บทที่ 96 พนักงานทุกคนของผมคือเพชรในตม

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

หลังจากให้จูเสี่ยวเช่อกลับออกไป เผยเชียนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย

โชคดีที่ทุกคนเคารพบอสเผย!

ช่วงปีนี้ซีรีส์ตอนสั้นไม่ได้ทำกำไรมากมายนัก เพราะพวกเว็บไซต์ลงวิดีโอยังไม่ได้ให้รางวัลพิเศษหรือโบนัสอะไรเรื่องยอดวิว

การจะทำกำไรจากซีรีส์ตอนสั้นได้มีทางหลักๆ อยู่แค่ไม่กี่ทาง

ทางหนึ่งคือร่วมงานกับบริษัทโฆษณา นำสินค้าใส่เข้าไปในคลิป ถือเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้กันทั่วไปของพวกสินค้าด้านความงามและเกม

เฉียวเหลียงที่มีชื่อเสียงจากเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายก็ใช้วิธีนี้ในการหาเงิน

อีกวิธีคือเปิดเว็ปไซต์ทางการหรือหารายได้เสริมจากอะไรก็ตามที่ขายได้

วิธีนี้อาจช่วยหากำไรได้มากมายหรืออาจทำให้ล้มละลายก็ได้ ผู้เล่นมืออาชีพหลายคนที่เลิกรับสปอนเซอร์แล้วมักจะหันมาหารายได้จากช่องทางนี้แทน

แน่นอนว่ายังมีวิธีอื่นๆ อยู่อีก แต่ก็เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้เท่าไหร่ อัปโหลดมาสเตอร์ทั่วไปไม่ควรใช้วิธีเหล่านี้

ก็เหมือนที่พวกนักเขียนออนไลน์หวังอยากให้ผู้คนเลิกอ่านเถื่อนแล้วหันมาจ่ายเพื่ออ่านจากตัวเองโดยตรง ซึ่งจะช่วยหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากผลงานลิขสิทธิ์…

แต่นั่นก็เป็นแค่ฝันลมๆ แล้งๆ ที่ใครๆ ก็นึกฝันกัน

อีกอย่างเผยเชียนก็เพิ่งจะกล่อมให้จูเสี่ยวเช่อเลิกรับสปอนเซอร์ราคาถูกได้

ทำแบบนี้ก็จะตัดรายได้ของซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผยไปได้ถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์!

เพราะคนที่จะมาจ้างต้องรวยแค่ไหนกันถึงจะยอมจ่ายหนึ่งแสนหยวนให้อัปโหลดมาสเตอร์ทำคลิปคุณภาพที่ออกแบบให้โดยเฉพาะ

ไปซื้อพื้นที่โฆษณาจากเว็บโดยตรงไม่ดีกว่าหรือ

คิดได้อย่างนั้นเผยเชียนก็รู้สึกโล่งใจ

ใครคนหนึ่งเคาะประตู

 “เข้ามาได้”

ลู่หมิงเหลียงเปิดประตูเข้ามาในห้อง

“มีอะไรเหรอ” เผยเชียนถาม

แบบร่างเกมนักออกแบบเกมเสร็จสมบูรณ์ไปตั้งแต่ก่อนตรุษจีนแล้ว และเผยเชียนก็อนุมัติไปเรียบร้อย ไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลงมากนัก

เผยเชียนไม่ได้สนใจเรื่องงานภาพกับขั้นตอนการสร้างเพราะเขาเป็นบอส การลงไปคอยควบคุมเรื่องเล็กน้อยจะทำให้เขาดูเหมือนไม่รู้จักจัดการเวลาและจัดลำดับความสำคัญของงาน

ตอนนี้มีแค่โปรเจ็กต์ชีวิตประจำวันของบอสเผยที่เขาต้องคอยจับตาดูและคอยคุ้มกันด้วยชีวิต!

“บอสเผย ผมมาคุยเรื่องเสียงพากย์ครับ

“เรื่องเสียงพากย์ ผมหาคนมีชื่อเสียงในประเทศได้สามสี่คน เราให้ลองทดสอบอัดเสียงดูแล้ว บอสช่วยฟังแล้วเลือกให้ได้ไหมครับ ผมตัดสินใจไม่ถูก” ลู่หมิงเลี่ยงบอก

เสียงพากย์หรือ

อืม ฉันว่าฉันควรใส่ใจเรื่องเสียงพากย์สักหน่อย

เกมนักออกแบบเกม (ที่มีรูปแบบการเล่นแบบให้เลือกตอบตัวเลือกไปเรื่อยๆ) มีความยาวประมาณแปดชั่วโมง ใช้เสียงพากย์ตั้งแต่เริ่มจนจบ นับรวมจำนวนคำทั้งหมดในบทจะอยู่ที่ประมาณสี่ถึงห้าหมื่นคำ

เรตราคาการพากย์เสียงในตลาดนั้นถูกมาก

สำหรับบทประมาณห้าหมื่นคำ ราคาถูกที่สุดจะอยู่ที่สองถึงสามพันหยวน ส่วนแพงที่สุดจะอยู่ที่หนึ่งหมื่นหยวน

เทียบกับทุนสร้างทั้งหมดของเกมนักออกแบบเกมแล้วถือเป็นเงินแค่เล็กน้อย

เผยเชียนไม่ได้กังวลเรื่องเงินอยู่แล้ว

เขากังวลว่าเสียงพากย์จะทำให้ผู้เล่นเลิกเล่นเกมไม่ได้

แน่นอนว่าถ้าพวกเขาไปหาคนเสียงเพี้ยนกับพูดไม่ชัดตามท้องถนนมาพากย์เสียงให้ก็คงจะได้ผลลัพธ์ตามที่หวังไว้ แต่จะเป็นการละเมิดกฎแน่ๆ

เผยเชียนทำได้แค่เลือกคนที่ไม่ได้โดดเด่นมากจากนักพากย์ที่ผ่านการคัดเลือก

ถึงจะอยากได้คนธรรมดาๆ มาพากย์ แต่อย่างน้อยเขาก็ต้องหาคนที่พูดจาได้ชัดเจน ถ้าหาคนที่มีปัญหาด้านการพูดมา ระบบต้องจับได้แน่นอน

ลู่หมิงเหลียงติดต่อคนไปจำนวนหนึ่งจากเว็บไซต์รวมทรัพยากรให้มาพากย์เสียงให้ เขาอัดเสียงตัวอย่างประโยคจากเกมไว้ให้เผยเชียนช่วยฟัง

เผยเชียนเปิดฟังทีละไฟล์

เสียงแรกเป็นเสียงหญิงสาวที่ดูมั่นใจในตัวเอง

เขาเปิดฟังไฟล์ต่อไปโดยไม่ลังเล

เสียงนี้ไม่ได้เด็ดขาด! คิดดูสิว่าพวกติดเกมไม่ออกจากบ้านจะตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้ยินเสียงนี้!

เสียงที่สองเป็นเสียงนุ่มๆ ของผู้หญิง ฟังแล้วชวนคล้อยตามและผ่อนคลายจิตใจ

อันนี้ก็ไม่ได้! เหมาะเอาไปทำคลิป ASMR[1] มากกว่า

เสียงที่สามเป็นเสียงผู้ชายธรรมดาทั่วไป

เสียงที่สี่เป็นเสียงผู้ชายค่อนข้างแหลมสูง บาง ขึ้นจมูก และแหบห้าวเล็กน้อย

เผยเชียนลังเลระหว่างตัวเลือกที่สามกับสี่

เสียงที่สามเป็นเสียงดาษดื่นทั่วไป ไม่ได้โดดเด่น

แต่เขาพูดเสียดสีได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ โทนเสียงเหมือนผู้ประกาศข่าวมากกว่า ไม่น่าจะทำให้ผู้เล่นเลิกเล่นได้

เลือกเสียงที่สี่แล้วกัน!

เสียงนี้ไม่ได้ฟังลื่นหูเลย อาจจะฟังยากและไม่สบายหูสำหรับบางคน เหมือนเสียงเล็บขูดกับกระดานดำ เหมาะมากที่จะทำให้ผู้เล่นเลิกเล่นเกม!

อีกอย่างเพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่พอยิ่งฟัง เผยเชียนก็ยิ่งรู้สึกอยากกระทืบเจ้าของเสียง

ผู้เล่นจะต้องรู้สึกเหมือนกันแน่!

เนื่องจากเป้าหมายอันดับหนึ่งคือปั่นประสาทผู้เล่น ยิ่งเสียงยั่วยุกวนบาทาเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!

เผยเชียนทุบโต๊ะ “เอาเสียงนี้ ฟังดูมีเอกลักษณ์ดี”

ลู่หมิงเหลียงดูไฟล์เสียงที่บอสเผยฟังแล้วทำหน้าเหยเก

เผยเชียนงง

“ทำไมเหรอ

“หรือคนนี้เรียกค่าตอบแทนสูง

“หรือว่าเขายุ่งมาก

“เสนอให้เงินเพิ่มได้เลย!”

เผยเชียนเชื่อว่าปัญหาส่วนใหญ่ในโลกนี้ที่สามารถแก้ได้ด้วยเงินไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไร!

โดยเฉพาะเรื่องการพากย์เสียง คนเหล่านี้ต้องทำงานหนัก แต่ค่าตอบแทนกลับไม่ได้สูงมาก ให้เงินเพิ่มอีกไม่กี่พันจะเป็นอะไรไป

“ไม่ใช่แบบนั้นครับบอสเผย ไฟล์นี้คือไฟล์เสียงตัวอย่างที่ผมส่งให้นักพากย์เพื่อจะได้เป็นไอเดียคร่าวๆ ว่าควรใช้โทนเสียงไหน ไฟล์นี้ผมเป็นคนอัดเสียงเอง…

“ผมน่าจะรวมไฟล์ทั้งหมดไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันแล้วลืมแยกออก…” ลู่หมิงเหลียงพูดพร้อมเกาหัว

เผยเชียนตะลึงงันไป

มาคิดดูดีๆ เสียงไฟล์สุดท้ายมีเสียงรบกวนในฉากหลังเป็นพักๆ ถึงเสียงฉากหลังจะค่อนข้างเงียบ แต่ก็ยังได้ยินเสียงรบกวนอย่างชัดเจน บ่งบอกได้ว่าอุปกรณ์ที่ใช้อัดเป็นของคุณภาพไม่ค่อยดีนัก

เผยเชียนมองเสี่ยวลู่ “คุณ…เป็นคนอัดไฟล์นี้เหรอ เสียงไม่เห็นเหมือนคุณเลย!”

ลู่หมิงเหลียงพยักหน้า “ใช่ครับ ผมดัดเสียงตัวเองตอนพากย์ พยายามเลียนแบบเสียงคนโรคจิต…

“อย่าเข้าใจผิดนะครับบอสเผย ช่วงนี้ผมดูหนังแนวอาชญากรรมฝั่งตะวันตกมาบ้าง แต่นิสัยผมยังเหมือนเดิม! จิตยังปกติดี!

“บอสเผยครับ ช่วยเลือกอันอื่นเถอะครับ….”

เผยเชียนมองเสี่ยวลู่ตาเป็นประกาย

เยี่ยม! นี่มันเพชรในตม!

“ไม่ ผมอยากได้เสียงคุณ! ผมอยากได้เสียงแหบๆ โรคจิตๆ แบบนี้ นอกจากคุณแล้วก็ไม่มีคนอื่นทำได้!”

เผยเชียนยืนกราน “ผมจ่ายค่าพากย์เสียงให้คุณเต็มที่ ฝากจัดการเรื่องนี้ด้วย”

“แต่บอสเผยครับ เราไม่มีอุปกรณ์สำหรับอัดเสียง…” เสี่ยวลู่กังวลใจมากขึ้นเรื่อยๆ

เผยเชียนโบกมือ “กังวลเรื่องแค่นี้เหรอ ไปเช่าสตูดิโออัดเสียงสิ แค่นี้ก็หมดปัญหาแล้ว ชั่วโมงละเท่าไหร่เอง อย่างมากก็น่าจะแค่สองสามร้อยหยวนใช่มั้ย

“เอาเป็นว่ามากสุดชั่วโมงละไม่เกินสามร้อยแล้วกัน ไปหาเช่าสตูดิโอดีๆ สักสามวัน สามวันเท่ากับเจ็ดสิบสองชั่วโมง ก็สองหมื่นหยวน ตอนอัดไม่ต้องให้คนสอนพากย์เสียงมาช่วยพากย์ ให้ยืนข้างๆ และช่วยแนะนำก็พอ!

“ถ้าสามวันไม่พอก็เช่าเพิ่ม!

“ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยค่อยกลับไปพากย์ต่อ คุณภาพต้องออกมาดี ส่วนคุณก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วยเหมือนกัน

“โอเค เอาตามนี้ ไปให้เลขาซินจัดการที่เหลือ”

เผยเชียนทำหน้าเหมือนจะสื่อว่า ‘ไม่ต้องคุยเรื่องนี้อีกแล้ว’

ลู่หมิงเหลียงเกาหัว ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี

ควรจะขอบคุณบอสเผยที่เชื่อมั่นในความสามารถของเขาดีไหม หรือจะบอกไปว่านี่มันมากเกินกว่าที่เขาจะรับไหวดี

แต่พอเห็นสายตาแน่วแน่ของบอสเผย ลู่หมิงเหลียงก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่พยักหน้าและทำตามที่บอสบอก

จบเรื่อง!

แค่นี้ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเกี่ยวกับเกมนี้เท่าไหร่แล้ว

ตอนแรกเรื่องซีรีส์ตอนสั้นทำให้เผยเชียนคิดว่าทุกอย่างเริ่มไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุมอยู่!

โปรเจ็กต์เกมนักออกแบบเกมและร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูดำเนินการสู่การขาดทุนอย่างราบรื่น

ส่วนซีรีส์เรื่องชีวิตประจำวันของบอสเผย ถึงตอนแรกจะมีกระแสตอบรับถล่มทลาย แต่เผยเชียนก็หยุดผู้กำกับจูไม่ให้รับ ‘สปอนเซอร์’ ยิบย่อยได้

สมบูรณ์แบบ!

แน่นอนว่าเผยเชียนจะประมาทไม่ได้

ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ ทำไมพนักงานของเขาถึงทำให้หนักใจได้ขนาดนี้

ทำไมถึงเก่งกันล่ะ ตอนจ้างไม่เห็นว่าจะมีพรสวรรค์หรือความสามารถอะไรเลยสักนิด

โชคดีที่ยังมีเจ้าน้องรัก

หม่าหยางยังคงเป็นที่น่าไว้วางใจและไม่มีความสามารถอะไรเลยสักอย่าง!

พูดถึงหม่าหยาง ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเริ่มตกแต่งภายในแล้ว

เจ้าของร้านเดิมตกแต่งร้านไว้ดีแล้ว การแปลงโฉมร้านให้กลายเป็นร้านอินเทอร์เน็ตก็แค่ปรับแต่งและวางโครงสร้างใหม่ ไม่น่าจะใช้เวลานานมาก ประมาณครึ่งเดือนก็น่าจะเสร็จ

คาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเสร็จประมาณวันที่ 7 หรือ 8 มีนาคม

มีหม่าหยางช่วยดูให้ เผยเชียนก็พอวางใจได้

เขาตั้งใจจะเข้าไปดูหลังจากตกแต่งร้านเสร็จเรียบร้อย ขอแค่หม่าหยางกับจางหยวนไม่เพิ่มอะไรเว่อร์วังเข้ามา ร้านอินเทอร์เน็ตแห่งนี้จะต้องขาดทุนได้อย่างราบรื่นแน่นอน!

………………………..

[1] Autonomous Sensory Meridian Response เป็นคลิปที่มีเนื้อหาที่เน้นเสียงความละเอียดสูง เพื่อสร้างความผ่อนคลายหรือกระตุ้นอารมณ์ผู้ฟัง เช่น เสียงกระซิบ เสียงทำอาหาร