ายเสิ่นเทียนมุมปากกระตุก

‘พี่หกเจ้าอย่าบุ่มบ่ามนักเลย อธิบายอะไรไม่ได้ก็ทำตาหื่นเป็นรูปหัวใจเสีย’

หมื่นโชคในความอับโชคคือผู้สูงศักดิ์จื่อหยางไม่รู้จักเสิ่นเอ้าเทียน ดังนั้นหลังเสิ่นเทียนตรึกตรองแล้วก็ยังคิดว่าอย่าโผล่หน้าออกไปจะดีกว่า

ถึงอย่างไรในโลกบำเพ็ญเซียนที่เต็มไปด้วยอันตรายทุกแห่งหนนี้ การสุขุมและมั่นคงไม่มีอะไรเสียหาย

คิดได้ดังนั้นแล้ว เสิ่นเทียนก็หยิบป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ออกมานิ่งๆ เตรียมจะปาออกไป ถ้าต่อมาผู้สูงศักดิ์จื่อหยางแสดงวิชาลับอะไรขึ้นมาแล้วป้ายคำสั่งสองอันเกิดการเชื่อมต่อกันละก็

เขาก็คงได้แต่ต้องทำหน้า ‘ข้าไม่รู้อะไรเลย’

จากนั้นมองเรื่องราวดำเนินไปอย่างสงบนิ่ง เดินหนึ่งก้าวดูหนึ่งก้าวก็จบ

เสิ่นเทียนกำป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ในมือ ขณะเตรียมจะขว้างไปด้วยความตึงเครียดนั้น

ตอนนี้เอง เขาพลันรู้สึกว่ากระบี่วารีครามในแหวนเวหาเริ่มสั่นขึ้นมาเช่นกัน ขณะเดียวกันก็มีเสียงไพเราะน่ารักร่าเริงดังขึ้นนอกตำหนักไร้พรมแดน

“คิก รู้สึกได้แล้ว รู้สึกได้แล้ว กระบี่วารีคราม!”

“พี่เสิ่น เหลียนเอ๋อร์มาหาท่านแล้ว!”

…….

เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ประตูใหญ่ตำหนักไร้พรมแดนที่ปิดตายอยู่สั่นสะเทือนทันที

ตึง!

จากนั้นประตูใหญ่ถูกผลักล้ม

ฝุ่นละอองกระจายออกเป็นวงกว้าง เด็กสาวที่เทินกระถางดอกไม้ไว้บนหัววิ่งเข้ามา

บนหัวนางมีเส้นผมตั้งชี้ขึ้นมาหย่อมหนึ่ง ประชันความสูงกับหน่ออ่อนในกระถาง

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก นอนพาดบนโต๊ะเงียบๆ เอาไหสุรามาบังหน้าตัวเองไว้

จบแล้ว ครั้งนี้จบจริงๆ แล้ว

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางเห็นเด็กสาวก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “เจ้าจริงๆ ด้วย! เหลียนเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าหนีออกมาอีกแล้ว ศิษย์พี่ไม่รู้เรื่องล่ะสิ!”

ก่อนจะมองกระถางคุ้นตาที่เทินไว้เหนือศีรษะเด็กสาว

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางมุมปากกระตุกเล็กน้อย ก่อนอวยพรให้เสิ่นเอ้ามีความสุขเงียบๆ

ถ้าก่อนหน้านี้เขาจำไม่ผิด กระถางดอกไม้นี่น่าจะเป็นกระถางของกล้วยไม้กระบี่เก้าใบ!

รู้กันดีว่านั่นคือกล้วยไม้วิญญาณระดับสูงสุดที่ศิษย์พี่ชอบมากที่สุด!

แม่เด็กนี่แอบหนีออกจากบ้านอีกแล้ว แถมยังดึงกล้วยไม้วิญญาณออกมาอีกหรือ

พอนึกถึงตรงนี้แล้ว ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางจินตนาการถึงภาพศิษย์พี่โกรธได้เลย

ศิษย์ข้า หวังว่าเจ้าจะอดทนได้หน่อยนะ!

ผ่านมรสุมไปแล้วถึงจะเห็นสายรุ้ง!

……

อีกด้านหนึ่ง

หลี่เหลียนเอ๋อร์เห็นจื่อหยางแล้ว ใบหน้าเล็กก็แดงขึ้นเล็กน้อย “เอ่อ เหตุใดอาจารย์อามาอยู่ที่นี่กัน”

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “แล้วไม่ใช่คำสั่งของศิษย์พี่ให้มาหาพี่เสิ่นของเจ้ารึ”

เส้นผมชี้บนศีรษะหลี่เหลียนเอ๋อร์พลันดีดตั้งขึ้น “แล้วท่านอาจารย์อาหาพี่เสิ่นเจอแล้วหรือยัง”

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางทำหน้าภูมิใจในตัวเอง “แน่นอน ถ้าอาจารย์อาลงมือเองเจ้าวางใจได้เลย ข้าแค่นับนิ้วคำนวณก็รู้แล้วว่าเสิ่นเอ้าเทียนที่เหลียนเอ๋อร์บอกเป็นชื่อปลอม

จากนั้นข้าก็ดูโหราศาสตร์ยามค่ำคืนส่องความลับสวรรค์ถึงได้เข้าใจ”

ขณะพูดอยู่นั้น ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางยังผลักเสิ่นเอ้าไปข้างหน้าด้วยความภาคภูมิใจ

“จงอย่าได้สงสัยในความสามารถของอาจารย์อาจื่อหยาง! เหลียนเอ๋อร์เจ้าดูสิว่านี่ใคร!”

หลี่เหลียนเอ๋อร์งุนงง

……

แล้ว นี่ใครกัน

เมื่อเห็นเสิ่นเอ้าที่ทำหน้าเหนียมอายแล้ว นัยน์ตาหลี่เหลียนเอ๋อร์เต็มไปด้วยความสงสัย

เหตุใดอาจารย์อาถึงต้องถามคำถามนี้ เหลียนเอ๋อร์จะไปรู้ได้อย่างไรว่าบุรุษหน้าตาธรรมดาคนนี้คือใคร

หลี่เหลียนเอ๋อร์ค่อยๆ งอเส้นผมที่ตั้งชี้กลับไปดังเดิม

นางมองเสิ่นเอ้าด้วยความแปลกใจ รู้สึกเหมือนว่าจะไม่รู้จัก

พอพิจารณามองดู อืม ไม่รู้จักจริงๆ!

ชั่วขณะที่หลี่เหลียนเอ๋อร์กำลังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น เสิ่นเอ้าก็เดินหน้าหนึ่งก้าวเนิบๆ

เขาปลุกความกล้าขึ้นมาก่อนพูดอย่างจริงจัง “ศิษย์พี่หญิงเหลียนเอ๋อร์ แม้ข้าจะจำอะไรไม่ได้ แต่เจ้าวางใจ ถ้าข้าทำอะไรที่มันผิดต่อเจ้าจริงๆ ข้าจะต้องรับผิดชอบเจ้าอย่างแน่นอน!”

หลี่เหลียนเอ๋อร์ทำหน้าจะร้องไห้

ขอปฏิเสธ!

…………………………………….