บทที่ 116 ตอนฉันเป็นหมอเธอยังเรียนประถมอยู่เลย!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เมื่อได้ยินการวินิจฉัยของเฉินชาง ผู้หญิงคนนั้นก็ขมวดคิ้ว

“หมอคะ คุณกำลังล้อเล่นอยู่หรือ? พ่อฉันนอกจากจะลำไส้ไม่ค่อยดีแล้ว อย่างอื่นก็สบายดีมาก สามปีก่อนตอนผ่าตัดลำไส้ หมอผ่าตัดเป็นผู้เชี่ยววชาญมาจากโรงพยาบาลประชาชน เขายังบอกเลยว่าพ่อฉันสุขภาพดีมาก เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันรู้จักลำไส้อุดตันเฉียบพลันนะคะ! จะร้ายแรงขนาดนั้นที่ไหนกันคะ?”

เธอรู้สึกไม่อยากเชื่อ กระทั่งมองว่าเฉินชางไม่มีความเป็นมืออาชีพมากพอ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย

“ฉันก็เคยเรียนหมอมาเหมือนกัน ตอนนี้ทำงานอยู่ในวงการเภสัชกร ฉันก็เข้าใจเรื่องการแพทย์ ใช่แล้ว คุณหมอ หัวหน้าแผนกของพวกคุณอยู่หรือเปล่าคะ? คือหัวหน้าแผนกหลี่เป่าซานสินะ ฉันก็รู้จักเขานะคะ” คำพูดของเธอตรงไปตรงมามาก เธอกำลังพูดอย่างชัดเจนว่าไม่เชื่อใจเฉินชาง บางทีเธออาจไม่รู้จักหลี่เป่าซานจริงๆ เพียงแค่ยกมาขู่ให้เฉินชางกลัวเท่านั้น แต่ความหมายในคำพูดก็คือต้องการเจอหัวหน้าแผนก ถ้าคุณทำไม่ได้คุณก็หลีกทางไปเสีย ฉันไม่เชื่อใจคุณ!

เมื่อเธอพูดออกมาเช่นนี้เฉินชางก็ต้องถอนใจออกมาโดยพลัน เห็นอีกฝ่ายแสดงท่าทีและน้ำเสียงถือดีทั้งๆ ที่ไม่รู้เฉินชางก็เข้าใจกระจ่าง คิดว่าคงไม่อาจสนทนากับเธอให้ลึกซึ้งได้มากนัก

เฉินชางส่ายศีรษะ “หัวหน้าแผนกมีผ่าตัดครับ แต่ว่า…คุณผู้หญิง ผู้ป่วยเคยผ่าตัดเปิดท้องมาก่อน ดังนั้นจึงต้องพิจารณาเรื่องลำไส้อุดตันเฉียบพลันด้วยนะครับ”

เธอมองหน้าเฉินชางโดยไร้รอยยิ้ม “เป็นไปไม่ได้ แค่กินเกี๊ยวไปไม่กี่ตัวไม่ใช่หรือ? มันจะรุนแรงขนาดนั้นที่ไหนกัน! ไม่ได้อุจจาระเป็นเลือดสักหน่อย? นี่มันตรรกะอะไร…”

ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างกระอักกระอ่วน!

ฝั่งหนึ่งคือเฉินชางที่ร้อนรนและเคร่งขรึม อีกฝ่ายคือญาติผู้ป่วยที่สงสัยหมอและเชื่อมั่นในตัวเองอย่างไม่ลืมหูลืมตา

เฉินชางพยายามเป็นครั้งสุดท้าย เขาตรวจสัญญาณชีพและคลื่นหัวใจของชายชราเป็นอันดับแรกแล้วจึงพูดขึ้นว่า “ตอนนี้อย่าเพิ่งเถียงกันเลยครับว่าเป็นลำไส้อุดตันหรือเปล่า ผมเสนอให้ทำซีทีสแกนดูก่อน ถึงตอนนั้นจะเห็นเอง”

ความจริงคำแนะนำจากอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงวินิจฉัยออกมาแล้วว่าเป็นลำไส้อุดตันเฉียบพลัน แต่เฉินชางบอกแบบนั้นไม่ได้ จึงทำได้เพียงตรวจซีทีสแกนดู

ยิ่งไปกว่านั้น การทำซีทีสแกนส่วนท้องเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก สำหรับคนชราที่มีสภาพร่างกายไม่แน่ชัด และยิ่งอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ผู้ป่วยมีโอกาสเป็นลำไส้อุดตันสูงเช่นนี้ การทำซีทีสแกนส่วนท้องจะมีประโยชน์ในการวินิจฉัยเรื่องถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน กระเพาะปัสสาวะอักเสบเฉียบพลัน และไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันด้วย

น่าเสียดายที่ต้องมาเจอลูกสาวผู้ป่วยที่มีความคิดสูงส่งและปราณีต ทั้งยังรู้วิชาแพทย์อีกด้วย

บางครั้งหมอก็กลัวผู้ป่วยที่ “เกี่ยวข้องกับคณะแพทย์” เนื่องจากพวกเขาจะรู้ไปเสียทุกเรื่อง รู้อย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่จริงๆ แล้วไม่เข้าใจอะไรเลย

สิ่งที่คุณควรรู้ก็ไม่รู้ ที่ไม่ควรรู้กลับรู้ เป็นแบบนี้ไม่ดีเลยจริงๆ

เมื่อเธอได้ยินคำว่าซีทีสแกนก็ขมวดคิ้วทันที ก่อนจะกล่าวต่อไปโดยไม่ฟังคำหมอ “เจ้าหนู เขาแค่กินของแสลงจนปวดท้อง เธอกลับจะตรวจกราฟหัวใจ สัญญาณชีพ…ต่างๆ นานา ตรวจไม่เจออะไรก็จะทำซีทีสแกน เดี๋ยวพวกเราต้องตรวจ NMR[1] ด้วยหรือเปล่า ต้องตรวจ PET CT [2]ด้วยหรือเปล่า”

“แค่เป็นลำไส้อักเสบธรรมดา เธอแค่ออกใบสั่งยาให้ก็พอแล้ว”

เฉินชางขมวดคิ้ว “ลำไส้อุดตันอันตรายมากนะครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาคุณรับผิดชอบไหวหรือ?”

เธอเลิกคิ้วขึ้น “ฉันเป็นลูกสาวเขา ถ้าฉันไม่รับผิดชอบแล้วใครจะรับผิดชอบ!”

เฉินชางอธิบายอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ยอมเปลี่ยนความคิด กระทั่งพูดออกมาว่า “มาๆๆ ฉันจะเซ็นชื่อให้ ผลทุกอย่างในภายหลังฉันจะรับผิดชอบเอง ฉันรับผิดชอบเอง!”

“เด็กอย่างพวกเธอนี่สู้รุ่นก่อนๆ ไม่ได้ขึ้นทุกวันแล้ว ถ้าไม่อาศัยอุปกรณ์จะตรวจโรคไม่ได้เลยหรือไง? ทำนู่นทำนี่อยู่ได้ มิน่าล่ะ ผู้ป่วยถึงได้ด่า ตอนนั้นพวกเรามีเรื่องเยอะขนาดนี้ที่ไหนกัน? ตอนฉันเป็นหมอเธอยังเรียนประถมอยู่เลย!”

ความจริงหมอเป็นอาชีพที่แปลกมาก ตอนที่คนอื่นด้อยกว่าตนจะดูมีมาดมาก แต่เมื่อหมออยู่ที่โรงพยาบาลของตัวเองและสวมชุดกาวน์สีขาว ทั้งๆ ที่เป็นถิ่นตัวเอง แต่กลับต้องแสร้งทำเป็นโอนอ่อน

เฉินชางส่ายหน้าโดยไม่พูดอะไร แม้ญาติคนไข้จะยอมเซ็นชื่อรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเองและบอกว่าเฉินชางไม่มีความสามารถ แต่…ไม่ว่าจะอย่างไรเฉินชางก็ยังพยายามเปลี่ยนความคิดอีกฝ่ายเต็มที่ เพราะถึงอย่างไร…ชายชราก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ชีวิตเป็นสิ่งบริสุทธิ์

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกเรื่องหนึ่ง! หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาจริงๆ ญาติผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีเหตุผลต่างๆ นานาขึ้นมาทันที จะกล่าวออกมาว่า “ก็พวกเราไม่รู้เรื่องเลยมาโรงพยาบาลไง พวกคุณเป็นหมอ หมอก็ไม่รู้อีกหรือไง?”

เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เฉินชางเคยเจอญาติผู้ป่วยพูดเช่นนี้มาแล้ว “คุณเป็นหมอ คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ทำไมถึงไม่ยืนหยัดให้พวกเราตรวจล่ะ?”

ผู้หญิงคนนั้นไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไรอีก ยืดตัวขึ้นโดยไม่พูดคำหยาบแม้แต่คำเดียว กระทั่งเสียงก็ไม่ดัง ทุกสิ่งทุกอย่างดูมี “วัฒนธรรม” มาก

ผู้หญิงคนนั้นเข็นรถของชายชราเดินจากไปด้วยท่าทางดูดี “พวกเราจะไปแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลตงต้า” พูดจบก็เดินจากไป

เฉินชางทอดถอนใจออกมา ขอเพียงไปโรงพยาบาลก็พอแล้ว บางทีหลังจากไปพบผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลตงต้า อาจฟังข้อเสนอของผู้เชี่ยวชาญก็เป็นได้

จากนั้นเฉินชางก็ทำงานของตัวเองต่อไป

ตอนบ่ายศูนย์ฉุกเฉิน 120 ส่งผู้ป่วยถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันและผู้ป่วยเกี่ยวกับระบบช่องท้องมาอีกหลายเคส เฉินชางจึงไปผ่าตัด จนกระทั่งเวลาสองทุ่มกว่าเฉินชางจึงผ่าตัดเสร็จ

ตอนนี้ความก้าวหน้าของทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดีพัฒนาไปมากกว่าครึ่งแล้ว บางทีหากได้ผ่าตัดอีกหลายเคสอาจพัฒนาไปถึงระดับปรมาจารย์ก็เป็นได้

ตอนนี้เฉินชางยังมี [คำชี้แนะของอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง] อยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างจึงดูง่าย แต่หากไม่มีคำชี้แนะจากอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงแล้ว และต้องเจอกับผู้ป่วยเคสยากๆ เหล่านี้อีกครั้ง เฉินชางคิดว่าเพียงทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดีระดับสูงคงรับมือไม่ไหว

ความแตกต่างระหว่างทักษะระดับปรมาจารย์และทักษะระดับสูงไม่ได้ห่างกันแค่ระดับเดียวอย่างที่เห็น เมื่อต้องพบกับผู้ป่วยที่มีลักษณะพิเศษ ความสุขุม ความคิด ตลอดจนทางเลือกย่อมแตกต่างไป

หลังจากผ่าตัดตอนเย็นเสร็จ เฉินชางก็สวมหน้ากากอนามัยเดินกลับไปยังแผนกฉุกเฉิน ตอนกลางคืนเป็นเวรของหวังเชียน เมื่อทักทายกันแล้วเฉินชางก็กลับบ้าน

ช่วงนี้เขาย้ายของไปบ้านใหม่ทีละน้อยจนบ้านเก่าไม่มีของอะไรแล้ว พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ เขาจะเก็บของแพ็คกระเป๋าไปจากเขตต้าหม่าแห่งนี้แล้ว และจะถือโอกาสไปบอกลาพี่สาวเจ้าของห้องสักหน่อย

นี่อาจเป็นคืนสุดท้ายที่จะได้นอนที่นี่ เฉินชางยังคงรู้สึกคิดถึงอยู่บ้าง

ไม่ได้รู้สึกคิดถึงห้องและเตียงที่นี่ แต่รู้สึกขอบคุณความยากลำบากตลอดสองปีที่ผ่านมา คนที่เริ่มต้นจากความยากลำบากล้วนเป็นเช่นนี้

หลังจากอาบน้ำล้างหน้าแล้วก็ลงไปกินอะไรเล็กน้อย

เขตต้าหม่าในตอนนี้ไม่ครึกครื้นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทุกคนพากันย้ายออกไปหมด ร้านค้าเล็กๆ ก็ไม่เปิดทำการอีก แม้แต่ร้านของเถ้าแก่ที่ขายไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่เขาชอบไปบ่อยๆ ก็ยังปิด

เขตที่เดิมทีก็ทรุดโทรมอยู่แล้วพลันดูล้าหลังขึ้นมาทันที ก็เหมือนชายชราที่ถูกหญิงสวมชุดหรูหรางดงามเข็นเก้าอี้รถเข็นของเขาเข้ามาที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลในวันนี้นั่นแหละ

บางทีสิ่งปลูกสร้างที่ทรุดโทรมเหล่านี้อาจนำทรัพย์สมบัติมากมายมาสู่ลูกหลานรุ่นหลังของพวกเขา ทำให้ลูกหลานของพวกเขาเป็นคนยอดเยี่ยม เป็นครอบครัวร่ำรวย

แต่พวกเขา…สุดท้ายก็จมอยู่ในเมืองอันหรูหราเหล่านี้ไม่ได้

ยามค่ำคืน ดวงไฟบนถนนพังไปหมดแล้ว

บนถนนหนทางเต็มไปด้วยขยะ มีกระทั่งเตียงและพรมเก่าๆ มีชั้นไม้ตู้เสื้อผ้าที่ผุพังไปแล้ว มีกระทั่งตุ๊กตาของเล่นของเด็กๆ เพราะไม่มีที่สำหรับพวกมันในอาคารใหม่เอี่ยม แม้แต่ลิฟท์ตัวใหม่ก็ยังไม่มีที่สำหรับพวกมัน

ครอบครัวที่กลายเป็นผู้มั่งคั่งกะทันหันย่อมไม่เห็นค่าของเก่าๆ เหล่านี้

เฉินชางพบว่าวันนี้มีหมาจรจัดเยอะมาก บางทีพวกมันอาจเป็นชีวิตที่ถูกทอดทิ้ง ดูเหมือนพวกมันจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะหายไปจากความทรงจำของเจ้านาย หรือบางทีพวกมันอาจยืนหยัดตราบจนเห็นตึกในเขตต้าหม่าทรุดทลายและเห็นตึกใหม่ถูกสร้างขึ้น

เฉินชางเดินออกจากเขต ด้านนอกเป็นโลกใบใหม่ที่ครึกครื้น มีผู้คนและรถราสัญจรไปมาดูวุ่นวาย

[1] NMR เป็นเทคนิคเกี่ยวกับการวัดระดับพลังงานที่แตกต่างกันของนิวเคลียสที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของสนามแม่เหล็ก ใช้ในการศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับโครงสร้างทางเคมี เช่น การสังเคราะห์ทางเคมีและตรวจสอบปฎิกิริยาเคมี ตรวจสอบยา อาหาร และสารปนเปื้อนต่างๆ

[2] PET/CT scan เป็นการตรวจโรคทางด้านรังสีวิทยา โดยนำเครื่องมือตรวจด้านรังสี 2 ชิ้น มารวมเป็นเครื่องมือชิ้นเดียวกัน ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องมือทั้งสองชิ้น คือ ความไวสูง (Sensitivity) ข้อมูลจาก PET Scan นั้น แพทย์สามารถอ่านผลและพบความผิดปกติของโรคที่ตรวจหาไม่พบ หรือวินิจฉัยไม่ได้จากการตรวจด้วยเครื่องมืออื่น ผนวกกับการที่แพทย์กำหนดตำแหน่งของโรคนั้นได้อย่างถูกต้องชัดเจนด้วยภาพจาก CT Scan